บทที่ 8 ตอนที่ 28
ชั้นเรียนในตอนเช้าจบลงแล้ว ณ ตอนนี้ในชั้นปีสาม ที่บริเวณหลังห้องเรียนมีบรรยากาศเศร้าๆ
「ไอ หมายความว่ายังไง?」
ในห้องเรียนที่ควรจะผ่อนคลายและไร้ซึ่งความตึงเครียด ในมุมห้องแห่งหนึ่งกับมีเสียงดังก้องดังขึ้น
เจ้าของเสียงคนนั้นก็คือ ทิม่า ไลม์
บรรยากาศที่อ่อนโยนและเงียบสงบตามปกติหายไป และดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ
「ก็อย่างที่บอกไปไงคะ ว่าหลังจากนี้ฉันคงจะยุ่งไปอีกสักพัก」
ด้วยความเยือกเย็นราวกับจิตใจที่ถูกแช่แข็ง ไอริสตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ไม่มีแม้แต่อารมณ์ในน้ำเสียงของเธอ
สีหน้าเย็นชาของเพื่อนสนิททำให้ทิม่ากำลังมองดูตุ๊กตาที่งดงามไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ และเธอที่ทนไม่ได้ก็รู้สึกได้ถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นภายใน
ในทางกลับกันไอริสพยายามหันออกจากห้องเรียนโดยหันหลังให้กับเพื่อนสนิท
「เดี๋ยวสิ ไอ รอก่อนสิคะ!」
「ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันมีธุระที่ต้องทำ ไม่มีเวลามายุ่งเรื่องของเธอ แล้วเจอกัน……」
โดยไม่รอคำตอบของทิม่าไอริสออกจากห้องเรียน
และในวันนั้นเธอก็ไม่กลับมาที่ห้องเรียนอีกเลย
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
หลังเลิกเรียนโนโซมุโดนอันริพาไปร้านช่างฝีมือ
เพื่อแลกกับงานทำความสะอาดและช่วยชั้นเรียนในอีครอส เธอสัญญาว่าจะแนะนำสถานที่ๆให้ยืมเตาเผาเพื่อหลอมกระดิ่งขึ้นมา
อย่างไรก็ตามสีหน้าของโนโซมุนั้นแย่มากในตอนนี้
“ลืมไปซะเถอะ”
คำพูดของไอริสทิ่มแทงหัวใจเขา
อันริที่มีท่าทีสงสัยก็ได้ถามต่อโนโซมุ
「โนโซมุคุงงงงง เป็นอะไรไป~」
「อันที่จริงไอริสบอกผมว่าเธอไม่ต้องการกระดิ่งแล้วครับ……」
โนโซมุลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง
ในเทศกาลเปิดสถาบันไอริสได้ขอให้เขาทำกระดิ่งให้ แต่เธอก็มาบอกเอาวันนี้ว่าไม่ต้องการมันอีกแล้ว และบอกให้ผมควรอยู่ห่างจากเธอสักพัก
ในความเป็นจริงแล้วไอริสมักจะเข้าหาโนโซมุในตอนกลางวัน และหลังเลิกเรียน
แต่ว่าทิม่าบอกมาว่าเธอออกชั้นเรียนไปตั้งแต่จบคาบเช้า
ทิม่าเองก็พยายามจะหยุดเธอเอาไว้แต่ไอริสไม่ฟังเลย
เมื่อได้ยินแบบนั้นโนโซมุก็รู้สึกปวดใจ
「อึก……」
「ทำไมถึงต้องหยุดด้วยล่ะ?」
ด้วยความเป็นห่วงโนโซมุ อันริจ้องมองโนโซมุ
เมื่อเธอถามโนโซมุก็เงียบ
「…………」
ความเจ็บปวดในหน้าอกยิ่งกระตุ้นความหงุดหงิดในตัวมากขึ้น
ไอริสไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้
ตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกที่ว่าจะคุมตนเองได้ ความจริงที่ว่าเขาหันคมดาบใส่เพื่อนๆถึงสองครั้งยังไม่จางหายไป
「……ไม่หรอก ยังไงผมก็จะทำมันออก แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่ต้องการ แต่ผมก็อยากจะทำและส่งมอบให้เธอจริงๆ」
ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความหงุดหงิดโนโซมุก็ยืนกรานว่าจะทำต่อไป
แน่นอนว่าไอริสบอกว่าไม่ต้องการ แต่โนโซมุก็อยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้
นี่คือความเห็นแก่ตัว และความภาคภูมิใจของโนโซมุ เมื่อเขาให้สัญญาแล้ว เขาก็จะทำมัน
แน่นอนว่ามันอาจจะมีความเศร้าที่มากัดกินจิตใจที่ถูกปฏิเสธอยู่บ้าง
แต่โนโซมุในตอนนี้ไม่เหมือนกับอดีตที่ผ่านมา เขาเข้าใจดีว่าที่ไอริสปฏิเสธไม่อยากให้เขาเข้าหาเพราะไม่อยากลากเขาเข้าไปเกี่ยวข้อง
เพราะแบบนั้นโนโซมุในตอนนี้จะไม่ล้มเลิกความตั้งใจและสั่นคลอนต่อคำพูดของเธอ
“หากอยากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิง ก็ควรจะอยู่เคียงข้างเธอ”
ในใจของเขายังจำคำพูดของเธอคนนั้นที่สอนเขาให้เป็นสุภาพบุรุษที่ดี
โนโซมุและไอริสทั้งสองอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังทั้งคู่ แต่ความสิ้นหวังเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันที่ช่วยเหลือกันและกันของทั้งสอง
(ถ้าเป็นอาจารย์อันริคงจะยอมอภัยให้กับผม……)
โนโซมุหันไปมองหน้าของอาจารย์อันริด้วยรอยยิ้ม
อันริคิดว่าเขาจะยอมแพ้และจมปลักอยู่กับเรื่องแค่นี้
อันริรู้สถานการณ์ส่วนใหญ่แล้วและรู้ฐานะของโนโซมุดี ในฐานะอาจารย์ประจำชั้นไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้
ตามปกติ จิฮัดจะบอกให้เธอกีดกันโนโซมุออกจากตระกูลฟรานซิส
แต่อันริก็ไม่ได้ยอมแพ้และยังช่วยเขาในการทำกระดิ่งด้วยซ้ำ
จิฮัดอาจจะลงโทษต่อการกระทำของอันริก็ได้
แม้ว่าจะรู้สึกสงสารโนโซมุ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ช่วยอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้
「เอาล่ะ เด็กดีๆ~」
อันริไม่ปล่อยให้เขาต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไปในทางตรงกันข้ามเธอลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยนราวกับชื่นชมในการกระทำของเขา
โนโซมุตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ แต่เขาก็ต้องอายกับการกระทำที่ได้รับ
「อาจารย์อันริ หยุดเถอะครับ」
「โยชิ โยชิ~~~」
「อ๊าาาา……」
โนโซมุพยายามจะสลัดมืออันริให้หลุด แต่มือของอันริก็จับไว้แน่นและไม่ยอมปล่อย
โนโซมุที่พยายามขอให้เธอหยุดด้วยความเขินอาย แต่ไม่มีวี่แววว่ามันจะจบลงเลย
แม้ว่าจะเห็นสายตาอันอบอุ่นจากรอบข้าง แต่โนโซมุก็ทำได้แค่ปล่อยให้เธอทำตามใจ
「โนโซมุคุง ตอนเทศกาลเปิดสถาบันคิดว่าไงบ้างล่ะ~」
「มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผม บอกตามตรงว่าผมก็แค่ถูกสถานการณ์ต่างๆพาไป……แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าตระกูลวาจาร์ตจะออกมา นอกจากนี้……」
「ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อยนะ หมายถึงการที่สามารถพูดคุยกับคนภายนอกได้ต่างหากล่ะ~โนโซมุคุงเองก็อยู่ปีสามแล้ว~ได้พบกับเส้นทางแห่งอนาคตบ้างแล้วสินะ~เพราะงั้นคงมีสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ~?」
เมื่อการโอ๋จบลงอันริก็ถามว่าผมรู้สึกยังไงกับพิธีเปิดสถาบัน
น่าแปลกที่ความกังวลของอันริไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นดราก้อนสเลเยอร์หรือปัญหาระหว่างตระกูลฟรานซิสกับวาจาร์ต แต่เกี่ยวกับอนาคตของเขาเท่านั้น
「……ตามปกติก็ไม่แน่ใจหรอกครับ ผมเคยสนิทกับลิซ่ามาก่อน แต่เมื่อมีคนถามผมว่าอยากทำอะไรในอนาคต
ผมเองก็ได้รับการติดต่อจากหลายๆประเทศ แต่ผมก็ไม่อยากจะรับใช้ประเทศไหนเป็นการส่วนตัวเลยครับ……」
โนโซมุได้สะสางเรื่องในอดีตไปเรียบร้อยแล้ว แต่เขายังไม่แน่ใจว่าในอนาคตต้องการทำอะไร
เหนือสิ่งอื่นใดปัญหาของเทียแมตทำให้เขาไม่มีเวลากังวลเรื่องอนาคตเลย
「ทำไมอันริถึงได้ตัดสินใจเป็นอาจารย์งั้นเหรอครับ?」
โนโซมุถามอันริว่าทำไมถึงได้มาเป็นอาจารย์ของสถาบันโซลมินาติ
เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการจากพฤติกรรมของเธอที่ทำให้เหล่านักเรียนต้องใจเต้นอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็มีความสามารถอยู่ในแรงค์ A
ถ้าหากเธอเลือกเดินทางอื่นก็จะมีความสำเร็จมากมายรออยู่
「อืมมม~ตอนที่เค้าเห็นเด็กๆที่พยายามอย่างหนัก เค้าก็คิดว่าจะทำอะไรเพื่อช่วยเด็กๆได้บ้างน้า~」
เธอชี้แก้มของเธอขณะตอบคำถามด้วยท่าทางน่ารัก
เธอบอกว่าที่เธอมาเป็นครูเพราะอยากเห็นเด็กๆที่มีความพยายามอย่างหนักประสบความสำเร็จ
「เค้าน่ะชอบ~ชอบนักเรียนทุกคนที่เปล่งประกายมากกว่าการที่พวกเขาได้สู้กับสัตว์อสูร~พวกเขาเหมือนกับดวงดาวระยิบระยับบนท้องนภาเลยล่ะ」
「ระยิบระยับงั้นเหรอครับ?」
อันริกางแขวนกว้างอย่างภาคภูมิใจ
ขณะที่อันริกางมือออกฝูงชนที่สัญจรไปมาก็มองมาที่พวกเขาด้วยท่าทางแปลกๆ
ผู้ชายบางคนก็จ้องมองหน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ในขณะที่พยายามเอาเสื้อแจ็คเก็ตปิดเป้ากางเกง
แต่อันริไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้น ตัวเธอนั้นเปล่งประกาย
ไม่ว่าจะมีข่าวลือหรืออะไรก็ตาม อันริไม่เคยได้สนใจสิ่งเหล่านั้นและแสดงความจริงใจออกมาอย่างตรงไปตรงมา
「แต่พ่อแม่ของฉันดันต่อต้านสิ่งที่ฉันอยากจะทำ~เขาบอกว่าลูกคิดอะไรอยู่?~ไม่มีทางที่ผู้หญิงจะทำแล้วประสบความสำเร็จหรอกนะ」
「งั้นเหรอครับ?」
「ใช่ แต่ฉันบอกว่ามันไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลยและหนีออกจากบ้านมาน่ะ~」
โนโซมุตกใจเล็กน้อยกับความจริงที่ว่า แต่เขาก็ยิ้มอย่างชื่นชมกับความไร้เดียงสาของเธอ
บางทีเธออาจจะมาจากตระกูลที่ร่ำรวย
ในขณะที่โนโซมุคิดเรื่องแบบนั้น อันริก็เอาหน้าเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง
「นี่ โนโซมุคุง ไม่มีความคิดที่อยากจะเป็นอาจารย์สอนนักเรียนอยู่ที่สถาบันโซลมินาติเหรอ?」
「……เอ๊ะ?」
ข้อเสนออย่างกะทันหันทำให้โนโซมุพูดอะไรไม่ออก
「ไม่มีคนสอนวิชาดาบสไตล์นี้ที่สถาบันแห่งนี้เลยน้า~สไตล์ดาบมิคางุระโนโซมุจะได้ประกาศตน ณ ที่นี่~และเค้าก็อยากให้โนโซมุคุงมาเป็นอาจารย์ด้วยกันกับเค้านะ」
ในความเป็นจริง สไตล์ดาบของโนโซมุกำลังเป็นที่จับตามองของสถาบันแห่งนี้และหาผู้ฝึกสอนได้ยากมากๆ
มีเพียงไม่กี่คนที่เชี่ยวชาญวิชาดาบฝั่งตะวันออก
เขาได้เรียนรู้ว่าแม้แต่จะมีพลังอันน้อยนิดก็สามารถจะใช้วิชาดาบอันทรงพลังได้
หากเขาสามารถถ่ายทอดการสอนวิชาดาบนี้ให้คนรุ่นหลังได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยกำจัดสัตว์อสูร
เนื่องจากโนโซมุนั้นผ่านการฝึกฝนด้วยร่างกายเป็นหลัก จึงไม่ได้เรียนรู้ถึงวิธีการสอนผู้คนในการใช้วิชาดาบ แต่เมื่อพวกเขาได้รับประสบการณ์จะต้องพัฒนาขึ้นตามธรรมชาติแวดล้อม
อันที่จริงอันริได้ยินมาว่าการเคลื่อนไหวทางกายภาพที่โนโซมุเป็นคนสอนทำให้พวกชั้นปี 1 มีแต่คนเก่งขึ้นมาก
การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญและนำไปใช้ได้หลายปีหลายทศวรรษ
จากมุมมองของอันริเองก็เชื่อในพรสวรรค์ของโนโซมุ
「……ขอโทษด้วยจริงๆครับ」
「ไม่เอาน่าาาาา~แต่ก็ช่างเถอะถ้ามีอะไรที่อยากทำอยู่แล้วเค้าก็ไม่ห้ามหรอกนะ ทำในสิ่งที่อยากทำเถอะอาจารย์จะสนับสนุนเอง~」
แต่คำตอบของโนโซมุทำให้อันริเศร้าเล็กน้อย
เธอเองเข้าใจว่าโนโซมุตอนนี้ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
สถานการณ์รอบตัวเขาซับซ้อนเกินไปและคาดเดาไม่ได้
「โนโซมุคุง เค้าคิดว่าเธอมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้เมื่อเวลานั้นมาถึงน้า~」
「แต่ผมมีปัญหารายล้อมมากมายเลยนะครับ……」
เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของเขา สีหน้าของโนโซมุก็หมองลง
พลังอันล้นเหลือที่อยู่ภายในร่างถูกเฝ้าระวังโดยมังกรขาวและมันสร้างบรรยากาศอึดอัดและปฏิเสธคนรอบตัว
ความรู้สึกที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังจากสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทำให้โนโซมุทำอะไรไม่ถูก
「บอกตามตรงว่าเค้าเองก็ไม่ได้คิดว่าภาระที่โนโซมุแบกไว้มันจะเยอะสักแค่ไหน ในฐานะอาจารย์อาจจะไม่มีอะไรที่ช่วยได้มากนัก……」
สีหน้าของอันรินั้นค่อนข้างมืดลงเล็กน้อย
ตอนจบอันแสนยืดเยื้อสุดท้ายก็เป็นจุดตัดกันของความเศร้า
เธอที่เป็นอาจารย์ซึ่งใฝ่ฝันอยากจะช่วยนักเรียน ในขณะเดียวกันเธอก็เข้าใจสภาพของโนโซมุ
มันยากเกินกว่าจะบีบคั้นคนสิ้นหวังให้ลุกขึ้นยืนอย่างภาคภูมิใจ
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของคนรอบข้างที่ทิ้งตัวเขาไว้เบื้องหลังราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไปมันได้กลายเป็นภาระผลักดันตัวเขาอย่างหนักหน่วง
ยิ่งไปกว่านั้นอันริยังไม่สามารถช่วยอะไรได้ เมื่อพูดถึงเรื่องของเทียแมต เธอไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปยุ่งได้เลยเพราะเธอไม่มีความรู้เกี่ยวกับเวทย์วิญญาณ และปัญหาหลายอย่างก็แก้ไขไม่ได้ในฐานะอาจารย์
「นั่นคือสิ่งที่ทั้งหมดที่เค้าพูดได้ มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เธอจะทำ แต่เป็นสิ่งที่เธออยากจะทำมากกว่า」
เธอบอกว่าเหล่านักเรียนไม่ควรมองข้ามเจตจำนงของตัวเอง
เมื่อเห็นการกระทำของอันริตาของโนโซมุก็เบิกกว้าง
โนโซมุจริงๆแล้วต้องการอะไร อันริเองก็ไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความรู้สึกอันแรงกล้า เด็กชายคนนี้ต้องทุ่มเทฝึกฝนเสี่ยงตายและโดนกล่าวหามาตลอดสองปีเต็มๆ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเพื่อนสมัยเด็กของเขา นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
「บางทีโนโซมุคุงอาจจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ได้น้าา ขนาดเค้ายังมีเลย เค้าจึงอยู่ที่สถาบันแห่งนี้พยายามอย่างเต็มที่ เพียงแต่ตอนนี้คำตอบนั้นมันอาจจะเลือนลางจนเห็นยากไปสักหน่อยก็ตาม……」
อันริเอามือออกจากแก้มของโนโซมุและทุบไปที่อกของโนโซมุเบาๆ ราวกับแสดงให้เห็นว่าคำตอบมันอยู่ตรงนี้
และเธอก็เริ่มเดินออกนำทางอีกครั้ง
「ไปกันเถอะ สำหรับตอนนี้ก็ไปทำสิ่งที่โนโซมุคุงอยากจะทำกันดีกว่า」
เมื่อเธอหันกลับมาด้วยสีหน้าไร้เดียงสาตามปกติเธอก็ไม่หลงเหลือร่องรอยความเป็นผู้ใหญ่และกลับมาเป็นอาจารย์จอมซนคนเดิม
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
โนโซมุถูกอันริพาไปยังร้านตีเหล็กบนถนนเล็กๆในย่านการค้า
จากด้านหลังของกระท่อมที่ทำหน้าที่เป็นร้านค้าและเวิร์คช็อป เกร๊ง เกร๊ง ! มีเสียงตีเหล็กดังก้อง
บางทีเพื่อให้ความร้อนจากเตาเผาถูกระบายออกประตูถูกเปิดออกเอาไว้ และมีความร้อนที่ร้อนจนแสบผิวหนัง
「ที่นี่เหรอครับ?」
「อุมุ ที่นี่คือร้านตีเหล็กที่สมัยที่เค้ายืมตั้งแต่เป็นนักเรียนเลยล่ะ วัลโด้ซัง อยู่ไหมคะ~~?」
ราวกับไปเยี่ยมญาติละแวกใกล้เคียงอันริเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับส่งเสียง
โนโซมุเดินตามเธอไป แต่ทันทีที่ก้าวเข้าไปก็มีคำด่าสาปแช่งออกมาจากในร้าน
「ไอ้บ้าเอ้ย ! ทำพังอีกแล้วงั้นเรอะ!」
「ขอโทษค่าาาาาาาาาาาาา~!」
ระดับเสียงนั้นดังมากจนโนโซมุเอามือปิดหู
เมื่อหันไปหาทิศทางของเสียงก็เจอกับคนแคระตัวเล็กๆที่มีเคราสีน้ำตาลเข้มข้นพร้อมผ้ากันเปื้อนหนาๆ พร้อมกับค้อนในมือที่กำลังหน้าแดงด้วยความโกรธ
ดวอร์ฟ
มนุษย์แคระประเภทหนึ่งที่มีทักษะในการตีเหล็กและอาศัยอยู่ในถ้ำเป็นหลัก
ถูกบังคับไล่ออกมาจากบ้านเกิดในอาณาจักรใต้ดินเนื่องจากการรุกรานครั้งใหญ่ และตอนนี้ก็อยู่ร่วมกับสมาพันธ์สุมายา
แต่สิ่งที่ทำให้โนโซมุประหลาดใจที่สุดคือหญิงสาวผมแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนแคระ
「……ลิซ่า?」
「อะ โนโซมุ!」
คนที่ก้มศีรษะต่อดวอร์ฟไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลิซ่าเพื่อนสมัยเด็กของเขา
เมื่อเธอหันไปเห็นอันริกับโนโซมุเธอก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นและตบชายกระโปรงของเธอเพื่อหลบเขม่าควัน
「เอ่อ ทำให้เห็นด้านแปลกๆแล้วสินะคะ……」
ลิซ่าหน้าแดงขณะแวกว่ายสายตาไปในอากาศด้วยความเขินอาย
ในทางกลับกันดวอร์ฟที่กำลังดุเธอกำลังจ้องมองลิซ่าที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมาและเริ่มดูแลตัวเอง
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง