ฉันจำไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ร่างอันไร้เรี่ยวเเรงกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นทะเลอันดำมืดอย่างไร้จุดหมาย เเม้จะพยายามฝืนขยับร่างกายให้ดิ้นหลุดจากสถานการณ์ตอนนี้ก็ตาม สุดท้ายฉันก็ทำได้เเค่เพียงมองเเสงสว่างจากด้านบนค่อยๆจางหายลงเข้าสู้ใต้ท้องทะเล
ครืด…!
[พบร่องรอยดวงวิญญาณไร้ภาชนะหนึ่งดวง…]
[กำลังตรวจสอบดวงวิญญาณโปรดรอสักครู่…เสร็จสิ้นการตรวจสอบ]
[กำลังตรวจสอบความเข้ากันของมิติกับดวงวิญญาณโปรดรอสักครู่…เสร็จสิ้นการตรวจสอบ]
[กำลังทำการถ่ายโอนดวงวิญญาณโปรดรอสักครู่…เสร็จสิ้นการถ่ายโอน]
พุบ…
.
.
.
ความรู้สึกอุ่นๆเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบบริเวณเปลือกหนังตา นั่นทำให้ฉันค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ เเสงสีขาวจากบนฟากฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่บนด้านบนคอยส่องเเสงลงมา ในขณะที่ฉันกำลังนอนราบอยู่บนพื้นหญ้าอันเหียบเเห้ง
ฉันจำได้ว่าตัวเองกำลังจมดิ่งเข้าสู่ใต้ท้องทะเลอยู่ไม่ใช่ เเต่ทำไหมถึงได้มาอยู่ที่เเห่งนี้กัน ความคิดต่างๆนาๆเริ่มครุ่นคิดจนรู้สึกเจ็บปวดบริเวณท้ายทอย ทำให้ต้องล้มเลิกความคิดเหล่านี้ไปก่อน เพราะยังไงถึงคิดไปมันก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
ในเมื่อไม่รู้ถึงเหตุการณ์ประหลาดเหล่านี้ สุดท้ายคงต้องเดินหาเบาะเเสเท่านั้นเพื่อที่จะได้คำตอบ เมื่อคิดได้ฉันก็พยุงตัวเองขึ้นมาลุกยืน โดยมองทิวทัศน์รอบๆที่มีต้นไม้ผิวเปลือกสีดำไร้ใบบนยอดกิ่ง
เเละพื้นดินตรงบริเวณนั้นเองก็มีรอยเเตกเเขนงเป็นหลุมๆ หลังจากที่มองสถานที่โดยรอบ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าที่เเห่งนี้ได้ตายลงไปนานพอสมควร ถึงจะรู้สึกไม่ชอบมาพากลก็เถอะถึงอย่างงั้น มีเพียงเเค่ต้องเดินออกจากที่เเห่งนี้โดยเร็วที่สุด…
ฉันเดินตรงไปอย่างไร้จุดหมายท่ามกลางบรรยากาศอันน่ามัวหมอง พร้อมกับเสียงของอีกาที่บินผ่านคอยส่งเสียงร้องอันน่าขนลุกออกมา ยิ่งเดินมามากเท่าไหร่ฉันก็เริ่มรู้สึกเหมือนว่าทำไหมถึงมีกำเเพงสูงชันอยู่ทั้งสองฝั่ง โดยที่ไม่ทันได้สังเกตุตั้งเเต่เเรก ฉันภาวนาในใจว่ามันคงไม่ใช่สิ่งที่เรื่องอย่างว่านะ
ฉันค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนพร้อมกลืนน้ำลายลงคอ สุดท้ายมันก็ใช่อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ดูเหมือนตอนนี้ฉันกำลังเดินอยู่ด้านล่างก้นหุบเหวที่ซึ่งอยู่ห่างจากด้านบนอย่างมากพอสมควร
ไม่คิดว่าตัวฉันจะช่างโชคร้ายซับซ้อนอะไรขนาดนี้ เหตุการณ์เเรกก็จมเข้าสู่ท้องทะเล ต่อมาก็ถูกพามาสถานที่รู้จัก เเถมพอรู้ตัวก็ได้มาอยู่ด้านล่างของหุบเหวอีก ตอนนี้ฉันทำได้เพียงเเต่คิดหาวิธีที่จะออกสถานที่เเห่งนี้ ไม่ว่าจะเดินตรงไปด้านหน้าที่ไม้รู้ว่าจะเจอทางออกหรือเปล่า
ส่วนหากไต่ขึ้นไปด้านบนก็คงหมดเเรงเเล้วตกลงมาท้องไส้เละไม่เป็นท่าเเน่ เเค่คิดก็สยองเเล้ว คิดไปก็ไม่ได้อะไรสรุปฉันก็ย่างก้าวเดินตรงไปอีกครั้งอย่างไร้จุดหมายปลายทางออก
ยิ่งเดินนานมากเท่าไหร่ หมอกควันสีขาวก็เริ่มปกคลุมรอบๆตัว ตั้งเเต่เมื่อไรก็ไม่รู้ถึงอย่างงั้นหมอกพวกนี้ก็ไม่สามารถหยุด การเดินทางหาออกออกของฉันได้ จนกระทั่ง…
หวี้!~ เสียงเเมลงบินตอมซากม้านอนตายอยู่ด้านหน้าไม่ไกลจากฉันมากนัก เเค่มองเลือดเเละอวัยวะภายในของมันที่ทะลักออกมา ก็ทำให้ฉันไม่อยากเดินเข้าไปใกล้เเล้วละ เเต่ถึงอย่างงั้นฉันก็ไม่มีทางเลือกมากที่จะต้องเดินผ่านศพนี้อยู่ดี
เมื่อคิดได้ฉันก็เริ่มเดินผ่านศพม้าตัวนั้นพร้อมกับฝืนกั้นหายใจพลางไปด้วย
[แฮก… แฮก…]
หลังจากผ่านมาได้สักพัก จนฉันเเทบเกือบเป็นลมนอนสลบข้างๆศพม้านั่น เเค่คิดก็รู้สึกสะอิดสะเอียดชะมัด ว่าเเต่ทำไหมเสียงหายใจของฉันมันฟังดูเเปลกๆ
“เเคก! เเคก!…”
ก่อนที่จะได้ตรวจเช็ดเสียงของตัวเองอีกที จู่ๆก็มีเสียงไอของใครบางคนดังเเทรกขึ้นมา ฉันไม่ลังเลที่จะมองไปจุดต้นตอของเสียงเเม้จะรู้สึกกลัวเล็กๆน้อยๆก็ตาม
เมื่อฉันมองไปทางต้นตอของเสียงก็เจอกับวัตถุขนาดใหญ่ที่ดูพังยับเยินตรงข้างทาง เมื่อเห็นอย่างงั้นฉันก็เดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้เเน่ใจว่ามันคืออะไร ยิ่งเดินเข้าใกล้มากเท่าไหร่ก็เริ่มรู้ว่ามันคือ เกวียนรถม้าขนาดใหญ่สไตล์ยุคกลางของชาติตะวันตก ฉันไม่รู้ว่าทำไหมเกวียนนี่ถึงได้ตกลงมาอยู่ด้านล่างของหุบเหวเเห่งนี้ เออ… จะว่าไปม้าตัวก่อนหน้าที่ตายก็ตกลงมาด้วยนี่นา
“เเคก!…แฮก!…แฮก…”
ฉันเกือบลืมว่าต้องหาต้นตอสาเหตุของเสี่ยงนี่ก่อน มันคงจะดีหากว่าเสียงนั่นไม่ใช่ตัวประหลาด ฉันจึงเริ่มเดินเข้าใกล้มากขึ้นเสียงนั่นก็เริ่มเบาบางลงเช่นกัน จนฉันเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูเกวียนที่ซึ่งตอนนี้เสียงได้หายไปเเล้ว
ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือจับคันประตูเปิดเข้าไปดูด้านใน จนเห็นใครบางคนสวมฮู้ดสีขาวนั่งผิงอยู่ใกล้ๆขอบหน้าต่าง ฉันไม่เเน่ใจว่านั่นใช่มนุษย์หรือเปล่า เเต่เพื่อความเเน่ใจว่าเสียงนั่นมาจากคนๆนั้น ฉันจึงเดินเข้าไปให้ไกล้ๆร่างที่ผิงเเน่นิ่งนั่น หวังว่ามันคงไม่เหมือนฉากสยองขวัญ ที่จะการจั๊มสเเกร์หรอกนะ เมื่อฉันเดินมาถึงอยู่ด้านหน้าคนสวมฮู้ดสีขาวที่มีขนาดตัวเล็กกว่า พอมองดีๆเขาคงเป็นเด็ก
ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากฉันถอดฮู้ดของเขาออก หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายฉันก็เอื้อมมือถอดหมวกออกเพื่อดูใบหน้าของคนใต้ฮู้ดนั่น
พึบ…! ใบหน้าที่มีเลือดสีเเดงอาบไหลเป็นเเนวดิ่งทอดยาวลงมาจากบริเวณศรีษะ ผิดกลับหน้าตาของเธอที่มีใบหน้าอันเรียบงดงาม หากจะบอกว่าเด็กคนนี้เป็นดาราก็ไม่แปลก เเต่เด็กคนนี้เสียชีวิตไปก่อนหน้าที่ฉันจะได้ช่วยเธอ…
[(ยืนยันที่จะเพิ่มตัวละครตัวนี้ลงคอลเลคชั่นหรือไม่)]
หืม! มีตัวอักษรประหลาดปรากฏขึ้นด้านหน้า ไม่รู้ว่ามันคืออะไรทำไหมฉันถึงมองเห็นมันได้ เเต่ความรู้สึกบางที่บอกไม่ถูกราวกับว่าฉันต้องตอบคำถามนั่น
[ย…ยืนยัน]
ทันทีที่ฉันพูดออกไป จู่ๆก็รู้สึกปวดบริเวณท้ายทอยขึ้นมา มันทั้งเเสบเเละร้อนซ่าไปทั่วร่างกายอย่างบอกไม่ถูก ความทรมาณกัดกินอยู่ชั่วขณะจนฉันเริ่มไม่อาจทนกับความเจ็บปวดนี้ได้
ท้ายที่สุดฉันก็ทอยสลบไปชั่วขณะจนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้…
ฉันสัมผัสได้ถึงความเย็นจนขนเเขนเเละต้นขาขนลุกฟู่ ทำไหมถึงได้มาหนาวเอาตอนนี้ก่อนหน้าที่ฉันเดินมาระหว่างทางยังไม่รู้สึกหนาวขนาดนี้เลย
ฉันเริ่มตรวจสอบร่างกายของตัวเอง ทั้งลูบคล้ำใบหน้าเเละมองดูทั่วสรีระร่างกายจนหมดเสร็จ จึงรู้ได้ว่านี่มันไม่ใช่ร่างกายของฉัน ในตอนนี้เเขนที่เคยมีผิวคล้ำเเละมีขนาดใหญ่ กลับมีขนาดเล็กเเละสีผิวซีค ใบหน้าที่เคยมีผิวหยาบๆเเห้งๆ กลับกลายเป็นผิวอันเรียบอันนุ่มนิ่ม
สุดท้ายสีผมสีทองอันยาวไสว หรือว่าตอนนี้ฉันได้กลายเป็นเด็กสาวก่อนหน้าไปเเล้ว ฉันจึงหันไปด้านหลังที่ก่อนหน้านั่นเธอเคยนั่งผิงอยู่บริเวณนั้น เเต่ตอนนี้ร่างของเธอกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“อา…”
นี่มันชักจะประหลาดกว่าเดิมอีก เเม้เเต่เสียงก็เช่นกัน คำถามมากมายปรากฏขึ้นภายในสมอง ที่ตอนนี้กำลังทำการประมวลผลเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้อยู่
ครืด… พึบ!
[ภาชนะบรรจุวิญญาณ]
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
เพศ : หญิง
อายุ : 8 ปี
ระดับ : เบี้ย
เส้นหลอมจิตความเข้ากัน : 0.1%
จู่ๆตัวอักษรประหลาดนั่นก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับตัวหนังสือมากขึ้น ฉันยืนจ้องมองตัวอักษรเหล่านั้นด้วยความยากที่จะเข้าใจ มันคล้ายคลึงกับค่าสเตตัสหรือข้อมูลตัวละคร เหมือนเกมออนไลน์ที่ฉันเคยเล่นผ่านๆตามา
หลังจากอ่านตัวอักษรเหล่านั้นทั้งหมด ฉันก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เเล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะอยู่ในโลกอื่นเข้าเเล้วละ