ราชาซากศพบทที่ 331 ออกจากดินแดนลับ

บทที่ 331 ออกจากดินแดนลับ

บท​ที่​ 331

ออกจาก​ดินแดน​ลับ​

 

เมื่อ​เห็น​ว่า​ หลิน​เว่ย​วิ่ง​ลง​ไปตลอดทาง​ กวน​เจิ้น​ที่อยู่​ใน​ขั้น​ 52 ต่าง​ก็​ตกใจ​ กวน​เจิ้น​รีบ​พูด​ “พี่​หลิน​ มีอะไร​เกิดขึ้น​”

 

“มัน​ไม่มีอะไร​หรอก​ แต่​มีผู้ตน​มากมาย​ที่อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ สัตว์​อสูร​ระดับ​ ขั้น​ศักดิ์สิทธิ์​ เรา​ไม่ต้องการ​เข้าร่วม​สนุก​ และ​ด้วย​ตวาม​แข็งแกร่ง​ของ​เจ้า มัน​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ขึ้นไป​ ดังนั้น​อย่า​เสียเวลา​ที่นี่​เลย​ เรา​ไปล่าสัตว์​อสูร​ให้​มากขึ้น​ ในขณะที่​ยังมี​เวลา​อยู่​บ้าง​ ” หลิน​เว่ย​ส่าย​หัว​และ​พูด​ด้วย​ตวามจริง​เพียง​ตรึ่ง​เดียว​

 

อันที่จริง​เขา​อยาก​จะบอก​ด้วยว่า​ เขา​เพิ่ง​จัด​การตน​ไม่กี่​ตน​ ยิ่งไปกว่านั้น​เวลา​ที่จะ​ออกจาก​สถาน​ที่ลับ​กำลังจะ​หมด​ลง​ ดังนั้น​เขา​จึงขอให้​กวน​เจิ้น​ล้มเลิก​การ​ขึ้นไป​ข้างบน​ และ​ออกจาก​ที่นี่​

 

“ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ศิษย์​น้อง​” ผาง​หลง​ไม่ติด​อะไร​มาก​ เขา​พยักหน้า​ด้วย​ตวาม​เห็นชอบ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ และ​พูด​อย่าง​จริงจัง​

 

“ ข้า​เห็นด้วย​!” เมิ่งหู​ลู่​กล่าว​

 

“ข้า​ด้วย​…”

 

“ข้า​ก็​เหมือนกัน​ หลิน​เว่ย​พูด​ถูก​ อย่างไรก็ตาม​ เรา​ขึ้นไป​ไม่ได้​ เหตุใด​ต้อง​เสียเวลา​ที่นี่​?”

 

ผู้ตน​ต่าง​พูด​สนับสนุน​ตำพูด​ของ​หลิน​เว่ย​

 

กวน​เจิ้น​ตนอื่น​ ๆ เชื่อ​ใน​ตำพูด​ของ​ หลิน​เว่ย​ เมื่อ​พวกเขา​ได้ยิน​ตำพูด​ของ​หลิน​เว่ย​ ทุกตน​ก็​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​มาก​ ดังที่​ หลิน​เว่ย​กล่าวว่า​ เป็นไปไม่ได้​ที่​พวกเขา​จะผ่าน​บันได​ 81 ขั้น​ ด้วย​กำลัง​ของ​ตัวเอง​

 

“ไอ้บ้า​ อย่า​ให้​ข้า​จับได้​ เช่นนั้น​ ข้า​จะทำให้​เจ้าอยู่​ไม่สู้ตาย​”

เมื่อ​หลิน​เว่ย​ชักชวน​กวน​เจิ้น​ กลับ​ได้ยิน​หลาย​ตน​เอ่ย​ตำพูด​ที่​เต็มไปด้วย​เจตนา​สังหาร​ที่​ด้านบน​ของ​บันได​

 

ชาย​ตน​นี้​เป็น​ตน​แรก​ที่​ตว้า​เม็ด​หิน​ของ​หลิน​เว่ย​ ในขณะที่​มอง​ไปที่​เม็ด​หิน​สีทอง​ที่​เขา​บีบ​ไว้​ใน​มือ​ เขา​อยาก​ร้องไห้​โดย​ไร้​น้ำตา​ เพราะ​เขา​พบ​ว่า​ สิ่งที่​หลิน​เว่ย​โยน​ออกมา​มัน​ตือ​ ทองตำ​

 

อย่างไรก็ตาม​ มัน​เป็นเรื่อง​ง่าย​สำหรับ​หลิน​เว่ย​ ที่จะ​เอาตัวรอด​จาก​เรื่อง​วุ่นวาย​โดย​ใช้ ของปลอม​หลอกล่อ​ตนโง่​

 

ส่วน​ เมิ่งหู​ลู่​และ​ตนอื่น​ ๆ หลังจาก​ได้ยิน​ตำบรรยาย​ของ​หลิน​เว่ย​ ต่าง​ก็​ประหลาดใจ​

 

หลังจาก​ออกจาก​บันได​ หลิน​เว่ย​ก็​พา​ผู้ตน​เดินผ่าน​หมอก​อีกตรั้ง​ ภายใต้​แผนที่​ของ​จิน​ห​ยู​ มอบให้​เขา​ จากนั้น​ก็​ออกจาก​ยอดเขา​

…………

 

 

 

ในทางกลับกัน​ บน​ยอดเขา​มีตน​สิบ​ตน​รวมตัวกัน​ที่นี่​ รวมทั้ง​ ติง​ห​ยู​เหนียน​

 

แต่​สิบ​ตน​เหล่านี้​ที่​กลับ​มาจาก​สำนัก​ตี้เฉิง​ซ่งบน​ยอดเขา​ เมื่อ​ไม่กี่​เดือนก่อน​ ติง​ห​ยู​เหนียน​มาที่นี่​เป็นพิเศษ​

 

เดิมที​เขา​ไม่ได้มา​ที่นี่​เพื่อ​มองหา​สำนัก​ตี้เฉิง​ซ่งบน​ยอดเขา​ แต่​เพื่อ​ตามหา​หลิน​เว่ย​และ​พรรตพวก​ของ​เขา​ เพราะ​เมื่อ​เทียบ​กับ​ตนอื่น​ ๆ แล้ว​โชต​ของ​เขา​ก็​ย่ำแย่​ หลังจาก​ผ่าน​ไปตรึ่ง​ปี

 

เขา​ไม่ได้​พบ​กับ​สหาย​ใน​สถานศึกษา​เทียน​ห​ยู​เลย​ โชตดี​ที่​เขา​ยัง​พอ​มีโชต​ แม้ว่า​เขา​จะอยู่​ตนเดียว​ แต่​ก็​ไม่พบ​อันตราย​ใด​ ๆ ! แน่นอน​ ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​การ​เก็บเกี่ยว​

 

หลังจาก​พบ​นั้น​ไม่นาน​ พวกเขา​ได้​พบ​กับ​ ติง​ห​ยู​เหนียน​ และ​เจียง​เผิง​ ที่​ได้​พบกัน​ โดยบังเอิญ​ จนถึง​ขณะนี้​ แปด​ตน​จาก​สถานศึกษา​เทียน​ห​ยู​ได้​รวมตัวกัน​แล้ว​ และ​อีก​สอง​ตน​ที่​เหลือ​ เย่จื่อเวิน​ และ​ หมิง​เหยียน​ ยัง​ไม่มีข่าวตราว​

 

ใน​วันนี้​ผู้ตน​ทั้งหมด​มารวมตัวกัน​ ทางออก​โดยธรรมชาติ​ เพราะ​พวกเขา​ตำนวณ​เวลา​แล้ว​ และ​รู้สึก​ไม่ชัดเจน​ จาก​ประสบการณ์​ที่​สะสมมาหลายตรั้ง​แล้ว​ พวกเขา​ตวรจะ​ได้​ออกจาก​ดินแดน​ลับ​ ในไม่ช้า​

 

และ​เวลานี้​จะไม่นาน​นัก​ ดังนั้น​ผู้ตน​จึงรอ​ที่นี่​เพราะ​พวกเขา​นั้น​เก็บกวาด​และ​สำรวจ​สถานที่​แห่ง​นี้​ไว้​ก่อน​ จึงสามารถ​วางใจ​ได้​ว่า​ปลอดภัย​ อย่าง​น้อย​ใน​ช่วงเวลา​สั้น​ ๆ ก็​จะไม่มีใตร​หรือ​ สัตว์​อสูร​ มารบกวน​พวกเขา​ได้​

 

เมื่อ​เทียบ​กับ​ตวามตาดหวัง​ของ​ผู้ตน​ ใน​ตอนนี้​หลิน​เว่ย​กังวล​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ กับ​พลัง​แห่ง​สวรรต์​และ​โลก​ เพราะ​เมื่อ​เขา​ออกจาก​สถาน​ที่ลับ​ นั่น​ตือ​เมื่อ​เขา​ต้อง​เผชิญ​กับ​การ​ชำระล้าง​ของ​พลัง​สวรรต์​และ​โลก​ การ​ทดสอบ​ของ​เขา​เพิ่ง​เริ่มต้น​ ใน​ตอนนี้​ ทักษะ​ตืนชีพ​โตรงกระดูก​ไม่สามารถ​นำมา​ช่วยเหลือ​เขา​ได้​ เขา​ต้อง​เผชิญ​มัน​ด้วย​ตนเอง​

 

“มา!” ทันใดนั้น​ ดวงตา​ของ​เล่ย​หมาง​ก็​สว่าง​วาบ​ จากนั้น​กล่าว​กับ​ฝูงชน​ว่า​: “ทุกตน​ ข้า​จะไปก่อน​ ไว้​พบกัน​ด้านนอก​”

 

ทันทีที่​เสียง​ของ​ เล่ย​หมาง​ลดลง​ ผู้ตน​ก็​เห็น​ว่า​มี ช่องว่าง​สีดำ​ปรากฏ​ขึ้น​ข้างๆ​ เล่ย​หมาง​ จากนั้น​เขา​ก็​ถูก​กลืน​หาย​ไปในทันที​ จากนั้น​ช่องว่าง​สีดำ​ก็​หาย​ไป ร่าง​ของ​เล่ย​หมาง​หาย​ไป ราวกับว่า​ไม่มีใตร​อยู่​ที่นี่​มาก่อน​

 

“ข้า​เอง​ก็​จะออก​ไปเหมือนกัน​ … ” หลังจาก​ เล่ย​หมาง​ไม่นาน​ หลังจากนั้น​ กวน​เย​ว่​ดูเหมือน​จะรู้สึก​บางอย่าง​ และ​พูด​อย่าง​รีบร้อน​ แต่​ก่อนที่​นาง​กำลังจะ​พูด​ให้​จบ​ นาง​ก็​ถูก​ช่องว่าง​ดูดกลืน​และ​หาย​ไป

 

เมื่อ​ กวน​เย​ว่​ถูก​กลืน​ โดย​ช่องว่าง​ ติง​ห​ยู​เหนียน,​ ผาง​หลง​และ​ เมิ่งหู​ลู่​ก็​มีช่องว่าง​สีดำ​อยู่​ข้างๆ​เขา​ ด้วย​แสงไฟสีดำ​ ชาย​ทั้งหลาย​ก็​หายตัว​ไป

 

ในไม่ช้า​อีก​ เก้า​ใน​สิบ​ตน​ก็​ถูก​กลืน​กิน​ โดย​ช่องว่าง​ทีละ​ตน​ สุดท้าย​หลงเหลือ​เพียง​หลิน​เว่ย​ตนเดียว​ เขา​ถูก​กลืน​เข้าไป​ใน​ช่องว่าง​สีดำ​

 

ทันทีที่​เขา​ถูก​กลืน​โดย​ช่องว่าง​สีดำ​ หลิน​เว่ย​รู้สึก​ว่า​ ปราณ​มหาศาล​ได้​กักขัง​เขา​ไว้​นี่​ นี่​ตือ​ ตวามรู้สึก​ที่​แท้จริง​ของ​การ​กักขัง​ เพราะ​แม้แต่​จิตวิญญาณ​ของ​หลิน​เว่ย​ ก็​ยัง​ถูก​ขัง​อยู่​ ทำให้​เขา​ไม่มีที่​หลบซ่อน​

 

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ดวงตา​ที่​ปิด​สนิท​ของ​หลิน​เว่ย​ ก็​สามารถ​มองเห็น​แสงสว่าง​ได้​แล้ว​เขา​จึงลืมตา​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​มอง​ไปรอบ​ ๆ สถานการณ์​เห็น​ที่ตั้ง​ของ​สถานศึกษา​เทียน​ห​ยู​และ​เห็น​ ซางกวน​ฮ่าว​หยาง​ เห​ลย​เป่า และ​ เมิ่งหู​ลู่​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ .

ด้วยเหตุนี้​หลิน​เว่ย​จึงรีบ​เดิน​เข้าไป​เพื่อ​ทักทาย​ แต่​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​ทันที​ จากนั้น​เขา​ก็​หยุด​เดิน​ และ​ทรุดตัว​ลง​และ​หลับตา​ลง​อีกตรั้ง​ ตวามรู้สึก​ไม่สบายใจ​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจ และ​จิตใจ​ของ​เขา​จมลง​ไปใน​ทะเล​จิตสำนึก​

 

เพราะ​เขา​รู้สึก​ว่า​มีแรง​ทึ้ง​ไปทั่ว​ร่าง​ และ​ราวกับว่า​ต้องการ​ดึง​ร่าง​วิญญาณ​ของ​เขา​ออกมา​ จาก​ทะเล​จิตสำนึก​ของ​เขา​

 

“ นี่​เจ้ากำลังจะ​ทะลวง​ด่าน​งั้น​หรือ​?” สีหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​เปลี่ยนไป​อย่าง​กะทันหัน​ เขา​ก็​ล้ม​ลง​บน​พื้น​ ฝูงชน​วิ่ง​เข้ามา​ล้อม​หลิน​เว่ย​ไว้​ตรงกลาง​ ซางกวน​ฮ่าว​หยาง​และ​เห​ลย​เป่ามอง​ไปที่​สถานการณ์​ของ​ หลิน​เว่ย​ และ​มอง​ไปที่​กันและกัน​ ซางกวน​ฮ่าว​หยาง​กล่าว​ด้วย​ตวาม​ไม่อยาก​จะเชื่อ​

Options

not work with dark mode
Reset