007:กิลด์นักผจญภัย①
วันก่อนหลังจากที่ได้ใช้พลังปราณในสนามฝึกของคฤหาสน์
ด้วยเหตุนี้ก็ได้ตระหนักได้ว่าร่างกายของเธอไร้ซึ่งกล้ามเนื้อและจะไม่สามารถสร้างร่างกายที่อยู่ยงคงกระพันได้หากไม่ทำการฝึกฝนสร้างกล้ามเนื้อให้มากกว่านี้
(เอาล่ะตัดสินใจแล้ว ! ฉันจะไปท้าทายสำนักต่างๆ!)
ลูน่ากำหมัดเล็กๆของเธอด้วยความมุ่งมั่นซึ่งไม่เหมาะกับเด็ก 7 ขวบ
เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงเธอคิดจะไปทำลายสำนักวิชาอื่นให้ราบคาบ
「แอนนา ฉันอยากจะไปที่เมือง แต่ก่อนที่จะไป มีคำถามอยากจะถามหน่อย」
「ค่า ไม่ทราบว่าอยากรู้อะไรเหรอคะ?」
เมื่อฉันกลับไปที่ห้องหลังอาหารกลางวันก็พบกับเมดของตัวเองที่สนุกกับการได้เล่นกับชิโระและยิ้มอย่างมีความสุข ดูเหมือนต่อให้ใช้คำพูดไม่สุภาพในตอนนี้ก็ไม่เป็นไรสินะ
「อุมุ มีพวกสำนักวิชาที่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้บ้างไหม อย่างพวก สำนักวิชาการต่อสู้หรือสำนักวิชาดาบ อะไรทำนองนี้」
「ทำไมเหรอคะ?」
「อ่า พอดีรู้สึกสนใจนิดหน่อย」
อยากไปตรวจสอบ เข้าไปชมและเรียนรู้ นอกจากนี้ยังอยากออกไปข้างนอกบ้าง
แอนนาบอกตำแหน่งที่ตั้งของกิลด์นักผจญภัยด้วยน้ำเสียงเบาๆ
「เอ่อฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าสำนักที่ท่านว่าคืออะไร แต่ถ้าเป็นสนามฝึก ก็มีแถวด้านหลังป้อมยามของเมืองค่ะ แต่เมื่อพิจารณาจากจุดประสงค์ของท่านแล้ว ฉันคิดว่าท่านน่าจะไปกิลด์นักผจญภัยจะดีกว่าค่ะ」
「กิลด์นักผจญภัย……」
ลูน่าทำสีหน้างุนงงและพยักหน้าราวกับว่าจะเข้าใจประมาณหนึ่ง
เธอที่เคยออกเดินทางไปทั่วโลกในชาติที่แล้วก็พอได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง
「มันเป็นสถานที่ๆไว้รับภารกิจที่ถูกจัดเตรียมไว้และได้รับเงินรางวัลเมื่อทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ใช่ไหม?」
「ถึงจะดูอ้อมค้อมไปบ้างแต่ก็ถูกค่ะ」
ลูน่าถามอ้อมๆเพื่อดูว่ากิลด์ที่เธอรู้จักกับที่แอนนารู้จักเหมือนกันไหม ขณะที่เธอยังคงลูบไล้ขนสีขาวของชิโระและกำลังสนุกกับการน้วยชิโระ
แต่ว่านะ กิลด์นักผจญภัยที่ฉันเห็นในชาติก่อน「ไม่เห็นจะเป็นนักผจญภัยตรงไหนเลยฟะ」ประมาณนั้นล่ะ
หากถูกเรียกว่า「นักผจญภัย」โดยไร้ซึ่งความรู้ ก็คงเห็นคนที่ไปไหนมาไหนก็เรียกได้ว่านักผจญภัย แต่ว่าความจริงแล้วความหมายของมัน คือ การเข้าไปบุกเบิกพื้นที่ๆไม่มีใครสำรวจ ตรวจสอบสิ่งผิดปกติ และค้นหาความจริง รายงานข้อมูลทุกอย่างต่อกิลด์นั่นล่ะคือนักผจญภัยของจริง
แต่ว่า ชาติก่อน นักผจญภัย ดันทำงานเบ็ดเตล็ด เช่น รวบรวมสมุนไพร ฆ่าสัตว์ประหลาด และในบรรดางานเหล่านั้น ภารกิจหลักก็คือการฆ่าพวกสัตว์ประหลาดซะส่วนใหญ่ เรียกว่าผลตอบแทนไม่คุ้มความเสี่ยงเลยสักนิด
ถ้าคิดดูมันก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องงานคุ้มกันพ่อค้า ทำไมถึงไม่ไปหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฟะ
โดยปกติแล้วพวกพ่อค้ามักจะไม่จ้างคนคุ้มกัน เพราะมีเพียงพ่อค้าที่ร่ำรวยจะมีผู้คุ้มกันประจำตัว หากเป็นพวกพ่อค้าที่ยากจนจะจ้างนักผจญภัยแทนแถมการจ้างนักผจญภัยก็ไม่ค่อยได้กำไรมากนัก ปัญหาในชาติก่อนของพวกพ่อค้าก็โดนโจรปล้นและถูกฆ่าตาย
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อค้าที่มีเงินมากก็มีสาขาหลายสาขา และการจ้างลูกทีมเพื่อปกป้องบริษัทดูจะมีภาษีที่ดีกว่า
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพียงเรื่องพื้นฐานของบรรดาพ่อค้า แต่ถ้าต้องการจัดการเรื่องธุรกิจให้ดำเนินไปได้อย่างสะดวกพวกเขาก็จะใช้บริการของผู้คุ้มกันเจ้าเดิมเพราะมีความไว้เนื้อเชื่อใจมากกว่าการจากนักผจญภัยเป็นรอบๆ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การไปกิลด์นักผจญภัยก็คืองานที่ทำครั้งเดียวและรับผลตอบแทนเลยไม่ใช่งานระยะยาว
และเมื่อต้องทำคำขอแบบครั้งเดียวจบ แม้แต่ผู้ที่ถูกว่าจ้างไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง และต้องเจอกับพ่อค้าแบบไหนก็ไม่รู้ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันลดลงอย่างมาก
เป็นวงจรอุบาทว์ที่ประสิทธิภาพในการทำงานย่ำแย่ และค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว
ยิ่งไปกว่านั้น นักผจญภัยมักเป็นชนชั้นล่างสุดของสังคม ซึ่งหมายความว่าความน่าเชื่อถือแทบเป็นศูนย์ คนที่อยู่ชั้นล่างสุดของสังคมมักไม่ได้รับการอบรม เล่าเรียน ดังนั้นจึงไร้การศึกษา และด้วยเหตุนี้เลยไม่เข้าใจว่าการมีความน่าเชื่อถือมันมีความสำคัญยังไงในด้านธุรกิจ
กล่าวโดยย่อก็แค่พวกอันธพาลที่หาเลี้ยงชีพด้วยค่าจ้างรายวัน
เบื้องหลังผู้ว่าจ้างเป็นใครก็ไม่รู้ แถมคนรับงานก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอาชญากรหรือเปล่า เป็นงานที่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากทั้งสองฝั่ง
จริงๆแล้วเธอค่อนข้างมีอคติต่อกิลด์นักผจญภัยในโลกเก่าอย่างมาก
「เอ่อ ไม่เป็นไรแน่เหรอ?」
「มีอะไรเหรองั้นเหรอคะ?」
「เอ่อ พวกนักผจญภัยน่ะทำได้ทุกอย่าง ทั้งลักพาตัว ลอบสังหาร ลักลอบเข้าเมือง ซื้อขายยาเสพติด รู้สึกว่าไม่ต่างจากอันธพาลสักเท่าไหร่」
「ไม่รู้หรอกนะว่าไปรู้เรื่องพวกนั้นมาจากไหนแต่ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นมันผ่านมาหลายร้อยปีแล้วนะคะ」
เธอหันมามองฉันด้วยแววตาสงสาร
โว้ย เธอนี่มันกวนโอ๊ยซะจริง
「แล้วจริงๆแล้วมันมีลักษณะยังไงล่ะ?」
เธอถามพร้อมกับท่าทางเขินอายเล็กน้อย
「เป็นความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นชนชั้นล่างสุดค่ะที่ทำงานประทังชีวิตไปวันๆ แต่ความจริงที่ว่าคนระดับล่างไม่สามารถหลุดพ้นจากความจนได้นั่นก็คือเรื่องจริง ดังนั้นการตรวจตราภายในกิลด์จึงเข้มงวดมาก และหากทำผิดกฏแม้แต่นิดเดียว จะถูกไล่ออกทันทีค่ะ เพราะฉะนั้นกิลด์ในตอนนี้ปลอดภัยมาก」
เมื่อเวลาเปลี่ยนกิลด์เองก็เปลี่ยนงั้นเหรอ เดี๋ยวนี้เอาใจใส่กันน่าดูเลยนะ
「นอกจากนี้กิลด์เองยังรองรับคนจำนวนมากมีขนาดใหญ่จนถือเป็นองค์กรหนึ่งเลยนะคะ」
หาาาาาาาาาาาาาา?
เธอวางมือไว้บนคางราวกับกำลังคิด
「กิลด์เริ่มเติบโตอย่างมากเมื่อประมาณ ห้าสิบปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ที่เมืองส่วนใหญ่ก็มีกิลด์หลายสาขากระจายไปทั่วโลกแล้วนะคะ」
「กระจายไปทั่วโลกเลยงั้นเหรอ」
「ค่ะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นประชาชนชั้นรากหญ้าจึงไม่ค่อยถูกจริตกับชนชั้นสูงสักเท่าไหร่」
「แล้วเมืองนี้ล่ะ?」
「กิลด์ลาทอส(ラトス)เหรอคะ ดูเหมือนจะดีค่ะเพราะมีเจ้าเมืองที่มีจิตใจอ่อนโยน」
อืม ลูน่าพยักหน้า
แม้ว่าจะไม่ใช่ตอนนี้ แต่คฤหาสน์ของมาร์ควิสดิแซค ตั้งอยู่ในเมือง “ลาทอส” สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาเล็กน้อยทางทิศเหนือเพื่อมองทิวทัศน์จากบนเทือกเขาได้
เมื่อหลวงของราชอาณาจักรอัลฟิเลีย เรียกว่าเมืองหลวงเม็กเมล(メグメル)และท่านพ่อเองก็ทำงานอยู่ในเมืองหลวงในปราสาทออกัสต์(オーガスト) แต่ลูน่าก็ยังไม่เคยไปที่นั่นเลยสักครั้ง
พูดให้ถูกคือเหมือนโดนกักบริเวณมากกว่า ไม่มีโอกาสไปเผชิญโลกภายนอก
เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะได้ออกไปข้างนอกแทบจะไม่มีเลย
นั่นเป็นเพราะเธอเป็นหญิงสาวอายุเจ็ดขวบที่ถูกเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน
คิดว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ออกไปข้างนอกก็เมื่อสองปีที่แล้วที่เข้าร่วมงานในโบสถ์
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้น ไปด้วยรถม้า ทหารคุ้มกันมากมาย และไม่มีอิสระเลย
ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดว่าท่านพ่อกับท่านแม่เป็นห่วงฉันมากเกินไปรึเปล่า
อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหัวหน้าตระกูลที่จะหวงลูกสาว แต่
「เอ่อ มากกว่านั้นนะคะคุณหนู สิ่งที่พวกเราได้คุยกันมาจนถึงตอนนี้ คุณหนูได้บอกให้ นายหญิงทราบรึเปล่าคะ?」
「ไม่ได้บอก มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?」
แอนนาที่จู่ๆก็จริงจังขึ้นมาก็ถามคำถามถึงท่านแม่
อะ ชิบหายล่ะ เกือบออกไปข้างนอกโดยไม่แจ้งท่านแม่
「ถ้าเป็นแบบนั้น มีสิทธิ์สูงมากที่นายหญิงจะกักบริเวณท่าน และแม้ว่าท่านจะหนีออกจากคฤหาสน์ได้สำเร็จ ก็จะถูกทหารยามล้อมรอบเป็นสิบคน ดังนั้นคิดซะว่าความปรารถนาของท่านที่หวังจะไปกิลด์นักผจญภัยเป็นฝันลมๆแล้งๆนะคะ」
「เฮ้อ หยุดทำตัวเป็นพี่สาวฉันจะได้ไหม เพราะฉันเห็นธาตุแท้ของเธอมาหมดแล้ว มันขาดความน่าเชื่อถือน่ะ」
「อืม อืม แบบนั้นเหรอคะ กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดคืออย่าไปทำเรื่องที่ไม่คุ้นเคยจะดีกว่านะคะ」
「จะเก็บไว้คิดดูล่ะกัน」
พวกเธอสองคนทะเลาะกันเล็กน้อย จากนั้นแอนนาก็เดินออกไป
ลูน่าและชิโระถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
ทำท่าทีเสียมารยาทต่อผู้เป็นนายซะจริง แต่ว่าเธอก็ได้แต่เมินเฉยกับมัน
ป.ล. เปลี่ยนแนวแปลบ้าง ฮ่าฮ่า (โดนป้ายยา)
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง