โรเอลเลือกคําพูดอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ประเมินการ แสดงออกของชาร์ล็อต เขาสังเกตเห็นการสั่นไหวเล็กน้อยในดวงตา ของเธอ และมันก็ทําให้เขาต้องถอนหายใจลึกๆ
ในฐานะที่เป็นลูกหลานของตระกูลโซโรฟยา ชาร์ล็อตต้องเผชิญ กับความเครียดมากมายตั้งแต่อายุยังน้อย ตระกูลโซโรฟยาเป็นตระกูล ที่ใหญ่มาก ต่างจากตระกูลแอสคาร์ด เธอเป็นเพียงอันดับแรกในการสืบ ทอดตําแหน่ง แต่ก็มีคนอื่นอีกมากมายต่อแถวรออยู่ข้างหลังเธอ รอให้ เธอล้มลงเพื่อที่พวกเขาจะได้เสียบตําแหน่งนั้น
การค้นพบมรดกของตระกูลโซเฟียได้เสริมสถานะให้ชาร์ล็อต ซึ่ง ทําให้ใครก็ตามไม่สามารถสั่นคลอนสถานะของเธอได้ง่ายๆ อย่างไรก็ ตาม ด้วยความพ่ายแพ้ต่อลิเลียน องค์หญิงแห่งอาณาจักรศัตรู มี แนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดอิทธิพลด้านลบ
ด้วยความคิดดังกล่าวโรเอลจึงมองไปที่ชาร์ล็อตและถามอย่าง อ่อนโยน
“ชาร์ล็อต พวกตระกูลโซโรฟยาสร้างความเครียดให้กับเธอรึ เปล่า?”
“…มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ความรู้สึกต่อต้านชาวออสทีนในโรซ่า ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะผ่านไปหลายปี”
ชาร์ล็อตตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ใบหน้าของโรเอลกลายเป็นเคร่งขรึมเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น เขา คิดเรื่องนี้ก่อนจะพยักหน้า
“…ฉันเข้าใจ เอาไว้ฉันจะเขียนจดหมายถึงกองทัพของเมืองโรซ่า และให้ท่านปู่อูกินจัดการเรื่องนี้ มาดูกันดีกว่าว่าใครกล้าจะก่อความ วุ่นวายถึงเรื่องนี้”
“เอ๋? ด…เดี๋ยวก่อน! ที่รัก ไม่จําเป็นต้องทําถึงขนาดนั้น…”
ชาร์ล็อตตกใจกับการตัดสินใจของโรเอลที่จะเข้าแทรกแซงในเรื่อง นี้ เธอพยายามห้ามปรามเขาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เป็นผล ชาร์ล็อตรู้จัก โรเอลดีเกินกว่าจะฉุดรั้งเด็กหนุ่มไว้ได้
เนื่องจากความสามารถในการทําธุรกิจของชาร์ล็อตผ่านพลังทาง สายเลือดของเธอ ชาร์ล็อตจึงต้องดูแลธุรกิจของตระกูลโซโรฟยาตั้งแต่ อายุยังน้อย เธอต้องตัดสินใจและจัดการกับปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเธอ เอง และสิ่งนี้ทําให้เกิดบุคลิกที่เป็นอิสระไม่อยากพึ่งพาใครของเธอ
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทําให้ชาร์ล็อตมองว่าการพึ่งพาผู้อื่นเป็น สัญญาณของความอ่อนแอ เธอจึงมักจะพยายามแก้ไขทุกอย่างด้วย ตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน โดยเฉพาะโรเอล
เธอเพียงต้องการแสดงให้โรเอลเห็นด้านที่ดีที่สุดของตัวเอง และ เธอไม่คิดว่าความอ่อนแอจะเป็นหนึ่งในนั้น นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่ค่อย ถามอะไรจากโรเอล ด้วยเหตุนี้โรเอลจึงเดินทางมาที่นี่และให้ความ ช่วยเหลือแทน
เขตการปกครองแอสคาร์ดไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ที่นั่นเพิ่งลง นามในข้อตกลงการค้าจํานวนมากและกําลังจะกลายเป็นศูนย์กลาง การค้า พ่อค้าบางคนถึงกับคาดเดาว่ามันมีศักยภาพที่จะกลายเป็น มหาอํานาจทางเศรษฐกิจในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้นสมาคมพ่อค้าโรซ่ายังสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิด ยิ่งขึ้นกับพวกเขาด้วยการทําข้อตกลงทางการค้าและการทหารหลาย ฉบับ ตระกูลแอสคาร์ดไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนบ้านของสมาคมพ่อค้าโรซ่า อีกต่อไปแล้ว พวกเขาเป็นพันธมิตร โดยธรรมชาติและสมาคมพ่อค้าโร ซ่าจะไม่เพียงแค่ยักไหล่ต่อคําพูดของพันธมิตรที่ใกล้ชิดแน่ๆ
ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงเลยหากจะอ้างว่าอิทธิพลจากคําพูดของ โรเอลที่มีต่อโรซ่านั้นเทียบได้กับคําพูดของนอร่า
“ที่รัก ไม่จําเป็นต้องทําอย่างนั้นก็ได้ ข้าจะขอความช่วยเหลือเอง หากสิ่งต่างๆ เลวร้ายจริงๆ…”
“เธอจะขอเหรอ? งั้นเธอจะบอกปัญหานี้กับฉันไหม ถ้าฉันไม่ได้มา ที่นี่เพื่อถามเธอ?”
“…”
ชาร์ล็อตพูดไม่ออก เธอไม่รู้จะตอบคําถามของโรเอลอย่างไร
โรเอลหายเข้าออกลึกๆ ก่อนที่เขามองเข้าไปในดวงตาสีมรกตของ เธอและพูดด้วยน�าเสียงที่อ่อนโยน
“ฉันรู้ว่าสถานการณ์ไม่รุนแรงขนาดนั้น แต่เธออายุน้อยกว่าลิ เลียน และมีช่องว่างของระดับแก่นแท้ เอาเถอะ นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก หรอก สิ่งที่ฉันต้องการทําคือการส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังสมาคม พ่อค้าโรซ่าทั้งหมด”
“ข้อความที่ชัดเจน?”
“ใช่ ฉันอยากจะบอกพวกเขาว่าฉันจะช่วยเธอเสมอ ไม่ว่าจะเกิด อะไรขึ้น”
“!”
ดวงตาของชาร์ล็อตเบิกกว้างขึ้นทันที เธอจ้องเข้าไปในดวงตาสี ทองของโรเอล สบตากับการจ้องมองอันแน่วแน่ ซึ่งเต็มไปด้วยความ มุ่งมั่น
วินาทีต่อมา เด็กสาวก็ก้มศีรษะลง เลือดฝาดกระจายไปทั่วแก้ม ของเธอ ชาร์ล็อตเริ่มส่ายหน้าโดยหวังว่าจะทําให้สมองที่ร้อนจัดอยู่นั้น เย็นลง
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วชาร์ล็อตจะเป็นฝ่ายรุกในความสัมพันธ์ แต่เธอ กลับอ่อนแอต่อการโจมตีโดยไม่ได้ตั้งใจของโรเอล ความเขินอายนี้ทํา ให้เธอไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
ในทางกลับกัน หลังจากที่แสดงความคิดออกมาอย่างไร้เดียงสา แล้ว โรเอลก็หันความสนใจไปที่สภาพร่างกายของอีกฝ่าย
“มันเป็นการต่อสู้ที่เข้มข้นมาก เธอได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?”
“ม-ไม่เลย ที่รัก ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย”
“เธอคงใช้พลังเวทมากเกินไปสินะ ผิวของเธอดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลย”
“อะ เอ๋? ข้าดูแย่มากเลยเหรอ?”
หัวใจของชาร์ล็อตสั่นระรัวด้วยความตกใจ ด้วยความเป็นคนรัก สวยรักงามอันน่าภาคภูมิใจ เธอจึงทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในสภาพที่ไม่ดี ต่อหน้าชายที่เธอรัก เด็กสาวรีบเอามือปิดหน้า ไม่อยากเปิดเผยด้านที่ น่าเกลียดของตัวเอง
โรเอลรู้สึกขบขันกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เขาจึงจับมือเธอและ ชี้แจงอย่างรวดเร็ว
“ไม่รู้ตัวเลยเหรอเนี่ย เธอจะดูแย่ได้ยังไงเล่า? ฉันหมายความว่า เธอดูเหนื่อยต่างหาก พอมาคิดๆ ดูแล้ว มันคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ที่ฉัน จะไปเยี่ยมเธอทันทีหลังจากการต่อสู้อันดุเดือดนั่น”
“ไม่ใช่แบบนั้นแน่! …ข้ายังไม่คิดจะพักผ่อนอยู่แล้ว ”
ชาร์ล็อตเสริมคําพูดของตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนที่ดวงตาของเธอ จะค่อยๆ เหลือบไปทางหน้าต่าง ซึ่งเผยให้เห็นทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่ สวยงามด้านนอก โรเอลก็ทําเช่นเดียวกันและเพลิดเพลินกับการชม ผีเสื้อที่บินไปมาภายใต้ดวงอาทิตย์ที่กําลังตกดิน
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของโรเอล “ทําไมไม่ให้ฉันขอให้เปตราช่วยเธอล่ะ?” “หืม? ที่รักหมายความว่ายังไง?”
โรเอลปล่อยพลังเวทสีเหลืองซีดใส่เข้าไปในร่างกายของชาร์ล็อต การฉีดพลังเวทจากที่อื่นอย่างไม่ทันตั้งตัวทําให้เธออุทานด้วยความ ประหลาดใจ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่หล่อเลี้ยงความอ่อนแอ ในร่างกายของตัวเองอย่างรวดเร็ว ทําให้ผิวพรรณดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“นี่มัน…”
“เปตราเป็นเทพธิดาแห่งผืนปฐพี พลังเวทของเธออ่อนโยนต่อ ธรรมชาติและพลังชีวิต เหมาะอย่างยิ่งสําหรับผู้หญิง อาจไม่เพียง พอที่จะรักษาให้เธอหายได้ในทันที แต่ก็น่าจะขจัดความเหนื่อยล้าของ เธอไปบ้าง”
โรเอลยังคงใส่พลังเวทของเปตราเข้าไปในร่างกายของชาร์ล็อตต่อ ไป อีกฝ่ายจึงหลับตาลงก่อนจะพรูลมหายใจอย่างผ่อนคลาย พลังเวท ของพวกเขาเริ่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทําให้โรเอลสัมผัสได้ถึงความ แข็งแกร่งในปัจจุบันของชาร์ล็อต
ความรู้สึกนี้… เธอเข้าใกล้คอขวดของระดับแก่นแท้ 4 แล้วนี่นา
โรเอลรู้สึกประหลาดกับเรื่องนี้ใจเล็กน้อย
ในฐานะที่เป็นนายหญิงจากตระกูลพ่อค้า ชาร์ล็อตไม่มีทางที่จะ อุทิศเวลาและความพยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนาพลังเหนือ
ธรรมชาติ แต่เธอก็ยังเดินตามรอยเท้าของโรเอลได้ มันเกือบจะ เหมือนกับว่าเธอกําลังเพิ่มระดับแก่นแท้ด้วยการหายใจ!
นี่หรือที่เขาเรียกว่าพรสวรรค์? แต่ถึงอย่างนั้น… เธอยังเติบโตเร็ว กว่าในเกมมาก
โรเอลไม่รู้ว่าเขาควรฉลองหรือกังวลเรื่องการเติบโตที่รวดเร็วของ ชาร์ล็อต เมื่อเทียบกับในเกมอายออฟโครนิเคิลรึเปล่า เขาพยายามสลัด ความคิดออกจากเรื่องนี้ โดยรู้ว่าความกังวลของเขาไม่สามารถสร้าง ความแตกต่างใดๆ ได้
ในเวลาต่อมา ความอ่อนล้าบนใบหน้าของชาร์ล็อตก็จางหายไป และโรเอลก็ค่อยๆ สลายพลังเวทสีเหลืองซีด ชาร์ล็อตมองดูท่าทาง มั่นใจบนใบหน้าของโรเอล ทําให้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่น และความสุขที่เอ่อล้น เธอม้วนผมอย่างสับสนและพูดขึ้น
“ที่รัก วันนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว”
“อืม ใช่ ใกล้จะถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ภาคเรียนแรกของเราใน สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าเองก็กําลังจะสิ้นสุดลง”
โรเอลกล่าวคร�าครวญว่าเวลาผ่านไปเร็วแค่ไหน
เขาคิดว่ามันเป็นเพียงคําพูดที่ผ่านๆ ไป แต่จู่ๆ ชาร์ล็อตก็ลุกขึ้น เดินเข้ามาเอานิ้วไปแตะที่ปกเสื้อของเขา
“ที่รักไม่คิดว่าถึงเวลาที่ตัวเองจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับ ฤดูกาลใหม่แล้วเหรอ?”
ชาร์ล็อตพูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
โรเอลรีบปัดตกไปโดยสัญชาตญาณ
“ช่วงนี้เธองานยุ่ง และฉันก็ไม่อยากทําให้เธอเหนื่อยด้วย”
“การออกแบบเสื้อผ้าเป็นงานอดิเรกของข้า มันเป็นวิธีที่ทําให้ข้า ผ่อนคลาย ที่รัก เจ้าตั้งใจจะเอาความสุขเล็กๆ ในชีวิตของข้าไปงั้น เหรอ? นอกจากนี้ เจ้ายังใส่ได้แค่เสื้อผ้าที่ข้าออกแบบเท่านั้น มันระบุไว้ อย่างชัดเจนในสัญญาของเรา”
“เดี๋ยวนะ สัญญาอะไร?”
โรเอลถามด้วยความงุนงง
ชาร์ล็อตพูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับข้อตกลงที่เธอแอบใส่เข้าไปใน สัญญาสําหรับธนบัตร 400,000 เหรียญทองของโรเอล ซึ่งเซ็นสัญญา หลังจากมองเธอเพียงชั่วครู่เพราะไว้วางใจในตัวเธอ ในท้ายที่สุดเขาจึง
ทําได้เพียงแค่ยืนขึ้นอย่างเชื่อฟังและอนุญาตให้นักออกแบบส่วนตัว ทํางานของตัวเองไป
ร่างกายของโรเอลเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เพราะเขากําลังอยู่ ในช่วงเติบโต ดังนั้นชาร์ล็อตจึงมักจะทําให้แน่ใจว่าได้วัดขนาดของเขา ก่อนที่จะออกแบบเสื้อผ้า เมื่อทําทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอก็จะส่งคําสั่ง ด่วนไปยังสมาคมพ่อค้าโซโรฟยา และสมาคมก็จะจัดส่งเสื้อผ้า สําเร็จรูปภายในไม่กี่วัน
ด้วยเหตุนี้เสื้อผ้าทั้งหมดที่โรเอลได้รับจากชาร์ล็อต จึงมีขนาด เหมาะสมเสมอ
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาสับสนเมื่อชาร์ล็อตไม่ชายตาสิ่งที่เรียกว่าสาย วัดเลย
“เธอจะไม่วัดสัดส่วนฉันหน่อยเหรอ?”
“การเจริญเติบโตของที่รักช้าลง และข้าต้องการทําให้แน่ใจว่า เสื้อผ้าที่ทําออกมาพอดีตัวอย่างอบอุ่น คราวนี้ข้าเลยไม่ได้วางแผนที่จะ ใช้สายวัด”
“เธอตั้งใจจะวัดตัวฉันโดยไม่ใช้สายวัดยังไง?”
โรเอลถามด้วยความสงสัย
ดวงตาของชาร์ล็อตเป็นประกายระยิบระยับขณะที่เธอยกมือขึ้น และโบกมือไปมา
“ก็ใช้สิ่งนี้ไง”