ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) 476 : ดินแดนแห่งความตาย

ตอนที่ 476 : ดินแดนแห่งความตาย

    ตอนที่ 476 : ดินแดนแห่งความตาย

    เมื่อเห็นว่าอสูรของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากพลังจิตหวนกลับ หวังเย่าก็รู้ว่าสิ่งที่เขาเดาไว้ก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว

    หลังจากที่ระบบเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสัญญา มันจึงทำให้สามารถรับมือกับพลังจิตหวนกลับได้

    เมื่อรู้แบบนี้มันจึงทำให้หวังเย่าสบายใจขึ้นอย่างมาก เขาจึงเก็บกำไลไว้ในถุงมิติก่อนจะมองไปรอบ ๆ เพื่อคิดว่าจะทำอะไรต่อ

    การ์ฟิลด์เมื่อเห็นว่าหวังเย่าจะอยู่ที่นี่สักพัก มันจึงนอนลงไปกับพื้น

    หงอคงเองก็เกาหัวและกินผลไม้ต่อไปไม่หยุด แต่ไม่รู้เลยว่ามันเอาผลไม้มาจากไหน

    ส่วนตือโป๊ยก่ายก็ยังอยู่ในเงาของหวังเย่า ราวกับว่าที่นี่คือที่ที่ดีที่สุดของมัน

    สำหรับเสี่ยวซวีแล้ว เมื่อเห็นว่าหวังเย่าไม่สนใจเธอ เธอก็พึมพำออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจแต่มันกลับดูน่ารัก เมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรเธอจึงเลือกที่จะไปเล่นกับการ์ฟิลด์แทน

    การ์ฟิลด์ก็ยังยอมให้เสี่ยวซวีมาจิ้มพุงของมันเล่น อีกทั้งยังเผยสีหน้าพอใจออกมา ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้มีท่าทีแบบนี้ได้

    ส่วนหวังเย่านั้นก็มัวแต่คิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ แต่เมื่อมันคิดยังไงก็ไม่ออก มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมาคิดมากจนเขาสลัดความคิดนี้ออกไป เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที

    ท้องฟ้าของมิติแห่งนี้มีเส้นสีดำวิ่งตัดผ่านท้องฟ้า มันยาวราวกับไม่รู้จบ

    หวังเย่าลำดับความคิดในหัวก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเดินทางตามเส้นตัดมิตินี้ไป เพราะบางทีเขาอาจจะพบกับคนอื่น ๆ

    ในอีกด้าน เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะต้องเดินทางไปทางไหนก่อนดี เพราะถ้าหากเขาตัดสิ้นใจแล้วเดินทางไปฝั่งตรงกันข้ามกับคนอื่น ๆ มันคงจะเป็นปัญหาแน่

    “ถ้าเช่นนั้นนายท่านก็เลือกมาสักทาง ถ้าผิดก็แค่กลับไปอีกทาง” เสี่ยวซวีมองไปที่เส้นตัดมิติและพูดขึ้นมา เธอเบื่อที่จะอยู่ที่นี่ ถ้าเขาไม่รีบเลือก งั้นเดาว่าเธอคงได้อัดการ์ฟิลด์แทนแน่

    สำหรับว่าทำไมเธอถึงจะอัดการ์ฟิลด์ก็เพราะเธอนั้นเบื่อ อารมณ์เสีย และหงุดหงิดจนคันไม้คันมือไปหมด

    การ์ฟิลด์นี่แหละคือเป้าหมายชั้นดี

    เสี่ยวซวีเริ่มทำตัวเป็นกันเองมากขึ้น

    เป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็เอาคำพูดของเธอมาคิด

    แม้ว่าเสี่ยวซวีจะพูดออกมาโดยไม่คิด แต่มันก็คือวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด เมื่อไม่มีความคิดดี ๆ บางทีอาจจะต้องใช้วิธีง่าย ๆ แบบนี้มาเป็นทางออก

    หวังเย่าเลือกทางตามสัญชาตญาณและบอกให้อสูรทั้งหมดเดินหน้าต่อไปกับเขา

    รอบข้างมีแต่ดินแดนที่รกร้างและว่างเปล่า พื้นดินแห้งแตกระแหง และไม่มีแหล่งน้ำเลย ทุกที่มีแต่โครงกระดูกของสัตว์อสูรเต็มไปหมด

    มันน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ ไม่งั้นแล้วคงไม่มีโครงกระดูกของสัตว์อสูรเกลื่อนกลาดแบบนี้

    หวังเย่าได้เรียก การ์ฟิลด์, ตือโป๊ยก่าย และหงอคงกลับเข้าไปในกำไล

    เขาให้เสี่ยวซวีเปลี่ยนร่างเป็นร่างหลักก่อนจะขึ้นขี่เธอ

    สุดท้ายเสี่ยวซวีก็ทะยานขึ้นไปบนฟ้าและบินออกไปด้วยความเร็วสูง

    พื้นดินด้านล่างเริ่มไกลตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตาเสี่ยวซวีก็บินไปได้หลายสิบไมล์ แต่ดินแดนรกร้างนี้กว้างใหญ่ นี่ขนาดเสี่ยวซวีบินอยู่กว่า 30 นาทีก็ยังไม่อาจจะออกจากที่นี่ได้ ซึ่งสิ่งนี้มันยืนยันความคิดของเขาว่าที่นี่คือดินแดนรกร้างที่ไม่มีแม้แต่สัตว์อสูร หรือนกสักตัวก็ไม่มีอยู่นี่

    มันคือดินแดนแห่งความตายอย่างแท้จริง

    ในที่แบบนี้ตอนแรกหวังเย่าไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่หลังจากที่เดินทางมาสักพักแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกกังวลใจขึ้นมาเรื่อย ๆ

    โชคดีที่หลังจากที่เดินทางได้อีก 10 นาทีสุดท้าย เสี่ยวซวีก็พาเขาออกมาจากที่นั่นได้ก่อนจะพบกับภูเขาที่สูงเสียดฟ้าอยู่ตรงหน้า

    เพื่อความปลอดภัยแล้วหวังเย่าก็ได้ให้เสี่ยวซวีลงมาจากท้องฟ้าและแปลงร่างกลับเป็นคน

    จากนั้นทั้งสองก็พากันเดินทางไปที่ภูเขานั้นอย่างรวดเร็ว

    ไม่นานหลังจากนั้นหวังเย่าก็พบว่าที่นี่ก็ยังมีแต่ความเงียบงันไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย

    สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หวังเย่าต้องแสดงสีหน้ากังวลออกมา บางทีเขาอาจจะไม่มีทางรู้สถานการณ์ที่นี่ได้ และไม่สามารถตรวจสอบต้นตอของพลังจิตหวนกลับนี้พบ

    มิติลับนี้ไม่ธรรมดา

    พื้นที่ภูเขาไม่ได้กว้างนัก หลังจากเดินทางได้สักพักทั้งสองก็ออกมาจากภูเขาได้

    เมื่อเดินทางออกมาจากภูเขาได้ก็พบกับฉากที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

    เมื่อหันกลับไปมองพื้นที่ด้านหลังที่มีแต่ความแห้งแล้ง หวังเย่าก็เริ่มรู้สึกอนาถใจขึ้นมา

    หวังเย่าไม่คิดจะอยู่ต่อและเดินหน้าไปยังทุ่งหญ้าด้านหน้า

    ตอนนั้นความกังวลในใจของหวังเย่าเริ่มหายไปบ้างแล้ว

    เมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยของเสี่ยวซวี หวังเย่าก็สงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับพื้นที่แห่งนี้

    “เสี่ยวซวี เธอว่าที่แห้งแล้งเมื่อตะกี้ดูแล้วน่าอนาถไหม ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา

    “น่าอนาถอย่างไร ข้าแค่อยากจะออกจากที่นั่น เพราะข้าหงุดหงิดเป็นอย่างมาก” เสี่ยวซวีเริ่มปากจัดขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ปากของหวังเย่ากระตุกไปตาม

    ในเวลาเดียวกันก็ทำให้หวังเย่าเข้าใจว่าเสี่ยวซวีไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมโดยรอบแต่แค่อยากออกจากที่นั่น ที่นั่นไม่ได้ทำให้เธออึดอัด แต่เป็นเพราะว่าเธอหงุดหงิดก็แค่นั้น

    “นี่มันอะไรกัน ? ” หวังเย่าสับสนขึ้นมา

    ตอนนั้นที่ทุ่งหญ้าใต้เท้าของเขากลับเกิดการสั่นไหวขึ้นมา

    

    มันทำให้สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไปทันที !

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统)

Score 10
Status: Completed

นี่คือโลกของสัตว์อสูร !

หายนะบังเกิดขึ้น เมื่อโลกได้เชื่อมต่อกับมิติอื่น ส่งผลให้สัตว์และพืชทุกชนิดเกิดการวิวัฒนาการอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดสัตว์อสูรไม่รู้จบขึ้นมา !

เหล่าผู้ใช้อสูรได้นำสัตว์อสูรของตนฟาดฟันกับเหล่าสัตว์อสูรอยู่ในแนวหน้า แย่งชิงพื้นที่และบุกเบิกอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นมาใหม่

ด้วยการนำทางของ “ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ” ทำให้หวังเย่าได้ทะลุมิติมายังโลกนี้

ในขณะที่ผู้ใช้สัตว์อสูรคนอื่น ๆ ฝันอยากจะมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์สักตัว แต่หวังเย่ากลับกังวลว่าตัวเองมีสัตว์อสูรระดับสวรรค์มากเกินไป…

หือ ? สัตว์อสูรวิ่งมากอดขาฉันและอ้อนวอนให้ฉันรับเลี้ยงงั้นหรือ ?

โทษทีนะพวก !

มีหลายตัวจองคิวไว้แล้ว นายต้องต่อคิวนะรู้ไหม


นี่คือเรื่องราวของระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ ที่จะนำกองทัพสัตว์อสูรบุกถล่มโลกสัตว์อสูรให้เหี้ยน

Options

not work with dark mode
Reset