สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 866-2 ช่วยชีวิต! (2)

บทที่ 866-2 ช่วยชีวิต! (2)

บทที่ 866-2 ช่วยชีวิต! (2)

กู้เจียวมายังที่เกิดเหตุ พบว่าอาการของเซวียนหยวนฉีขึ้นเปลวหามไม่ได้ด้วยซ้ำ

…หากเซวียนหยวนฉียังมีหวังในการรอดละก็

กู้เจียวเริ่มจัดการอาวุธบนร่างเขา โดยเริ่มจากหอกยาวนั่นก่อน

เย่ชิงในฐานะศิษย์เอกของกั๋วซือ ฝีมือการแพทย์ก็ไม่เบา เขาจึงช่วยเป็นลูกมือให้อย่างมาก

พวกเหวินเหรินชงกางเสื้อกันฝนให้พวกเขา เพื่อบดบังน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า

“เจ้าให้เขากินอะไร” กู้เจียวถามเย่ชิง

“พิษจื่อเฉ่า” เย่ชิงเอ่ย

กู้เจียวกระจ่าง

ตั้งแต่มายังแคว้นเยี่ยน นางได้ยินพิษชนิดนี้มามากกว่าหนึ่งครั้ง คราก่อนกู้ฉังชิงโดนวิญญาณทมิฬแทงกระบี่เข้าห้องฉุกเฉิน เกือบจะกลายเป็นคนพิการ ใต้เท้ากั๋วซือก็คิดจะใช้พิษชนิดนี้กับเขาเช่นกัน

เพียงแต่ว่า ยาพิษเม็ดนั้นหมดอายุเสียก่อน

กู้ฉังชิงอาศัยกำลังใจและจิตใจของตัวเองฝืนข้ามพ้นมันมาได้

นี่เป็นปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์การแพทย์ แต่อาการของเซวียนหยวนฉีไม่เหมือนกับกู้ฉังชิงเท่าใดนัก

กู้ฉังชิงฟื้นแล้ว พ้นขีดอันตรายแล้ว เขาแค่ไม่อยากกลายเป็นคนพิการ

แต่เซวียนหยวนฉี เขา…สิ้นลมแล้วจริงๆ

กู้เจียวสวมถุงมือใยเงิน ใช้ใยไหมทองตัดหอกยาวตรงหน้าอกเซวียนหยวนฉีฉับ “ครานี้คงไม่หมดอายุอีกกระมัง”

“ไม่หรอกน่า!” เรื่องเมื่อคราก่อน กั๋วซือได้เล่าให้เขาฟังก่อนที่เขาจะออกเดินทางแล้ว เขารีบอธิบาย “ยาที่อาจารย์ให้กู้ฉังชิงเหลือจากหลายปีก่อน ยาเม็ดนี้ค้นเจอจากคฤหาสน์ตระกูลหันเมื่อไม่กี่วันก่อน”

“ตระกูลหัน” กู้เจียวใช้ใยไหมฟ้าแดนหิมะตัดตัวหอกตรงแผ่นหลัง

เย่ชิงเอ่ย “ถูกต้อง อาจารย์บอกว่าตระกูลหันอาจจะควบคุมสวนจื่อเฉ่าเอาไว้ผืนใหญ่ ในมือพวกเขามีจื่อเฉ่าจำนวนมาก ม้าเฮยเซียวของตระกูลหัน ม้าปีศาจดำของนายท่านห้าหันล้วนใช้พิษจื่อเฉ่าป้อนมันจนโต”

“ม้าเฮยเซียว” กู้เจียวได้ยินชื่อนี้ คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย แต่นี่ก็อธิบายได้แล้วว่าเหตุใดม้าของนายท่านห้าหันจึงได้เก่งกาจเพียงนั้น

“แบบนั้นม้าจะไม่ตายไปมากโขเลยหรือ” นางถาม

เย่ชิงพยักหน้า “สัตว์มีความทนทานต่อพิษจื่อเฉ่ามากกว่ามนุษย์ แต่ก็ยังมีเจ็ดส่วนขึ้นไปที่ล้มเหลว ม้าเด็กจำนวนมากโดนพิษตาย ที่รอดมาได้จึงมีคุณสมบัติเป็นม้าเฮยเซียว”

กู้เจียวไม่เอ่ยอะไรอีก

ตระกูลหันช่างทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งจริงๆ

หากเย่ชิงไม่ได้ยินอาจารย์เอ่ยถึงก่อนออกเดินทาง ก็ไม่รู้ว่าตระกูลหันจะมีความลับวิปริตมากเพียงนี้ เขาเอ่ยเสียงเย็น “ช่างเดรัจฉานนัก!”

กู้เจียวปรายตามองเขาก่อนจะเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “อย่าเหยียดหยามเดรัจฉาน”

เย่ชิงชะงัก “อ้อ”

มือกู้เจียวที่กำลังจัดการแผลให้เซวียนหยวนฉีพลันชะงัก ถามอย่างเคร่งขรึม “เย่ชิง พิษจื่อเฉ่าจะบรรเทาความเจ็บปวดของเขาได้หรือไม่”

เย่ชิงพลันมีปฏิกิริยาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ‘เขา’ ที่นางเอ่ยถึงก็คือเซวียนหยวนฉี

“เขา…”

เหลี่ยวเฉินพยุงบิดาให้พิงอกตัวเอง และหันไปมองกู้เจียวอย่างละเอียดเช่นกัน

กู้เจียวไม่ได้ปิดบังเขา ในฐานะบุตรชาย เขามีสิทธิ์ที่จะทราบอาการจริงๆ ของบิดา “ร่างกายเขาบาดเจ็บภายในสาหัสนัก ต้องทนเจ็บปวดทรมานมหาศาลอยู่ทุกวัน การมีชีวิตอยู่สำหรับเขาคือความทุกข์ ความตายสำหรับเขากลับเป็นการหลุดพ้นอย่างหนึ่ง”

เหลี่ยวเฉินกำหมัดแน่น ร่างกายสั่นเทิ้มเล็กน้อย

เขาไม่คิดเลยว่าหลายปีมานี้บิดาจะมีชีวิตเช่นนี้…

“ได้” เย่ชิงเอ่ยด้วยความมั่นใจ

หากไม่โดนพิษตาย ขจัดความทรมานได้หมดจด

ก็จะฝืนทนพิษรุนแรง ฟื้นคืนชีวิตใหม่อีกครา

นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เย่ชิงเอ่ยเสริมอีก “หลังจากโดนพิษจื่อเฉ่าแล้ว จะเข้าสู่สภาวะตายปลอม ดูเหมือนไม่ต่างอะไรกับคนตาย ซึ่งระยะเวลาแตกต่างกันไป บางคนสามชั่วยาม บางคนเจ็ดชั่วยาม หากสิบสองชั่วยามยังไม่ฟื้น เช่นนั้นคงได้ตายจริงๆ แล้ว”

กู้เจียวเบนสายตาตกบนดวงหน้าบุรุษ

เซวียนหยวนฉี

เจ้าต้องทนให้ได้นะ

ไม่ว่าหลายปีมานี้คนที่เจ้ารอคอยจะเป็นใคร และมีคำสัญญาอะไรกับเขา แต่ข้าว่า เขาคงไม่อยากให้เจ้ามาตายอยู่ที่นี่หรอก

ภารกิจของเจ้ายังไม่แล้วเสร็จ

ทนผ่านความทุกข์ทั้งปวงในโลก มีชีวิตอยู่ต่อไปในฐานะวิญญาณแห่งเซวียนหยวน มีชีวิตอยู่ต่อไปในฐานะบิดาของเหลี่ยวเฉิน มีชีวิตอยู่ต่อไปในฐานะปู่ของจิ้งคง การได้เห็นราชวงศ์ใหม่และความเจริญรุ่งเรืองคือภารกิจที่แท้จริงของเจ้า

เซวียนหยวนฉีถูกพากลับมายังกระโจมทหารบาดเจ็บ โดยมีเย่ชิงเฝ้าเขาด้วยตัวเอง

เหลี่ยวเฉินปลุกใจขึ้นมา ไม่ว่าบิดาจะรอดหรือไม่ เขาก็ไม่อาจจมอยู่กับความเจ็บปวดนานเกินไป

“ฝีมือกงซุนอวี่ใช่หรือไม่”

ใต้เพิงเย็นนอกกระโจม เหลี่ยวเฉินเอ่ยขึ้นนิ่งๆ

ในเพิงนอกจากเขาแล้ว มีเพียงกู้เจียวที่กำลังพลิกเปิดแผนที่อยู่

กู้เจียวส่งเสียงอืม “เป็นเขา แม่ทัพหลักแคว้นจิ้นที่ยกทัพบุกตะวันออกครานี้ แม่ทัพใหญ่เสินเวย”

เหลี่ยวเฉินเอ่ยเสียงเย็น “ข้าจะสังหารมันด้วยมือข้าเอง!”

กู้เจียวมองเขา เหลี่ยวเฉินเปลี่ยนจากจีวรภิกษุ มาสวมชุดคลุมสีดำของหน่วยเงามืด กลับมีไอสังหารของทวนทองอาชาเหล็กอยู่หลายส่วน

“ได้” กู้เจียวเอ่ย “เขาเป็นของเจ้า”

โคมไฟใต้เพิงส่องสะท้อนนัยน์ตาเหลี่ยวเฉิน ราวกับเพลิงแห่งการล้างแค้นกำลังลุกโชติช่วงสองกอง “อีกสองคนมีนามว่าอะไร”

กู้เจียวพลิกแผนที่ก่อนจะเอ่ย “จูจางขวง เย่ว์หลิ่วอี ล้วนเป็นคนสนิทของกงซุนอวี่”

เหลี่ยวเฉินเอ่ย “หากพวกมันอยู่ด้วย ข้าก็จะฆ่าให้หมด…”

“ไม่มีผู้ใดแย่งกับเจ้าหรอก แต่…” กู้เจียวเอ่ยพลางยื่นแผนที่ที่วงกลมแล้วให้กับเขา “กำลังทหารอาจจะต้องแบ่งแยก พวกมันอาจจะไม่ได้อยู่รวมกันในที่แห่งเดียว เจ้าคิดให้ดี ว่าจะไปจัดการคนไหน”

เหลี่ยวเฉินเอ่ยโดยไม่คิดเลย “กงซุนอวี่!”

ขุนนางแพทย์คนหนึ่งเดินออกมาจากกระโจมทหารบาดเจ็บอีกหลัง กู้เจียวเรียกเขาไว้ “เหล่าถังอาการเป็นอย่างไรบ้าง”

ขุนนางแพทย์รีบเอ่ย “เรียนผู้บัญชาการเซียว กินลูกกลอนถอนพิษที่ท่านมอบให้ไปแล้วขอรับ ไม่มีอะไรน่าห่วง นอนหลับสักสองสามวันก็หายดี”

เย่ว์หลิ่วอีเป็นยอดฝีมืออาวุธลับ แต่ไม่ใช่ยอดฝีมือในการใช้พิษ ลูกกลอนถอนพิษที่หนานซือเหนียงมอบให้มา ถอนพิษได้ร้อยชนิด

…ยกเว้นพิษของซ่างกวานชิ่ง

นึกถึงซ่างกวานชิ่งขึ้นมา กู้เจียวก็ปิดแผนที่ก่อนจะเอ่ยกับเหลี่ยวเฉิน “ซ่างกวานชิ่งยังโดนขังอยู่ที่ภูเขาผี พวกเราต้องรีบโจมตีเมืองผู่โดยเร็ว เบี่ยงเบนความสนใจจากกองทัพจิ้นที่ภูเขาผี หน่วยเงามืดของเจ้ามีกำลังทหารทั้งหมดเท่าใด”

“สองหมื่น” เหลี่ยวเฉินเอ่ย “ไม่ใช่คนของหน่วยเงามืดทั้งหมด ยังมีคนเก่าแก่ของตระกูลเซวียนหยวนด้วยจำนวนหนึ่ง”

กู้เจียวเอ่ย “ทหารม้าเฮยเฟิงที่สามารถทำศึกได้มีทั้งหมดหนึ่งหมื่น รวมกันแล้วมีทั้งหมดสามหมื่น กองทัพใหญ่ของราชสำนักกำลังโจมตีทัพเหลียง ข้าให้เหวินเหรินชงไปส่งข่าวแล้ว ไม่รู้ว่าจะโยกย้ายกำลังทหารมาได้เท่าใด”

กองทัพใหญ่ราชสำนักมีหนึ่งแสนสองหมื่นนาย ในนั้นมีกองเสบียงและกองพลาธิการด้วย

แคว้นจิ้นมีกองทัพใหญ่สองแสนนาย ไม่รู้ว่าเป็นจำนวนจริงๆ หรือไม่ และมีกำลังทหารที่สามารถทำศึกได้เท่าใด

กู้เจียวให้คนไปตามที่ปรึกษาหูมา “ให้เจ้าหาคนไปแปลภาษา แปลได้เท่าใดแล้ว”

ที่ปรึกษาหูรีบเอ่ย “ครึ่งหนึ่งแล้วขอรับ! ข้าจะไปเร่งอีก!”

กู้เจียวกำชับ “จำไว้ว่าห้ามผิดแม้แต่คำเดียว!”

ที่ปรึกษาหูตบอกเอ่ย “ขอรับ! ใต้เท้าโปรดวางใจ คนที่ข้าน้อยหามาล้วนเป็นทายาทแคว้นจิ้นจริงแท้แน่นอน มีทั้งหมดสี่คน ตรวจทานซ้ำแล้วซ้ำเล่า รับรองว่าไม่ผิดพลาด!”

กู้เจียวเอ่ย “เช่นนั้นก็ดี ข้าต้องการรายงานทางการทหารของกองทัพจิ้นที่แม่นยำ”

อีกด้านหนึ่ง ซ่างกวานเยี่ยนนั่งบัญชาการอยู่ด้านหลัง เซวียนผิงโหวนำทหารโจมตีกองทัพเหลียง หวังหม่านนำทหารไปล้อมโจมตีตระกูลหนานกง ช่วงชิงเมืองซินคืนมา

เซวียนผิงโหวไล่สังหารกองทัพเหลียงจนมาถึงชายแดน เท่านั้นยังไม่พอ เขาไล่สังหารเข้าไปในชายแดนแคว้นเหลียง ปักธงต้าเยียนลงบนดินแดนแคว้นเหลียงด้วย!

ในกระโจมแนวหลัง มีสายลับส่งรายงานจากทั้งสองฝ่ายมาอย่างต่อเนื่อง ซ่างกวานเยี่ยนพอใจมาก

ดูจากความก้าวหน้านี้ อีกแค่ไม่กี่วันก็จะปิดฉากลงได้

มีเสียงบุรุษลอยมาจากนอกกระโจม “ถวายบังคมองค์หญิง! เหวินเหรินชงจากค่ายเฮยเฟิงมาขอเข้าเฝ้า!”

ซ่างกวานเยี่ยนตีหน้าเคร่งเอ่ย “เข้ามา!”

เหวินเหรินชงฝีเท้ารีบร้อนเข้ามาในกระโจม ประสานมือคำนับให้ ยื่นจดหมายให้ด้วยสองมือ

หวนเอ๋อร์รับจดหมายมาเปิดออกก่อนยื่นให้ซ่างกวานเยี่ยน

ซ่างกวานเยี่ยนอ่านจบก็ลุกพรวดขึ้นทันที มาดองค์หญิงเต็มเปี่ยม “ใครก็ได้! ไปแจ้งแม่ทัพเซียวกับแม่ทัพใหญ่หวังหม่านว่าต้องจบศึกในคืนนี้ พรุ่งนี้ออกเดินทาง…โจมตีเมืองผู่!”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สามีข้าคือขุนนางใหญ่ ชื่อภาษาอังกฤษ : The Grand Secretary's Pampered Wife ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง(偏方方) ในอนาคตเขาจะได้เป็น 'ขุนนางใหญ่' อย่างนั้น 'เจ้' คนนี้จะประคอง 'สามี' คนนี้ ให้ไปถึงฝั่งฝันนั้นเอง! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม! จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้จียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เชียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ เพราะบุญคุณเชียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ แต่พราะ "ฝันบอกเหตุ' ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนหม่ได้รู้ว่าเขี้ยวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ยทั้งหลายเพื่อประคองเขาชื้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

Options

not work with dark mode
Reset