ถัดจากวันเกิดของผมฉลองที่ผมมีอายุครบ 37 ปีไป ก็จะเป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของครอบครัวผมย่างเข้าปีที่ 17 ทันที
หลังจากที่ผมจัดการเรื่องต่างๆที่โถมเข้ามาหาผมเสร็จ ผมก็จะมานั่งอยู่หน้าหลุมศพของครอบครัว เพื่อระบายความเครียดต่างๆออกไปโดยการพูดบลาๆ หน้าหลุมศพเพียงคนเดียว
แม้จะไม่รู้ว่าพ่อแม่ของผมจะฟังอยู่ไหม แต่ผมก็มีความสุขและผ่อนคลายลงมาบ้างหลังจากที่ได้ทำมัน
วันนี้ที่ผมมาที่นี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอก แคาจะมาจุดธูปถวายดอกไม้ให้พวกท่านก็เท่านั้น
” งานของผมำลังไปได้ด้วยดีเลยครับพ่อ แม่ ผมได้เป็นนักเขียนอย่างที่หวังเอาไว้ในอดีต.. “
จริงๆแล้วงานที่ผมทำมันก็ไม่ได้ราบรื่นอะไรนัก นิยายแนวต่อสู้ แฟนตาซี ที่ตีพิมพ์ออกไปก็ไม่ได้รับการตอบรับดีเท่าที่ควร แต่เท่านี้.. ผมก็มีอะไรมาอวดพวกท่านแล้วล่ะ
ตลอดมา.. ก่อนที่ผมจะเสียพวกท่านไป ผมก็เป็นแต่เด็กเกเรคนหนึ่งที่เที่ยวหาเรื่องตีกับชาวบ้านไปทั่ว ติดเกม แถมยังสูบบุหรี่อีกต่างหาก เป็นคนไม่ได้เรื่องที่แม้แต่ครอบครัว ญาติ หรือมิตรสหายก็ยังไม่ต้องการ
กว่าที่จะมาคิดได้ พวกท่านทั้งสองก็เสียชีวิตไปแล้ว.. ผมเคว้งคว้าง และหว่าเหว้ ดำดิ่งอยู่ภายใต้ความรู้สึกผิด ตอนที่ผมนึกได้ถึงข้อเสียของตัวเอง ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะลงเอยแบบนี้
แต่ก็ช่างประไร ตัวผมคงไม่กลับไปเป็นแบบเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ พอนึกย้อนกลับไปแล้วก็เอาแต่คิดว่าตัวเองนี่มัน.. เห่ยซะไม่มี
” หลังจากนี้ผมจะทำให้ดีกว่าเดิมครับ พ่อ แม่ “
ก่อนจะออกจากสุสาน ผมวางดอกไม้ที่พวกท่านชอบไว้หน้าหลุมศพแล้วลุกขึ้น เพราะได้เวลาที่ผมจะต้องไปแล้ว
” ไปก่อนนะครับ “
ฝุบ-
” ห๊า?- ว- ว๊าากก!!!”
ทว่า- ก้าวแรกของผม ดันเป็นการพาผมตกลงสู่หลุมนรกก็เท่านั้น.. มันเป็นหลุมที่มีสีดำมืด ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่ามีอะไรอยู่ที่ปลายสุดของหลุมลึกนี้กันแน่ นอกจากความตายของผม
…
..
.
..
…
ตุบ!
ย ยังไม่ตาย?..
” เหี้ยอะไรวะเนี่ย.. “
ต้องขออภัยที่ผมหลุดคำหยาบไป แต่ยังไงหลังจากนี้จะได้เห็นบ่อยๆเลยขอเตือนไว้แต่ตั้งเนิ่นๆ ที่นี้กลับมาเรื่องของเรากัน
ปัจจุบันตอนนี้เราอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ รอบข้างมีแต่ป่า มองไปทางไหนแม่งก็ป่า แต่เป็นป่าที่แปลกมาก ใบไม้มีขนาดใหญ่ผิดปกติ แถมเส้นใบยังม้วนเป็นเกลียว ต้นไม้ที่น่าจะมีขนาดไม่เล็กกว่า 40 คนโอบ แม่ง.. โคตรแฟนตาซี
แต่ละต้นขึ้นรกทึบเต็มไปหมด ไม่มีต้นไม้ต้นไหนเลยที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบ ราวกับว่าป่านี่ไร้ซึ่งคนดูแล ไม่มีแม้แต่สัตว์ หรือแมลง..
ตอนนี้กูอยู่ที่ไหน? ต่างโลกหรอ? เป็นไปได้ไง?
ในหัวผมมีแต่คำถามเต็มไปหมด แต่คิดให้หนักหัวไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร ในฐานะที่ผมเป็นนักเขียนนิยายแนวแฟนตาซีแล้ว เรื่องแค่นี้ผมควรจะรู้ว่าต้องทำอะไรต่อ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจได้เลย..คือผมต้องระวังตัวให้มากที่สุด เพราะภ้าเป็นไปตามหลักการต่างโลกยุคใหม่แล้ว ผมควรจะได้เจอกับพระเจ้า เขาจะบอกว่าผมตายแล้วหรืออะไรก็ช่าง
ยังไงเขาก็ต้องให้พลังอะไรสักอย่างกับผมมาอยู่แล้ว จะเป็นประโยชน์หรือไม่ก็ไม่รู้ ขอแค่ว่ามีก็พอ..
” สเตตัส.. “
. . .
ไม่มี
แน่นอนล่ะว่าตัวผมที่หลุดมาจากอีกโลก และไม่ได้ผ่านด่านตรวจอะไรเลยจะต้องไม่มีพลังจากเบื้องสูงติดตัวมาเป็นแน่
งั้นพลังจำพวกลูปล่ะ?
“…”
ขอไม่ลองดีกว่า ชีวิตนี้ผมน่าจะตายได้ครั้งเดียว อย่างว่าล่ะผมไม่ใช่สุบารุจากรีซีโร่จะตายได้แบบกลับจุดเซฟก็ใช่ว่าจะทำได้
งั้นที่ผมควรทำคือ.. ออกจากป่านี่สินะ โดยที่จะต้องไม่ตายเลย.. แม่งเอ๊ย ไม่ต่างจากเล่นมายคราฟโหมดฮาร์ดคอร์เลยนี่หว่า..
เอาซิ่
ผมชอบเสี่ยงดวงอยู่แล้วด้วย เรื่องพนันนี่ขอให้บอก.. เพราะผมแม่ง ดวงเกลือ ฮ่าๆ ..
แซ่ก- แซ่ก-
เดี๋ยว? เสียงพุ่มไม้? เหมือนว่าจะมีคนอยู่แถวๆนี้แฮะ เอาเป็นว่ารีบซ่อนก่อนดีกว่า ถ้าเราเผลอแสดงตัวออกไปล่ะก็อาจจะถูกฆ่าได้ทันที.. เพราะงั้นจะต้องทำตัวให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด แล้วก็หวังว่าพวกนั้นจะไม่สามารถตรวจจับกระแสเวทได้นะ ไม่สิ- ผมไม่เคยมีมานาอยู่ในตัวนี่นา บางทีนี่อาจจะเป็นผลดีต่อผมที่จะซ่อนตัวจากการรับรู้ของพวกที่มีประสาทสัมผัสสูงๆก็ได้ …เกิดมาเป็นคนธรรมดาเนี่ย มันก็ไม่ได้แย่แฮะ
“ เอก้อน อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึง? ” ?
“ พ้นป่านี่ไปก็ถึงแล้ว ” เอก้อน
…ภ- ภาษาไทย?! อะไรกัน นี่ผมหลุดมาต่างโลกแล้วเป็นบ้าไปแล้วรึยังไงถึงได้ฟังภาษาของพวกนี้ออก.. ยังไงก็ช่าง ดีกว่าไม่เข้าใจแหละว่าพวกมันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร คือตอนนี้ข้างหน้าผมไม่กี่เมตรคือคน ใช่ เป็นมนุษย์ชาย แต่ติดตรงที่พวกเขามีปีกเหมือนกับพวกเทวดา ดูท่าจะไม่ใช่มนุษย์แล้วแฮะ
ทหารของพวกอาณาจักรสวรรค์อะไรประมาณนั้นสินะ?
คงเป็นทหารเวรไม่ก็อะไรสักอย่าง ถีงมากันแค่สองคน
…ถ้าตามไป อาจจะเจอทางออกจากป่าก็ได้นะเนี่ย คุ้มอยู่นะเอาจริงๆ
ผมพยายามสังเกตการณ์พวกนี้อยู่ห่างๆ การเดินแต่ละทีผมจะต้องก้าวโดยที่เสียงที่เล็ดรอดออกไปจะต้องน้อยที่สุด มิเช่นนั้นผมอาจจะกลายเป็นเจ้าป่าแถบนี้ไปเลยก็ได้
“ … ”
ยิ่งตามติดเข้าไปใกล้พวกมันมากเท่าไหร่ สภาพของป่าแถวนี้ก็ยิ่งแปลกขึ้น ยิ่งรกขึ้น ภาพมันยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อเรามาถึงส่วนลึกของป่า
ที่นี่.. แสงแทบจะไม่สามารถส่องลงมาถึงเลย เว้นแต่โบราณสถานตรงกลางป่านั่น..ที่ได้รับแสงแดดจนเต็มเปี่ยม พอมาถึงหน้าโบราณสถานขนาดใหญ่
พวกนั้นก็หยุด ผมก็หยุดตาม ในจุดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่ และเป็นตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ยากด้วย
” ที่นี่ไงล่ะฟิวส์ ” เอก้อน
” … โว้ว พวกเขาขังตัวอะไรไว้ที่นี่กันแน่เนี่ย? ” ฟิวส์
” ถ้าพูดแล้วนายอาจจะช็อคก็ได้นะ เอาเป็นว่านายเข้าไปดูด้วยตาตัวเองดีกว่า ยังไงซะเราก็มาเพื่อให้อาหารเจ้าตัวอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ข้างในนี้อยู่แล้ว “เอก้อน
…เป็นพวกเลี้ยงสัตว์หรอกหรอ?
ให้เดานะ ภายในนั้นมันคงจะไม่ใช่อะไรที่ดีนักหรอก มันคงจะเป็น..อาวุธชีวภาพของพวกมันอะไรแบบนั้น แต่ยังไงก็ต้องตามไปดู เดี๋ยวผมก็ได้รู้เอง
หลังจากที่ทหารติดปีกสองคนนั้นเข้าไปในนั้น ผมก็รีบตามไปติดๆแบบกะจะเกาะติดโดยที่ไม่ให้คลาดสายตาเลย
ในนี้มืดแฮะ
อากาศก็ปลอดโปร่ง.. เหมือนว่าโครงสร้างมันจะไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดด้วย
เดินมาจนถึงประตูบานใหญ่ ผมแง้มมันออกเบาๆเพื่อไม่ให้เจ้าสองคนนั้นได้ยิน ภายในห้องนี้มันเป็นอะไรที่อยู่ความคาดหมายของผมมาก
มันเป็นห้องขนาดใหญ่.. แบบ ใหญ่มากๆ ทั้งๆที่มืด แต่ที่ตรงกลางห้องกลับมีรูอยู่บนเพดาน กว้างพอที่จะให้แสงส่องลงมาอย่างชัดเจนเลย
รอบๆห้องจะเป็นกรงขัง.. ที่ขังสารพัดสิ่งเอาไว้ ตั้งแต่มอนสเตอร์.. ไปจนถึงสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ บ้างก็เป็นมนุษย์ บ้างก็ไม่ใช่
แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้น คือที่จุดกึ่งกลางกลางของห้อง มีเด็กสาว.. ถูกโซ่จำนวนนับไม่ถ้วนพันธนาการเอาไว้อย่างน่าเวทนา แค่ผมเห็นมัน ก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมากแล้ว
ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นถูกขังอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว จะต้องเหงาและโดดเดี่ยวแค่ไกนก็ไม่อาจจะรู้ได้เลย … ในเมื่อผมมาที่นี่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องช่งยให้ได้ล่ะ
ก็นะ.. ผมมันเป็นคนจำพวกที่ไม่ชอบเห็นเด็กถูกทรมาณน่ะ ไอ้พวกที่ทรมาณเด็กน้อยแบบนี่เนี่ย.. แม่งสวะดีๆนี่เอง
เอาล่ะบี๋
เริ่มจากจัดการเจ้าสองคนนั้นก่อน.. รอให้พวกมันเข้ามาใกล้ๆแล้วเริ่มจัดการทีละคน
ผมเชื่อว่าผมทำได้ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นถึงเทวดาหรืออะไรก็ตามแต่ ขอแค่ผมฆ่าคนนึงได้และแย่งดาบมันมา ทักอย่างก็อยู่ในการควบคุมแล้ว
ถึงการใช้ดาบจริงๆจะยากกว่าการเขียนนิยายหน่อย แต่ก็ใช่ว่าผมจะใช้ไม่เป็น เมื่อก่อนน่ะผมเล่นดาบมาบ่อยเหมือนกันนะขอบอก
” … ว่ากันว่าเด็กคนนี้คือพระเจ้าล่ะ “เอก้อน
” หรอ?! ไม่อยากจะเชื่อเลย! “ฟิวส์
” ข้าเองก็ด้วย.. “เอก้อน
” ช่างมันเถอะ! เสร็จงานของเราแล้วกลับกันเถอะ!!— อั่ก! “ฟิวส์
กรั่ก-
ตอนนี้พวกมันอยู่ในระยะประตูแล้ว ผมรีบออกแรงดันประตูให้กระแทกหน้าพวกมันคนหนึ่งอย่างแรงในทันที เพื่อสร้างจังหวะในการโจมตี
” เกิดอะไรขึ้น!! “เอก้อน
ขณะที่พวกมันกำลังสับสน ผมใช้จังหวะนั้นในการกระโจนเข้าใส่คนที่ผมพึ่งกระแทกหน้าไป แย่งดาบของมันมาได้ และฆ่ามัน..
ผมปาดคอของมันอย่างไม่ปราณี แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมได้ฆ่าคนผมก็ต้องตั้งสติให้มั่นไม่ให้ความตื่นเต้นเข้าครอบงำ ไม่งั้นผมจะถูกฆ่าในทันที
เพราะทหารอีกคนมันชักดาบออกมาแล้ว
มันชี้ดาบมาที่ผมและเอ่ยถามอย่างแข็งกร้าว ผมมองดูท่าทีของมันอย่างใจเย็นเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ต่อไป
” แกเป็นใคร!! “เอก้อน
” ชั้นฆ่าพวกของแกไปคนนึงแล้ว “
ทางที่ดีผมจะไม่ตอบคำถาม แต่จะเป็นคำขู่แทน เป็นการข่มขวัญศัตรูอย่างนึงของผม แต่เมื่อก่อนตอนที่ผมเป็นนักเลงมันก็ใช้ได้เสมอแหละกับคู่อริที่มากันเยอะๆน่ะ
” … “เอก้อน
” แค่แกคนเดียว ชั้นก็ฆ่าได้ “
มันกำดาบแน่นกว่าเดิม.. ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่มันจะไม่ได้บื้อไปซะทีเดียว เพราะเขาเองก็รู้จักการอ่านสถานการณ์เหมือนกัน
แต่ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายที่ถือไพ่เหนือกว่าก้าวนึง
ผมยังตอกกลับได้อยู่ ทีผใต้องการมีแค่กสรปล่อยเด็กผู้หญิงและออกจากป่าเท่านั้น ถ้าหมอนี่มันเลือกถูก มันก็จะไม่ตาย… ผมเป็นถึงนักเลงเก่าเลยนะ จะมากลัวกับอีของแค่นี้ทำไมล่ะจริงไหม
..ว่าไปแล้วเลือดเจ้าพวกนี้มันเป็นสีทองเราะ?.. ไม่ใช่เลือดมนุษย์จริงๆด้วย ก็นะ ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่
” ต้องการอะไร “เอก้อน
ผมกับมันจ้องตากันอยู่พักนึง คล้ายๆว่ามันใจเย็ยลงแล้วเลย ทำให้เจ้านั่นสามารถไตร่ตรองสถานการณ์ได้ดีขึ้นมากเลยทีเดียว
” .. เด็กคนนั้น “
” เห็นทีคงจะไม่ได้.. ขืนปล่อยไปข้าได้โดนเบื้องบนเล่นแน่ “เอก้อน
” แสดงว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องใช่ไหม ฉันจะได้ฆ่าแกก่อนแล้วค่อยไปปล่อยตัวนักโทษ “
ผมรู้ดีว่ากำลังอย่างเพียงอย่างเดียวของผมนั้นสู้มันที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ไม่ไหวแน่ๆ ผมเลยต้องบลัฟ แสดงจุดยืนของตัวเอง แสดงให้มันเห็นว่าผมจะฆ่ามันเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ผมต้องการ
ที่ต้องการในตอนนี้คือความใจเย็นขั้นสุด เพื่อที่จะควบคุมสถานการณ์แล้วผมต้องทำใจให้สงบไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะเป็นตัวผมเองที่เป็นฝ่ายพลาดท่าให้กับมัน
” ใจเย็นๆซิ่ ข้ายังไม่ได้บอกว่าไม่อยากทำซะหน่อย “เอก้อน
” งั้นก็วางดาบแกลงซะ “
” ไงนะ ? “เอก้อน
แม้มันจะพูดมาแบบนั้น แต่เพื่อความแน่ใจแล้วผมต้องยึดดาบมันมา ตัดทางเลือกหนึ่งทางในการฆ่าผมออกไปแล้วเราจะได้คุยกันง่ายขึ้นหน่อย หลังจากที่เจ้านั่นวางดาบแล้วผมรีบเข้าประชิดตัวทันที ในขณะที่มันยังไม่ทันได้ระวังตัวจังหวะนั้นแหละที่ผมจะใช้ดาบที่สังหารเพื่อนมันไปฆ่ามันอีกคน
สวบ-
กระฉูด*
“ .. ทำไม.. แกถึงทำแบบนี้- ”เอก้อน
“ ชั้นกลัวว่าแกจะฉลาดเกิน เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลมยังไงล่ะ ”
แผนการเข้าไปกระสวบท้องมันด้วยดาบประสบความสำเร็จไปด้วยดี เลือดที่กรรเด็นออกมานั้นก็ยังคงเป็นสีทอง มันชัดเจนแล้วว่าเจ้าหมอนี่กับเจ้านั่นมั่นไม่ใช่มนุษย์ แม้ผมจะเวทนานิดหน่อยที่พวกเขาต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนอย่างผม แต่ทำไงได้ ถ้าไม่ฆ่า ผมก็ถูกฆ่า มันเป็นกฏของโลกนี้อยู่แล้ว
อีกอย่าง เจ้าหมอนี่มันก็ดูจะฉลาดไม่เบา ขืนปล่อยไว้มันก็อาจจะฆ่าผมตอนไหนก็ได้ เลยขอไม่ปล่อยไว้ดีกว่า
“ ที่นี้.. จะปล่อยเด็กนั่นได้ยังไงล่ะเนี่ย? ”
ดูจากโซ่พวกนี้แล้ว มันเป็นของวิเศษแน่ๆ คงไม่ใช่อะไรที่เอาออกได้ง่ายๆ.. งั้นมันคงต้องมีกลไกอะไรบางอย่างในการควบคุมพวกมันแน่ๆ
เหมือนกับกรงขังรอบๆห้องนี้ที่ไม่มีรูกุญแจ ปัญหาเดียวคือห้องนั้นอยู่ที่ไหนกันล่ะ?
โบราณสถานนี่ แม้จะดุเก่าแกเมื่อมองจากภายนอก แต่พอเข้ามาด้านในแล้ว มันมีลูกเล่นเยอะกว่าที่คิด แต่ก่อนที่ผมจะไปสำรวจที่นี่ให้ทั่ว ผมถือโอกาสที่ทหารพวกนี้ตายในการยึดของพวกเขามาทั้งหมด.. ถึงจริงๆแล้วจะเอามาแค่ดาบ สองเล่มก็เถอะ เกราะพวกนั้นน่ะผมใส่ไม่ได้ มันหนักเกิน
“ มีทางเดียวคือต้องสำรวจที่นี่สินะ ”
พอผมจัดสินใจได้แล้ว ก็มีเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นทันที มันเป็นเสียงของชายชราที่ค่อนข้างมีอายุเลยทีเดียว
“ นี่ท่านตรงนั้นน่ะ ” ?
ผมหันไปตามเสียงที่ได้ยิน จึงได้พบกับผู้เฒ่าท่านหนึ่งที่อยู่ในคุกของอาณาจักรนี้ ตัวของเขามีเส้นผมและหนวดเคราที่ยาวจนปกคลุมไปทั่วร่าง ทั้งหมดนั่นล้วนเป็นสีขาวโพลน และมีปีกขนาดใหญ่อยู่หนึ่งคู่เหมือนว่าจะเคยเป็นชนชั้นสูงในอาณาจักรนี้มาก่อน เพราะเจ้าทหารสองคนนั้นปีกของมันเองก็ไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดนี้
แม้เขาจะดูน่ากลัว แต่ความรู้สึกที่ผมได้รับมันคือความโดดเดี่ยว ผมหยุด และตั้งใจฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้
“ ..ข้าฌอนโด อดีตแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรเทวราช ถ้าท่านไม่รีบอะไร.. ได้โปรดรับฟังสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้เถิด.. ข้าเหลือเวลาไม่มากแล้ว ”ฌอนโด
จริงๆผมก็มีเวลาว่างอยู่เยอะมากอยู่แล้ว หากแต่ผมรอนานเกิดไปอาจจะเป็นอันตรายได้ บางทีพวกเพื่อนๆของไอ้ที่ผมฆ่าไปมันอาจจะรู้ตัวแล้วและกำลังพากันแห่มา ฉะนั้นผมต้องพาเด็กนั่นออกไปให้ไวที่สุด
ผมไม่ใช่คนที่เย็นชาถึงขนาดไม่สนใจเด็กตัวเล็กๆหรอกนะ ถ้าผมทำงั้นผมก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ
ผมมานั่งอยู่ตรงหน้ากรงของเขา ขณะที่ผมได้มองเขาผมรู้สึกได้ถึงความเวทนา ความโดดเดี่ยว และความปราถนาอันแรงกล้าออกมาจากตัวของเขาได้เลย
“ ท่านกำลังจะปล่อยตัวเด็กคนนั้นใช่หรือไม่? ”ฌอนโด
“ ใช่ ”
“ ดี.. ที่ส่วนในสุดของที่ขุมขังมีกุญแจสำหรับปลดโซ่ตรวนนิรันดร์อยู่ ท่านสามารถเอาสิ่งนั้นมาปลดโซ่ของเด็กคนนี้ได้ทันที.. แล้วก็อย่างสุดท้าย ดูแลนางให้ดีที่สุด ท่านทำได้ไหม? ”ฌอนโด
ดูแลเด็ก? ถึงจะไม่เคยทำมาก่อน.. แต่ก็น่าจะทำได้มั้ง
“ ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่คิดว่าได้ครับ ”
“ … เยี่ยมเลย สวรรค์มาโปรดโดยแท้.. ข้าจะมอบชีวิตที่เหลือของข้าให้กับท่าน โปรดใช้มันเพื่อท่านผู้นั้นด้วยเถิด.. นี่คือคำขอสุดท้ายจากตาแก่อย่างข้า… ” ฌอนโด
กล่าวจบ เขาท่องบทสวดของตนก่อนที่ร่างของเขาจะเริ่มเรืองแสงสีทองอ่อนๆ ต่อมาก็กลายเป็นละอองแสงลอยเข้ามายังร่างของผม.. ผมเข้าใจว่าที่เขาทำนั้นเป็นการทำให้แน่ใจว่าคนที่ปกป้องเด็กคนนั้นอย่างน้อยจะต้องเก่งในระดับนึง แต่ก็นะ ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกับเขามาก่อนเลย การที่เขามาตายต่อหน้าต่อตาผมทั้งๆแบบนี้มันก็ออกจะเกินไปหน่อยที่ผมจะแสดงท่าทางอะไร
..ผมรู้อยู่แล้วว่าเขาหวังดีต่อผม ผมจึงยกมือขึ้นมาประกบมันไว้กลางอก ค่อยๆแผ่เมตตาให้เขาทีละเล็กทีละน้อย ก่อนที่จะเริ่มทำภารกิจที่ผมได้รับอย่างจริงๆจังๆสักที
“ ขอบคุณนะ ลุง ”
ผมรู้สึกได้เลยว่าตัวของผมมีกำลังกายและมีชีวิตชีวามากกว่าก่อนหน้านี้มาก มันคงจะเป็นเพราะสิ่งที่ลุงฌอนโดมอบให้ก่อนหน้าที่เขาจะสลายไป มันเป็นการต่อชีวิตผมให้ผมอยู่ต่อได้เลย ไม่แน่ว่าถ้าพวกนั้นโผล่มาอีก ผมอาจจะสู้ได้ง่ายๆเลยก็ได้
…
“ ได้กุญแจมาแล้ว ทีนี้ก็- ….”
ตึก- ตึก-
เตาะ แตะ-
ก้องเก้ง-
มากันแล้วเรอะ
ผมก้มตัวลงให้ต่ำ แอบอยู่ตรงมุมมืดของบานประตูขนาดใหญ่ด้านหลังเด็กหญิงคนนั้นเพื่อเฝ้าดูการกระทำของพวกมัน แม้มันจะไม่เหมือนที่ผมคิดเอาไว้มากนัก แต่ก็ไม่ได้มากเกินความสามารถของผมสักเท่าไหร่
.. พวกมันมีกันทั้งหมด 4 คน มากกว่าคราวที่แล้วถึงสอง แบบนี้ขืนผมบุ่มบ่ามออกไปก็อาจจะตายได้ทันที ฉะนั้นจึงจงใจหลบอยู่ตรงมุมนี้ คอยจังหวะเหมาะๆในการฆ่าพวกมันทีเดียว.. บางทีมุกที่ใช้ในตอนแรกอาจจะได้ผลก็ได้นะ
“ ร่องรอยการต่อสู้สิ้นสุดตรงนี้ ” ทหาร1
“ มันหนีไปแล้วรึเปล่า? ” ทหาร2
“ เป็นไปได้ แต่ด้านในมันเหมือนมีอะไรผิดปกติ ”ทหาร3
“ มีอะไรเรอะ? รู้สึกแปลกๆอะไรรึยังไง? ”ทหาร1
“ อดีตแม่ทัพหายไป.. เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าคนที่ฆ่าเอก้อนกับฟิวส์จะปล่อยมันไป ”ทหาร3
“ ไม่ ถ้าเป็นท่านฌอนโด เขาไม่ออกจากที่นี่แน่ๆ ”ทหาร4
“ แสดงว่าเขาตายแล้วน่ะสิ หรือว่าเขาจะมอบชีวิตที่เหลือให้โจรนั่น? ”ทหาร2
“ … ตรวจสอบรอบๆให้ทั่วเลย! ”ทหาร1
ตัวที่เป็นเหมือนกับหัวหน้ากำลังสั่งให้ลูกทีมของมันสำรวจ เช่นนั้นถ้ามันมาถึงตรงนี้เมื่อไหร่ ผมก็จะโจมตีอีกครั้งทันที ที่ผมต้องทำมีแค่ รอ กับรอ และรอคอยโอกาสอันเหมาะเหม็งเท่านั้น
“ ที่นี่ปกติดี ”ทหาร2
อีกนิด..
“ ตรงนี้ก็ไม่มีอะไร ”ทหาร3
อีกนิดเดียว
“ ผนึกก็ปลอดภัย ”ทหาร1
ตอนนี้แหละ!!
สวบ!!-
ผมใช้ดาบที่ได้มาแทงเข้ากลางคอหอยของหนึ่งในพวกมัน ทันทีที่มันได้เดินมาใกล้กับประตู
“ อิน!! ”ทหาร2
จังหวะที่กำลังโกลาหลที่แหละโอกาสทองในการโต้กลับผมแค่ต้องฆ่าเพิ่มอีกสามคนเท่านั้น ถึงจะได้ออกไปจากที่นี่!!
ฉับ!
กระฉูด*
“ อ๊ากกก!! แขน!! แขนของข้าา!!! ”ทหาร2
“ โจ!!! ” ทหาร1
“ หยุดนะเจ้าโจรชั่ว!!! ”ทหาร3
ผมใช้ดาบอีกเล่มปาไปเป็นแนวนอนหวังให้มันตัดแขน หรือไม่ก็เฉือนมันออกเพื่อจะได้เกิดความสับสน แล้วใช้โอกาสนั้นในการเข้าไปตัดหัวมัน
แล้วหนึ่งในสองคนที่เหลือก็รีบพุ่งเข้าใส่ผมทันที แต่หารู้ไม่ว่าการสู้กันโดยที่ถูกอารมณ์โกรธเข้าครอบงไเนี่ย.. ผมจะเป็นฝ่ายชนะ
ซ่า-
หัวหลุดไปอีกตัว-
“ … ”ทหาร1
“ แก!!!!! ”ทหาร1
มันเริ่มเวียนมานาโดยรอบแล้ว ดูท่ามันคงคิดที่จะใช้เวทมนตร์
แต่เสียใจด้วย ที่แกช้าเกินไป
รุกฆาต
ฉับ-
กระฉูด*
ซ่า~*
“ เป็นภาพที่น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ.. ยังดีที่เลือดพวกนี้มันเป็นสีทอง แถมกลิ่นคาวก็ไม่มี ช่วยให้ไม่คลื่นไส้ได้เยอะเลย.. จะว่ายังไงก็ยังไงอยู่ นี่กู.. เก่งถึงขนาดที่ฆ่าพวกนี้ด้วยตัวคนเดียวได้เลยหรอ? ”
เอาเป็นว่าเก็บความสงสัยนั่นใส่กระเป๋าเสื้อไปดีกว่า ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือต้องพาตัวยัยหนูนี่ออกไปตามคำขอของคุณฌอนโด ..แต่แปลกแฮะ แม้ผมจะไม่ได้ต่างอะไรจากก่อนหน้านี้มากก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็เกินไป ตัวก็เบากว่าเดิมเยอะ แถมยังเคลื่อนไหวได้เร็วและยังไม่เหนื่อย..
อย่างกับว่าที่นี่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าโลกเดิมยังไงยังงั้นแหละ แต่ก็ดีละ ที่เป็นแบบนั้นคงเป็นเพราะมานาที่ผมไม่คุ้นชินนั่นแหละ ฮ่าๆ มันช่วยผมได้เยอะทีเดียว
“ เป็นอะไรไหม? พูดไหวรึเปล่า? ”
“ … ค- ค่ะ ” ?
“ จากนี้ไปฉันจะนับว่าเธอเป็นน้องสาวนะ ”
“ เธอมีชื่อไหม? ”
เด็กคนนั้นส่ายหัว ผมพยายามนึกชื่ออยู่นาน.. แต่ก็นึกไม่ออก อีกอย่างตอนนี้ก็เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เพราะงั้นคงต้องตั้งชื่อลวกๆไปก่อน
“ ลูซีนเป็นไง? ลูซีน เมดริน ”
ฮ่าฮ่า เธอพยักหน้าใหญ่เลยแฮะ
“ เอาล่ะ! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอคือน้องสาวของชั้นนะ! ”
“ …พ- พ่อ..คะ? ”ลูซีน
“ …. พ- พ่อก็พ่อจ้ะ ”
ฮ่าฮ่า ยังไงผมก็แพ้ทางเด็กนี่นะ..
เอาล่ะ จะหนีไปจากที่นี่ยังไงล่ะเนี่ย
ผมออกมาจากที่แห่งนั้นแล้ว ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหมแต่ในร่างของผมนั้นมีพลังชีวิตของลุงฌอนโดอยู่ ผมแค่ต้องรวมรวบมันทั้งหมดไปที่หลัง ให้เป็นเหมือนกับปีเท่านั้น..
พรึบ!
เหมือนจะทำได้ล่ะ!! เยี่ยม.. ทีนี้ก็ บินออกจากที่นี่กันเลย!! ไปกันทั้งแบบนี้แหละ ผมแค่ต้องอุ้มลูซีนไปด้วยถึงเธอจะกลัวที่สูงไปสักหน่อย แต่ยังไงก็ต้องไปด้วยวิธีนี้เท่านั้น ไม่งั้นเราหนีเจ้าพวกนั้นไม่พ้นแน่
…
..
.
ตับ!!
ทันทีที่พลังของลุงฌอนโดที่ให้มานั้นแทบจะหมด พวกผมก็ได้ร่วงลงมายังกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และใช่.. ผมตกลงมายังเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เข้าจังๆเลยล่ะ
“ แม่งเอ้ย… ”
แต่ผมก็ไม่พลาดที่จะเอาดาบดีๆของพวกนั้นติดตัวมาด้วยหรอกนะ แบบว่า.. เอามามันให้หมดเลยน่ะ ตอนนี้ผมเลยมีดาบติดตัวอยู่หกเล่มเลย ถึงจะหนักไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
แต่ดูท่าแล้วเรือที่ผมตกลงมานี่จะไม่ใช่แค่เรือขนส่งธรรมดาๆแฮะ.. เหมือนจะเป็นเรือที่เอาไว้ใช้ขนส่งทาสล่ะ
“ มีอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น!! ” พ่อค้าทาส
ผมค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นดาดฟ้าเรือที่ยุยลงไปจนเหมือนกับมีหินก้อนหนักๆพุ่งชน ก่อนจะคลายสภาวะปีกออก.. สงสัยผมคงต้องคิดให้รอบคอบมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าปีกมันจะใช้ได้บ่อยๆซะหน่อยนี่เนอะ
“ เด็ก? กับตาลุงต่างถิ่น? เฮอะ มาก็ดี จะได้จับแกมาเป็นทาสด้วยเลย! ”พ่อค้าทาส
เหมือนจะซวยแล้วสิ.. ทีนี้ผมจะตอบกลับมันยังไงดีล่ะเนี่ย ผมไม่ได้อยากเป็นทาสซะหน่อย แล้วก็ผมไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรลูซีนด้วย.. เอาวะ สู้ก็ต้องสู้ คราวนี้แหละจะได้โชว์วิชาดาบที่ได้เรียนมาจากโลกที่แล้วให้ดูเป็นขวัญตา
เห็นแบบนี้ผมก้เก่งศิลปะการต่อสู้อยู่พอสมควรเลยนะเออ แม้จะไม่เคยลงแข่งจริงๆจังๆสักครั้งเลยก็ตาม
“ เหมือนแกจะเป็นพ่อข้าทาสใช่ไหม? ”
“ มองแค่นี้แกก้ไม่รู้เรอะ? ”พ่อค้าทาส
“ คำถามคือ ค้าทาสมันผิดกฏหมายรึเปล่า? ดูเหมือนว่าเรือลำนี้มันกำลังอ้อมโลกแบบแปลกๆซะด้วยสิ ”
“ คงไม่ใช่ว่าแกเป็นพ่อค้าทาสผิดกฏหมายหรอกนะ? ”
“ เดาได้แม่นดี แต่แค่แกคนเดียวจะไปทำอะไรได้? ”พ่อค้าทาส
“ ดี ดีเลย จะได้ฆ่าทิ้งให้หมด และจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังด้วย!! ”
ผมกระทืบพื้นดาดฟ้าเรืออย่างแรง ก่อนที่จะชักดาบคู่ออกมาจากฝักเพื่อเตรียมเข้าปะทะ
“ ลูซีน ลูกหลบอยู่หลังกรงของพี่ๆเขานะ อีกไม่นานป๊ะป๋าจะช่วยพวกเขาออกมาเอง (ยิ้ม) ”
“ อ่- ค่ะ! ”ลูซีน
เฮะๆ เดินเต๊าะแต๊ะๆน่ารักจังเลยน้าลูกชั้น..
ฮึ เพื่อสันติภาพของปวงชนล่ะก็ผมไม่ถอยหรอก
เออแฮะ เริ่มสนุกกับชีวิตต่างโลกมากขึ้นแล้วสิ ถึงจะเสี่ยงอันตรายแต่มันก็มันส์ไม่หยอกเลยนะเนี่ย
“ เข้ามา!!! ”
“ เล่นมันซะ ”พ่อค้าทาส
……
เทวราช
โบราณสถาน
“ ทหารของเรา 6 ศพ.. กับผนึกที่ถูกปลด และแม่ทัพที่หายตัวไป.. ท่านยอร์มนี่มันโคตรแย่เลยครับ!! ” ?
“ ไอ้เวรตัวไหนมันเป็นคนก่อเรื่องวะ!!! อย่าให้เจอตัวนะพ่อจะฆ่ายกโคตรเลย!!!! ” ยอร์ม
[ พลทหารระดับสูง เผ่าสวรรค์ – ยอร์ม ]
ตัดจบตอน
เมื่อไอ้บี๋มันอยู่ในวัยกลางคน โหดและเถื่อนกว่าเดิมหลายเท่า แต่ก็ต้องลำบากอย่างหนักเหมือนกัน!
เป็นยังไงแสดงความคิดเห็นกันได้นะครับกับ spin-off เรื่องนี้
ฮะๆ