ชื่อของปีศาจสังหารแพร่กระจายไปทั่วโลก หลายคนกำลังศึกษาความสามารถของปีศาจสังหาร แต่เนื่องจากมีข้อมูลน้อยเกินไป พวกเขาจึงไม่รู้อะไรเลย
เมื่อไม่มีผู้พิทักษ์ส่งคำท้า ในที่สุดโจวเหวินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ปีศาจสังหารไม่มีความสุขสักนิด มันนั่งข้างๆ อย่างท้อแท้และดึงกิ่งไม้ออกมาวาดบนพื้น ขณะที่มันวาด มันก็พึมพำเบาๆ “ทำไมไม่มีใครท้าทายข้าเลย… ทำไมไม่มีใครท้าทายข้าเลย…”
โจวเหวินแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินมัน เป็นเรื่องปกติที่ ธิดาปีศาจจะปล่อยมันออกมาเพื่อพักหายใจเพราะมันเอาแต่ถูกขังในดาบ
กันหวังว่าจะไม่มีใครท้าทายกันในอีก20ชั่วโมงที่เหลือ โจวเหวินสวดอ้อนวอนในใจ
สาวหมิะแอบดูการต่อสู้และตกตะลึงอย่างมาก ก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าปีศาจสังหารเป็นเพียงของตกแต่งและความสามารถของมันคงไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ไม่อย่างนั้นมันจะเต็มใจเป็นผู้พิทักษ์สัตว์อสูรได้ยังไง? แต่จากท่าทางของมัน จริงๆปีศาจสังหารนั้นอยู่ระดับความกลัว สิ่งนี้ทำให้เธอตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น
แม้แต่ผู้พิทักษ์ของสัตว์อสูรก็อยู่ในระดับความกลัลว? สาหิมะไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนและไม่รู้ว่าโจวเหวินทำได้ไง
เวลาผ่านไป ไม่มีใครท้าทาย ปีศาจสังหารอีกแล้ว เกือบ48ชั่วโมงต่อมา ในที่สุดก็มีคนท้าทายปีศาจสังหารอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คนที่ท้าทายคือยา
“มีคนท้าทายข้า!” ปีศาจสังหารยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและกำลังจะรีบไปที่ลูกบาศก์
“ยอมรับความพ่ายแพ้ทันทีหลังจากเข้าสู่สนามประลอง” โจวเหวินกล่าวเบาๆ
ปีศาจสังหารปล่อยลมทันทีเหมือนบอลลูน มันมองไปที่โจวเหวินด้วยท่าทางไม่พอใจและถาม “ทำไม? ไม่อยากได้อันดับหนึ่งเหรอ?”
“ไม่ แค่ทำตามที่กันบอก” โจวเหวินไม่ได้สนใจเลยตั้งแต่แรก ยังไงก็ตาม เขายังไม่ทราบถึงผลดีและผลเสีย
หวังหมิงหยวนเคยบอกเขาว่าอย่าได้อันดับหนึ่งอีก ดังนั้นจนถึงตอนนี้ โจวเหวินยังไม่ได้ตัดสินใจ
ยิ่งกว่านั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะได้อันดับหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะมีผู้พิทักษ์ระดับความกลัวที่เข้าร่วมไหม อย่างไรก็ตามจักรพรรดิรัติกาลและตัวที่อยู่ในเมืองต้องห้ามที่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้นั้นอยู่ในระดับความกลัวอย่างแน่นอน บางทีพวกที่แข็งแกร่งแบบนั้นอาจลงมือในช่วงการท้าทายไร้สิ้นสุดในครั้งสุดท้าย
มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับจงือหยาที่จะรักษาอันดับหนึ่งของเขาไว้
“ข้ารับประกันว่าตราบใดที่เจ้าปล่อยให้ข้าต่อสู้ ข้าจะเป็นที่หนึ่ง” ปีศาจสังหารมองไปที่โจวเหวินด้วยความคาดหวัง
“กันจะรบกวนแกเองเมื่อกันต้องการที่หนึ่ง” โจวเหวินมองไปที่ธิดาปีศาจ ธิดาปีศาจดูเหมือนจะเข้าใจเจตนาของโจวเหวิน ขณะที่เธอเหลือบมองไปที่ปีศาจสังหาร
ในทันที ปีศาจสังหารมองไปที่ลูกบาศก์อย่างเชื่อฟังและเดินไป โจวเหวินเตือน เตรียมตัวเมื่อแกขึ้นไป ดูว่ายาแอบส่งข้อความถึงแกรึเปล่า”
“เข้าใจแล้ว” ปีศาจสังหารตอบอย่างไม่สบอารมณ์ขณะที่มันเข้าไปในลูกบาศก์
ยาไม่ได้ส่งข้อความใดๆ ทั้งหมดที่เขาทำคือนำอันดับหนึ่งกลับคืนมา ถ้าโจวเหวินรู้ว่าจะเกิดขึ้นแค่นี้ เขาคงไม่ส่งปีศาจสังหารมาด้วย้ำ มันง่ายกว่าที่จะส่งคืน(ก็คือยอมแพ้แหละ)
เมื่อผู้คนของรับาลเห็นว่าที่หนึ่งกลับมาที่เป็นของยา พวกเขาเข้าใจโดยธรรมชาติว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
“เขาเป็นผู้พิทักษ์ ปีศาจสังหารแล้วไม่สามารถเป็นผู้พิทักษ์ของเขาได้ แล้วปีศาจสังหารเป็นของใคร? หากเราสามารถหาตัวยาได้เราอาจจะสามารถรู้ว่าใครทำสัญญากับปีศาจสังหาร”
“คนพวกนี้มาจากตระกูลไหน? พวกเขามีสัตว์อสูรระดับเร้นลับมากมาย แต่ความจริง แล้วพวกเขาก็มีผู้พิทักษ์เช่น ยาและปีศาจสังหาร นี่มันน่ากลัวเกินไป”
“สังเกตอะไรไหม? อันดับที่2กลายเป็นปีศาจสังหาร หลังจากที่สัตว์อสูรระดับเร้นลับยอมรับความพ่ายแพ้ พวกมันไม่ได้รับการจัดอันดับ นี่เป็นการเลือกปิบัติที่โจ่งแจ้ง”
“เราจะทำอะไรกับมันได้? ในอนาคตจะเป็นยุคของผู้พิทักษ์ การดำรงอยู่ของยาและปีศาจสังหาร ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาและสัตว์อสูรสามารถรับมือได้ “
“แทนที่จะคิดถึงเรื่องนี้ เราอาจต้องคิดว่าจะหาผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งเหมือนปีศาจสังหารได้ที่ไหน”
โจวเหวินเห็นยาทำท่าทางก่อนที่จะหายตัวไป มันเป็นท่าทางที่จงือหยาใช้ทุกครั้งที่เขาชนะเมื่อพวกเขาเล่นไพ่ด้วยกัน
เมื่อเห็นโจวเหวินก็รู้สึกโล่งใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ายาทำอะไรลงไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำสำเร็จ
หลังจากเก็บสาวหิมะและปีศาจสังหารกลับไปแล้ว เมื่อเขากำลังจะไปหาหลี่วนและเฟิงชิวเยี่ยน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นข้อความจากจักรพรรดินี
“นายทำสัญญากับปีศาจสังหาร?” จักรพรรดินีผู้รอบรู้ดูเหมือนจะมีคำถามเป็นครั้งแรก
“ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปีศาจสังหาร ทำไมคุณถึงถาม?” โจวเหวินตอบกลับ
“ถ้าไม่มีอะไรระหว่างนาย มันจะร่วมมือกับสัตว์อสูรของนายเพื่อถ่วงเวลาไหมล่ะ? ถ้าไม่มีอะไร มันจะให้ที่ 1 กับยาทำไม? จักรพรรดินีกล่าวดูถูกเหยียดหยาม
“ระหว่างเราไม่มีอะไรจริงๆ” โจวเหวินไม่ต้องการอธิบายเพิ่มเติม ด้วยคาดว่าเดี๋ยวเขาจะพลาดพูดอะไรออกไป ด้วยความเกลียวกลาดของจักรพรรดินี เธอสามารถเดาอะไรบางอย่างจากคำพูดของเขาได้อย่างง่ายดาย
“แม้ว่า ปีศาจสังหารจะแข็งแกร่งมาก แต่การทำสัญญากับมันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีอย่างแน่นอน” จักรพรรดินีดูยืนกรานว่าโจวเหวินต้องเกี่ยวข้องกับปีศาจสังหาร
โจวเหวินค่อนข้างแปลกใจ จากคำพูดของจักรพรรดินี ดูเหมือนจะเธอจะรู้จักปีศาจสังหาร นอกจากนี้ ปีศาจสังหารยังเป็นตัวแรกที่ได้รับการอธิบายว่าแข็งแกร่งมากโดยจักรพรรดินี
ปีศาจสังหารแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงเหรอ? โจวเหวินรู้สึกเสมอว่า ปีศาจสังหารไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นเพราะมันขี้กลัวเกินไปต่อหน้าธิดาปีศาจ
อย่างไรก็ตาม โจวเหวินรู้สึกว่าบางทีสิ่งที่ปีศาจสังหารเคยพูดไว้ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริง
“แล้วเลือกใครถึงจะดีล่ะ? คุณเหรอ?” โจวเหวินตอบกลับ
“นายไม่มีคุณสมบัติที่จะทำสัญญากับกัน” คำตอบของจักรพรรดินีนั้นเย่อหยิ่งมาก
อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนจะยอมรับว่าเธอเป็นผู้พิทักษ์เช่นกัน แต่เขาไม่แน่ใจ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จักรพรรดินีได้จงใจพูดแบบนี้เพื่อหลอกเขา
“อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณช่วยเหลือกัน กันจะให้โอกาสนาย” จักรพรรดินีส่งข้อความต่อ
“โอกาสอะไร” โจวเหวินตกใจ แต่เขาถามอย่างชัดเจน
“โอกาสที่จะทำสัญญากับผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด” จักรพรรดินีกล่าว
“อย่าบอกนะว่าผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่คุณกำลังพูดถึงคือตัวคุณเอง?” โจวเหวินได้ตอบกลับ
“ทายดูสิ”
“ผมไม่อยากจะทาย” โจวเหวินไม่ต้องการเล่นเกมทายอะไรกับเธอ เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา “หากผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่คุณพูดถึงคือคุณ ผมก็พอเดาได้”
จักรพรรดินีไม่ตอบสนองต่อคำถามแต่ถามกลับแทน “เรามาคุยกันต่อหลังจากที่นายได้รับกงล้อมิติ”
“ถ้ากันได้กงล้อมิติ กันจะเป็นราชาของโลกใบนี้ มีอะไรต้องคุยอีก” โจวเหวินถามข้อมูล
“อย่าบอกนะว่านายคิดจริงๆ ว่านายจะได้เป็นราชาของโลกหลังจากที่ได้อันดับหนึ่ง?” จักรพรรดินีได้ตอบกลับ
“พวกมันไม่ได้บอกว่ากงล้อมิติจะมอบพลังอันยิ่งใหญ่? ด้วยพลังอำนาจที่เหนือกว่า ย่อมเป็นราชาของโลกโดยธรรมชาติ คุณไม่สนใจกงล้อมิติเหรอ?” โจวเหวินกล่าว
“มาคุยกันต่อจนกว่านายจะได้กงล้อมิติมา” จักรพรรดินีตอบก่อนจะออฟไลน์ เธอไม่ตอบคำถามของโจวเหวิน
เธอต้องการอะไร? โจวเหวินค่อนข้างุนงง