008:กิลด์นักผจญภัย②(ฉันโดนลักพาตัว)
「……」
ลูน่าถอนหายใจภายใต้คุกที่มีแสงสลัวส่องมาเพียงน้อยนิด
พื้น เพดาน ผนังล้วนเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยหินขรุขระ ไร้ซึ่งการตกแต่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าไม่เคยสร้างเพื่อให้ความบันเทิงกับผู้ใดหรือให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบาย
ลูกสาวของมาร์ควิสถูกจองจำ
ด้านหลังเธอมีหญิงสาวผมสีแดงที่ถูกลักพาตัวมาพร้อมกัน
ด้านหน้าเป็นประตูเหล็กที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถเปิดได้หากไม่มีกุญแจ
อย่างน้อยที่เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์เหล่านี้ไม่ดีต่อสองสาวสุขภาพดี
――ขอเล่ารายละเอียดให้ฟังว่าเหตุการณ์เป็นมายังไง
ตอนอาหารเย็น ฉันได้บอกท่านแม่ว่าอยากไปเที่ยวในเมืองและบอกว่าอยากไปกิลด์นักผจญภัยเพื่อไปเรียนรู้
เป็นผลให้
ท่านแม่ตอบทันที「ไม่ได้นะจ้ะ」
หัวข้อการสนทนาถูกปัดทิ้งอย่างรวดเร็ว
นั่นคือพวกเราต้องใช้แผนสำรอง
เธอปลอมตัวและตัดสินใจออกจากคฤหาสน์เพื่อไปที่เมือง
โชคดีที่ลูน่าเป็นหัวหน้าสำนักวิชามังกรซากุระ ที่มีพลัง “เหนือธรรมชาติ”
มันง่ายที่จะออกจากคฤหาสน์ด้วยพลังปราณและหลบหนีไปโดยไม่มีใครเห็น
ถ้าไปได้ไกลขนาดนั้น ก็ต้องทำตัวไม่ให้เหมือนลูกขุนนางด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เธอกำลังวิ่งไปในถนนสายหลักของเมืองและเห็นป้ายที่ชี้ไปยังกิลด์นักผจญภัย
ช่องว่างในอาคารที่อยู่ติดกันให้ความรู้สึกสลัวเพราะร่มเงา มีมือยื่นออกมาจากตรอกไม้แคบๆคว้าแขนของเธอและฉุดไป
อีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่สามหน่อ
ชายที่จับแขนของฉันยังคงบีบแขน ในขณะที่ชายอีกคนเอาผ้าที่โป๊ะยาสลบเข้าปากของเธอ
อ่า โดนยาสลบเข้าให้แล้วไงล่ะ
และตอนนั้นเองในเวลาเดียวกันชายอีกคนก็หิ้วกระสอบผ้าใบใหญ่คลุมหัวของลูน่า
(อืมดูช่ำช่องดีนะ……….เป็นพวกอาชญากรที่ทำเป็นขบวนการหาเลี้ยงชีพงั้นเหรอ)
เมื่อฉันถูกยกขึ้นไปและถูกปล่อยก็มีสอบผ้าอีกใบอยู่ในห้องนี้แล้ว
ชายคนนั้นใส่กุญแจมือเหล็กรอบข้อเท้าลูน่าที่แสร้งทำเป็นหมดสติและออกจากห้องด้วยใบหน้าระรื่น
พูดตามตรง ลูน่าไม่ได้สลบหรืออะไรหรอกเพราะเธอใช้พลังปราณของเธอ และเธอก็รู้ด้วยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนของเมือง และเธอก็ตรวจจับคนโดยรอบก็พบว่ามีคนอีกประมาณ ยี่สิบคนอยู่ในบริเวณรอบๆ
หลังจากนั้นก็เลยคาดหวังว่าจะมี “ความสนุก” แบบไหนรออยู่กัน
(อืม จะหลบหนีด้วยการใช้กำลังและเอาชนะเจ้าถิ่นแถวนี้ดีหรือเล่นเป็นแนวแบบนักฆ่าดีล่ะ เอ่อ ตื่นเต้นชะมัด ตัดสินใจไม่ถูกเลย)
อีกฝ่ายหนึ่งน่าจะเชี่ยวชาญด้านการลักพาตัว
ซึ่งหมายความว่าพวกผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวไปน่าจะถูกนำไปขายที่ตลาดค้าทาส หรือโดนจับตัวเพื่อเรียกค่าไถ่
หากเป็นเช่นนั้นสถานที่นี้ก็คงจะเต็มไปด้วยคนที่ถูกลักพาตัว
หากจำนวนเหยื่อเกินกว่าสมาชิกขององค์กรนี่ ก็มีอันตรายที่จะเกิดการต่อสู้กันขึ้น ดังนั้นเลยใช้คนจำนวนสองสามคนในการลักพาตัวคนๆเดียว
「เอิ่มเธอเองก็โดนลักพาตัวมาเหรอ?」
เมื่อฉันลุกขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจ ฉันก็ถูกเรียกจากทางด้านหลังและรีบหันหลังกลับไปอย่างรีบร้อน
จากนั้นก็เจอหญิงสาวคนหนึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง
「เอ๊ะ เธอก็ด้วยเหรอ?」
「อืม」
สังเกตอีกฝ่ายขณะตอบคำถามสั้นๆ
เธอคนนั้นน่าจะอายุไม่ถึงสิบปี และเธอแต่งตัวเรียบร้อย
เธอขนาดตัวพอๆกับลูน่าอาจจะสูงกว่าเล็กน้อย
ที่สะดุดตาเป็นพิเศษคือผมสีแดงที่ยาวถึงอก
ไม่ใช่ผมแดงตามธรรมชาติเหมือนแอนนา แต่เป็นสีแดงสดราวกับเพลิงไหม้ เรียกได้ว่าสีแดงเข้ม
เสื้อผ้าของเธอยังเป็นสีแดงอีกด้วย บางทีอาจจะแต่งตัวให้เข้ากับสีผม ซึ่งทำให้รูปลักษณ์ของเธอเป็นประกาย
เธอวิเคราะห์เด็กสาวผมเงินตรงหน้าและก็คิดได้ว่าเธอคงแข็งแกร่งสุดๆ
(อืม เป็นลูกขุนนางที่ไหนสักแห่งเหรอ)
เมื่อเห็นบรรยากาศที่ดูสง่างามลูน่าก็ปล่อยจินตนาการของเธอให้โลดแล่น「ฉันเป็นลูกสาวของมาร์ควิส」ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก
แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังปลอมตัว แต่งตัวเหมือนสาวชาวเมืองทั่วไป ดังนั้นในสายตาของเธอ ฉันจึงดูเหมือนลูกสาวของพ่อค้ามั่งคั่ง แต่ฉันไม่ได้คิดจะมาอุดอู้อยู่ในนี้หรอกนะ
นอกจากนี้เสื้อผ้าที่เธอใส่ยังเป็นของเมดอีกคนและเธอคนนั้นสวมมาตั้งแต่เด็ก และเธอก็ใส่ชุดนี้เข้าเมืองมาโดยไม่คิดเลยว่าแค่วันแรกก็เจอเรื่อง
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นโซ่ที่ผูกมัดข้อมือและข้อเท้า และอีกด้านของโซ่ก็ติดกับผนังด้วยโลหะ หญิงสาวผมสีแดงก็วิเคราะห์และรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่เขลาจริงๆ
「เอ่อถึงจะทำสายตาแบบนั้นแต่รอบๆนี้ก็ไม่มีใครมาช่วยพวกเราได้หรอกนะคะ?」
สาวผมแดงพูดเช่นนั้น
ลูน่ายักไหล่เล็กน้อย
เธอปลอมตัวอยู่ และออกมาจากบ้านโดยไม่แจ้งให้ใครทราบ คงไม่มีใครรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ นับประสาอะไรกับการจะหาคนมาช่วย
(เฮ้อเอาเถอะ ถ้าอยู่นานกว่านี้และกลับบ้านช้าเกินไปก็ถูกจับได้อีก ถ้าเป็นแบบนั้นลำบากแหงๆ)
เมื่อเธอจำได้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนของเมือง เธอก็แตะไปที่โซ่ตรวนตรงข้อเท้า
จากนั้นความรู้สึกที่สัมผัสบนนิ้วมือ ดูเหมือนจะไม่ใช่โลหะชนิดพิเศษ เกร้ง เกร้ง เกร้ง ด้วยการกระแทกมันเบาๆจากนั้นรอยแตกก็ปรากฏขึ้นและกุญแจมือก็หลุดออกและเมื่อใช้นิ้วเคาะเป็นจังหวะโซ่ตรวนก็ขาด
「เกิดอะไรขึ้น? เธอทำอะไรลงไปน่ะ?」
ลูน่าที่โดนยิงคำถามใส่ก็ได้แต่ยิ้มออกมา
ลูน่าเดินเข้าไปหาเธอและทำลายโซ่ตรวน
「สุดยอด……..เวทมนตร์เหรอ?」
「เฮ้อ ช่างเถอะ อะไรล่ะนั่นเวทมนตร์」
ด้วยรอยยิ้มซุกซนเธอกดนิ้วชี้ลงบนฝีปากของเธอ
เธอเข้าใจในทันทีและพยักหน้าและเงียบปาก
ลูน่าเข้าใกล้กำแพงที่มีประตูเหล็กโดยไร้ซึ่งเสียง และวางฝ่ามือของเธอบนก้อนหินที่ก่อตัวเป็นกำแพง
「ตรงนี้รึเปล่าน้า?」
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ย่อตัวลงและหายใจเข้าลึกๆ
――สำนักวิชามังกรซากุระ หัตถ์ทะลวง( 通背掌) ป.ล.คิดชื่อไม่ออก คิดยากมากโอ้ยปวดหัว
พื้นดินสั่นสะเทือนด้วยเสียงอันดัง
สาวน้อยผมแดงรีบเอามือปิดหูเพราะจู่ๆก็เกิดแรงระเบิดรุนแรง
ขณะที่ลูน่ากำลังฟังเสียง ก็มีใครสักคนล้มลงที่ด้านหนึ่งของกำแพง
เธอพยักหน้าและมุ่งไปข้างหน้าประตูเหล็กกดกำปั้นเข้ากับประตูและกระทืบเท้าลงกับพื้นในจังหวะเดียวกัน
――สำนักวิชามังกรซากุระ หัตถ์พยัคฆ์จู่โจม
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!
กำแพงเหล็กระเบิดออกกระแทกเข้ากับทางเดินเกิดเสียงดังอีกครั้ง
「เอาล่ะ ฉันจะเล่นกับเจ้าพวกนี้สักหน่อยค่อยกลับบ้าน แล้วเธอล่ะจะเอายังไง?」
ลูน่าที่ได้ยินเสียงเท้าจำนวนมากกำลังลงมากำลังฮัมเพลงด้วยความสนุกสนาน
สาวผมแดงลังเลเล็กน้อยแต่ก็ตอบกลับมาว่า「ฉันจะตามเธอไปด้วย」
ก่อนที่เธอจะเกิดใหม่เธอเป็นโรคที่รักษาไม่หายอีกโรคหนึ่ง
“โรคขาดการต่อสู้ไม่ได้”
วิชาที่ได้ร่ำเรียนและฝึกฝนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อผู้คนมีพลัง ก็อยากจะใช้ และเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องหาศัตรูมาประลอง
ถ้ามาได้ไกลขนาดนี้ สิ่งที่ต้องทำก็คือเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้า
ทุกๆวันจะเป็นเส้นทางแห่งการนองเลือด
ก่อนที่จะรู้ตัว ก็รู้สึกว่าตัวเองขาดการต่อสู้ไปไม่ได้เสียแล้ว
ไม่มีเวลามานั่งเสียใจหรอกนะ
ความปรารถนาที่อยากจะสังหารอีกฝ่ายมันกำลังก่อตัวในใจฉัน
เรียกได้ว่าตัวฉันอาจจะไม่ใช่มนุษย์อีกแล้วก็ได้
ด้วยเหตุนี้ จึงจบลงด้วยที่วัฏจักรแห่งการต่อสู้และฝึกนเรื่อยไปไม่รู้จบ ต่อให้กลับมาเกิดใหม่จิตวิญญาณก็ยังถวิลหาถึงสิ่งที่อดีตชาติเคยทำ นั่นแหละคือลูน่า
ดังนั้นเธอจึงเป็นปีศาจที่กระหายในการต่อสู้
「วันนี้พอดีความเครียดมันเข้าเส้นน่ะ ไม่คิดแค่ว่าจะล้มพวกมันหรอกนะ แต่จะฆ่าซะให้เหี้ยนเลย」
รอยยิ้มที่ดุร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลูน่าพร้อมกับเดินไปที่โถงทางเดิน
พวกผู้ใหญ่ที่รีบกรูกันเข้ามาโดยไม่รู้เรื่องราว
ปีศาจสาวผมสีเงินได้ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับมันก็มิอาจหลีกเลี่ยงความตายได้