[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ 88 [3] การตรวจสอบ [Part 2]

ตอนที่ 88 [3] การตรวจสอบ [Part 2]

 

―――ระหว่างที่ฉันบรรยายถึงวัตถุดิบและวิธีการรับมือกับอันตราย พระอาทิตย์ก็คล้อยต่ำลงมาเรื่อยๆ แล้ว จนตอนนั้น ในที่สุดพวกเราก็เจอที่ๆ ออกจะเปิดโล่งหน่อยจนได้ เราก็เลยตั้งสินใจจะตั้งแคมป์กันตรงนี้

คราวนี้ฉันเตรียมอาร์ติแฟกต์ [size=10pt](อุปกรณ์แปรธาตุ)[/size] สำหรับตั้งแคมป์มาด้วยหลักๆ 2 ชิ้น

ก็คือโฟลทติ้งเต็นท์ที่เพิ่งทำเสร็จไม่นาน กับเตาไฟพลังเวทพกพา

พวกคุณอังเดรพกอาร์ติแฟกต์ไล่แมลงมาด้วย ส่วนเต็นท์หลังนี้มีคุณสมบัติแบบนั้นติดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็น แต่ฉันไม่ได้เตรียมอาร์ติแฟกต์เวทมนตร์อะไรที่ใช้ป้องกันการตรวจจับของสัตว์ร้ายหรือใช้สร้างแสงมาเลยล่ะนะ

ก่อนอื่น ก็ตระเตรียมเครื่องนอนพร้อมกับกางโฟลทติ้งเต็นท์ออก พวกคุณก็เดินเข้ามาหาทางนี้อย่างสงสัยใคร่รู้เลย

 

“โห นี่เองเหรอเต็นท์ที่เลื่องลือน่ะ เป็นหัวข้อที่นักเก็บสะสมเราคุยกันให้แซ่ดเลยนะเนี่ย”
“นี่คุณอังเดรกับคนอื่นๆ เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหรอคะ? ตอนนี้เรามีขายอยู่ร้านด้วย ถ้าพวกคุณสนใจล่ะก็ มาดูของก่อนได้นะคะ”
“หลังจากใช้ไปแล้ว พวกคุณต้องอยากได้ไว้ซักหลังแน่ค่ะ”
“จริงนะคะ สบายมากเลย”
“งั้นเรอะ? …ขอลองเข้าไปดูซักแป๊บได้มั้ยเนี่ย?”
“ได้ค่ะ เชิญเลย”

 

พอฉันเปิดประตูทางเข้าเต็นท์แล้วกวักมือเรียกพวกเขา คุณอังเดร คุณกิล แล้วก็คุณเกรย์ ก็ก้าวขึ้นมาบนพื้นที่ลอยอยู่ด้วยอารมณ์?ผสมกันระหว่างความตื่นเต้นกับความระแวงนิดหน่อย พอพวกเขาเอนหลังลงนอน พวกเขาทั้ง 3 คนก็อุทานออกมาพร้อมๆ กันเลย

 

“น- นี่มัน นุ่มกำลังดีเลยนะเนี่ย”
“สุดยอด! นอนสบายจนเหลือจะเชื่อเลย!”
“นี่มันสบายกว่าเตียงในโรงเตี๊ยมอีกนะ แถม ข้างในก็เย็นด้วย…”
“งั้นเหรอคะ? เป็นยังไงบ้างล่ะคะ?”

 

ฉันไม่ได้มั่นใจหรอกนะว่ามันนอนได้สบายขนาดนั้นเลยหรือเปล่า―――แต่สัมผัสที่รู้สึกตัวจมลงไปแบบกำลังดีเนี่ยมีส่วนที่ทำให้นอนได้สบายอยู่มากเลยล่ะ ถ้าปูผ้านวมเอาไว้ในช่วงฤดูหนาวหรือปูพวกของอย่างเสื่อฟางเอาไว้ในช่วงฤดูร้อน ยังไงก็ต้องนอนหลับได้อย่างสบายแน่นอน

 

“แต่ว่า คงแพงน่าดูสินะ? เจ้าเต็นท์นี่น่ะ”
“ใช่ค่ะ ค่อนข้างแพงประมาณนึงเลย ถ้าติดตั้งคุณสมบัติเพิ่มเติมเข้าไปก็จะแพงขึ้นอีกนะคะ”

 

เต็นท์หลังนี้น่ะมาพร้อมกับคุณสมบัติในการไล่แมลงและปรับอากาศอยู่ด้วย แต่สำหรับคนที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ พวกคุณสมบัติอย่างการแจ้งเตือนเมื่อมีตัวอันตรายเข้ามาใกล้หรือการเปล่งแสงสว่างออกมาโดยรอบก็สะดวกดีเลยล่ะ

หลังจากที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาของเต็นท์ที่ขึ้นกับขนาดและคุณสมบัติในตัวกับพวกคุณอังเดรที่ออกมาจากเต็นท์กันแล้วเรียบร้อย พวกเขาก็ยืนกอดอก เริ่มครุ่นคิดกัน

 

“อืม… เงินเก็บข้าตอนนี้ซื้อไม่ไหวหรอกนะ แต่…”
“อาร์ติแฟกต์ประเภทนี้ ราคาไม่ถูกอยู่แล้วค่ะ”
“อึม ถ้าใช้เจ้านี่เนี่ย การเก็บรวบรวมของคงราบรื่นขึ้นเยอะ—เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อนนะ มาลองคิดๆ ดูแล้วเนี่ย นี่ไม่ใช่ว่าเราตั้งใจจะมาเก็บวัตถุดิบกันในตอนที่ค้างคืนหรอกเรอะ?”

 

พอคุณเกรย์พูดแบบนั้น อีก 2 คนที่เหลือก็ดูเหมือนจะตกใจกันใหญ่เลยนะ แล้วพวกเขาหันมามองที่ฉันกันเป็นตาเดียว  

 

“เพิ่งรู้ตัวกันสินะคะ?”

 

อื้อ อันที่จริงแล้วเนี่ย อาร์ติแฟกต์แบบนี้ก็ไม่ได้จำเป็นสำหรับนักเก็บสะสมส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้อยู่แล้วล่ะนะ

กลับกัน มันน่าจะจำเป็นสำหรับพวกกลุ่มคนค้าขายที่ต้องเดินทางกันไกลๆ อย่างคุณเกรทส์หรือคุณดาร์นามากกว่า

แต่คุณดาร์นาที่ก็แค่เดินทางไปเมืองเซาว์ท สแตรกเป็นพักๆ เพื่อไปซื้อสินค้า เขาก็ไม่ได้ต้องใช้บ่อยด้วย แม้แต่คุณเกรทส์เองที่อาจจะได้ใช้บ่อยหน่อย เขาก็เพิ่งจะซื้ออาร์ติแฟกต์อย่างฮาเวสเตอร์ให้พ่อแม่เขาไปเอง เขาคงไม่มีเงินพอมาซื้อโฟลทติ้งเต็นท์หรอก

 

“เป็นอะไรมั้ย ซาราสะจัง? จากที่รู้จักซาราสะจังมา ข้าก็ไม่ได้คิดว่าหนูจะไปบังคับให้ใครมาซื้อหรอกนะ แต่…”

 

คุณอังเดรถามมาว่ามีเสียงบ่นมาจากพวกนักเก็บสะสมที่ซื้อโฟลทติ้งเต็นท์ไปมั้ย ซึ่งฉันก็พยักหน้ายอมรับ

 

“มีค่ะ แน่นอน แต่ว่า ถ้าเกิดความถี่ในการได้ใช้งานต่ำเกินไป มันก็เป็นการเสียของเปล่าๆ และเสียงตำหนิก็อาจจะเพิ่มขึ้นก็ได้ เพราะแบบนี้แหละค่ะ ฉันถึงอยากจะกระจายข้อมูลเกี่ยวกับส่วนลึกของทะเลป่าออกไป”

 

ยิ่งลึกเข้าไปในป่า นักเก็บสะสมก็ยิ่งทำเงินได้มากขึ้น แล้วฉันก็มีวัตถุดิบให้รับซื้อมากขึ้นตามไปด้วย

ถ้าจะมีการค้างคืนกัน พวกอาร์ติแฟกต์ที่ช่วยในการตั้งแคมป์ก็จะขายได้ ไม่ใช่แค่โฟลทติ้งเต็นท์อย่างเดียวด้วย

แต่เดิมที มันก็ควรจะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายเลยนะ แต่ว่า…

 

“ปัญหามันอยู่ที่การหาสมดุลกันระหว่างการกระจายข้อมูลกับทักษะและความรู้ความสามารถของนักเก็บสะสมสินะคะ”
“ถูกต้องตามนั้นเลยค่ะ…”
“ฉันกับไอริสยังถามเรื่องต่างๆ จากคุณผู้จัดการได้ แต่กับคนอื่นๆ เขาไม่มีทางเลือกให้ทำแบบนั้นล่ะนะ”

 

จะว่าไป การเรียนรู้จากประสบการณ์และความรู้เรื่องพวกนี้จากนักเก็บสะสมรุ่นพี่ก็เป็นเรื่องที่ทำกันอย่างปกติอยู่แล้ว

แต่ก็นั่นแหละ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ หมู่บ้านนี้มีช่องว่างระหว่างรุ่นอยู่ด้วย

 

“แล้วพวกเราเองก็คาดหวังเรื่องนี้จากกลุ่มคุณอังเดรอยู่ด้วย ได้ใช่มั้ยคะ?”

 

พอได้ยินฉันว่า พวกคุณอังเดรก็ขมวดคิ้วเข้ามาอย่างงงๆ กันหมดเลย

 

“พวกข้าน่ะเรอะ… พวกข้าก็ได้ยินได้ฟังพวกคำแนะนำมาจากพวกรุ่นพี่อีกทีก็จริงอยู่ แต่สมัยนั้น ข้าก็ไม่ได้เก่งพอจะมุ่งลึกเข้าไปในป่ากันได้หรอกนะ”
“นั่นสิ แค่ได้ฟังมานิดเดียวเอง”

 

แสดงว่าขนาดกลุ่มของคุณอังเดรก็ยังไม่ได้มีประสบการณ์ภาคสนามเท่าไหร่เลยด้วยสินะ

 

“เอาเถอะ ยังไงพวกข้าก็จะเต็มที่อยู่แล้ว เหมือนที่เมื่อก่อน พวกพี่ๆ เคยช่วยพวกข้ามาบ้างไง”
“ค่า ขอฝากด้วยนะคะ ฉันจะเอาความรู้ที่มีมาช่วยสนับสนุนพวกคุณอย่างเต็มที่เลย”

 

ถ้าพวกคุณหาประสบการณ์ได้จากคำขอครั้งนี้ ฉันก็ยินดีนะ

มื้อเย็นวันนี้เป็นซุปผักแห้งกับเนื้อแห้ง และขนมปังอบแห้ง

เรื่องน้ำนี่ฉันใช้เวทมนตร์เสกเอาก็ได้ แบบนั้นก็ช่วยลดสัมภาระลงได้ด้วย มีประโยชน์มากเลยล่ะในสถานการณ์แบบนี้

ข้อเสียของมันคือมันไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่นี่ก็พอทานได้ เพราะฉะนั้นก็พอแล้วล่ะ

 

“นานแล้วเหมือนกันนะคะ ที่ฉันไม่ได้ทานอาหารแบบนี้น่ะ”

 

 

ตอนที่ฉันหลุดพูดออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ คุณกิลที่ได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้นข้างนึง

 

“ซาราสะจัง ที่บอกว่า นานแล้วเหมือนกัน นี่ แสดงว่าหนูเคยกินอะไรประมาณนี้มาก่อนแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ประมาณนั้น”
“หืม? เป็นแบบนั้นเหรอคะ? ฉันมีภาพจำว่านายท่านผู้จัดการชอบทานอาหารอร่อยๆ มาตลอดเลยนะคะเนี่ย”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ น่าอายจัง ตั้งแต่ที่ร้านคุณดีรัลเริ่มคนแน่น ฉันก็ทานแบบนี้อยู่ตลอดเลย ถึงขนมปังจะเป็นแบบทั่วๆ ไปก็เถอะ”
“อะไรกัน? แบบนั้นเองเหรอคะ?”
“ค่ะ คงเพราะโลเรียจังทนเห็นฉันทำแบบนั้นไม่ได้ เธอเลยเริ่มทำอาหารให้ฉันตั้งแต่นั้นมาเลย”

 

มื้ออาหารอร่อยๆ ที่คุณไอริสพูดถึงเมื่อกี้นี้น่ะ ฉันเพิ่งจะเริ่มได้ทานก็หลังจากที่ห้องครัวโดนพวกเฮล เฟลม กริซลีทุบไป แล้วฉันก็ติดตั้งเตาไฟพลังเวทเข้ามานั่นแหละ

ที่โลเรียจังคอยช่วยออกไปซื้อของให้ เอาขนมมาให้ ฉันก็ดีใจแล้วนะ แต่ตั้งแต่ที่เธอเริ่มทำอาหารให้ฉันทุกวันเลยเนี่ย แต่ละมื้อๆ ของฉันก็ดูดีขึ้นมากโขเลย เรื่องนี้ต้องขอบคุณเธอมากๆ เลยล่ะ

 

“เห ซาราสะจังทำอาหารไม่ค่อยเก่งงั้นเหรอเนี่ย?”
“เปล่าหรอกค่ะ ไม่ใช่ว่าทำอาหารไม่ได้อะไรขนาดนนั้น แต่ฉันก็จะไม่บอกว่าตัวเองทำอาหารได้ดีหรืออะไรหรอกนะคะ ฉันแค่อยากใช้เวลากับการเล่นแร่แปรธาตุมากกว่าไปทำอาหารเท่านั้นเอง”
“หืม ถ้าเด็กอายุน้อยแบบซาราสะจังมาเปิดร้านแบบนี้เนี่ย การตั้งเป้าเอาไว้แบบนั้นก็จำเป็นล่ะนะ”
“…มัน คือ ก็ใช่นะคะ?”

 

ฉันตอบรับคุณเกรย์ที่พยักหน้าอย่างเข้าใจด้วยคำพูดที่ออกจะคลุมเครืออยู่หน่อยๆ

ฉันต้องดิ้นรนสุดแรงเลยเพื่อจะรักษาคะแนนสูงสุดหรือสอบให้ได้หนังสือรับรองการเล่นแร่แปรธาตุ แต่พอเป็นเรื่องร้านแล้วนี่ จะใช้คำว่า “โดยบังเอิญ” หรือ “โดยไม่ได้ตั้งใจ” มาอธิบายสถานการณ์ของฉันนี่ ก็เลือกยากอยู่นะ

 

“จะว่าไป แล้วเรื่องเวรเฝ้าระวังตอนกลางคืนล่ะ? แบ่งเป็นคู่ๆ ผลัดกันเป็น 3 กะดีมั้ย?”
“ฉันใช้เวทมนตร์แจ้งเตือนเอาไว้แล้วค่ะ ต่อให้ไม่มีใครคอยดูอยู่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“เวทมนตร์เรอะ… ไม่ใช่ว่าพวกข้าไม่ไว้ใจหนูนะ ซาราสะจัง แต่…”
“ถ้าพวกคุณกังวล จะอยู่เวรเฝ้ายามด้วยฉันก็ไม่ขัดนะคะ”

 

สำหรับเหล่านักเก็บสะสมรุ่นเก๋าอย่างพวกคุณอังเดรแล้ว นี่ก็เป็นการเฝ้าระวังคลตามปกติอยู่แล้วล่ะนะ

แต่คุณไอริสส่ายหัวทันทีเลย

 

“ไม่ค่ะ! ฉันเชื่อใจนายท่านผู้จัดการอยู่แล้วค่ะ!”
“ไอริส เธอก็แค่ไม่อยากต้องตื่นมาเฝ้าเวรไม่ใช่หรือไง”
“อันนั้นก็ด้วย!”

 

แบบนั้นหรอกเหรอ!? ไม่สิ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้วล่ะนะ

 

“ถึงยังไงฉันก็เชื่อในเวทมนตร์ของนายท่านผู้จัดการมากกว่าการเฝ้าระวังของฉันอยู่แล้วนี่นา”
“…ก็จริงของเธอนะ แล้วคุณอังเดรล่ะคะ พวกคุณจะทำยังไงกัน?”
“พวกข้าเรอะ… คิดว่าจะผลัดกันเฝ้าเวรดีกว่า โทดทีนะ ซาราสะจัง แต่พอจะเก็บแสงเอาไว้ก่อนได้มั้ย? สลัวๆ ก็ยังดี”

 

หลังจากที่ลังเลอยู่พักนึง คุณอังเดรก็ให้ข้อสรุปที่ได้ในท้ายที่สุด ฉันก็พยักหน้าให้

 

“ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอฝากด้วยนะคะ”

 

TN: เอาอีกแล้ว คำพูดของฟิริโอเน่ลอยกลับมาอีกแล้ว 555

“…ถ้าเริ่มคิดว่าสะดวกดีจังล่ะก็ นั่นน่ะอันตรายแล้วนะ เพราะมันจะออกห่างจากคำว่า [แต่งงาน] ไปเรื่อยๆ เหมือนกัน…”

 

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

Score 10
Status: Completed
แทบจะเป็นหนทางเลี้ยงชีพทางเดียวเลยที่จะเจริญขึ้นมาได้สำหรับเด็กกำพร้าตัวคนเดียว นั่นคือการเอาหนังสือรับรองการเล่นแร่แปรธาตุแห่งชาติมาให้ได้! ซาราสะ เด็กสาวที่จบจากวิทยาลัยหลวงฝึกสอนนักเล่นแร่แปรธาตุ สถานที่ที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากความสามารถของผู้เรียน ได้รับการเสนอร้านแห่งนึงมาจากอาจารย์ของเธอ เธอเริ่มออกเดินทางภายใต้การมองส่งของอาจารย์ผู้ใจกว้าง เฝ้าฝันถึงชีวิตที่สวยงามกว่าทั่วๆ ไปในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่ว่า ในสถานที่แบบนี้ ถ้าเธอไม่เปิดร้านล่ะก็ ชีวิตแบบนั้นก็ไม่มีวันมาถึงแน่―― เธอที่รายล้อมด้วยพนักงานทำงานพิเศษที่น่ารัก กับชาวบ้านที่เป็นมิตร เป้าหมายอยู่ที่การเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของประเทศอย่างเต็มตัวให้ได้! ชีวิตทำงานอันสโลว์ไลฟ์เริ่มเปิดให้บริการแล้ว! (เรื่องนี้แปลจากฉบับ LN ภาษาญี่ปุ่น)

Options

not work with dark mode
Reset