020:งานกำจัดโจร④ (วายร้ายที่ผุดขึ้นมา)
ถึงเวลาแล้วที่โอไกผู้เชี่ยวชาญวิชาสำนักกราโด้กลับมาถึงทางที่ผ่านมาและถึงจุดที่พวกโจรนอนซมกันอยู่
ชายคนนั้นโดนฟันไปประมาณยี่สิบคน พบว่าร่างกายที่ควรจะแน่นิ่งไปแล้วกลายร่างเป็นอย่างอื่น
「อืม ทุกวันนี้พวกสัตว์ประหลาดเองก็ปลอมตัวเป็นมนุษย์งั้นเหรอเนี่ย」
เขาที่สวมชุดคลุมสีดำรีบวิ่งไปข้างหน้า
ภายในเวลาไม่กี่วิเสื้อผ้าของพวกนั้นกำลังขาด และหนังกำพร้ากำลังลอกคราบเผยให้เห็นร่างสัตว์ประหลาดที่มีโครงร่างสีดำและม่านตาสีแดง
「โอย๊ากกกกกกกกกกกก!!」
――สำนักวิชากราโด้ หัตถ์ระฆัง!
ตู้ม!
หัวโครงสีดำระเบิดออกด้วยเสียงระเบิดเบาๆ
แทนที่จะต่อยด้วยหมัด แต่ใช้ฝ่ามือบดขยี้ส่วนที่ต้องการทำลาย
มันเป็นเทคนิคที่ลูน่าได้สอนเขาในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้
『จำไว้วิธีใช้พลังปราณอย่างถูกต้องและไม่สิ้นเปลืองคือการปล่อยพลังปราณใส่ร่างของฝั่งตรงข้ามและทำให้มันระเบิดจากภายใน คิดซะว่ามันเหมือนกับระเบิดเวลา เนื่องจากหลักการมันง่ายแสนง่ายต่อให้เป็นมนุษย์หรือสัตว์ประหลาดโดนเข้าไปก็ตุยเย่ทุกรายแน่นอน แต่ว่าหากอีกฝ่ายที่เชียวชาญพลังปราณและมีพลังเหนือกว่าเรา กลายเป็นฝ่ายเราจะส่งมอบพลังให้อีกฝ่ายและโดนสะท้อนกลับมาเอง ดังนั้นควรเลือกใช้กับศัตรูที่เหมาะสม หากศัตรูที่สู้ด้วยมันไม่มีสมองก็จัดให้มันได้ลิ้มรสถึงระเบิดเวลาซะ』
เธอยิ้มและกล่าวเช่นนั้นด้วยวัย 7 ขวบ
แต่เขาไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิด
ลูน่า เบลล์ ดิแซค รูปลักษณ์จะเป็นเด็กแต่จิตใจไม่ใช่เด็กเลย เชื่อว่าเธอคงเป็นสัตว์ประหลาดที่หุ้มกายด้วยเด็กสาวหน้าตาน่ารัก
อย่าได้ริอาจสงสัยในตัวของเธอ เธออาจจะบอกเขาถ้าหากจำเป็นจริงๆ แต่เขาไม่สนหรอกว่าต้นกำเนิดของเธอจะเป็นอะไร
สิ่งเดียวที่เขาเข้าใจคือตัวตนของเธอสูงส่งเกินกว่าเขาจะเอื้อมถึง และในขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเขาอยากเรียนรู้วิชาหลายๆอย่างจากเธอ
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเขายอมจงรักภักดีต่อเธอที่ดูเปราะบาง สง่างาม แต่ตัวตนจริงๆกระหายการต่อสู้
รากเหง้าของมนุษย์คือความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้น
เขาเข้าใจเช่นนั้น และอดไม่ได้ที่จะดีใจที่ได้พบอาจารย์เช่นเธอ
「โอร่าาาาาาาาาาาาา!!」
อีกตัวหนึ่งเข้าโจมตีจากด้านข้างแต่ว่าร่างกายของมันก็แหลกสลายก่อนที่จะได้เข้าใกล้โอไก
ลูน่ากล่าวเอาไว้ว่าหากเข้าใจหลักการ ก็สามารถใช้พลังปราณได้แม้จะสัมผัสศัตรูเพียงเสี้ยววิ แต่ตัวเขาก็ยังไม่ได้ช่ำชองถึงขนาดที่ใช้แค่ปลายนิ้วและส่งพลังปราณใส่ศัตรูได้ ดังนั้นจึงส่งพลังออกไปผ่านลูกเตะและกำปั้น เขาพุ่งเข้ากระโดด เตะ ต่อย ศัตรู และบดขยี้ร่างของพวกมัน
「ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆสินะครับ……」
เมื่อไตร่ตรองถึงความอ่อนด้อยของตัวเองที่ไม่พัฒนาการเท่าไหร่จากสำนักกราโด้ เขามองไปรอบๆและยังพบศัตรูมากกว่าสิบ
「แค่ไล่ตามเธอคนนั้นก็ช่างหนักหนาเหลือเกิน」
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเขาแสดงท่าทีตึงเครียด
และตัวเขาก็ยังคงจัดการกับศัตรูที่เข้ามาไม่หยุด
◆ ◆ ◆
เคาน์เตสมิน่า วินเบล ปรมาจารย์ด้านวิชาหมัดเวทมนตร์กำปั้นดอกไม้สีชาด
มาร์ควิสซาราเอล่า ดิแซค ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านวิชาดาบมังกรจักรพรรดิ
ทั้งสองรู้จักกันมานานและด้วยเหตุนี้ พวกเธอจึงต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันประสานงานเป็นเพอร์เฟคฮาร์โมนี่
「ท่านพี่ รู้สึกว่ามันจะไม่จบไม่สิ้นสักทีนะคะ」
「นั่นสินะ แต่ถ้าเรารุดหน้าไปคนเดียว พวกเราจะโดนปิดทางหนีทันที……」
มองไปรอบๆมิน่ายิ้มออกมาขณะที่ซาราเอล่าพี่สาวของเธอส่ายหัว
พวกเธอทั้งสองนั้นกำลังเฉิดฉายอยู่บนเวที แต่ดูเหมือนเหล่าอัศวินที่เป็นตัวประกอบกำลังลำบาก
อืม ถ้าเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว พวกอัศวินจะได้เปรียบ ทั้งด้านกายภาพและทักษะ
แต่จำนวนที่มีมันมากเกินไป
ฝ่ายตรงข้ามผุดขึ้นมาเรื่อยๆไม่รู้จบสิ้น นอกจากนี้ แม้ว่าพลังโจมตีจะต่ำแต่ความอึดของมันหนักหนาเอาการ
มันเป็นการต่อสู้ที่ทำให้ฝ่ายนี้หมดแรง ราวกับเผชิญหน้ากับศพที่เดินได้
ดังนั้น แม้ว่าจะล้อมรอบโบสถ์ไว้ได้แล้วแต่กว่าจะพิชิตได้คงต้องใช้เวลา
「เฮ้อ ฉันผิดเองแหละที่ไม่คิดไตร่ตรองให้มากกว่านี้」
ซาราเอล่าบ่นออกมา
แต่ว่ามันน่าแปลกที่มีสัตว์ประหลาดมากกว่าร้อยตัวผุดมาจากอาคารที่สามารถอาศัยได้มากสุดแค่ยี่สิบคน
ไม่มีทางเลือก พวกเรามาเพื่อกำจัดพวกมันแม้ทหารจะเหนื่อยล้าแล้วก็ตาม
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มันไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ฟังขึ้น
แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ต้องหาวิธีรอดออกไปให้ได้
เพราะงั้นพวกเราจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด
「ฮ๊ากกกกกกกกก!!」
ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังกรีดร้อง
เมื่อมองเห็นก็เห็นอัศวินถูกรายล้อมไปด้วยร่างสีดำจำนวนมาก พวกเขาล้มลงกับพื้นและถูก “คน” ที่วิ่งเข้ามากำจัดจนหมด
「หวาาาาาาาาาาาาาา!!」
จากนั้นซาราเอล่าก็กระโดดเข้าไปกำจัดปีศาจพวกนั้นด้วยการฝันเพียงครั้งเดียว
「เอ๊ะ ลูน่าจัง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่!?」
คราวนี้ได้ยินเสียงมิน่ามาจากด้านหลัง
เมื่อหันไปมองก็กำลังเห็นเธอวิ่งเข้ามาพร้อมกับหอบหายใจพร้อมกับห่อหุ้มด้วยแสงสีเงินเข้ามาหาพวกเรา
ซาราเอล่าที่หันไปเห็นลูกที่พุ่งเข้ามาเจอกับสัตว์ประหลาดสีดำก็คิดว่าจะต้องเสียเธอไปเสียแล้ว แต่ที่ไหนได้เธอแค่วิ่งผ่านชนพวกมันก็ตายหมดแล้ว
「ขอฝากที่นี่ไว้กับพวกท่านแม่ด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะไปจัดการศัตรูที่อยู่ด้านในสุดให้เอง」
「ลูน่าจัง……」
เสียงอันแผ่วเบาดังออกมาจากปากของมิน่า
ซาราเอล่าอยากจะเข้าไปกอดลูกสาวเธอในตอนนี้ แต่สถานการณ์บีบบังคับ
ทันใดนั้นเงาสีดำก็พุ่งเข้าใส่ลูน่าแต่ว่าลูน่าที่หันกลับมา ยืนอยู่เฉยๆก็ทำให้พวกมันสลายไป
「เอ่อ………..ถ้างั้นฝากด้วยนะจ้ะ ลูน่าจัง กลับมาให้ได้ล่ะ……」
ผมสีเงินของเธอพลิ้วไสวเธอพูดกับลูกสาว ในฐานะแม่ของเธอ
น้ำเสียงนั้นถูกกลบไปด้วยสิ่งมีชีวิตรอบตัวและเธอก็กลับมาตั้งหลักอีกครั้ง
◆ ◆ ◆
――สำนักวิชามังกรซากุระ ฝ่ามือระเบิด มังกรน้ำ(爆勁掌・ 流水)
ร่างสีดำที่พุ่งเข้ามา
วินาทีถัดมาร่างกายผอมเล็กผมสีเงินได้ทะลวงผ่านกองทัพสัตว์ประหลาดนับร้อย และร่างของพวกมันก็ระเบิดในเวลาพร้อมๆกัน
ลูน่าเข้าไปในโบสถ์ร้างเพียงลำพังและบนบันไดที่นำไปสู่ห้องใต้ดินหลังจากสังหารสัตว์ประหลาด
ขณะที่ลงบันได้ไปฉันรู้สึกได้ถึงรูปลักษณ์แปลกๆที่ค่อยปรากฏขึ้นมา
พื้น ผนัง เพดานล้วนทำจากหินที่ส่องเป็นประกาย ทำให้เกิดแสงขึ้นมาระหว่างทาง เรียกว่าได้ว่ามันคือหินเรืองแสง แต่แสงที่ส่องประกายออกมามันกลับจางลงอย่างมาก
ลูน่าพยายามหายใจเข้า แต่ก็หายใจลำบากเพราะศัตรูตรงหน้าจำนวนมาก
(――ตั้งแต่เข้ามารู้สึกอึดอัดชะมัด เรื่องราวที่ปรากฏในเกมจีบสาวมันก็แค่การมาปราบกลุ่มโจรและสร้างบ่อน้ำพุร้อนนี่ ตามหนังสือแห่งคำทำนาย แต่นั่นก็คือสมมติฐานที่โจรจะครองที่ดินแห่งนี้ในอีกสิบปีข้างหน้า
กล่าวอีกนัยหนึ่งกลุ่มโจรมีก่อนอยู่นานแล้วแต่แค่ว่ามันกลายเป็นคดีในภายหลังอีกสิบปี มันจะถูกพิชิตโดยเหล่าตัวละครหลักในอีกสิบปีข้างหน้า
ตามปกติ หากเป็นพวกโจรละก็จะโดนฆ่าตายทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น ลักทรัพย์ ฆ่าคน ค้าทาส
แต่ว่ามันก็ช่างเป็นปาฏิหาริย์ที่โจรเหล่านั้นรอดไปถึงอีกสิบปีข้างหน้า
นั่นเป็นเหตุผลที่รู้สึกประหลาดใจที่เห็นพวกโจรกลุ่มแรก)
โครงร่างสีดำมันหยุดอยู่ตรงนี้และไม่ไล่ตามมา
ลูน่าก้าวเดินเข้าไปในส่วนลึกอย่างระมัดระวัง
(แต่ว่าหากสัตว์ประหลาดเหล่านั้นที่กลายเป็นมนุษย์และเกิดการรุกรานเมืองในอนาคต ก็พอจะเข้าใจได้
เมืองที่ในอีกสิบปีข้างหน้ามีสัตว์ประหลาดนับหมื่นตัวโผล่เข้ามาโดยผ่านการตรวจตราได้ ทุกอย่างเคลียร์กระจ่างชัดแล้ว ไอ้พวกนี้มันซุ่มตัวรอปรากฏตัวในอีกสิบปีข้างหน้าตามอีเว้นต์ของเกม ซึ่งพวกเราเดินทางมาตัดไฟแต่ต้นลม
ใช่ หากสัตว์ประหลาดเหล่านี้บุกรุกไปถึงคีร์กีซเจ้าเมืองจะถูกประหารในเมืองหลวงและการจัดตั้งกองทัพจะยากยิ่งขึ้นไปอีก
กล่าวอีกนัยหนึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มีคนชักในต่อกันเป็นลูกโซ่
อืม ถ้าเจอหน้ามันขอตั้นหน้าสักทีเถอะ สร้างความวุ่นวายดีนัก)
ในขณะที่คำนวณสิ่งต่างๆ ฉันยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆและพบพื้นที่ห้องโถงขนาดใหญ่
และลูน่าก็หยุดเดิน
หากเงยหน้าขึ้นจะเห็นรูปปั้นหินขนาดใหญ่ที่มีรูปลักษณ์เป็นปีศาจปลายทางเดิน
หากมองไปที่ใต้เท้าของมัน จะพบกับโครงร่างที่หุ้มด้วยเสื้อคลุมในขณะที่มีกองไฟขนาดใหญ่อยู่ทั้งสองด้าน
「ยินดีที่ได้รู้จัก สบายดีรึเปล่า」
ฉันทักทายตามมารยาทของคนเคยเจอกันครั้งแรก
จากนั้นราวกับตอบสนองต่อฉันร่างที่อยู่ในเสื้อคลุมก็เดินมาหาฉันสองสามก้าว
「หวาาาา เด็กตัวน้อยหลุดมาที่นี่ได้ยังไงนิ แต่ก็มาหากันถึงนี่เชียวรึ แต่เดี๋ยวก่อนนะหน้าตาของเจ้าดูคุ้นๆ?」
เสียงนั้นเป็นของผู้ชายอย่างแน่นอน
แต่ว่าลูน่าบอกได้เลยว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่มนุษย์
「เดาไปให้เสียเวลาเปล่าน่า ยังไงก็ตาม ขอกำจัดทิ้งเลยก็แล้วกัน แกใช่ไหมที่สร้างไอ้พวกตัวน่ารำคาญพวกนั้นขึ้นมา」
「หวาาา ดุดันจังน้า แม่สาวน้อย กระผมเบเลียล(ベリアル)หนี่งในจตุรอาชาของกองทัพจอมมาร กระผมจะมอบความกลัวและความสิ้นหวังให้กับเจ้าเอง」
ครืนนนนนนน
รูปร่างของเขาขยายตัว
ลำตัวใหญ่เงยหน้าไปสูงประมาณห้าเมตร
มีผิวหนังเป็นสัตว์เลื้อยคลานกับปีกค้างคาว จากนั้นปากที่ดูเหมือนจระเข่และเขาวัวที่หลังศีรษะก็ปรากฏตัวขึ้น (TN:ตัวไรนิ?)
「อ่าเข้าใจได้ง่ายแบบนี้ข้าล่ะชอบจริงๆ แค่ฆ่าแกทุกอย่างก็จะลงล็อค」
จากนั้นลูน่าก็เปลี่ยนวิธีการพูดจากสาวน้อยเป็นการพูดแบบชายชรา
เธอหมัดผมยาวๆด้วยเชือกโอบแขนกอดอก และก้าวมาข้างหน้า
「เข้ามาสิ ไอ้ไก่อ่อน!!!」
เสียงโกรธนั้นคำรามดังไปทั่วทั้งห้อง