มันเป็นตอนเที่ยง ของท้ายเดือน 10 ปี 122
ผมเดินไปห้องทำงานของวาโร
“วารี”
“วาโร”
เมื่อผมเข้ามาเราเรียกชื่อกัน
วาโรทำหน้าครุ่นคิดอีกแล้ว
“อย่าคิดมากเลย มีอะไรให้ฉันช่วยคิด”
เมื่อวาโรได้ยินผมพูดเธอก็ยิ้มมา แล้วหลับตาเหมือนคิดลึก
“วารี ฉันมีความลับ”
หลังเธอบอกด้วยหน้ามุ่งมันผมก็รู้สึกชะงักกับไฟทำงานของวาโร
มันเป็นไฟแบบไหนกัน ผมอยากรู้
“ฉันรอฟังอยู่”
เมื่อผมพูดเธอก็ยิ้ม
“มันเป็นเพราะปืน การรบจะเปลี่ยนไปอย่างที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างแรก เธอจะผลิตปืนเป็นโรงงานเยอะๆ แล้วเอาให้ทหารไว้ฝึกซ้อมสู้ศัตรู เมื่อฝึกจนเก่งยิงแม่นแล้ว ฉันจะให้พวกเขาเตรียมออกรบ”
หลังเธอบอกเรื่องรบผมก็นึกอยู่ว่าเธอจะรบกับใคร
“รบกับใคร?”
ในที่สุดผมก็คิดไม่ออกและถามเธอไปตรงๆ เธอยืนขึ้น หันหลังแล้วแล้วไม่พูดอะไร
“ทวีปเหนือ”
“หา! เธอจะยึดทวีปเหรอ?”
“ใช่ แต่ไม่ใช่ทำเพราะความบ้าอำนาจ ฉันทำเพราะผู้นำจักวรรดิอารูสิเยฆ่าพ่อฉัน เมื่อฉันวัยรุ่น มันเป็นการแทงเข้าหัวใจของผู้นำอารูสิเยที่เราไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ เขาเก่งกว่าพ่อฉัน และไม่แน่อาจจะเก่งกว่าเธอ”
หลังเธอบอกผมก็ลองจินตนาการถึงพ่อของวาโร
แต่ผมนึกไม่ออกแล้วยอมแพ้
ตอนซ้ำจ้า
ถ้าอย่างนั้นเธอมีเหตุผลอยู่ลึกๆ
“ฉันรู้สึกเหมือนมงกุฎหนักขึ้นหลังบอกเธอ”
“ถ้ามันหนักเกินไป ก็ถอดวางก่อน”
“ฉันทำไม่ได้ ฉันเป็นราชินีของประเทศนี้”
หลังผมบอกเธอแล้วเธอตอบว่าไม่ได้ ผมยิ้มให้กำลังใจวาโร
ใข่ วันนี้มีสัมภาษณ์ผมกับราชินีวล็อดซีเมียออกรายการทีวีวันแรก
ที่วีมันจะฉายหนังเรื่องแรกซ้ำๆ มีข่าว แล้วก็มีคั่นโฆษณาของฮาโมนี่
มันทำให้เราขายดีขึ้นและคนดูเยอะเพราะเป็นของใหม่
เมื่อเดือนที่แล้วมันเป็นช่วงลองฉายครั้งแรกและมันผิดถูกๆ รายการสลับกันไปสลับกันมา
มันมีข่าว โฆษณา หนัง โฆษณา ข่าว โฆษณาสลับกันไปเรื่อยๆ แบบนี้
โฆษณามันมีเยอะและมีโฆษณาสินค้าหลายๆชิ้น
แต่เราใช้การโฆษณาแบบพูดจริงทุกประการ
ของที่เราขายแทบไม่มีข้อเสีย และโฆษณามันทำให้น่าสนใจ
ไม่มีโฆษณายาว
ผมนึกถึงเรื่องโฆษณา
โฆษณาที่เป็นที่นิยมคือโฆษณาเครื่องประดับ และเสื้อผ้าใหม่ๆ
เสื้อผ้าเป็นที่นิยมและคนใส่เยอะขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผมกลับมามองหน้าวาโรเพราะผมเริ่มคิดเรื่องฮาโมนี่เยอะแล้ว
“จะซ้อมสัมภาษณ์วันนี้มั้ย?”
“เหรอ? ได้สิ ใครจะถามใคร?”
หลังเธอถามแล้วผมก็ถามความเห็นเธอ
“ฉันมีรายการคำถามอยู่ แต่มันเป็นคำถามง่ายๆ ไม่ใช่คำถามใหญ่และสำคัญ”
เมื่อเธอบอกผมก็พยักหน้าให้เธอเริ่ม
“วันหยุดชอบทำอะไร?”
“ฉันชอบพักผ่อนและสร้างรักกับเหล่าคนรักที่มาหาฉัน”
หลังเธอถามคำถามแรก ผมก็ตอบไปตรงๆ
แน่นอนมันมีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยวด้วย แต่ผมจงใจไม่พูดถึงมัน เราสมมติว่าโดนรายการทีวีสัมภาษณ์
“อยากทำอะไรก่อนตาย?”
หลังเธอถามผมก็คิดหนัก
มันมีหลายอย่างที่อยากทำ แต่ผมตอบอย่างแรกที่เข้ามาในหัว
“หาชีวิตอมตะ”
“เธอคิดว่าจะทำได้เหรอ? วารี”
หลังผมบอกวาโรถามเพิ่ม
“ฉันมีคนอยู่ น่าจะได้”
หลังผมบอกเธอก็พยักหน้า
“อะไรที่ทำให้รู้สึกดีเป็นประจำ?”
หลังวาโรถามผมก็ตอบไปอย่างเร็ว
“ความรักของคนรัก”
ผมตอบตามตรงและวาโรเปิดตากว้างเหมือนไม่เชื่อหู
“เธอเป็นคนหวานกว่าที่คิด”
“ฉันยังมีเรื่องที่ชวนให้ค้นหาอยู่เยอะ เชื่อสิ”
หลังเธอพูดถึงผม ผมก็บอกข้อดีของผมไป
เราซ้อมถามตอบกันอยู่นานจนถึงบ่ายสาม
“ไปล่ะ เจอกันเย็น”
หลังผมลาผมนัดวาโรตอนเย็น
“เจอกันที่รัก”
หลังผมกำลังจะเปิดประตู วาโรหวานใส่ผม
ผมพยักหน้าให้เธอ แล้วไปฮาโมนี่ เข้าห้องประชุม
เมื่อผมเห็นทุกคนพร้อม ผมก็เริ่มสั่งงาน
“เพิ่มรายการทีวีทำอาหาร ใช้คนของพี่คุมะทำอาหารแบบนั้นแบบนี้ที่ขายดี เราจะสอนทำและแจกสูตรฟรีๆ”
หลังผมบอกพี่คุมะก็ทำหน้าหวั่นๆ
เธอพูดขึ้นมา
“จะแจกสูตรเหรอ?”
“อาหารมันสร้างอาชีพได้ การแจกอาชีพมันดี และฉันเชื่อเรื่องดวง มันทำให้ดวงดีขึ้นมั้ง? แม้ไม่รู้จริง มันก็ดีกว่า”
พี่คุมะพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรต่อ
“ทำคุ๊กกี้ช็อคโกแลตสองแผ่น ประกบโดยมีใส่ครีมสีขาวตรงกลาง ทำมาเยอะๆแล้วแพ็ครวมกัน ไว้ขายเป็นซองๆ”
หลังผมสั่งพี่คุมะก็พิมพ์งาน
“เอาล่ะ แยกย้าย”
ผมต้องเตรียมไปสัมภาษณ์แล้ว
ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมเป็นชุดสูท และวาโรใส่ชุดสวยงามเซ็กซี่มา หน้าบ้านผม
เธอสวยจริงๆ
ผมยื่นมือไป ให้เธอจับเพื่อจะเดินนำ เธอจับแล้วผมขึ้นโดรนกับวาโรจูงมือกัน
ผมบินไปสตูดิโอที่อยู่ใกล้ๆในเขตวังแต่หลบออกไปหน่อย เพราะผมไม่อยากให้มันขวางทิวทัศน์
เราเข้าไปในสตูดิโอ
มันเป็นที่ที่สวยงามแล้วมีเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ
เมื่อพนักงานเห็นเราสองคน เขาและเธอยืนเพื่อคำนับเรา
เราเดินถึงเคาน์เตอร์
“ผมวารี และนี่ราชินีวล็อดซีมีเรีย เรามาออกรายการครับ”
“ทราบแล้วค่ะ น้องเขม ดูเคาน์เตอร์ให้ทีนะ”
“ได้ค่ะพี่”
หลังพนักงานชายให้พนักงานหญิงหรือน้องเขมดูเคาน์เตอร์ เราก็เดินไปสตูดิโอ
เราเดินผ่านห้องจัดรายการใหญ่ๆ 2-3 รายการ
แต่ส่วนใหญ่ที่เหลือมันเป็นห้องว่าง และไม่มีคน
บางห้องมีไฟแดงอยู่ข้างหน้า และบางห้องมีไฟเขียว
ผมไม่ได้สร้างมัน มันเป็นบุญมีและบุญมากับผู้กำกับหนัง
ผู้กำกับหนังคนนั้นมากฝีมือกว่าที่คิด ตอนแรก ผมนึกว่าความสามารถเขามีแค่กำกับหนังเรื่องเดียว
แต่เอาเข้าจริงเขาทำได้มากกว่านั้น
ผมไม่รู้ชื่อเขาด้วยซ้ำ
ตอนนี้เขาทำงานให้ฮาโมนี่เป็นผู้กำกับที่เราจ้าง และไม่ใช่ควบกับตำแหน่งหัวหน้าแผนก
ผมคิดว่าจะจ้างเขาเป็นหัวหน้าแผนก ทำความรู้จักเขาด้วย เขาสัมภาษณ์เราพอดีี
เราเดินมาถึงห้องที่มีเก้าอี้นั่งและกระจกที่มีไฟอยู่ด้านข้างเยอะๆ
“นี่คือห้องแต่งหน้านะครับคุณวารีและท่านราชินี เดี๋ยวพวกท่านแต่งหน้ากันก่อนเข้ารายการจริง เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาถ่ายทำ”
หลังพนักงานชายที่ผมไม่รู้จักบอกพวกเรา ผมก็จูงวาโรไปนั่งที่เก้าอี้
พนักงานต้อนรับเดินกลับไปทำงานของเขา
วาโรค่อยๆนั่งแบบมีมาดมีเสน่ห์ ไม่ใช่ถึงปุ้บแหมะนั่ง และมันดูสง่างามมาก
ผมไม่เคยเห็นมุมที่เธอต้องทำนั่นทำนี่ในมาดของราชินีเลย แม้ผมเป็นแฟนที่จะเป็นคู่หมั้นของเธอ
มันทำให้ความรักที่ผมมีกับเธอเยอะมากขึ้นไปอีกแทบเป็นสองเท่า เพราะผมชอบคนสง่างาม
และมาดเธอไม่ได้สง่างามอย่างเดียว เธอดูเรียบร้อยเข้ามาเสริมด้วย
เสื้อผ้าเธอเสี่ยงเปิดหน้าอก และเท่าที่ดูแล้วเห็นหัวนมดีดเสื้อออกมา เธอไม่ได้ใส่บรา
คนในโลกนี้ไม่ได้เห็นบราว่า ‘มันทำให้ดูเรียบร้อยและไม่ล่อแหลม’ เหมือนโลกเก่า
มันเป็นแค่ผ้าไว้ยกทรงไม่ให้เสียแค่นั้น และความนิยมมันน้อย
มันเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นที่อยู่ในวัยเรียน แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่ตัดสินใจเรื่องตัวเองได้ ผู้หญิงพวกนั้นไม่ค่อยใส่
มันเหมือนไอเดียว่าหน้าอกที่ส่วนตัวของผู้หญิง มาที่โลกนี้ด้วย
และอีกอย่างที่เราไม่เหมือนโลกเก่า
เราดัดแปลงหัวนมให้ใหญ่ขึ้นไม่ได้
เพราะฉะนั้นผู้ชายที่แปลงกายเป็นผู้หญิงจะหัวนมเล็กเป็นธรรมดา เพราะมันเป็นเรื่องพันธุกรรม และเราแก้ไม่ได้ คิเซกิกำลังวิจัยเรื่องนี้อยู่
คิเซกิกับมหัศศรีเคยบอกว่า ตอนนี้มันปลูกถ่ายอวัยวะได้แล้ว แต่เขาสงสัยมากว่าทำไมปลูกถ่ายอวัยวะที่มีเส้นประสาทเยอะไม่ได้
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเพราะผมไม่จบแพทย์ เรื่องยากๆผมไม่เข้าใจ ผมเข้าใจแต่พวกเรื่องพื้นฐาน
ช่างมาเพื่อแต่งหน้า แต่เธอดูประหม่ายังไงไม่รู้
ข่าวลือเรื่องผมไม่ค่อยดีนัก ผมปล่อยข่าวให้เสนอได้อิสระจริง แต่ผมไม่ได้มีอะไรกับใครนอกวงแฟนผม
ไม่ใช่ผมถูกใจใคร ผมก็จะชี้นิ้วสั่งแล้วจะเอาจะเอา ไม่ใช่เลย ผมมีมารยาทและผมคิดว่าผมให้เกียรติผู้หญิงมาก
ผมมองช่างแต่งหน้า
“สวัสดีค่ะคุณวารี หนูชื่อหนูนานะคะ เดี๋ยวหนูต้องแต่งหน้าท่านก่อนออกรายการ ถ้าไม่สบายใจตรงไหน บอกหนูได้เลยนะ หนูแต่งได้หลายแบบหลายแนวมาก”
เธอมั่นใจในฝีมือตัวเอง และผมชอบคนแบบนี้ที่รู้ถึงความสามารถของเธอเอง
“เชิญครับ คุณหนูนา ผมจะนั่งเฉยๆไม่สั่งอะไร เพราะผมเป็นคนแบบนั้น”
“เอ๋! พูดตรงดีจัง ดีค่ะ หนูชอบคนแบบนี้ เดี๋ยวหนูจะจัดให้ออกมาสุดหล่อสุดๆ สาวเห็นที่ไหนก็กรี๊ดสลบกับความหล่อเลยค่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมเชื่อว่าคุณทำได้ แต่ผมขอให้อย่าหน้าเปลี่ยนไปมากแล้วกัน เพราะผมอยากให้คนจำตัวจริงผมได้มากกว่า”
เธอเริ่มลงมือเอาครีมทาหน้าผมหลังผมพูด
“ได้ค่ะ เดี๋ยวเชื่อมือหนูได้เลยนะคะ แต่…”
ตอนเธอพูดด้วยหน้าประหม่าเธอทิ้งท้ายอะไรบางอย่างเหมือนอึดอัดใจไม่อยากพูด
“พูดมาเถอะครับ”
หลังผมบอกเธอก็พยักหน้า
“อย่ากินหนูนะคะ เรายังไม่รู้จักกันเลย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น”
“หา? ไม่เห็นเหมือนตามข่าวที่ออกมาในกระดาษเลย กระดาษพูดโกหกเหรอคะ?”
ผมหัวเราะแล้วบอกเธอ หลังจากนั้นเธอถามคำถามเรื่องผลงานของเรา
“มันมีข่าวกับโฆษณา คุณต้องแยกสองอย่างนี้ก่อน ข่าวจะมีแต่ความจริงและความจริง ส่วนโฆษณาจะมีพูดเกินจริง แต่มีเค้าความจริงให้น่าค้นหา เราไม่ได้ตามข่าววงการละคร เราเลยไม่รู้จะลงโฆษณาใคร เราเลยโฆษณาพวกเราเอง”
เธอเอียงหัว แต่ไม่หยุดแต่งหน้า และมือไม้เธอว่องไวคล่องแคล่ว แบบรู้หมดว่าต้องทำอะไรแต่ต่อด้วยอะไร
“เหรอคะ? หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลย สอนวิธีอ่านด้วยสิคะ ได้มั้ย?”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมกำชับให้เล่มหน้ามีสอนวิธีอ่าน”
หลังเธอเสนอ ผมก็รับปากทันที
“ท่านให้คนอื่นมาตัดสินการทำงานของฮาโมนี่ด้วยเหรอคะ? ปรกติแล้ว”
ผมส่ายหน้าหลังเธอถาม
“มันไม่ใช่ว่าเราให้ทุกคนมาเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ แต่เราชอบการรับฟังปัญหาของลูกค้าจริงๆ และปัญหาที่เราเจอเข้ามากๆ คือลูกค้าไม่ค่อยออกความเห็น เราเลยชอบความเห็นของลูกค้า”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
วีโทรมาเข้านกรักเพราะมือถือสั่น
“ซักครู่นะครับ”
หลังผมขอเวลา เธอก็หยุดและจัดกล่องอุปกรณ์ไม้แบบมีที่หิ้วของเธอ
“ว่าไงวี ตอนนี้ฉันแต่งหน้าออยู่”
“วารี! เธอกำลังถูกแอบถ่ายออกทีวีอยู่”
หลังวีบอก ผมไม่ได้ตกใจอะไร
“ฉันไม่ได้คาดการณ์ไว้ แต่ฉันอยู่ข้างนอก ฉันไม่พูดอะไรที่พูดไม่ได้หรอก”
“อ่าวเหรอ? อืม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วแหละ รีบแต่งหน้าเถอะ เดี๋ยวไม่ทันรายการ วิวจัดปาร์ตี้ป็อปคอร์นไม่อั้นให้เหล่าแฟนและคนในบ้านเพราะห้องเราไม่มีทีวี”
“อ้าว อยากดูทีวีกันเหรอ?”
“มันมีช่วงนึงมีข่าวพวกดาราในวงการละครอ่ะ คนเลยขอวิวมาเยอะ แต่วิวนึกว่าเธอไม่ให้ใช้เพราะเดี๋ยวคนพากันไปดูหมด ไม่ทำอะไร”
หลังเธอพูดผมก็คิด ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ผมต้องแจกทีวี
“คนที่อยากปาร์ตี้ข้างหน้าก็ปาร์ตี้ดูไปก่อน เดี๋ยวฉันมีเวลาเมื่อไหร่ฉันแจกทีวีฟรีให้”
“เหรอ เดี๋ยวฉันจะบอกข่าวดีกับสาวๆข้างหน้า รีบวางเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน”
“อืม เจอกันที่บ้าน”
“เจอกัน จุ้บที”
“จุ้บ!”
ผมพูดจุ้บดังๆ แล้ววางสาย
“ยังจะหวานกับคนอื่นอีกนะ ทั้งๆที่ฉันอยู่นี่”
“อย่าหึงเลยน่าวาโร ฉันมีแฟนตั้งหลายคน”
“ฉันก็แซวเล่นๆไปเท่านั้นแหละ อย่าคิดมาก วารี”
หลังผมขอวาโร เธอก็ตอบมาว่ามันไม่ได้เป็นปัญหา
“แต่งหน้าต่อเลยครับ”
“ได้ค่ะ”
หลังผมบอกเธอ เธอก็เริ่มแต่งหน้าอีกครั้ง
“ใครเหรอคะ?”
“แฟน วีไง หรือเวโรนีก้านั่นแหละ พอรู้จักมั้ย?”
“อ๋อ ท่านวีเหรอคะ หนูรู้จักเธอดีเลยล่ะ หนูตามข่าวอยู่ เป็นไอดอลหนูเลยและ หนูอยากแต่งหน้าเธอมาก เป็นฝันที่ใฝ่หาเลยล่ะค่ะ ไม่ใช่วีคนเดียวนะคะ ท่านวิวด้วย”
หลังเธอพูดเรื่องวีกับวิว ผมก็คิด
ผมทำให้เธอฝันเป็นจริงได้ ง่ายๆ
ถ้าอย่างนั้นก็ทำเลย ไม่ต้องให้เธอตอบแทนอะไร
ผมดูร่างกายเธอ
หน้าเธอสง่าเหมือนดารา ผมสั้นสีม่วงตาสีม่วง ตาเธอเหมือนมีไฟสว่างไสวอยู่ตลอด
แต่น่าเสียดาย เสน่ห์ผู้หญิงด้านบนและหลังเธอไม่มีเลย
อายุเธอน่าจะประมาณ 20
เธอแต่งหน้าตัวเองแบบธรรมชาติ
“เอาแบบนี้ เอานามบัตรนี่ไป ถ้าว่างเมื่อไหร่ เดี๋ยวฉันโทรหา ขอสื่อนกที”
เธอเอามือถือมากดอะไรบางอย่าง
“นี่ค่ะ โลโก้สื่อนกหนู”
หลังเธอบอกแล้วผมเห็นเหมือน คิวอารฺ์โค้ดกลม ผมก็เอามือถือมาแสกน
รูปที่อยู่เธอที่ขึ้นมาเป็นเธอตอนแต่งหน้าไปเที่ยววัดใหญ่ในวาโรซีเมียเรีย
ผมอ่านแนะนำตัว
ชอบเที่ยว ชอบออกกำลัง ชอบสัตว์เลี้ยง
ผักชีเป็นคนทำมือถือกับลูน่า และผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันใช้โปรแกรมหรือกระบวนการอะไรมาทำให้สื่อนกมี คิวอาร์โค้ด
แต่พวกเธอทำได้และมันสะดวกดี ตอนนั้นผมให้เงินไปเป็นโบนัสเยอะอยู่ มันเหมือนให้รางวัลดีเยี่ยม
ถ้าพวกเธอไม่อยู่กับผมแล้ว พวกเธอก็อยู่อย่างหรูหราเป็นเศรษฐีนีได้
เงินส่วนตัวพวกเธอเยอะขนาดนั้น
และพวกเธอใส่เสื้อผ้าธรรมดา
“แต่งหน้าต่อเลยครับ”
ผมรู้สึกสนิทกับเธอมากขึ้น
“ถ้าเลือกมาทำงานกับฉัน ฉันจะให้เธอเป็นหัวหน้าแผนกแต่งหน้า เธอแต่งตัวเก่งด้วยมั้ย?”
หลังเธอได้ยิน เธอก็หูผึ่ง
“เป็นค่ะ เป็น ให้หนูเป็นนะ หนูอยากรวยแบบพวกท่าน”
“ฝันนั้นเป็นจริง หลังจากนี้ ตอนบ่ายสามไปประชุมที่ฮาโมนี่”
“เข้าใจแล้วค่ะ หนูยังทำงานที่นี่ต่อได้มั้ย?”
“ได้ ไม่มีปัญหา”
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นเจอกันบ่ายสามนะคะ คุณวารี”
เธอลดยศผมจากท่านเป็นคุณเมื่อเธอสนิทมากขึ้น มันทำให้คุยกับเธอง่ายขึ้น
เธอเป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วรู้สึกดี
นิสัยเธอน่ารัก
“แต่งหน้าเสร็จแล้วค่ะ ป่ะ ไปแต่งตัวกับหนูเดี๋ยวหนูจัดเอง”
หลังเธอบอก ผมก็ดูหน้าตัวเอง
มันแต่งหน้าเยอะ และมีลิปสติกสีชมพู
มันทำให้ผมเหมือนดาราเลย ผมไม่คิดว่าผมจะดูดีได้ขนาดนี้
ผมไม่มีปัญหาที่มันออกหวานและดูคล้ายผู้หญิงมากขึ้น เพราะผมเป็นผู้ชายเต็็มตัว
ถ้าผู้หญิงจะแต่งหน้าผมแบบนี้ก็เชิญ ผมชอบการตามใจคน
ลุกแล้วเดินไปเลือกเสื้อผ้า
“เดี๋ยวถอดสูทด้วยค่ะ สูทดำมันดูทำงานไป หนูอยากให้ร้อนๆ เพราะหน้าหวานๆแล้ว”
หลังเธอพูดเธอก็เห็นวาโรกำลังแต่งตัว วาโรใส่ชุดชิ้นเดียวที่เป็นกระโปรงสั้นเหมือนนักธุรกิจหญิง
“ราชินีดูเรียบร้อยแล้ว หนูอยากให้คุณดูออกหวาน เพราะข่าวลือคุณออกมาเหมือนคุณดุ แต่ตัวจริงไม่ดุเลยแล้ว…”
เธอยิัมมีเสน่ห์ รอยยิ้มนั้นมันทำให้เธอดูผู้ใหญ่มากขึ้น
เธอจับท่อนแขน และทำท่าเหมือนอยากจับหน้า
“จับได้นะ”
“ขออนุญาต”
เธอมองหน้าผมแล้วจับหน้าผมเหมือนต้องการผมมาเสียอย่างนั้น
แต่ตอนแรกเธอบอกว่าไม่ให้ผมจ้องกินเธอ
ตกลงเธอเอายังไงกันแน่ ผมเดาใจเธอไม่ถูก
“สื่อนกมานะคะ หนูจะรอ”
“อืม”
หลังเธอบอก ผมตอบรับแบบไว้มาดก่อนเพราะผมไม่รู้ใจเธอ
แต่ผู้หญิงเข้าใจยากเป็นธรรมดา และมันเป็นร่างกายและจิตใจของเธอเอง
ผมไม่บังคับใครและฝืนใจใครอย่างเด็ดขาด มันเป็นสิ่งที่ผมเกลียดเข้าไส้มากๆ การฝืนใจคน
เพราะผมคิดว่าทุกคนเกิดมาแค่ครั้งเดียว
ที่ผมมีฮาเร็ม ผมไม่ได้ต้องการแค่เซ็กส์ ผมไม่ได้บ้ากาม แต่ผมเร็วและแรงเพราะผมแข็งแรงและทำได้ มันสนุกกว่าสำหรับเรื่องแบบนั้น
ผมต้องการความอบอุ่นและความหวานจากเพศตรงข้าม เพราะผมไม่เคยได้เลย
โลกเก่าผมไม่ได้หน้าตาดี ยิ่งหุ่นนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่ผมเกิดสองครั้ง ผมมาจากต่างโลก
เธอยังไม่รู้ข้อนี้ว่าผมแปลกๆ เพราะผมมาจากต่างโลก
ถ้าเธอรู้แล้วเธอจะเกลียดไหม? ผมสงสัย
เธออาจมองว่าผมแปลกไป
แต่ถ้าตอนนั้นมาถึงจริงๆมันก็แล้วแต่เธออยู่ดี
ผมคิดกลับเธอไปไกลแล้ว ผมยังไม่ได้เริ่มจีบเธอด้วยซ้ำ
การขอสื่อนกมันเป็นเรื่องงานๆ ผมอยากเอาเธอไปทำงาน
ผมไม่ได้อ้าง!
มั้ง
ผมเดาใจตัวเองไม่ถูก มันเหมือนเธอทำให้ผมกลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง
อยู่กับเธอแล้วสบายใจดีจัง
เธอเลือกกางเกงสีแดง เธอใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีแดงให้ผม
เธอค่อยๆทำช้าๆ และไม่ลืมว่าโปรยเสน่ห์ผมด้วยการแอบมองตาผมเป็นครั้งเป็นคราว
แต่ผมสบตาเธอตลอด สายตาผมไม่ได้อยู่กับหน้าอกหรือบั้นท้ายเธอเลย
เพราะผมไม่อยากให้เธอรู้เร็วไป ว่าผมชอบเสน่ห์ของผู้หญิง
ผมอยากรู้จักเธอมากกวว่านี้ อยากรู้หมดว่าในหัวหลังผมสั้นสีม่วงและตาสีม่วงเธอคิดอะไรอยู่
ผมคิดไปว่า เธอหิวมั้ย? กินดีอยู่ดีมั้ย?
บ้านหลังใหญ่มั้ย?
ผมคิดกับเธอไปไกลขนาดนั้น
ผมเกาหัวเพราะเธอไม่ได้จัดหรือยุ่งอะไรกับเส้นผมของผม
ผมให้เธอแต่งตัวจนเสร็จ มันเหมือนเธออยากดูเรือนร่างผม เธอถอดกางเกงผมเปลี่ยนเหมือนเด็ก
เมื่อแต่งเสร็จผมไปดูกระจก
แต่เธอเหมือนอยากได้มากกว่านี้ ไม่อยากให้มันดูแนวผู้ชายมาดๆแบบนี้
เธอไปหาเครื่องประดับ
“ใส่นี่ค่ะ”
มันเป็นผ้าลูกไม้สีดำไว้ใส่คอ
มันหวานเกินไปและผมเฉยๆ แต่เธออยากให้ใส่ผมก็ใส่
แต่มันเหมือนเธอยังไม่หมดแค่นี้ เธอปลดกระดุมของเสื้อ
เธอเปิดหน้าท้องผม แล้วลูบหน้าท้องของผมเหมือนต้องการมาก
ผมอยากจูบเธอแต่ผมไม่พูดอะไร
“แบบนี้่ดีที่สุดค่ะ สุดยอด หนูว่า ด้วยฝีมือแต่งหน้าและเลือกชุดของหนู ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะรอด”
หลังเธอบอกผมดูหน้าตัวเองในกระจกดีๆ
มันหวานมาก หวานจนเหมือนไม่ใช่ผม
และแจ็คเก็ตหนังสีแดงทำให้ผมดูตัวเล็กกว่าเดิม
แต่มันเปิดเสื้อและผมดูเหมือนเพลย์บอย
“แบบที่เธอชอบเนี่ยแหละดี ถ้ามันดีในสายตาผู้หญิงมันก็ดี”
หลังผมพูดผมก็ดูเสื้อผ้าเธอ เธอใส่เสื้อผ้าดีๆ แสดงว่าฐานะเธอดีอยู่แล้ว
ถ้าอย่างนั้นที่เธอต้องการเป็นหัวหน้าแผนก ก็เพราะเธอทะเยอทะยานในเรื่องการงานและการเงิน
มันทำให้ผมเข้าใจเธอมากขึ้น
เธอเอาสมุดจดเล็กๆออกมา
“ขอลายเซ็นได้มั้ยคะ? พี่วารี”
เธอเปลี่ยนจากคุณเป็นพี่
แต่อายุผมไม่น่าห่างกับเธอมาก
ผมเซ็นให้เธอ
เธอเดินไปสะกิดวาโร
วาโรหันมา
ผมเพิ่งเห็นหน้าเธอ ผมทึ่งและพูดไม่ออก
เมื่อเธอแต่งหน้าเธอสวยมาก
เธอทาลิปสติกสีแดง
เธอใส่เสื้อผ้ามิดชิด แต่มันแนบเนื้อและกล้ามแขนเธอเด่นมาก
“ขอลายเซ็นได้มั้ยคะ?”
“ได้สิ ชื่ออะไรล่ะเธอน่ะ”
“หนูหนูนาค่ะท่าน”
เมื่อเธอพูด หนูนาคิดเหมือนวาโรศักดิ์สูงกว่าผม
แต่ผมไม่ข้องใจอะไร
“เสร็จแล้วค่า”
หลังเธอได้ลายเซ็นแล้วขอบคุณเธอก็พูดเสียงดัง
มีทีมงานที่เหมือนทีมงานหลังเวทีใส่เสื้อผ้าสีดำมา
“เดี๋ยวตามเรามาที่นั่งรอนะครับ”
ผมเดินไป แต่ตาผมอยู่กับหนูนา
เธอโบกมือ แล้วทำปากพูดไม่มีเสียงวา ‘จะคอยดูนะคะ’
น่ารักจริงๆเลย ทั้งๆที่หน้าเธอออกไปทางสง่างาม
เราไปรอที่ห้องรอ
มันมีประตูใหญ่ที่ไม่มีประตูแล้วเป็นม่าน
ก่อนผมนั่งผมดูหลังม่าน
รายการทีวียังไม่เริ่ม แต่ทีมงานและทีมกล้องรอฉายแล้ว
มันเป็นรายการสด ผมต้องไม่ลืมข้อนี้
“เอิ่ม เราพยายามทำรายการไม่ให้เป็นแบบรู้กันมาก่อน แล้วรู้ว่าจะถามตอบอะไรนะครับ เราเลยไม่มีกระดาษบอกว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง เรามีน้ำและอาหารให้พร้อมถ้าต้องการ แต่รายการนี้ถ่ายทอดสด เพราะฉะนั้นห้ามสบถนะครับ”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังทีมงานบอกผมก็บอกไปว่าเข้าใจ
เรารอรายการเริ่ม