รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 1085 ปราศจากบิดามารดาบุญธรรมข้างกาย เริ่มข่มดวงตนเองแล้วหรือ?

บทที่ 1085 ปราศจากบิดามารดาบุญธรรมข้างกาย เริ่มข่มดวงตนเองแล้วหรือ?

บทที่ 1085 ปราศจากบิดามารดาบุญธรรมข้างกาย เริ่มข่มดวงตนเองแล้วหรือ?

……….

บทที่ 1085 ปราศจากบิดามารดาบุญธรรมข้างกาย เริ่มข่มดวงตนเองแล้วหรือ?

จ้าวเทียนและนายเหนือหัวหว่างเซิงเตรียมการพร้อมแล้ว อีกไม่นานพวกเขาจักปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่า บุกเข้ามายังดินแดนใหม่ ดึงดูดซีและเต่าชราให้เข้ามาหา

แน่นอนพวกเขาไม่อาจแน่ใจได้ว่าซีและเต่าชราจะติดกับเข้ามาหาง่าย ๆ หรือไม่

ทว่าพวกเขาไม่มีวิธีดีกว่านี้ ซ้ำโอกาสสำเร็จของอุบายนี้ไม่น้อย พวกเขาจำต้องลองดู

อาณาจักรหั่วซาง

ด้านทางออกเส้นทางเชื่อมดินแดนใหม่

ลานเล็กลงมือตัดขาดพลังที่ลอบสังเกตการณ์ดินแดนเก่า ไม่ใช่แค่จ้าวเทียนที่มองไม่เห็นเหตุการณ์ในดินแดนเก่า สิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ตนอื่นก็ทำไม่ได้เช่นกัน

อย่างเช่นกองกำลังเบื้องหลังปรมาจารย์ดินแดนใหม่ที่ถูกส่งมาชุบชีวิตในดินแดนเก่าก็สามารถลอบสังเกตการณ์ดินแดนเก่าอยู่ในดินแดนใหม่

ทว่าบัดนี้ไม่ได้อีกแล้ว

“ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือ!”

มู่อวี่กล่าวขอบคุณลานเล็ก

คราวนี้ หากไม่ได้ลานเล็กนางต้องมีจุดจบอนาถาอย่างแน่นอน คงถูกปรมาจารย์ดินแดนใหม่อย่างพวกจ้าวเทียนพาตัวไปทันที

“ไม่ต้องขอบคุณ”

ลานเล็กหัวเราะเบา ๆ คุ้นเคยกับมู่อวี่มากเช่นกัน มู่อวี่เคยพำนักในลานเล็กของมันมาอย่างยาวนาน

แน่นอนว่าวันนี้ไม่ใช่อดีต บัดนี้มันไม่ใช่ลานเล็กที่มู่อวี่คุ้นเคย และมู่อวี่ไม่รู้เรื่องนี้

ลานเล็กบอกลามู่อวี่และพวกจักรพรรดินีก่อนจะกลับไป

มันกลัวว่าขืนอยู่ที่นี่สนทนากับมู่อวี่ต่อ อาจอดไม่ไหวเอ่ยความจริงทุกอย่างออกไป

ทว่ามันทำเช่นนั้นไม่ได้

ทุกอย่างยังไม่พร้อม เปิดเผยความจริงก่อนเวลาอันควรไม่ได้ หาไม่แล้วต้องเกิดเรื่องแน่

“ที่นี่คือแดนเกิดของพี่ชาย มีร่องรอยของพี่ชายอยู่มากมาย ข้าจะอยู่ที่นี่และเริ่มแผนการชุบชีวิตพี่ชาย!”

มู่อวี่เอ่ยด้วยตาเป็นประกาย

นางต้องการให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่ารู้จักชื่อเสียงเรียงนามของพี่ชายกันถ้วนหน้า ขุดร่องรอยในอดีตของพี่ชายออกมาทั้งหมด เช่นนี้แล้วจักเป็นประโยชน์ต่อการชุบชีวิตของพี่ชายได้แน่

คนระดับพี่ชาย หากเฝ้าเพรียกหาไม่ยอมลืมต้องได้รับการตอบกลับแน่!

ต่อให้พี่ชายตายไปแล้ว หายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง หากสรรพสิ่งไม่ยอมตัดความคำนึง พี่ชายก็มีโอกาสคืนชีพได้เพราะเหตุนี้!

แน่นอนว่าให้ดีที่สุดคือผู้ที่เคยข้องแวะกับพี่ชายไม่ตัดความคะนึงย่อมได้ผลดีกว่า

“ไปหาปรมาจารย์ดินแดนใหม่ที่ตายไปแล้วในดินแดนเก่าก่อน!”

นางตัดสินใจได้แล้ว

ดินแดนเก่ามหัศจรรย์ ย่อมต้องมีปรมาจารย์ดินแดนใหม่ที่ตายไปแล้วคืนชีพกลับมาในดินแดนเก่า นางต้องการหาตัวปรมาจารย์ดินแดนใหม่เหล่านี้ออกมาให้หมด สั่งให้พวกเขาสำนึกผิด ช่วยชุบชีวิตให้พี่ชาย

ปรมาจารย์ดินแดนใหม่เหล่านี้ต่างเคยข้องแวะกับพี่ชาย ได้รับประโยชน์เมื่อครั้งอยู่ข้างกายพี่ชาย หากได้พบ ย่อมต้องเป็นประโยชน์ต่อการคืนชีพของพี่ชาย

นางบอกลาพวกจักรพรรดินี ก่อนจะรุดหน้าตามหาปรมาจารย์ดินแดนใหม่เหล่านี้

นางในยามนี้ทรงพลังยิ่งนัก ตั้งตนอยู่ในแสวงวิถีวรรณะหก ตั้งจิตคราเดียวก็ปกคลุมทุกหย่อมหญ้าในดินแดนเก่า รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดินแดนเก่า

ไม่นานนัก นางก็จับสัมผัสการดำรงอยู่ของบรรดาปรมาจารย์ดินแดนใหม่ได้

เป็นอย่างที่คิด ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ผู้ล่วงลับมากมายฟื้นคืนชีพกลับมา บัดนี้อยู่ที่ดินแดนเก่า

นางเคลื่อนไหวทันที หมายใจจะจับตัวปรมาจารย์ดินแดนใหม่เหล่านี้ให้หมด!

เส้นทางดินแดนใหม่

ที่นี่ไร้สุ้มเสียงอย่างสิ้นเชิง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงเคลื่อนไหวรุดหน้าไปยังดินแดนใหม่

ทว่าการเดินทางคราวนี้ต้องวนเวียนซับซ้อนหลายที่ พวกเขาคิดเข้าไปยังดินแดนใหม่ใช่ว่าทำได้ในระยะอันสั้น

ถึงอย่างไร ยอดฝีมือระดับคลุมฟ้า หรือแม้แต่ครึ่งก้าวแสวงวิถีของดินแดนใหม่ยังใช่เวลาเนิ่นนานกว่าจะมาถึงดินแดนเก่า

ปราการด่านที่ปรมาจารย์ดินแดนใหม่อย่างพวกจ้าวเทียนตั้งไว้ในอดีตเยอะเกินไป

“นางใช่ผู้ที่คุณชายตามหาอยู่หรือไม่”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยเสียงเบา “ข้าได้ยินจากหยวนอีว่าคุณชายคิดถึงนางเหลือแสน!”

เขาอยากให้ซีผู้อยู่ในดินแดนใหม่ใช่ผู้ที่คุณชายตามหาเหลือเกิน

แน่นอนว่าหลังพบซีแล้วเขาไม่ได้คิดเอ่ยวาจาให้มากความ

เขาไม่กล้า!

คุณชายเก่งกาจปานใด มีผู้ที่คุณชายหาไม่พบด้วยหรือ

ต่อให้ซีอยู่ในดินแดนใหม่ หากคุณชายต้องการย่อมพบตัวซีได้ในการตั้งจิตเพียงครั้งเดียว และไปพบกับนาง

ทว่าคุณชายไม่ได้ทำเช่นนั้น

สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งใด?

สะท้อนให้เห็นว่าคุณชายไม่สะดวกลงมือด้วยพลังของตนเอง!

ส่วนเหตุใดถึงไม่สะดวกนั้นจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไม่ทราบ บางทีอาจเกี่ยวข้องกับศัตรูของคุณชาย และอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น

เพราะฉะนั้น หากซีในดินแดนใหม่คือผู้ที่คุณชายตามหาจริง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคงไม่กล้าเอ่ยอันใดให้มากความ ไม่กล้าบอกว่าซีคือผู้ที่คุณชายตามหา!

‘ภารกิจของข้าคือยืนยันว่านางใช่ผู้ที่คุณชายตามหาหรือไม่ แล้วค่อยกลับมารายงานคุณชาย!’

เขาเอ่ยในใจ ไม่กล้าตัดสินใจพลการ ไม่กล้าบอกความจริงแก่ซี และไม่กล้าพานางไปพบคุณชาย

มีเพียงได้รับคำตอบยืนยันจากคุณชายก่อนเท่านั้นเขาถึงกล้าลงมือ

อย่างเช่น หลังเขารายงานสถานการณ์ให้คุณชายทราบแล้ว คุณชายเอ่ยว่าบอกความจริงแก่ซีได้ และพาซีกลับมา เขาถึงกล้าบอกทุกอย่างกับซี และพานางกลับไป

“ใต้หล้านี้ล้ำเลิศ ทว่าชาติหน้า ข้าไม่อยากมาเยือนอีกแล้ว…”

อีกด้าน เจ้าหลวงทำท่าคล้ายนึกบางอย่างขึ้นได้ เอ่ยเสียงทอดถอนใจ

เขาช่างอนาถเหลือเกิน เกิดมาพร้อมคุณสมบัติข่มดวงผู้อื่น บิดามารดาบุญธรรม พี่ชายน้องชายบุญธรรมต่างถูกเขาข่มดวงจนจบชีวิตลงในที่สุด เขารู้สึกตรอมตรม จนเกิดอาการหน่ายโลก

“เป็นอันใดไป อยากตายหรือ หากอยากตายข้าช่วยเจ้าได้!”

หลังจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้ยินวาจาของเจ้าหลวงก็ชักดาบใหญ่เงาสะท้อนออกมาเล่มหนึ่ง “ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเช่นนี้แหละ เจ้าอยากตาย งั้นให้ข้าช่วยเอง!”

พูดจบ เขาตวัดดาบฟาดฟันเจ้าหลวง

สีหน้าเจ้าหลวงเปลี่ยนไปทันที ร้องลั่นขึ้นมว่า “พี่ชาย ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าเพียงแต่เอ่ยลอย ๆ หาได้อยากตายจริง!”

“บัดซบ ข้าว่าเจ้าอยากตายจริง ๆ แล้ว! เจ้าเรียกข้าว่าอะไร” จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงถลึงตามองเจ้าหลวง

“ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว ไม่ใช่พี่ชาย ห้ามเรียกพี่ชาย!”

เจ้าหลวงรีบบอก

“เพื่อไม่ให้กงล้อโชคชะตามองว่าข้ากับสนิทชิดเชื้อกับเจ้า ข้าตัดสินใจแล้วว่า…จะคอยอัดเจ้าบ่อย ๆ ก็แล้วกัน!”

เอ่ยจบ จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็กระชากเจ้าหลวงขึ้นมาเล่นงาน

เขาอยู่กับเจ้าหลวงตลอด กลัวเหลือเกินว่ากงล้อโชคชะตาพิจารณาว่าเขาสนิทกับเจ้าหลวง และถูกเจ้าหลวงข่มดวงในที่สุด

แต่หากเขาทำร้ายเจ้าหลวงอยู่เป็นนิตย์ พลังกงล้อโชคชะตาคงไม่พิจารณาว่าเขาสนิทกับเจ้าหลวงแล้วกระมัง!

เท่านี้เขาก็ไม่เหลือเรื่องใดให้วิตกอีก!

“อะไร…กัน?!”

เจ้าหลวงร้องไห้ออกมาในบัดดล เขาเพียงแต่เอ่ยลอย ๆ เท่านั้น ไม่ได้คิดอะไร หารู้ไม่ว่ากลับนำภัยมาสู่ตัวเช่นนี้ เป็นผลให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงตัดสินใจอัดมันบ่อย ๆ!

หากรู้อย่างนี้ ให้ตายเขาก็จะไม่ปริปาก!

‘อะไรกัน ปราศจากบิดามารดาบุญธรรม พี่ชายน้องชายบุญธรรมอยู่ข้างกาย ไม่มีผู้ใดให้ข่มดวง จึงเริ่มข่มดวงตนเองแล้วหรือ?’

เขาเอ่ยเสียงร่ำไห้ในใจ รู้สึกเหมือนบัดนี้เขาข่มดวงตัวเอง ความโชคร้ายสารพันเกิดขึ้นกับเขาหมด!

ดินแดนใหม่

ผ่านไปแล้วหลายวัน จ้าวเทียนและนายเหนือหัวหว่างเซิงนำทัพคนสนิทในดินแดนใหม่จำนวนหนึ่งเริ่มเคลื่อนไหว

พวกเขาปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าที่มายังดินแดนใหม่

วันนั้น คนทั้งดินแดนใหม่อกสั่นขวัญแขวน จมดิ่งอยู่ในห้วงความหวาดกลัว กังวลว่าสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าผู้มายังดินแดนใหม่จะก่อกรรมอุกฉกรรจ์ในดินแดนใหม่ของพวกเขา

“มาแล้วจริงหรือ”

เต่าชราตาโต คิดไม่ถึงว่าว่องไวได้เพียงนี้

“พวกเขาใช่ผู้ติดตามข้างกายเจ้าของภาพร่างเลือนรางนั้นหรือไม่”

ซีเอ่ยตาเป็นประกาย

นางนึกอยากออกเดินทางไปหาสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหล่านี้

เพราะนางอยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าของภาพร่างเลือนรางนั้นเป็นใคร ภาพร่างเลือนรางให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับนางยิ่งนัก ราวกับชื่อเขาติดอยู่ที่ปาก ทว่าอย่างไรก็เรียบเรียงออกมาไม่ได้

“คงใช่กระมัง! ต่อให้ไม่ใช่ผู้ติดตามข้างกาย ก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับภาพร่างเลือนรางนั้นแน่นอน หาไม่แล้วไยจึงมายังดินแดนใหม่ ต้องเป็นเจ้าของภาพร่างเลือนรางนั้นส่งมาแน่นอน!”

เต่าชรากล่าว

“ข้าก็คิดว่าใช่!”

ซีพยักหน้า หากไม่มีความเกี่ยวข้องย่อมไม่มายังดินแดนใหม่ การจะเดินทางจากดินแดนเก่ามายังดินแดนใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย!

“ว่าอย่างไร เจ้าอยากไปหาพวกเขาหรือไม่”

เต่าชราถาม

“อืม!”

ซีตอบ “ข้าอยากรู้ว่าผู้ที่คอยคุ้มครองข้าเป็นใคร!”

“ได้ ข้าก็อยากรู้ว่าท่านผู้นั้นเป็นใคร!”

เต่าชราเอ่ย “เช่นนั้นเราไปกันเถิด ไปหาพวกเขา!”

“ยังไม่ต้องรีบ ดูท่าทีก่อน!”

แม้ว่าซีจะอยากรู้ทุกอย่าง แต่นางก็ยังหักห้ามความหุนหันพลันแล่นนี้ไว้

นางกลัวว่ามีกับดักซ่อนไว้ กลัวว่าเป็นหลุมพรางที่ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ขุดไว้ให้นาง ตั้งใจล่อให้นางปรากฏตัว

แม้ว่าโอกาสของเรื่องนั้นมีอยู่น้อยนิด แต่มันยังมีโอกาส!

ตลอดทั้งทางที่ผ่านมา นางผจญกับหลากหลายเรื่องราว เป็นผลให้นางมีนิสัยรอบคอบรัดกุม จึงตัดสินใจเฝ้าสังเกตการณ์ต่อไปอีกหน่อย หากภายหลังยังไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นค่อยเข้าไปหา!

“เข้าใจแล้ว!”

เต่าชราคิดได้เช่นกันในไม่ช้า “เจ้าพูดถูก พวกเราควรดูท่าทีต่อไปอีกหน่อย ไม่ควรเคลื่อนไหวด้วยความเลินเล่อ”

“ไปเถิด พวกเรามุ่งหน้าไปที่นั่นแต่ยังไม่ต้องเผยตัว คอยเฝ้าสังเกตสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหล่านี้ในระยะใกล้”

ซีเอ่ยบอก

นางกับเต่าชรามีพลังคุ้มครองจากภาพร่างเลือนรางนั้นอยู่ ต่อให้พวกเขาเข้าใกล้ ขอเพียงไม่เปิดเผยตัวตนเสียเอง ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ก็ไม่มีทางรู้ว่าเป็นพวกเขา

เพราะอย่างนั้น นางถึงตัดสินใจเข้าไปสังเกตการณ์สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหล่านั้นใกล้ ๆ เช่นนี้จักจับไต๋ได้ดีกว่า

“ไป!”

จากนั้น ซีและเต่าชราออกเดินทางไปยังที่ที่สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าอยู่

ผ่านไปไม่นาน พวกเขาไปถึงที่นั่น สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหล่านี้จุติลงในอาณาจักรแห่งหนึ่งของดินแดนใหม่ ทั้งยังตั้งรกรากที่นี่ด้วย

ซีและเต่าชราระวังตัวอย่างมาก คอยเฝ้าอยู่ด้านสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่า ลอบจับตาดูสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่า

พวกเขาไม่ต้องกลัวถูกจับได้ มีพลังคุ้มครองจากท่านผู้นั้น สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหล่านี้ไม่มีทางสัมผัสถึงพวกเขาได้

“จับตาดูให้ดี อย่าให้พลาดสายตาสักรายละเอียดเดียว!”

ซีเอ่ยเสียงเข้มกับเต่าชรา

“เข้าใจ!”

เต่าชราพยักหน้า สังเกตการณ์อย่างละเอียด ไม่มีการชะล่าใจ

อีกด้าน หย่งโจ้วเริ่มลงมือแล้วเช่นกัน

สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าจุติเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ใช่ว่าจบเพียงเท่านี้ เพื่อให้ซีและเต่าชราเชื่อง่ายขึ้นว่านี่คือความจริง พวกเขายังมีปฏิบัติการหลังจากนี้

……….

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Score 10
Status: Completed
‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน! ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

Options

not work with dark mode
Reset