ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1508 กระบวนท่าแรก

ตอนที่ 1508 กระบวนท่าแรก

ตอนที่ 1508 กระบวนท่าแรก

…………….

หลังจากฉู่หลิวเยว่พูดออกไปแล้ว รอบข้างก็เงียบกริบในทันที

แม้กระทั่งในแววตาของโหมวเหยายังมีความประหลาดใจฉายชัดออกมา

“สองเงื่อนไขนี้เจ้าปฏิเสธข้อหนึ่ง และยอมรับเงื่อนไขข้อที่สอง? เจ้าแน่ใจหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า

“นี่เป็นขีดจำกัดของข้าแล้ว ข้าจะไม่มีทางถอยให้ หากท่านคิดว่ามันไม่เหมาะสม เช่นนั้น… ข้าก็จะหาหนทางอื่น”

โหมวเหยาจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ความจริงแล้วเงื่อนไขทั้งสองข้อนี้ เขาแค่พูดขึ้นมาเรื่อยเปื่อยเท่านั้น

เพราะเขาคิดว่าฉู่หลิวเยว่ไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขทั้งสองอย่างแน่นอน

…นั่นมันแตกต่างจากรนหาที่ตายอย่างใด?

แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะคัดค้านเงื่อนไขข้อที่หนึ่ง

ระลอกคลื่นสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมาจากตันเถียนอย่างกะทันหัน

น้ำเสียงของจื่อเฉินทุ้มต่ำและรุนแรงอย่างยิ่ง เหมือนกับกำลังสะกดกลั้นอันใดบางอย่างอยู่

“ถ้ามันต้องการปีก ข้าก็จะคืนให้! เหตุใดเจ้าต้องไปเสี่ยงชีวิตเช่นนั้นด้วย!”

“อย่าสร้างปัญหา”

ฉู่หลิวเยว่พูดเบาๆ ภายในใจ

“กายเนื้อของเจ้านั้น ในตอนแรกข้าใช้ความพยายามอย่างมากกว่าฟื้นจะขึ้นมาใหม่ให้สมบูรณ์ได้อีกครั้ง เหตุใดเจ้าพูดมาว่าไม่ต้องการแล้วล่ะ? แล้วอีกอย่างปีกของไท่ซวีเฟิ่งหลง ไม่ได้มาอย่างง่ายดาย โชคชะตาเช่นนี้ หากพลาดไปสักครั้ง หลังจากนี้จะไม่มีทางได้รับมันอีกแล้ว”

นางตัดใจไม่ลง

“แต่ว่า… ด้วยฝีมือเจ้าในตอนนี้ เดิมทีไม่สามารถรับการโจมตีสามกระบวนท่านั้นได้อย่างแน่นอน”

ภายในน้ำเสียงของจื่อเฉินแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก

มันคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ อีกครั้งยังหลอมรวมกับปีกทั้งสองข้างของไท่ซวีเฟิ่งหลงแล้ว

มันรู้ดีว่าเผ่าพันธุ์นี้แข็งแกร่งมากขนาดไหน!

ใช่แล้ว ฉู่หลิวเยว่แข็งแกร่งกว่าผู้บำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกันมาก อีกทั้งฝีมือในการต่อสู้ก็ยอดเยี่ยมยิ่ง

แม้นางจะเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าขั้นกลาง แต่ก็มีพลังเพียงพอที่จะสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งเทพ แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงก็ยังสามารถต้านทานได้!

แต่โหมวเหยา…

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันด้วยซ้ำ!

ถ้าฉู่หลิวเยว่ตอบตกลงแล้ว เท่ากับเป็นการเดิมพันด้วยชีวิตของตนเอง!

“ข้าไม่ได้ลุยเดี่ยวไปสู้กับมันเสียหน่อย”

ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่พวกเรายังไม่เข้าใจอีกหรือ? ในร่างกายของข้ายังมีไพ่ไม้ตายอีกตั้งหลายใบ ใช่ว่าจะไม่สามารถรับการโจมตีทั้งสามกระบวนท่านี้ได้นี่นา”

ไม่ว่าอย่างใดก็ตามขอเพียงผ่านไปได้ บุญคุณความแค้นทั้งหมดสิ้นสุด เช่นนั้นทุกอย่างจะดีขึ้นมาเอง

“แต่เช่นนี้มันก็อันตรายมากอยู่ดี! หากมันทุ่มเต็มแรง บางทีเจ้าอาจจะไม่มีเวลาและโอกาสที่จะได้ใช้ไพ่ไม้ตายนั้นเลยก็ได้!”

จื่อเฉินยังคงคัดค้านอย่างรุนแรงเช่นเดิม

“ข้าเป็นเพียงจิตวิญญาณครึ่งเสี้ยวที่กำลังจะตาย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ชีวิตนี้ข้าคงไม่มีโอกาสได้เห็นแสงตะวันของวันต่อไปแล้ว เจ้าช่วยข้ามาเยอะมากแล้ว ข้าไม่สามารถ…”

“จื่อเฉิน เจ้าคิดว่ามันต้องการเพียงนำโครงกระดูกเหล่านั้นกลับไปเท่านั้นหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

จื่อเฉินสะอึกไป

“เมื่อพันปีก่อน องค์ไท่จู่ยังไม่ได้ทำอันใดกับโครงกระดูกเหล่านั้นเลย อีกทั้งยังแสดงท่าทีว่าต้องการจะส่งคืนให้ แต่พวกมันกลับไม่พูดอันใดรั้งแต่จะเอาชีวิตขององค์ไท่จู่ ตอนนี้ถึงคราวข้าแล้ว และก็เหมือนกัน ต่อให้เจ้าจะเสียสละ คืนโครงกระดูกเหล่านั้นให้พวกมัน เรื่องนี้ก็ไม่มีทางจบแน่นอน”

“สิ่งที่พวกมันต้องการ พวกมันต้องการทำให้ไท่ซวีเฟิ่งหลงสูงส่งเหนือใคร เมื่ออยู่ต่อหน้ามัน คนอื่นจะต้องอ่อนน้อมถ่อมตน”

“ในเวลาเช่นนี้ จะพูดอันใดไปก็ไม่มีประโยชน์ มีเพียงแค่การเผชิญหน้ากับพวกมันเท่านั้น ถึงจะมีความหวังที่จะอยู่รอดได้!”

นางยินดีที่จะตอบรับเงื่อนไขอันเกินกว่าเหตุของโหมวเหยา เพราะว่ามันเป็นคนพูดต่อหน้าธารกำนัลจำนวนมากด้วยตนเอง

ไม่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างใด มันก็ต้องยอมรับ!

นี่จึงเป็นโอกาสเดียวที่นางจะสามารถกลับมาได้!

จื่อเฉินเงียบไปอยู่นาน

“ข้ากับนายท่าน เป็นตายร่วมกัน!”

ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

ทันใดนั้นก็มีบางอย่างเฉียดที่แก้มของนาง

หันหน้าไป จากนั้นลูบหัวของถวนจื่อพร้อมรอยยิ้ม

“มีข้าอยู่ ครั้งนี้จะมีแต่อยู่ไม่มีตาย!”

บางทีอาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง กระตุ้นความโมโหของโหมวเหยาเข้า

เขาหัวร้อนขึ้นมา ก่อนจะกัดฟันกรอดตอบตกลง

“ได้! ถ้าเช่นนั้นเจ้าสามารถรับการโจมตีของข้าสามกระบวนท่า เรื่องของโครงกระดูกเหล่านั้น ข้าจะไม่สืบสาวราวเรื่องกับเจ้าอีกเลย ทั้งแค้นใหม่และแค้นเก่า ถือว่าสิ้นสุดกันตรงนี้!”

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น

“คำไหนคำนั้น!”

บ้าไปแล้ว!

นางบ้าไปแล้วจริงๆ!

หลังจากสิ้นเสียงคำพูดของฉู่หลิวเยว่ เกือบจะทุกคนก็เบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ ไม่กล้าเชื่อหูของตัวเอง

นางเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าขั้นกลาง ยินดีรับการลงโทษสามกระบวนท่าจากไท่ซวีเฟิ่งหลง…

นางตัดสินใจที่จะเดินเข้าสู่ความตายแล้วใช่หรือไม่ หรือว่านางมั่นใจในความสามารถของตนเองมากเกินไป?

ก่อนหน้านี้เรื่องที่เกิดในเมืองฝางโจว ทุกคนต่างรู้มาเจ็ดแปดส่วนแล้ว และรู้ดีว่าฝีมือของนางนั้นก็ไม่เลวเลย

แต่นั่นก็ต้องดูด้วยว่ากำลังแข่งขันกับใคร?

แม้กระทั่งผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ไท่ซวีเฟิ่งหลงอย่างโหมวเหยา… ที่นางกำลังเผชิญหน้าก็คิดเหมือนกัน!

นี่นางรนหาที่ตายใช่หรือไม่!

ผู้อาวุโสวั่นเจิงและคนอื่นๆ มีสีหน้าซีดขาวไปในทันที

พวกเขาอยากจะพูดอันใดสักสองสามประโยคเพื่อโน้มน้าวใจนาง แต่สายตาของฉู่หลิวเยว่นั้นหนักแน่นอย่างมาก เหมือนกับว่าได้ตัดสินใจลงไปแล้ว ในตอนนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างใด

เรื่องเช่นนี้… มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจปฏิกิริยาของคนส่วนใหญ่

นางหันซ้ายมองขวา ก่อนจะเคลื่อนไหวไปยังตำแหน่งที่ค่อนข้างโล่งกว้าง

“รบกวนตอนที่ท่านลงมือ ได้โปรดอย่าส่งผลกระทบแก่ผู้อื่น”

โหมวเหยารู้สึกโกรธจนเกือบจะหัวเราะออกมา

“เจ้าเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ!”

มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ใส่ใจ”

โหมวเหยารู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมา

ต่อให้เขามองออกแล้ว แต่ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ต้องได้รับบทเรียน

นางปากคอเราะร้ายอย่างมาก

คอยดูไปเถอะว่านางจะทำท่าทางผ่อนคลายเช่นนี้ไปได้อีกสักกี่น้ำ!

ร่างกายของเขาวูบไหว แล้วพุ่งตัวไปยังตรงหน้าฉู่หลิวเยว่

หนึ่งคนหนึ่งมังกร เผชิญหน้ากันในระยะไกล!

ฉู่หลิวเยว่ประสานมือทำความเคารพ

“เชิญเจ้าค่ะ”

กำเริบยิ่งนัก!

โหมวเหยาหัวเราะเสียงเย็น

วินาทีถัดมา ปลายหางมังกรก็สะบัดขึ้น แล้วพุ่งตรงมาทางฉู่หลิวเยว่!

ไม่ว่าหางมังกรสีม่วงทองนั้นจะพัดผ่านไปทิศทางใด ทุกอย่างก็พังทลายจนสิ้น!

พรึ่บ!

ฉู่หลิวเยว่กระชับกระบี่ชื่อเซียวในมือแน่น ในขณะเดียวกันก็อัญเชิญโล่สีดำออกมา! แล้วป้องกันอยู่ด้านหน้า!

…………….

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset