ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง 4 พวกเรา

ตอนที่ 4 พวกเรา

หลังจากที่ฉันวิ่งออกมา

ฉันก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที

ตอนที่วิ่งออกมา

ฉันไม่แม้แต่จะมองคิมจีฮุนกับซาอึนด้วยซ้ำ

เมื่อมาถึงห้อง ฉันรีบตรงดิ่งไปที่โต๊ะที่ฉันเก็บยาไว้

ฉันหยิบกล่องยาออกมาจากลิ้นชัก

มือของฉันสั่นระรัว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกังวลหรือความกลัวกันแน่

แต่ว่าในหัวของฉันมีเพียงแค่ความรู้สึกด้านลบ

ฉันไม่อยากเจ็บปวด

ฉันไม่อยากคิดลบ

ฉันไม่อยากให้ตัวเองเศร้า

ฉันไม่อยากดูถูกตัวเอง

ทุกๆ อย่างมันประดาเข้ามาในความคิดของฉัน

“ฮ๊า..”

ฉันพ่นลมหายใจออกมา

หัวใจภายในอกของฉันสั่นไม่หยุด

ฉันเปิดกล่องและหยิบเข็มฉีดยาที่ฉันใช้ประจำ

ดูดของเหลวภายในขวดแก้วสีฟ้า

ฉันเล็งมันที่แขนของฉัน

แขนของฉันยังคงพันผ้าพันแผลไว้อยู่

แต่ฉันไม่สนใจมัน

ฉันแทงเข็มเข้าที่แขนของฉัน

“ฮ๊า..”

ฉันพ่นลมหายใจออกมาด้วยหัวใจที่สั่นระรัว

หลังจากที่ฉีดยารักษาจนหมดหลอดแล้วฉันก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ทว่าความโล่งอกนั้นกลับอยู่ไม่นาน

ฉันยังคงรู้สึกวิตกกังวลอยู่

ฉันยังคงรู้สึกคันที่ผิว

ฉันยังคงรู้สึกแสบไปทั่วร่างกาย

มันทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวเป็นครั้งแรก

เพราะอะไรยารักษาที่ฉันใช้มาตลอด

ตอนนี้มันกลับไม่ออกฤทธิ์อย่างที่มันเคยเป็น?

“ไม่นะ… ไม่”

ฉันพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ

ฉันรีบควานหายารักษาในลิ้นชักเพิ่ม

ฉันหยิบยาทั้งหมดที่ฉันมีออกมา

ฉันเหลือยาอยู่ทั้งหมดอีก 5 ขวด

หากฉันใช้ทั้งหมด ฉันจะต้องไปซื้อยาซึ่งแพงมากๆ

นั่นหมายความว่าฉันจะต้องใช้เงินที่คิมจีฮุนให้มา

แต่ว่าฉันไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น

ฉันใช้เข็มฉีดยาดูดของเหลวและฉีดมันเข้าที่แขนซ้ำอีกรอบ

ฉันถอนหายใจและนั่งรอด้วยสายตาสั่นเครือ

หลังจากที่ฉันรอไปห้านาที

มันตอกย้ำสิ่งที่ฉันคิด

เมื่ออาการของฉันไม่ดีขึ้นเลย

มีแต่แย่ขึ้นเรื่อยๆ

ฉันรีบฉีดเข็มที่สามต่อทันที

เข็มที่สามเอง หลังจากฉีดไปแล้วไม่ดีขึ้นเลยสักนิด

ฉันรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้

น้ำตาของฉันค่อยๆ ไหลออกมา

ฉันกังวลและลนลานถึงขนาดที่ร้องไห้ออกมา

เข็มที่สี่

เข็มที่ห้า

เข็มที่หก

และสุดท้าย… เข็มที่เจ็ด

ฉันฉีดมันทุกเข็มแล้วแต่ฉันก็ไม่รู้สึกดีขึ้นเลย

ฉันทิ้งตัวลงกับพื้น

สายตาของฉันมองอะไรไม่เห็นเพราะน้ำตาที่กำลังไหลอยู่

กร๊อบแกร๊บ~

เสียงเศษกระจกที่ถูกเหยียบแตกละเอียดดังขึ้นมา

แต่ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

ยารักษาที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายในการรักษาของฉัน

ตอนนี้ไม่ออกฤทธิ์อะไรเลย

ฉันไม่รู้สึกถึงอาการที่ดีขึ้นเลยสักนิด

ฉัน… รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า

ทำไมฉันต้องมาทนทุกข์ทรมาณแบบนี้ด้วย

ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้

ทำไมร่างกายฉันต้องอ่อนแอและพึ่งยารักษาแบบนี้ด้วย

ทำไมฉันที่หลุดเข้ามาอยู่ในนิยายถึงต้องมาอยู่ในร่างของฮันซอยอน

และ… ทำไมฉันถึงต้องมีชีวิตอยู่

ในเมื่อการที่ฉันมีชีวิตอยู่ มันราวกับตกนรกทั้งเป็นแบบนี้

จริงสิ… ในเมื่อถ้าการมีชีวิตอยู่มันราวกับตกนรก

งั้นฉัน… ยอมตายเสียดีกว่า

ฉันหยิบเศษกระจกที่มันยาวและแหลมบนพื้น

ฉันเงยหน้าขึ้นและหลับตาลง

ฉันไม่อยากทรมาณ

ฉันเลยเล็งมันไปที่คอของฉัน

ก่อนที่จะออกแรงแทงมันสุดแรง

ทว่าแขนของฉันก็ถูกดึงและกระชากอย่างแรง

 

“คิดจะทำบ้าอะไร!!”

ฉันตะโกนออกมาหลังจากที่เห็นเพื่อนของฉันที่ตอนนี้กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น

สีหน้าที่หมดอาลัยตายอยากของเธอและปลายเศษกระจกในมือที่กำลังเล็งไปที่คอของเธอ

มันทำให้หัวใจของฉันบีบรัดแน่น

ฉันพุ่งเข้าไปกระชากแขนของฮันซอยอน

สีหน้าของฮันซอยอนมองมาที่ฉันที่เข้ามาขัดขวาง

ใบหน้าของเธอที่กำลังร้องไห้

มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก

“นี่เธอคิดจะทำอะไร ฮันซอยอน”

ฉันพูดถามย้ำกับเธออีกครั้ง

เธอไม่ตอบคำถามของฉัน

เธอทำเพียงแค่ก้มหน้าลงมองพื้น

ในตอนนั้นเองเพื่อนของฉันอีกคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา

“จะ..จีฮุน! นายวิ่งเร็วเกินไปแล้วนะ!”

ซาอึนหอบหายใจระหว่างที่มองมาที่ฉัน

เธอตกใจและใช้มือปิดปากของเธอแน่นสนิท

เมื่อภาพตรงหน้าของเธอคือฉันที่กำลังกำแขนฮันซอยอนแน่น

และภาพตรงหน้าของเธอเองก็คือฮันซอยอนที่กำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง

ฮันซอยอนที่กำลังสะอื้นไม่หยุดและอยู่ภายในมือของฉันที่กำแขนโดยไม่มีการต่อต้านโดยสิ้นเชิง

“นะ..นาย!”

“เข้าใจผิด เดี๋ยวไว้คุยทีหลัง”

ฉันตอบกลับซาอึนไปสั้นๆ ห้วนๆ

ก่อนที่จะหันมาทางฮันซอยอน

ฮันซอยอน เพื่อนสมัยเด็กของฉัน

เธอผู้เป็นเด็กสาวที่น่ารัก สดใส และคอยเป็นห่วงเป็นใยเขาอยู่อย่างเสมอ

พวกเราทั้งสองคนมักเที่ยวเล่นด้วยกันเป็นประจำ

ทว่าวันหนึ่ง

วันที่ฮันซอยอนเริ่มมีอาการป่วย

ในตอนนั้นฉันไม่ได้มีเงินมากเท่าตอนนี้

พวกเราต้องดั้งด้นหาเงินเพื่อเป็นค่ายารักษาให้ฮันซอยอนที่ร่างกายกำลังป่วยอยู่

แต่อาการป่วยของเธอไม่ได้หนักมากขนาดนั้น

เธอแค่มีอาการไอและอ่อนเพลียหากออกกำลังมากเท่านั้น

ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ทั่วไปของคนที่ร่างกายอ่อนแอ

หลังจากนั้นฉันก็เลย หาวิธีที่จะหาเงินเพื่อให้ฮันซอยอนไม่ต้องออกแรงมากและได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

จนกระทั่งวันที่ฉันเจอกับเหตุการณ์เสี่ยงตาย

นั่นเป็นวันเดียวกับวันเกิดของฮันซอยอน

ฉันที่กำลังกลับไปพร้อมกับเค้กหนึ่งก้อนที่ฉันพยายามเก็บเงินไว้อย่างยากลำบาก

ฉันถูกมอนสเตอร์โจมตี

ซึ่งในเขตสลัมที่พวกเราอยู่อาศัยนั้นไม่มียามหรือพวกทหารเหมือนอย่างในเมือง

ในตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะไม่รอดมีชีวิตไปเจอฮันซอยอนแล้ว

จนกระทั่งในวินาทีสุดท้ายที่พลังของฉันถูกปลุกขึ้นมา

ร่างกายที่ไร้ซึ่งพลังของฉันกลับเติมเต็มไปด้วยพลังที่ยากจะควบคุม

ฉันจัดการมอนสเตอร์ตัวนั้นได้ในช่วงวินาทีสุดท้ายนั้นเอง

หลังจากนั้นฉันก็สลบไป

จนกระทั่งฉันได้สติฉันก็พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่บ้านโดยมีฮันซอยอนอยู่ข้างๆ กาย

เธอที่ร้องไห้อย่างหนักและกุมมือของฉันไว้ตลอดเวลา

นั่นทำให้ฉันตั้งมั่นกับตัวเองว่า

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ฉันจะปกป้องเธอให้ได้

เพราะเธอคือ ‘ครอบครัว’ ของฉัน

นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด

ก่อนที่ฉันจะโดนเธอไล่ออกมา

ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันทำอะไรผิด

ฉันเพียงแค่อยากช่วยเธอ

ฉันเลยไปล่ามอนสเตอร์เพื่อหาเงินมาพัฒนาความเป็นอยู่ของพวกเรา

ฉันไม่อยากให้เธอต้องลำบาก

แม้ว่ามันจะต้องเสี่ยงชีวิตของฉันก็ตาม

แต่สุดท้ายทุกอย่างที่ฉันทำมันก็พังลงเมื่อฮันซอยอนไล่ฉันออกมา

ฉันที่ไม่มีทางไปเลยใช้เงินที่มีอยู่ในการเลือกที่จะเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง

โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่จะช่วยพัฒนาผู้ปลุกพลังแบบตัวฉันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เมื่อแข็งแกร่งยิ่งขึ้นก็จะมีบรรดากลุ่มที่รวมผู้ปลุกพลังดึงตัวเข้าร่วมกลุ่ม

ฉันที่พึ่งปลุกพลังได้ไม่นานแต่พลังของฉันกลับแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อทำให้ไปเตะตากลุ่มหนึ่งเขา

กิลด์แสงตะวัน

เป็นกิลด์ที่มีการรวมตัวกันของผู้ปลุกพลังระดับสูงเข้าด้วยกัน

เป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดภายในประเทศเลยก็ว่าได้

ทว่าฉันที่พึ่งถูกปลุกพลังมาใหม่ๆ นั้นยังอยู่ในช่วงทดสอบอยู่

แต่ว่าแค่การได้รับการยอมรับจากกิลด์แสงตะวัน

มันก็มากพอที่จะทำให้ฉันหารายได้ที่มากเพียงพอที่จะทำให้พวกเราไม่ต้องอยู่ในสลัมอีกต่อไปแล้วด้วยซ้ำ

แต่ทว่าฉันที่ถูกฮันซอยอนไล่ออกมา

สิ่งที่ฉันทำเลยมีเพียงแค่การส่งเงินที่ฉันสามารถทำได้มากกว่าครึ่งไปให้กับฮันซอยอน

เงินจำนวนนั้นมันมากพอสำหรับการใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

แม้ว่าตัวฉันอาจจะต้องลำบากและต้องใช้เงินอย่างประหยัด

แต่ขอเพียงแค่ให้เธอได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

ฉันทำได้ทุกอย่าง

แต่แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้

บ้านของพวกเราที่เคยเป็นระเบียบ

มันกลับมีแต่เศษกระจกที่แตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น

สิ่งของภายในบ้านที่เก่าและทรุดโทรมลงจนเห็นได้ชัด

ขวดแก้วเล็กๆ ที่วางกระจัดกระจายไปทั่วบ้านซึ่งมีของเหลวสีฟ้าหลงเหลืออยู่ภายในขวดแก้วเล็กๆ นั่น

และ… ถุงยางรอบๆ เตียงที่พวกเราเคยนอนด้วยกันอยู่เสมอ

มันเกิดอะไรขึ้น?

มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่!?

ทำไม?

ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?

หัวของฉันราวกับมันจะระเบิดจากสิ่งที่ฉันเห็น หัวใจของฉันเต้นอย่างบ้าคลั่ง

ความรู้สึกที่ฉันรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่ามันจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา

ฮันซอยอนที่เกือบฆ่าตัวตายยังทำให้ใจของฉันหวาดผวาและเต้นแรงไม่หยุด

“ฮันซอยอน”

“มันเกิดอะไรขึ้น… ทำไมเธอถึงได้เป็นแบบนี้”

ฉันได้แต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอ

ฮันซอยอนปิดปากแน่นสนิท

ไม่ยอมตอบคำถามของฉัน

“ซอยอน…”

ฉันพูดชื่อสั้นๆ ที่ฉันมักจะเรียกเธออยู่เสมอ

“ขอโทษ… ฉันขอโทษ…”

สิ่งที่เธอพูดออกมามีเพียงคำขอโทษ

เธอที่ก้มหน้าลงมองพื้นและกุมหน้าอกร้องไห้ออกมา

น้ำตาที่หยดไหลลงพื้นจนเกิดเป็นแอ่งน้ำ

ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง

ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง

Score 10
Status: Completed
ในฐานะเพื่อนของเธอ ฉันจะทำให้เธอมีความสุขเอง

Options

not work with dark mode
Reset