EG บทที่ 723 ตัดสินใจ
จางรุ่ยเฉียงและเลขาซวี่มองหน้ากัน ควบรวมกิจการหรอ? ควบรวมกิจการคืออะไร?
จางรุ่ยเฉียงพูดไม่ออกในขณะที่เขามองหน้าเฝิงหยู่ เจ้าเด็กบ้านี่หยุดพูดกลางคันอีกแล้ว ทำไมเขาถึงไม่พูดให้มันจบๆ ทีเดียว?
“คุณน่าจะคิดถึงวิธีการควบรวมกิจการไว้แล้ว ไหนบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้สิ”
เฝิงหยู่หยิบถ้วยน้ำชาของเขาแล้ววางลงบนโต๊ะ เขาดื่มชาจนหมดแล้ว จางรุ่ยเฉียงกลัวว่าเฝิงหยู่จะเรียกเลขาของเลขาซวี่เข้ามาเทน้ำชาให้เขา เขาเลยรีบผลักถ้วยน้ำชาของเขาไปหาเฝิงหยู่ทันที “ผมยังไม่ได้ดื่มชาถ้วยนี้เลย”
เฝิงหยู่หยิบขึ้นมาและดื่มชาจนหมดถ้วย หลังจากนั้น เขาก็มองถ้วยของเลขาซวี่
นี่คือห้องทำงานของเลขาซวี่และเขาใช้ถ้วยชาส่วนตัวของเขา เขาจะมอบให้กับเฝิงหยู่ได้ยังไงกัน? เลขาซวี่รีบเรียกให้เลขาของเขาชงชามาอีกสองถ้วยทันที
เฝิงหยู่พอใจแล้วพูดว่า “การควบรวมกิจการมีสองรูปแบบครับ แบบแรกเป็นการควบรวมบริษัทเล็กๆ ทั้งหมดที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและมารวมเข้ากับบริษัทใหญ่ วิธีนี้ทำให้สินทรัพย์ ขนาดธุรกิจ และอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อแนะนำแบรนด์ใหม่ บริษัทนี้จะใหญ่ขึ้นและจะง่ายขึ้นสำหรับพวกเขาในการทำการตลาดให้แบรนด์ของพวกเขา หากบริษัทกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน บริษัทจะเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อแบรนด์ดังกล่าว แน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นภายในข้ามคืนและต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลจากการสร้างแบรนด์”
“ทางออกที่สองคือการใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง บริษัทขนาดเล็กกว่าทั้งหมดในอุตสาหกรรมเดียวกันจะรวมเข้ากับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้วและกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัทนั้น สินค้าของพวกเขาจะใช้ชื่อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงนั้น บริษัททั้งหมดจะเห็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นและเร็วกว่าวิธีแรก คุณจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาอันสั้น”
จางรุ่ยเฉียงขมวดคิ้ว “คุณกำลังพยายามบอกให้เราเลือกวิธีที่สองงั้นหรอ? คุณคิดที่จะรวมบริษัทเครื่องจักร บริษัทเภสัชกรรม และบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเข้ากับบริษัทของคุณใช่มั้ย?”
เฝิงหยู่ตอบด้วยน้ำเสียงภูมิใจ “คุณอยากให้บริษัทที่เกือบจะล้มละลายพวกนั้นรวมตัวกันเองและกลายเป็น บริษัทย่อยของบริษัทผมงั้นหรอ? คุณต้องถามพนักงานของบริษัทผมก่อนนะและดูว่าพวกเขาเต็มใจหรือเปล่า!”
ให้ตายสิ! ตาเฒ่าจางเริ่มฉลาดขึ้นแล้ว เขาเดาออกว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรอ?
เฝิงหยู่วางแผนที่จะให้โรงงานขนาดเล็กพวกนั้นรับงานรับจ้างให้เพื่อบริษัทของเขา โรงงานเครื่องจักรขนาดเล็กพวกนั้นอาจจะไม่สามารถผลิตเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ที่ดีได้ แต่พวกเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการผลิตชิ้นส่วนสำหรับโรงงานหลัก
อย่างไรก็ตาม บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงก็ยังต้องซื้ออะไหล่จำนวนมาก กำไรจากการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน ถ้ารถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์เป็นแบรนด์ของซงเจียงแล้วล่ะก็ ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยต์นซงเจียงจะเลือกใช้อะไหล่ซงเจียง คนส่วนใหญ่ยังคงชอบอะไหล่ของแท้อยู่
สิ่งนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตของบริษัทเครื่องจักรเมืองปิง และเพิ่มผลกำไรได้ นอกจากนี้ ยังจะช่วยแก้ปัญหาปวดหัวของรัฐบาลท้องถิ่นด้วย
เหมือนกันสำหรับโรงงานอิเล็กทรอนิกส์และเภสัชกรรม สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ บริษัทขนาดเล็กพวกนั้นสามารถรวมเข้ากับแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะรวมทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาเพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์เพียงแบรนด์เดียว ซึ่งจะง่ายกว่าเมื่อเทียบกับการที่บริษัทเล็กๆ พวกนั้นต้องพยายามต่อสู้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ดูจากผู้ที่ใช้เงินมากที่สุดในการประมูลช่วงเวลาโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ CCTV เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็คือโรงกลั่นสุราคอนฟิวเชียส บริษัทนี้ได้รวมทรัพยากรของบริษัทขนาดเล็กจำนวนมากและตลาดภายใต้แบรนด์เดียว ซึ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพมากและยอดขายของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วก็ยอดเยี่ยมมาก
ในปีนี้โรงกลั่นสุราคอนฟิวเชียสได้เปิดตัวไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสในท้องถิ่น และพวกเขาก็เป็นผู้ประมูลช่วงเวลาโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ CCTV สูงสุด ไวน์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์
ตอนนี้ไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสได้ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว ลูกค้าหลายคนจะสั่งเหล้าขาวยี่ห้อนี้ที่ร้านอาหารเป็นตัวเลือกแรกก่อนเลย ผู้บังคับบัญชาที่ไม่ได้เรียนมาสูงก็มีแนวโน้มที่จะชอบแบรนด์นี้เพราะสโลแกนจากโฆษณาที่บอกว่า ดื่มไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสและเขียนเรียงความที่ดีที่สุด!
ผู้บังคับบัญชาพวกนั้นอาจจะไม่เคยเขียนเรียงความได้ตอนสมัยอยู่โรงเรียนประถม!
ไวน์จัดเลี้ยงคอนฟิวเชียสนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวหลังจากที่มีการควบรวมโรงกลั่นขนาดเล็กบางแห่งเข้าด้วยกันแล้ว พวกเขาควบรวมและบริหารจัดการแบรนด์เดียว เมื่อแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ได้รับความนิยม โรงกลั่นทุกแห่งก็สามารถทำเงินได้ แบบนี้ดีกว่าที่แต่ละคนต้องพยายามทำการตลาดให้แบรนด์ของตนเอง
เลขาซวี่กำลังลังเล สิ่งที่เฝิงหยู่พูดนั้นดูเหมือนจะเป็นจริง แต่แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจังหวัดหลงเจียง ได้แก่ บริษัทเครื่องจักรเมืองปิง และบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง ทั้งสองเป็นบริษัทของเฝิงหยู่ นอกเหนือจากสองบริษัทนี้แล้ว ไม่มีแบรนด์ของบริษัทอื่นที่มีชื่อเสียงเลย ยังมีอีกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงนั่นก็คือหมูเทียนเผิง ซึ่งไม่ใช่บริษัทของเฝิงหยู่ ……. แต่ก็เป็นบริษัทของพ่อเฝิงหยู่!
นั่นหมายความว่าหากเฝิงหยู่หรือบริษัทของเขาไม่เข้าร่วมในการควบรวมกิจการครั้งนี้ รัฐบาลระดับจังหวัดจะต้องใช้วิธีแรกตามที่เฝิงหยู่ได้กล่าวไว้งั้นหรอ? รวมบริษัทขนาดเล็กเข้าด้วยกันเพื่อจัดตั้งบริษัทขนาดใหญ่และเปิดตัวแบรนด์ใหม่หรอ?
อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นเหมือนที่เฝิงหยู่กล่าวไว้ มันจะประสบความสำเร็จ แต่จะใช้เวลานาน เลขาซวี่ทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว
เลขาซวี่ต้องการผลงาน หากเขาไม่สามารถทำผลงานที่โดดเด่นได้ในเร็วๆ นี้ เขาจะต้องถูกขอให้เกษียณและกลับไปอยู่เบื้องหลังแน่ๆ
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นอีก การดำเนินการตามแผนนี้จะใช้เวลาพอสมควร หากเขาเลือกวิธีแรกเขาจะถูกย้ายออกไปก่อนที่เขาจะเห็นผลลัพธ์ จะเกิดอะไรขึ้นกับแผนนี้หลังจากเขาถูกย้ายไปแล้ว?
นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนต้องอยู่ในตำแหน่งอย่างน้อยหนึ่งวาระ ระยะเวลาที่สั้นที่สุดของการดำรงตำแหน่งคือ 2 ปีและสูงสุดคือ 5 ปี ที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีเวลาในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ตามแผนที่พวกเขาเสนอ
แต่ไม่ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะเห็นผลได้ในทันที
“ผู้จัดการเฝิงครับ ผมคิดว่าบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสามารถควบรวมกับโรงงานเครื่องจักรขนาดเล็กบางแห่งได้หรือคุณสามารถเข้าซื้อกิจการเลยก็ได้นะครับถ้าคุณต้องการ” เลขาซวี่กล่าว
เฝิงหยู่ส่ายหน้า “อุปกรณ์ส่วนใหญ่ของโรงงานเครื่องจักรพวกนั้นเก่ามาก แถมยังไม่มีเทคโนโลยีอีก คนงานและผู้นำก็ไม่ค่อยเก่งมากเช่นกัน นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วย มันไม่คุ้มที่จะเข้าซื้อกิจการ อีกอย่าง รัฐบาลท้องถิ่นก็ไม่เต็มใจที่จะขายด้วย”
“พวกเขายินดีที่จะขายโรงงานพวกนั้น ผมรับปากกับคุณได้เลย” เลขาซวี่ไต่เต้ามาถึงตำแหน่งปัจจุบันนี้ได้ก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจเหนือกว่า หากเขาไม่สามารถควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ป่านนี้เขาคงถูกขอให้เกษียณนานแล้ว
เลขาซวี่ต้องการให้บริษัทขนาดเล็กพวกนั้นควบรวมเข้ากับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แม้ว่าบริษัทพวกนั้นจะต้องถูกเข้าซื้อกิจการ แต่ก็ไม่เป็นไร สำหรับเขามันก็เหมือนกัน เขาอยากจะขายบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของที่ต้องต่อสู้ในธุรกิจเพื่อความอยู่รอดมากกว่าที่จะเห็นพวกเขาแค่พยายามเอาตัวรอดไปในแต่ละเดือน บริษัทพวกนั้นจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้นและผลกำไรที่สูงขึ้นหากบริษัทที่มีชื่อเสียงเข้าซื้อกิจการของพวกนั้น รัฐบาลระดับจังหวัดก็จะสามารถเพิ่มรายได้ภาษีได้ด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐบาลระดับจังหวัดจะสามารถใช้นโยบายประกันสังคมได้!
ในที่สุดเลขาซวี่ก็เข้าใจว่าทำไมเฝิงหยู่จึงเสนอเรื่องประกันสังคม นโยบายนี้กำหนดโดยรัฐบาลกลางและจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ในระยะต่อไป หากเลขาซวี่สามารถแนะนำและใช้นโยบายนี้ในจังหวัดหลงเจียงได้สำเร็จก่อนคนอื่น เขาจะได้รับโอกาสเข้าสู่รัฐบาลกลางเพื่อดูแลนโยบายนี้
เลขาซวี่อาจจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่เขาจะได้ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีและจังหวัด แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
สิ่งที่เฝิงหยู่บอกมาทั้งหมดนั้นเชื่อมโยงกัน ไม่ว่าแรงจูงใจของเฝิงหยู่จะเป็นอะไรก็ตาม แต่คำแนะนำของเขาก็สร้างความหวังให้กับเลขาซวี่ เขาเริ่มมองเห็นความก้าวหน้าในอาชีพของเขาในอนาคตแล้ว!