ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1515 ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของนาง

ตอนที่ 1515 ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของนาง

ตอนที่ 1515 ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของนาง

…………….

ในตอนนี้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกร่างกายหนาวเย็นจับขั้วกระดูก

ไอเย็นหนักหน่วงรุนแรง และในตอนนั้นเองทำให้นางหลงลืมความเจ็บปวดบนร่างกายไป

น้ำแร่ที่เย็นยะเยือกถาโถมเข้ามาทั้งสี่ทิศแปดทาง พร้อมจะกลืนกินนางลงไป

ตอนนั้นสติสัมปชัญญะของนางกระจ่างใสขึ้นมาแล้ว ผิวหนังทุกส่วนถูกปกคลุมด้วยน้ำแร่จนหมดสิ้น

ในตอนนั้นเองนางรู้สึกเหมือนว่าเข็มเล็กแหลมทิ่มแทงทุกส่วนของร่างกายนางอย่างบ้าคลั่ง

ความเจ็บปวดเข้าถึงขั้วกระดูก ทำให้นางต้องเบิกตากว้าง

สิ่งที่นางเห็นนั้น มีเพียงสีฟ้ากระจ่างใส

นี่นางกำลัง… อยู่ในตาน้ำหรือ?

เมื่อฉู่หลิวเยว่คิดได้ดังนี้ นางจึงยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ระลอกน้ำที่สั่นไหวพัดผ่านร่างกายของนางไป

น้ำนี้ใสมาก ดังนั้นนางที่อยู่ด้านในก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมดบนน่านฟ้าด้านนอกได้อย่างชัดเจน

เมฆดำปกคลุมหนาแน่น ทัณฑ์สวรรค์กะพริบแปร๊บปร๊าบ

เพียงแต่ว่า…

เห็นได้ชัดว่านางอยู่ภายในน้ำ แต่กลับไม่มีความรู้สึกไม่สบายตัวเลยแม้แต่น้อย?

ในตอนนี้นางยังรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้จมลงมาในน้ำ แต่นางกลับรู้สึกเหมือนยืนอยู่ด้านนอกไม่มีผิด

มีเพียงแค่ตอนที่น้ำไหลผ่านร่างกายเท่านั้น ถึงได้เป็นการย้ำเตือนนางว่าตอนนี้นางกำลังอยู่ในน้ำ

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น

… เพราะน้ำที่อยู่ในตาน้ำแห่งนี้ ไม่ใช่น้ำแร่จริงๆ!

คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแก่นพลังงานที่ทรงพลังที่สุดจนควบรวมกลายเป็นของเหลว!

ภายในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้นางก็มาที่เขาหมื่นเมรัยอยู่หลายครั้ง และใช่ว่าจะไม่เคยสัมผัสอย่างใกล้ชิด

แต่นางไม่เคยรู้มาก่อนเลย คาดไม่ถึงว่าที่แห่งนี้จะมีความลับเช่นนี้ซ่อนเอาไว้อยู่!

ตอนที่อยู่ด้านนอก นางมองไม่ออกถึงความแตกต่างนี้ อีกทั้งสิ่งที่ไหลวนอยู่ด้านล่างก็เหมือนว่าจะเป็นน้ำของจริง

แต่เมื่อมาอยู่ด้านในนี้ถึงได้พบว่า ความจริงแล้วภายในตาน้ำมีความลี้ลับอยู่!

ฉู่หลิวเยว่มองไปทางด้านล่างและชะงักไปอย่างกะทันหัน

ตาน้ำแห่งนี้ตื้นมาก

จากจุดที่นางอยู่คาดไม่ถึงว่าจะสามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้โดยตรง

โดยรอบเป็นกองหินขรุขระ หากมองดีๆ จะเห็นว่าด้านบนมีร่องรอยที่เหมือนถูกของมีคมทิ้งเอาไว้เป็นจำนวนไม่น้อย

น่าจะเป็นเพราะ… ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้น?

ทันทีที่ความคิดเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาในสมองของฉู่หลิวเยว่ สายฟ้าสีเงินก็สว่างวาบพาดผ่านตรงหน้าของนาง

ประกายสายฟ้าเหล่านั้นสั้นและเล็กมาก มีขนาดเท่ากับฝ่ามือ จากสายตาของฉู่หลิวเยว่แล้ว เหมือนกับปลาสีเงินตัวหนึ่งที่ว่ายผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว

ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นหายไปในกำแพงหินอย่างไร้ร่องรอย เหลือทิ้งเอาไว้เพียงรอยอันตื้นเขินเท่านั้น

หัวคิ้วของฉู่หลิวเยว่ขยับเล็กน้อย นางยื่นมือออกมาและสัมผัสไปที่กำแพงหินที่ไม่เรียบเนียนนั้นอย่างแผ่วเบา

ร่องรอยมากมายขนาดนี้ นี่มัน… รับพลังของทัณฑ์สวรรค์มามากน้อยเท่าไรกันแล้ว?

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีสายที่สอง สายที่สามปรากฏ

ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นเมื่ออยู่ภายในตาน้ำ ดูเหมือนว่ามันจะลดความรุนแรงลงไปมาก และไม่มีการโจมตีที่หนักหน่วงอีกต่อไปแล้ว

อีกทั้งไม่รู้ว่าเหตุใด เหมือนว่าพวกมันจะมีตาขึ้นมา ขณะที่สายฟ้าเหล่านั้นกำลังจะแล่นผ่านร่างของฉู่หลิวเยว่ พวกมันก็จงใจหลบเลี่ยงนาง

ตอนแรกฉู่หลิวเยว่ยังไม่สังเกตเห็นถึงเรื่องนี้ แต่นางยื่นมือออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ทัณฑ์สวรรค์สายนั้นก็อ้อมแขนของนางออกไป นางจึงสัมผัสได้ว่าต้องมีอันใดบางอย่างผิดปกติ

ก่อนหน้านี้ถวนจื่อก็อยู่ภายในที่แห่งนี้ กลืนกินพลังของทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้น และได้ปลุกพลังแห่งสายเลือดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์?

ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองรอบกาย และพบว่าจำนวนของทัณฑ์สวรรค์ของที่นี่มีน้อยกว่าแต่เดิมมาก

แต่ว่า…

หินที่อยู่ด้านล่างสุดกลับเรียบเนียนเป็นอย่างมาก

ฉู่หลิวเยว่หันไปจ้องอยู่เป็นเวลานาน ภายในใจก็คิดว่าต้องมีอันใดบางอย่างที่ผิดปกติ

ตามหลักการแล้วทัณฑ์สวรรค์จะต้องกระจายไปทั่วบริเวณ ไม่มีเหตุผลเลยที่มันจะหลบเลี่ยงหินก้อนนี้ที่อยู่ด้านล่างสุด…

เหตุใดถึงรู้สึกว่ามันมีอันใดแตกต่างออกไป?

แต่ตอนที่ความคิดนั้นปรากฏขึ้นมาในสมองของนาง มันก็ถูกละเลยไปอย่างรวดเร็ว

เพราะว่านางพบว่าบาดแผลที่อยู่บนร่างกายสมานกันอย่างรวดเร็ว!

ด้วยพลังที่อ่อนโยนและจำนวนมากค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในร่างกาย เดิมทีนางมีสภาพจนตรอกอดสู ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล บาดแผลเหล่านั้นฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ!

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่หลิวเยว่เห็นว่าปากแผลที่แขนของนางเริ่มสมานจนตกสะเก็ด และทิ้งเอาไว้เพียงรอยสีชมพูเท่านั้น

มีพลังส่วนหนึ่งที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของนาง พร้อมบำรุงและฟื้นฟูกระดูกกล้ามเนื้อของแขนและขาทั้งสี่

ลมปราณของฉู่หลิวเยว่ฟื้นตัวขึ้นมามากกว่าเดิมเป็นจำนวนไม่น้อย

ระลอกคลื่นแผ่กระจายออกมาจากภายในตันเถียนของนาง

หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นระรัว

… นั่นมันเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำ!

ในตอนนั้นเอง ระลอกน้ำที่อยู่รอบกายของนางก็พวยพุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน!

เมื่อนางสัมผัสได้จึงเงยหน้าขึ้นไปมอง!

ทัณฑ์สวรรค์หลายสายที่อยู่กลางท้องฟ้ากำลังเล็งโจมตีมาที่นาง!

เมื่อเห็นฉากนี้ ในที่สุดผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนก็พูดออกมาเสียงต่ำอย่างทนไม่ไหว!

ไม่ต้องพูดถึงระดับเก้าขั้นกลาง การที่จะทะลวงด่านไปยังผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงโดยตรงนั้น ระหว่างทางยังต้องก้าวข้ามอุปสรรคหลายอย่าง เดิมทีก็ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์แล้ว

ต่อให้ซั่งกวนเยว่มีความสามารถจริงๆ แต่ด้วยสภาพร่างกายของนางในตอนนี้ เกรงว่าจะมีผลร้ายมากกว่าผลดี!

นางเพิ่งรับการโจมตีทั้งสามของโหมวเหยาไป พลังดั้งเดิมแทบจะหายเกลี้ยง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผล

แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะเข้ามา…

หากเปลี่ยนเป็นเขา เขาไม่สามารถทนรับได้อย่างแน่นอน!

เขาจึงหันไปมองทางผู้อาวุโสวั่นเจิงอย่างอดไม่ได้

“วั่นเจิง นางคือลูกศิษย์ของเจ้า! ก่อนหน้านี้เจ้าไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อยเลยหรือ?”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงมีสีหน้าย่ำแย่และพูดอันใดไม่ออก

เขารู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นลูกศิษย์ที่เขารักมากที่สุด!

เขาไม่ทันหายตกใจเลยที่ลูกศิษย์ของตนเองเป็นผู้หญิง แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวผ่านไปเรื่องราวเช่นนี้ก็เกิดขึ้นอีกแล้ว

เขาจะหาเหตุผลได้จากที่ไหนอีก?

“เรื่องเช่นนี้ข้าจะรู้ล่วงหน้าได้อย่างใดเล่า?”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงตะโกนขึ้นพร้อมกัดฟันกรอด

“ปกตินางล้วนติดตามข้าไปฝึกฝนเซียนหมอ แต่ใครจะรู้เล่าว่านาง…”

“พอได้แล้ว! ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว!”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงเกือบจะสบถคำหยาบออกมาอย่างห้ามไม่ได้แล้ว

“นี่มันเวลาอันใดแล้ว! ช่วยกันคิดก่อนเถอะว่าจะช่วยชีวิตนังหนูคนนั้นอย่างใด เรื่องนี้สิถึงจะสำคัญที่สุด!”

ทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนก็เงียบเสียงไปโดยพร้อมเพรียง

ต่อให้พวกเขาจะมั่นใจแล้วว่า นางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตาน้ำระเบิดอย่างกะทันหันจริงๆ

แต่ว่าอย่างใดก็ตาม

ตั้งแต่ที่เด็กคนนี้เข้ามาในสำนัก อีกฝ่ายก็ได้รับความชื่นชอบและความสนใจจากพวกเขามาโดยตลอด

แม้ว่านางจะก่อเรื่องมากมาย แต่พวกเขาไม่เคยลงโทษอย่างรุนแรงเลยสักครั้ง

และแน่นอนว่าเพราะบทลงโทษเหล่านั้น เหมือนว่าจะไม่ได้ผลกับนาง

และในตอนนี้ต่อให้จะลงโทษก็ต้องรอให้คนผู้นั้นกลับมาอย่างปลอดภัยเสียก่อน!

“ช่วยอย่างใด…”

ซั่งกวนจิ้งยืนอยู่ที่ด้านข้าง ใบหน้าไร้อารมณ์ มีเพียงแววตาคู่นั้นที่จ้องไปทางตาน้ำตาเขม็ง

ตอนนี้เยว่เออร์อัญเชิญทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยตนเองแล้ว…

สถานการณ์ทั้งสองนี้ บุคคลภายนอกไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งได้

แม้กระทั่งจะขยับเข้าไปใกล้สักก้าวก็ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์

หากเป็นตอนหลอมอาวุธโบราณแล้วได้อัญเชิญทัณฑ์สวรรค์มา บางทีเขาอาจจะเดินขึ้นไปด้านหน้า และช่วยเหลือนางสักส่วนสองส่วน

แต่นี่มัน… เป็นตอนที่ผู้บำเพ็ญเพียรจะทะลวงไปสู่อาณาเขตเซียนเทพ แล้วยังดึงดูดทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์มา!

ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถช่วยเหลือนางได้

จะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับนางเอง!

ซั่งกวนจิ้งกำหมัดแน่น แล้วสูดลมหายใจเข้าช้าๆ

“เยว่เออร์ เจ้า… ห้ามเป็นอันใดไปเด็ดขาด…”

เปรี้ยง!

ทัณฑ์สวรรค์สายแรกตกลงมาจากฟากฟ้า และผ่าลงที่กลางตาน้ำอย่างแม่นยำ!

…………….

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset