รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 1040 ดินแดนใหม่ ความรู้สึกของบุตรร่อนเร่ที่ได้กลับบ้าน!

บทที่ 1040 ดินแดนใหม่ ความรู้สึกของบุตรร่อนเร่ที่ได้กลับบ้าน!

บทที่ 1040 ดินแดนใหม่ ความรู้สึกของบุตรร่อนเร่ที่ได้กลับบ้าน!

บทที่ 1040 ดินแดนใหม่ ความรู้สึกของบุตรร่อนเร่ที่ได้กลับบ้าน!

ขณะที่สิ่งมีชีวิตจากดินแดนใหม่ทั้งหกหวาดผวาเหลือแสนยังรู้สึกโกรธแค้นโศกศัลย์อีกด้วย พวกเขากลายเป็นอะไร คู่ซ้อมของสิ่งมีชีวิตมายาหรือ

ช่าง…น่าแค้นใจยิ่งนัก!

ต้องรู้ว่าสิ่งมีชีวิตมายาควรเป็นคู่ซ้อมของพวกเขาถึงจะถูก!

ทว่าพวกเขากลับกลายเป็นคู่ซ้อมของสิ่งมีชีวิตมายาเสียได้!

แต่ทั้งหกก็อับจนหนทาง ซ้ำยังต้องทำหน้าที่ ‘คู่ซ้อม’ ให้ดี เพราะหากพวกเขาเป็น ‘คู่ซ้อม’ ที่ไม่ได้ความ พวกเขาจะตายอยู่ที่นี่ ถูกจักรพรรดินีสังหาร

“ตั้งใจอยู่ฝึกปรือฝีมือให้ข้า ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายของพวกเจ้าให้ดีที่สุด”

จักรพรรดินีเอ่ยเสียงเย็น

นางจะเคี่ยวกรำตนเองที่นี่ รอบุตรแห่งสวรรค์จากดินแดนใหม่ตนอื่นไปพลาง

ถึงเวลานั้น นางจะกำราบบุตรแห่งสวรรค์จากดินแดนใหม่เหล่านี้เป็นคู่ซ้อมให้นางทั้งหมด ทันทีที่การฝึกซ้อมไม่ส่งผลแล้ว นางจะปลิดชีพอย่างสมบูรณ์

บุตรแห่งสวรรค์จากดินแดนใหม่เหล่านี้เป็นประเภทเดียวกันหมด บรรดาปรมาจารย์ดินแดนใหม่บอกบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่เหล่านี้ว่าที่นี่เป็นดินแดนอุปโลกน์ บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่เหล่านี้ล้วนไม่เก็บสิ่งมีชีวิตดินแดนนี้ไปใส่ใจ มองว่าสิ่งมีชีวิตในที่นี้เป็นชีวิตที่อุปโลกน์ขึ้นมา

สำหรับสิ่งมีชีวิตในดินแดนนี้ บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่เหล่านี้ล้วนเป็นภัยร้าย เก็บไว้ไม่ได้!

ภายในจักรวาลมิทราบนาม

ซีและเต่าชรามุ่งหน้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาเดินทางในอวกาศมานานมากแล้ว

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงดินแดนใหม่

ดินแดนใหม่นั้นกว้างใหญ่ไพศาล มีเขตแดนไกลออกไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่ พวกเขามาถึงอาณาจักรอันอยู่ขอบแดนแห่งหนึ่ง ในอาณาจักรนี้ พวกเขาได้รู้ว่าตัวเองมาถึงดินแดนใหม่แล้ว

กล่องสี่เหลี่ยมไม่ได้อยู่ในอาณาจักรนี้ หากแต่อยู่ในอาณาจักรที่ลึกกว่านี้ในดินแดนใหม่

ซีและเต่าชราไม่ได้มุ่งตรงเข้าไป พวกเขาเลือกฝึกฝนอยู่ในอาณาจักรนี้เป็นการชั่วคราว

“ดินแดนใหม่นี้ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง!”

เต่าชราสะท้อนใจเหลือแสน “สิ่งแวดล้อมในดินแดนใหม่นี้ แม้แต่หมูสักตัวยังฝึกฝนจนอยู่ในขอบเขตสูงสุดได้!”

นี่ไม่ใช่วาจาเกินจริงแต่อย่างใด

สิ่งแวดล้อมในดินแดนใหม่สมบูรณ์แบบถึงขีดสุด สสารฝึกฝนระดับสูงอันเข้มข้นอบอวลไปทั่ว บำเพ็ญอย่างขอไปทียังบรรลุระดับสูงส่งได้

ไหนจะกฎวิถีในดินแดนใหม่นี้ยิ่งน่าทึ่งเข้าไปใหญ่ ปราศจากความรู้สึก ‘สูงส่งเกินเอื้อม’ ให้ความรู้สึก ‘เข้าถึงง่าย’ ยามผู้ฝึกตนบำเพ็ญจากการสัมผัสกฎวิถีนี้ย่อมต้องสบายเหลือแสน

ซึ่งฝึกฝนได้ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย!

สสารระดับสูงชุกชุม ซ้ำกฎวิถียัง ‘เข้าถึงง่าย’ สำหรับสิ่งมีชีวิตฝึกตน ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ฝึกตนไม่อยากยกระดับในการบำเพ็ญยังยาก!

ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นดินแดนในอุดมคติอย่างแท้จริง ทุกอย่างสวยงามเหลือเกิน เป็นดินแดนที่เหมาะแก่การฝึกตนที่สุดในใจสิ่งมีชีวิตทุกตน!

“จริงอย่างที่ว่า!”

แม้แต่ซียังเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ดินแดนใหม่ปรากฏออกมาได้อย่างไร เต๋าสวรรค์บกพร่อง ไม่มีทางสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ทว่าที่นี่กลับไม่มีจุดบกพร่องสักนิด สมบูรณ์แบบราวกับอยู่ในความฝัน!”

นางสะท้านใจเหลือแสน

ดินแดนใหม่ถือกำเนิดขึ้นตามธรรมชาติหรือถูกผู้ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นกันแน่

หากถูกสร้างโดยผู้ยิ่งใหญ่สักคนจริง ๆ ก็นับว่ามหัศจรรย์น่าทึ่งอย่างยิ่งยวด!

นางรู้สึกว่าดินแดนใหม่นี้ไม่น่าเป็นสิ่งที่ถูกสร้างโดยผู้ยิ่งใหญ่ ถึงอย่างไรดินแดนใหม่ก็สมบูรณ์แบบปานนี้นับว่ามหัศจรรย์เกินจินตนาการเกินไป

ทว่าสัมปชัญญะของนางบอกว่าดินแดนใหม่มีโอกาสที่จะไม่ได้ถือกำเนิดตามธรรมชาติจริง ๆ หากแต่ถูกผู้ยิ่งใหญ่บางคนสร้างขึ้น

เต๋าสวรรค์มีความบกพร่อง ความบกพร่องถึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ หากเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่มีทางสมบูรณ์แบบไร้จุดด่างพร้อยเช่นนี้

หากสมบูรณ์แบบได้เพียงนี้นับว่าฝ่าฝืนกฎแห่งวิถีสวรรค์อย่างแท้จริง

เพราะอย่างนั้น ที่นี่อาจเป็นสถานที่ที่ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนหนึ่งรวมพลังสร้างขึ้นจริง ๆ เปลี่ยนดินแดนใหม่เป็นพื้นที่ซึ่งเหมาะแก่การฝึกฝนของสิ่งมีชีวิตที่สุด ขจัดจุดบกพร่องทั้งหมด ทำให้ดินแดนใหม่นี้เผยความไร้ที่ติออกมา

“ความรู้สึกนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก!”

เต่าชราเอ่ยขึ้น “หากเป็นตามคำกล่าวของสิ่งมีชีวิตจากดินแดนใหม่ พวกเรามาจากดินแดนเก่า เป็นสิ่งมีชีวิตมายาในดินแดนเก่า…”

“ภาพมายาก้าวสู่ความเป็นจริง เป็นความรู้สึกที่พิลึกเหลือเกิน!”

มันสะท้อนใจเหลือคณา ไม่อาจอธิบายด้วยวาจาได้เลย

“ภาพมายาเสมือนฟองอากาศ ยามมาอยู่ในดินแดนที่แท้จริงจะต้องสูญสลาย”

ซีเอ่ยด้วยดวงตาวาวโรจน์ “พวกเราใช่ฟองอากาศหรือ พวกเราสูญสลายหรือ พวกเรามาถึงดินแดนใหม่แล้วรู้สึกไม่ดีตรงไหนหรือ”

“ไม่เลย!”

“พวกเราไม่เพียงแต่ไม่มีตรงไหนไม่สบาย กลับให้ความรู้สึกวิเศษคล้ายว่า…เป็นบุตรร่อนเร่ผู้จากบ้านไปนานได้หวนคืนถิ่น ปลาบนบกที่ได้หวนคืนทะเล!”

ตัวนางเองยังไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่าอย่างไร

หลังมาถึงดินแดนใหม่ นางพลันผุดความรู้สึกประหลาดขึ้นมาจริง ๆ รู้สึกว่าดินแดนใหม่ต่างหากคือบ้านของนาง นางเป็นของดินแดนใหม่แต่แรก ไม่เหมือนภาพมายาที่ได้ก้าวสู่ความเป็นจริงสักนิด

“เดี๋ยวก่อน!”

ความลับในตัวนางมีมากเกินไป ซ้ำกล่องสี่เหลี่ยมยังหล่นไปอยู่ในส่วนลึกที่สุดของดินแดนใหม่ บางที แต่เดิมนางอาจเป็นสิ่งมีชีวิตในดินแดนใหม่จริง ๆ ดินแดนใหม่อาจเป็นบ้านที่นางอยู่อาศัยแต่แรก

“ข้า…ไม่รู้สึก!”

เต่าชราส่ายหัว มันลองใช้ใจสัมผัส ไม่ได้มีความรู้สึกหวนคืนถิ่นแต่อย่างใด

ทว่ามันก็ไม่รู้สึกเหมือนตนเป็นเพียงฟองอากาศด้วย

แม้ว่าดินแดนใหม่ไม่ได้ให้ความรู้สึกกลับบ้านกับมัน ทว่าก็สร้างความรู้สึกสบายใจให้มันได้มาก ไม่ได้รู้สึกไม่สบายอันใด

“เช่นนี้ดูแล้ว มีเพียงข้าที่รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน…”

ซีหรี่ตาลงกึ่งหนึ่ง ดูท่า ความลับในตัวนางเกี่ยวข้องกับดินแดนใหม่ ไม่แน่ดินแดนใหม่อาจเป็นถิ่นอาศัยของนางในอดีตจริง ๆ เดิมทีนางเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่อยู่แล้ว

ต่อมา ไม่รู้เพราะเหตุใดนางถึงไปอยู่ในดินแดนเก่า

“ต้นสายปลายเหตุจะต้องถูกเปิดเผยในดินแดนใหม่!”

“แน่นอน!”

เต่าชราเอ่ย “ยังมีเรื่องที่เหตุใดพวกเราถึงถูกอุปโลกน์ขึ้นก็ต้องได้คำตอบจากดินแดนใหม่”

มันไม่เคยเชื่อว่าตัวเองนั้นคือภาพมายา และหลังมาเยือนดินแดนใหม่ มันยิ่งไม่รู้สึกว่าตนคือภาพมายา

ในสายตาของมัน ทุกอย่างในดินแดนเก่าล้วนดำรงอยู่จริง หาใช่ภาพมายา เพียงแต่สิ่งมีชีวิตจากดินแดนใหม่อุปโลกน์ทุกอย่างในดินแดนเก่าขึ้น ทำให้ดูไม่มีอยู่จริง

“ถูกต้อง! พวกเราเพียงแต่ถูกทำให้ดูไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ภาพมายาจริง ๆ!”

ซีพยักหน้าพลางเอ่ย “เหล่าปรมาจารย์ในดินแดนใหม่ต้องซ่อนความลับใหญ่หลวงบางอย่างไว้แน่ ความลับซึ่งเกี่ยวข้องกับดินแดนเก่า! เพราะอย่างนี้พวกเขาถึงทำให้ดินแดนเก่าดูไม่มีอยู่จริง!”

“ต้องเป็นความลับใหญ่หลวงเช่นไรกัน ต้องให้เหล่าปรมาจารย์ดินแดนใหม่ทุ่มเททำให้พวกเราดูไม่มีอยู่จริงถึงเพียงนี้”

เต่าชราครุ่นคิดอย่างไรก็ไม่ได้คำตอบ “จุดประสงค์ของการทำให้ดูไม่มีอยู่จริงคืออะไร ความหมายของการทำให้ดูไม่มีอยู่จริงไม่ใช่เพราะไม่ต้องการยอมรับการดำรงอยู่ของพวกเรา ต้องการลบล้างร่องรอยของพวกเราหรอกหรือ”

“ทว่าพวกเขาทำลายดินแดนเก่าให้ราบคาบไม่ดีกว่าหรือ”

“หากเป็นเช่นนี้ การดำรงอยู่ของพวกเราก็จะไม่มีอีกต่อไป และไม่ต้องเอ่ยถึงร่องรอยอันใดอีก”

เต่าชรากล่าวต่อ “ด้วยฝีมือของเหล่าปรมาจารย์ดินแดนใหม่ การลบล้างดินแดนเก่าทั้งผืนคงง่ายดายกระมัง”

“นอกจากนี้ ดินแดนใหม่สมบูรณ์แบบถึงเพียงนี้ เหนือกว่าดินแดนเก่าในทุก ๆ ด้าน พวกเขาไม่จำเป็นต้องเก็บดินแดนเก่าไว้เลย!”

นี่เป็นจุดที่มันคิดไม่ตก

ในเมื่อทำให้ดินแดนเก่าดูไม่มีอยู่จริง ไม่สู้ทำลายทิ้งโดยตรง ไม่จำเป็นต้องอุปโลกน์ให้เปลืองแรงเช่นนี้

“ดินแดนเก่าย่อมต้องไม่ธรรมดา มีความลับลึกล้ำกว่านี้ซ่อนอยู่แน่ ๆ!”

ซีเอ่ยด้วยความมั่นใจ

นางเองก็ขบคิดปัญหานี้อยู่เหมือนกัน

“ข้ารู้สึกว่า บรรดาปรมาจารย์ในดินแดนใหม่ไม่สามารถทำลายดินแดนเก่าได้จริง ๆ แต่ก็ไม่ต้องการให้ดินแดนเก่าดำรงอยู่ จึงต้องทำให้ดูไม่มีจริงเช่นนี้ เพื่อทำให้การมีอยู่ของเราอ่อนบางลง แล้วค่อย ๆ ลบร่องรอยของพวกเราไปทีละน้อย!”

นางอธิบายการคาดเดาของตน

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของนางเท่านั้น ความจริงเป็นอย่างไรนางไม่รู้ และไม่แน่ใจ

“ฝึกฝนเถิด ส่วนลึกของดินแดนใหม่ใช่ว่าเข้าได้ง่าย ๆ…”

ซีปริปาก

นางกับเต่าชรามายังบริเวณหนึ่งแล้วเริ่มฝึกฝน

ทว่าการฝึกฝนของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นเท่าใด

เพราะพวกเขาฝึกกันไปได้ไม่นานก็มีสิ่งมีชีวิตมาที่นี่กันมากมาย!

เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้พุ่งเป้ามาที่พวกเขา เป้าหมายชัดเจนแจ่มแจ้ง ตรงมายังบริเวณฝึกฝนของพวกเขาและล้อมไว้มิด

“เกิดอะไรขึ้น?!”

เต่าชราตาโต หลังมันกับซีมาถึงอาณาจักรนี้ก็ไม่เคยทำตัวเอิกเกริก สงวนพลังปราณอยู่ตลอด

ต่อให้ในยามฝึกฝน พวกเขาก็ตั้งค่ายกลไว้หลายชั้นเพื่อปกปิด

สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้รู้เรื่องและพบตัวพวกเขาได้อย่างไร

“ภาพมายาก้าวสู่ดินแดนที่แท้จริง เรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้เกิดขึ้นได้ด้วยหรือ!”

สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งมองซีและเต่าชราด้วยสายตาประหลาดเหลือแสน ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน

ดูท่าเขาล่วงรู้ตัวตนของซีและเต่าชราอย่างเห็นได้ชัด รู้ว่าซีและเต่าชรามาจากดินแดนเก่าอันเป็นภาพมายา

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น

เขาล่วงรู้ตัวตนของซีและเต่าชราจริง ขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตที่มาที่นี่ก็รู้ตัวตนของซีและเต่าชรากันหมด

แน่นอนว่าไม่ใช่พวกเขาที่สืบได้

หากแต่เป็นปรมาจารย์ดินแดนใหม่แจ้งพวกเขามา

ยามพวกเขาทราบข่าวต่างอึ้งงันกันหมด ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ล้วนกำลังรับศึกอยู่ในสมรภูมิแห่งหนึ่ง พวกเขาอยากติดต่อเหล่าปรมาจารย์ก็ยังติดต่อไม่ได้

เมื่อคราวปรมาจารย์ดินแดนใหม่ติดต่อพวกเขาด้วยตนเอง จะไม่ให้พวกเขาตะลึงได้อย่างไร

ชั่วขณะนั้น พวกเขารู้ว่าคงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

หากไม่ใช่เช่นนั้น ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ไม่มีทางติดต่อพวกเขามาเอง

ตามคาด เกิดเรื่องใหญ่จริง ๆ ปรมาจารย์ดินแดนใหม่บอกพวกเขาว่ามีสิ่งมีชีวิตมายาดินแดนเก่ามาเยือนดินแดนใหม่ สั่งพวกเขาให้กำจัดสิ่งมีชีวิตมายาดินแดนเก่าให้จงได้!

นอกจากนี้ ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ยังทิ้งคำชี้แนะให้พวกเขา

พวกเขามาถึงที่นี่ได้โดยอาศัยคำชี้แนะนี้จากปรมาจารย์ดินแดนใหม่

ข่าวนี้สร้างความทึ่งให้พวกเขาในระดับที่ไม่อาจพรรณนาด้วยวาจา

สิ่งที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นทลายแบบแผนดั้งเดิมจนมายังดินแดนที่แท้จริงได้เชียวหรือ

สวรรค์ เรื่องนี้เหลือเชื่อมากพอ ทำลายโลกทัศน์ในใจพวกเขาจนสิ้น!

“มีผู้ยิ่งใหญ่ดินแดนใหม่หมายหัวพวกเราหรือ”

ซีพึมพำเสียงเบา นางกับเต่าชราเงียบเชียบปานนี้ ซ้ำยังแทบไม่ได้ข้องแวะกับสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ แต่กลับยังถูกจับได้

ซ้ำยังมีสิ่งมีชีวิตมาหาเป็นจำนวนมาก

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนใหม่หมายหัว ผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนใหม่จับพวกเขาได้แล้ว!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Score 10
Status: Completed
‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน! ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

Options

not work with dark mode
Reset