เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้ายบทที่ 611 ข้าจะให้คำอธิบายกับพวกเจ้า

บทที่ 611 ข้าจะให้คำอธิบายกับพวกเจ้า

บทที่ 611 ข้าจะให้คำอธิบายกับพวกเจ้า

ซูตี๋หย่าไปแล้ว ราชสำนักก็กลับคืนสู่ความสงบชั่วคราว

และสิ่งที่ผู้คนในราชสำนักต่างกังวลในตอนนี้ก็คือ จะเอาชีวิตรอดในฤดูหนาวได้อย่างไร

สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคืออาหารและเนื้อที่เพียงพอ พวกผู้ชายจึงออกไปตั้งแต่เช้าและกลับมาตอนดึก บางวันดึกแล้วก็ยังไม่กลับมา

เซี่ยวั่งซูจึงอาศัยช่วงเวลาสองวันที่ชางฉีกลับมาหารือกับเขา เรื่องจะให้กองคาราวานไปที่เมืองชายแดนต้าจิ้นเพื่อซื้อของที่จำเป็น

ซึ่งพวกเขาสามารถไปถึงเมืองชายแดนที่ใกล้ที่สุดได้ภายในสองวัน

ชางฉีจึงให้เซี่ยวั่งซูทำรายการมา บรรดาพ่อครัวหลวงก็ต้องการเนื้อสัตว์และไข่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีพวกผักต่าง ๆ ด้วย

แม้ว่าการเก็บรักษาจะไม่ง่าย แต่สามารถทำเป็นผักดองเก็บไว้ในไหดิน เวลาอยากกินก็สามารถเพิ่มเครื่องปรุงรสแล้วใส่ลงในหม้อได้เลย กินกับเนื้อแห้ง แป้งอบ ที่มีอยู่ทุกครัวเรือน ก็จะช่วยให้ผ่านไปได้สักระยะ

บรรดาพ่อครัวหลวงยังต้องการเลี้ยงหมูเพิ่มด้วย

แต่ในสภาพแวดล้อมตอนนี้ หากต้องการเลี้ยงหมูจำนวนมาก ต้องมีอาหารและหญ้าให้หมูกินจำนวนมากด้วย

ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการอยู่รอดในฤดูหนาว เหล่าช่างฝีมือจึงใช้ภูมิปัญญาของตัวเอง ทำกระบะไม้ปลูกหัวหอม ขิง กระเทียม และเครื่องเทศอื่น ๆ ในกระโจมเล็ก ๆ ส่วนชางฉีและผู้นำเผ่าต่าง ๆ ก็เลือกที่ตั้งของเมืองหลวงได้แล้ว และเริ่มรับสมัครผู้ชายที่มีร่างกายแข็งแรงแล้วเช่นกัน

หากสามารถสร้างเมืองหลวงขึ้นมาได้ภายในสิบปี เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องการย้ายถิ่นฐานจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งทุก ๆ ปีเช่นนี้อีกแล้ว

ประเด็นสำคัญก็คือ ชางฉีต้องการที่อยู่อาศัยที่มั่นคงให้เซี่ยวั่งซู เขาจะสร้างตำหนักหลังหนึ่งในเมืองหลวงให้นางด้วย

และทุกเดือนจะมีจดหมายจากต้าจิ้นส่งมาหนึ่งฉบับ ทุกครั้งเซี่ยวั่งซูจะรอให้ชางฉีกลับมาก่อน เพื่อรออ่านจดหมายพร้อมกันกับเขา แม้ชางฉีจะรู้สึกว่าไม่จำเป็นก็ตาม

เขาไม่เคยสงสัยหัวใจที่เซี่ยวั่งซูมีต่อถู่เจีย

ปลายฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน หญ้าสีเขียวในราชสำนักก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างเห็นได้ชัดเจน

พวกผู้หญิงก็เริ่มทำอาหารที่ทำจากนม ส่วนบางคนก็จะไปเก็บเห็ดที่ทุ่งหญ้า

เซี่ยวั่งซูไม่เคยทำมาก่อน ดังนั้นจึงขอไปกับพวกนางด้วย

ก่อนออกเดินทาง ชางฉีเอาน้ำและอาหารใส่ลงในตะกร้าใบเล็กของนาง เหมือนกับพ่อแก่ ๆ ที่บ้านอย่างไรอย่างนั้น “หากข้าล่าสัตว์กลับมาเร็วจะรีบไปหาพวกเจ้า ดังนั้นอย่าไปไกลมากนักล่ะ”

แต่เซี่ยวั่งซูคิดว่าตัวเองสามารถทำได้ เพราะตอนนี้นางได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างแล้ว เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากในวังอย่างสิ้นเชิง

นางจึงไม่อยากให้ชางฉีดูถูกนาง

ชางฉีมองออกว่าดวงจันทร์น้อยมีความมุ่งมั่นมากเพียงใด เขาหวังว่านางจะสามารถเก็บเห็ดได้เยอะ ๆ

“ข้าทำได้แน่นอน แต่สถานที่ที่พวกเจ้าไปล่าสัตว์ช่วงนี้ไกลขึ้นเรื่อย ๆ อันตรายเกินไปที่จะกลับมายามค่ำคืน หรือไม่เจ้าจะค้างคืนก็ได้ ข้าไม่ได้อยู่ในราชสำนักคนเดียว ยังมีคนมากมายเพียงนั้นอยู่เป็นเพื่อนข้า ข้าไม่เป็นอะไรหรอก”

ชางฉีรักนาง นางเองก็รู้สึกสงสารสามีตัวเอง

ชางฉีถูปลายจมูกของนางอย่างเสน่หา “ก่อนหน้านี้ที่เจ้าบอกข้าว่าต้องการเปลี่ยนตัวหมู่ ข้าได้ส่งคนไปจัดการแล้ว และเจ้าอยากเลี้ยงดูอาฉื่อน่าหลู่ด้วยตัวเองหรือไม่?”

เซี่ยวั่งซูหลุบตาลง “เด็กคนนั้นไม่ชอบข้า ก่อนหน้านี้ข้าลองทักทายเขาแล้ว แต่เขาต่อต้านข้ารุนแรงมาก ข้าคิดว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนจะดีกว่า”

ชางฉีคิดดูแล้วก็จริง “ได้ เช่นนั้นช่วงนี้เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี มีอะไรให้บอกอาเอ่อร์ไท่ทันที”

“อืม”

“ยังมีสิ่งนี้” ชางฉีเกี่ยวสร้อยคอเขี้ยวหมาป่าที่ห้อยอยู่บนคอของนาง “นี่เป็นตัวแทนของข้าในราชสำนัก สามารถใช้มันระดมนักรบได้ หากมีใครอาศัยตอนที่ข้าไม่อยู่คิดร้ายต่อราชสำนัก…”

เซี่ยวั่งซูกุมมือของเขาเอาไว้ “เช่นนั้นข้าก็จะทำให้อีกฝ่ายต้องชดใช้ด้วยเลือด!”

ชางฉีรู้สึกประหลาดใจกับคำตอบของนาง จากนั้นก็ยิ้มออกมา

องค์หญิงน้อยที่บอบบางผู้นี้ จิตใจแข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ชายเลยจริง ๆ!

เห็ดฉาก้านที่ขึ้นในถู่เจียสามารถนำมาทำเป็นยาได้ สามารถรักษาอาการปวดท้อง หรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร…นอกจากนี้ยังรักษาโรคหัดในเด็กและสตรีหลังคลอดบุตร ทั้งยังสามารถช่วยล้างพิษ รวมถึงรักษาบาดแผลภายนอกได้อีกด้วย

เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่งในถู่เจีย แต่ก็หายากเช่นกัน

ผู้ชายต่างออกไปล่าสัตว์ ส่วนผู้หญิงก็ต้องทำงาน พวกเด็ก ๆ จึงไม่มีใครดูแล ดังนั้นเซี่ยวั่งซูจึงให้พวกเขาตามไปด้วย

ช่างฝีมือก็ได้ทำของเล่นให้เด็ก ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นมีโคมไฟหมุนและว่าวกระดาษด้วย

พวกเขาไม่เหมือนกับเด็กจงหยวน พวกเด็ก ๆ ในถู่เจียไม่ได้ชอบผีเสื้อหรือผึ้งอะไรพวกนั้น แต่พวกเขาชอบนกอินทรี บางคนถึงขนาดบอกว่าอยากเปลี่ยนหมีดำให้เป็นว่าวด้วยซ้ำ

แต่ร่างเล็ก ๆ นั่นอย่าลอยไปกับว่าวกระดาษก็แล้วกัน!

ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่จึงกลายเป็นสถานที่ที่อิสระที่สุดของพวกเขา

“ว้าว! ข้าลอยได้สูง”

“ของข้าสูงกว่า!!!”

เสียงนั้นทั้งดังและกระจ่างใส

ก่อนที่ชางฉีจะจากไป เขาได้มอบอาฉื่อน่าหลู่ให้กับต่าลาคนสนิทของเขา เมื่อเทียบกันแล้ว ต่าลาอายุน้อยกว่าอาเอ่อร์ไท่ เหมาะที่จะสอนเด็กรุ่นต่อไปมากกว่า

อีกทั้งความกล้าหาญของต่าลาก็ไม่ด้อยไปกว่าชางฉี

และเขาก็ไม่ได้เป็นคนของชนเผ่าใด เขาภักดีต่อราชสำนักเท่านั้น

ชางฉีตั้งใจคิดตามคำพูดของเซี่ยวั่งซู เด็กอายุสิบขวบหากวัน ๆ ถูกขังอยู่แต่ในกระโจม ไม่ไปฝึกฝนความสามารถ เอาแต่กังวลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้น เช่นนั้นก็จะทำให้เขาเสียโอกาส

ไม่ว่าอย่างไรชางฉีก็หวังว่าอาฉื่อน่าหลู่จะมีชีวิตที่ดี และหวังว่าเขาจะไม่เป็นเหมือนแม่ของเขา

หลังจากที่ตัวหมู่รู้ก็โวยวายขึ้นมา แต่อาฉื่อน่าหลู่เองก็อยากเรียนรู้กับต่าลา ดังนั้นการที่ตัวหมู่โวยวายจึงไม่มีประโยชน์

เมื่ออาฉื่อน่าหลู่จากไปแล้ว ตัวหมู่ก็กลายเป็นบุคคลที่ไม่มีใครสนใจในราชสำนัก เหตุผลที่เซี่ยวั่งซูยังไว้ชีวิตนาง ก็เพราะเห็นว่านางน่าสงสาร แต่หากยังคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกละก็ เช่นนั้นก็อย่าหาว่านางไม่เกรงใจก็แล้วกัน

“องค์หญิงเพคะ ดูเห็ดนี่สิเพคะ ดอกใหญ่ยิ่งนัก หม่อมฉันไม่ได้กินน้ำแกงเห็ดมานานแล้ว เอาไปย่างกับกระทะเหล็กก็ต้องหอมมากเป็นแน่” จื่อฮุ่ยพูดไปก็เลียริมฝีปากไปด้วย

อาเอ่อร์ไท่กำลังเก็บดอกไม้ป่าอย่างเงียบ ๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง และแอบสังเกตจื่อฮุ่ยไปด้วย

ภรรยาชาวต้าจิ้นก็ดีเหมือนกัน เขาก็อยากเป็นเหมือนท่านข่านที่มีภรรยาเป็นชาวต้าจิ้นบ้าง

ในใจของอาเอ่อร์ไท่เริ่มคิดแผนการบางอย่างขึ้นมา ทว่าจื่อฮุ่ยกลับคิดถึงแต่เรื่องของกิน

ขณะที่เขากำลังจะเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นใครบางคนขี่ม้าพุ่งมา

อาเอ่อร์ไท่จึงรีบขวางตรงหน้าพวกผู้หญิงทันที “หยุดนะ!”

เหล่านักรบที่มีหน้าที่ปกป้องเซี่ยวั่งซู ต่างก็ล้อมวงกันเข้ามา

คนที่มาร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เมื่อเห็นพวกเขาก็กระโดดลงมาจากหลังม้า “อาเอ่อร์ไท่ ได้พบพวกเจ้าช่างดียิ่งนัก!”

“ซางลั่ว! เจ้าตามคาราวานพ่อค้าไปต้าจิ้นไม่ใช่หรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น!?”

“คนในคาราวานทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ มีคนกลุ่มหนึ่งดักปล้นพวกเราระหว่างทาง บอกว่าพวกเราผิดสัญญา ไปปล้นหมู่บ้านใกล้เคียงของพวกเขา! ทั้งยังปล้นเสบียงไปด้วย จึงให้พวกเราให้คำอธิบายกับพวกเขา!”

อาเอ่อร์ไท่ขมวดคิ้ว “จะเป็นไปได้อย่างไร ใครเป็นคนทำกัน”

ซางลั่วมองไปทางเซี่ยวั่งซู ก่อนจะกัดริมฝีปากแล้วเอ่ยขึ้นมา “คนเหล่านั้นสวมชุดทหารต้าจิ้น”

เซี่ยวั่งซูหรี่ตาลง ก่อนจะเอ่ยอย่างสงบนิ่งท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของทุกคน “ซางลั่ว เจ้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขามีลักษณะเช่นไร คนที่เป็นผู้นำชื่อว่าอะไร อยู่ในกองทัพอะไร?”

เซี่ยวั่งซูมองไปรอบ ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน และให้คำอธิบายกับพวกเจ้า”

ซางลั่วเองก็ไม่อยากเชื่อว่าองค์หญิงผู้สูงส่งที่ต้าจิ้นส่งมาจะทำผิดสัญญา นี่ไม่เท่ากับเอาชีวิตเซี่ยวั่งซูมาล้อเล่นหรอกหรือ?

“ได้ ข้าจะเล่าให้ฟัง!”

.

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Score 10
Status: Completed
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม! จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคน จี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอ แต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถ ในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม! . โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย! . เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน! . . ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ . . จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

Options

not work with dark mode
Reset