ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยบทที่ 1542 คนนี้เป็นใครกันแน่

บทที่ 1542 คนนี้เป็นใครกันแน่

บทที่ 1542 คนนี้เป็นใครกันแน่

…………….

บทที่ 1542 คนนี้เป็นใครกันแน่

ด้วยฝีพู่กันทรงเสน่ห์ ดูมีพลัง ถ้าเมื่อครู่ไม่เห็นว่าแม่นางท่านนี้เป็นคนเขียน เกรงว่าผู้คนคงคิดว่าเป็นฝีมือของชายคนหนึ่ง

ทุกคนถอนหายใจ เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือดังขึ้นจากสถานที่จัดงานเลี้ยงของฝ่ายชาย

ที่ด้านข้างของฝั่งผู้หญิง ซูหมิ่นเป็นคนที่ประหลาดใจที่สุด นางลุกจากที่นั่งไปแล้วและยืนอยู่บนแท่นแสดง จ้องมองคนในห้องใต้หลังคาด้วยสายตาว่างเปล่า

สีหน้าของซูเฉี่ยนเยว่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง เมื่อเห็นความประหลาดใจของซูหมิ่นผสมกับความโกรธที่ปะทุขึ้น ก็รู้ว่าตัวเองทำได้ไม่ดีในสิ่งที่เพิ่งทำไป และซูหมิ่นอาจจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ทุกเมื่อ

แต่ซูหมิ่นคำนึงถึงว่าตอนนี้ตนเองยังอยู่ในจวนซู ดวงตาที่แผดเผาไปด้วยไฟจนเห็นความโกรธจ้องมองกู้เสี่ยวหวานที่กำลังยืนอยู่

กู้เสี่ยวหวานเห็นสายตาที่มองมาของซูหมิ่น จึงจ้องกลับโดยไม่แสดงความอ่อนแอหรือความหวาดกลัวใด ๆ

ดูเหมือนว่าทุกอย่างในตอนนี้จะเกี่ยวข้องกับซูหมิ่นผู้หยิ่งผยองและบ้าอำนาจ

ซูหมิ่นอยากจะทำให้ชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานเหม็นฉาวโฉ่ต่อหน้าทุกคน นางรู้ว่านี่คือที่สำหรับวาดภาพในภายหลัง รู้ว่าผนังด้านหลังดึงลงมาได้ทุกเมื่อ

นั่นเป็นเหตุผลที่นางสั่งให้คนทำให้เสื้อผ้าของกู้เสี่ยวหวานเปื้อน และพากู้เสี่ยวหวานมาที่นี่ ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถเห็นนางในลักษณะที่ไม่เรียบร้อยได้ ถ้าตัวเองไม่ยืนกรานในตอนนั้นคงถูกสาวใช้คนนั้นถอดเสื้อผ้าออกจนหมด

แต่งตัวรุ่มร่ามไม่เรียบร้อย กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าคิดถึงสิ่งที่จะเกิดต่อไปแม้แต่น้อยเลย หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ครอบครัวของหญิงสาวก็เท่ากับสูญเสียชื่อเสียง แล้วต่อไปนางจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างไร

แม้ว่านางเป็นคนทันสมัย ใส่เสื้อสายเดี่ยวกางเกงขาสั้นต่อหน้าทุกคน แต่เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ขนบธรรมเนียมของที่นี่ สายตาของชาวบ้าน นางไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว

ซูหมิ่นคนนี้มีจิตใจที่ชั่วร้าย

ซูหมิ่นคิดวางแผนได้อย่างแยบยล หากแต่ก็ยังพลาดได้

กู้เสี่ยวหวานระมัดระวังตนเองเป็นอย่างดี ฉวยโอกาสที่ตอนที่สาวใช้ออกไป สวมเสื้อผ้าอีกครั้งทันที เดิมทีคิดว่าจะมีคนมาลวนลามตัวเอง แต่ไม่คาดคิดว่าการกระทำครั้งนี้จะโหดร้ายเช่นกัน

ถ้าเมื่อครู่พวกเขาดึงผนังลงแล้วตนเองแต่งตัวไม่เรียบร้อย คนทั้งเมืองหลวงต้องพูดว่าเสี้ยนจู่อันผิงไม่รักษาจรรยาบรรณของสตรีเพศ

ซูหมิ่นผู้นี้ คิดจะทำลายชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานต่อหน้าผู้คนมากมาย ดูเหมือนว่าไม่มีที่ให้ทำสำเร็จแล้วจริง ๆ

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ซูหมิ่นอย่างไม่ได้เกรงกลัว ความโกรธในดวงตาแสดงให้เห็นถึงโทสะของนางที่สุมอยู่ในอก

และซูจือเยว่ที่เดินมาถึงครึ่งทาง สั่งให้สาวใช้ให้พากู้เสี่ยวหวานไปที่ห้องใต้หลังคา ส่วนซูจือเยว่รู้สึกไม่ค่อยดีก่อนจะเอ่ยปากขอตัวไปเข้าห้องน้ำและวิ่งออกไปทันที แต่เมื่อเขาไปถึงห้องใต้หลังคา ก็ยืนอยู่ด้านหลังมองหญิงในชุดสีขาวพิงราวบันไดต่อหน้าต่อตา

ซูจือเยว่ยืนอยู่ด้านหลังฉากกั้น เพียงแค่จ้องมองที่ผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้เขาตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

รูปร่างที่อรชรอ้อนแอ้นนั้น ใบหน้าที่สวย เสียงร้องที่ไพเราะ และทักษะการเล่นฉินที่ยอดเยี่ยม

เมื่อก้มหัวท่ามกลางฝูงชนที่แออัด ยังสามารถตกหลุมรักได้

ลาก่อนหัวใจที่เต้นแรง

เจอกันสามครั้ง หลงรักเข้าแล้ว

ซูจือเยว่จ้องมองแผ่นหลังของคนที่ทำให้เขาหลงใหลอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัวเลย ความรักทำให้เขาไม่สามารถหลุดพ้นหรือหลบหนีได้ตลอดชีวิต ในที่สุดก็ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก แต่ก็ยังซ่อนความปรารถนาของเขาไม่ได้

ไม่รู้ว่าใครตะโกนพูดขึ้นอย่างเกินจริง “อืม หอมมาก หอมมาก”

หลังจากที่ทุกคนได้ยินเช่นนี้ ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

กลิ่นหอมจาง ๆ ของกลีบดอกไม้ลอยมาตามลมโชยเตะจมูกของทุกคนอย่างแผ่วเบา ถ้าได้กลิ่นจะมีกลิ่นหอมสดชื่นทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

“ใช่ กลิ่นมาจากไหน หอมมากจริง ๆ”

“กลิ่นอะไร ไม่เหมือนกลิ่นดอกไม้ทั่วไป ไม่เหมือนเลย”

“มาดูสิ บนเสื้อผ้าของนางมีอะไร รีบมาดูเร็วเข้า” ทันใดนั้น ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดชี้ไปที่คนในห้องใต้หลังคาและตะโกนด้วยความประหลาดใจ

ทุกคนมองไปตามนิ้วของคนผู้นั้น เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ เหมือนมีดอกไห่ถังนับพันดอกบานอยู่บนแขนเสื้อ ซึ่งทั้งหมดล้วนงดงาม

“นั่นคือผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทอง ผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทองจริง ๆ ด้วย” จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนขึ้น ที่นั่งของแขกชายและหญิงทั้งหมดในจวนซูต่างชุลมุน

“ผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทองทำมาจากหม่อนไหมที่เลี้ยงด้วยกลีบดอกไม้ และรดน้ำใส่ปุ๋ยเป็นเวลาหลายสิบปีเพื่อให้ได้หม่อนไหม ไหมที่หนอนไหมคายออกมาจะมีกลิ่นหอมและกลิ่นจะเข้มข้นขึ้นเมื่อโดนแดด” บางคนประหลาดใจเมื่อมองไปที่เสื้อผ้าสีขาวนวลของกู้เสี่ยวหวาน แม้มันจะดูธรรมดา แต่มีความแวววาวซ่อนอยู่อย่างคาดไม่ถึง

ไม่คาดคิด คิดไม่ถึงเลย

นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทอง

ผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทองนั้นหายากยิ่งนัก

แต่นางหยิบมาทำเสื้อผ้า

ทำให้คนตกตะลึง

นี่คือความมั่งคั่งที่แม้แต่คนร่ำรวยและมีอำนาจก็หาไม่ได้ นางเป็นเพียงสาวชนบทจะไปเอาผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทองมาจากที่ไหน

ทุกคนมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความอิจฉาริษยา

นางผู้นี้มีผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทองไว้ในครอบครองได้ นางต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่

กู้เสี่ยวหวานคนนี้เป็นเพียงหญิงสาวในหมู่บ้านธรรมดา แค่ทำผลงานเข้าตาฮ่องเต้และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเสี้ยนจู่อันผิง ทั้งมีความรู้และสง่างามเช่นเดียวกับผ้าหอมดิ้นเงินดิ้นทองที่หายาก

นางเป็นใครกันแน่

สายลมพัดผ่านแขนเสื้อของกู้เสี่ยวหวาน เสื้อคลุมพลิ้วไหวราวดอกไห่ถังที่มีชีวิต ผีเสื้อสีสันสดใสที่แขนเสื้อราวกับว่ามันมีชีวิตและกระพือปีกหลากไล่ตามกลิ่นหอมของดอกไม้

สายลมพัดแรง และผู้หญิงที่พิงราวบันไดดูเหมือนนางเซียนที่ตกลงมาจากสวรรค์ ไม่มีใครสามารถดูหมิ่นนางได้เลย

เดิมทีซูเผยอันต้องการมาต้อนรับแขกผู้ชาย แต่เมื่อเห็นมีคนดึงผนังลงและมองไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งพิงราวบันได และภาพวาดที่สวยงามทำให้ใต้เท้าซูประหลาดใจ

หลังจากหายอาการตกใจก็รีบไปที่ห้องใต้หลังคา

ภาพวาดนี้ เดิมทีเป็นภาพสุดท้ายที่ทำไม่เสร็จ แต่ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีคนวาดมันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่เกินความสามารถสำหรับคนที่มีฝีมือมาก ทว่าภาพนี้ถูกวาดขึ้นโดยผู้หญิงคนนั้น และยังไม่มีข้อบกพร่องจนไร้ที่ติ

…………….

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลเรื่อง ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย [ 农女致富记 ] ผู้แต่ง : 秦喜儿 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) จำนวนตอน 2,760 ตอน กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

Options

not work with dark mode
Reset