ตอนที่ 380 ถ้ำใต้ดินที่ยุ่งเหยิง (2)
ฟางผิงเผยสีหน้างุนงง ฉันไม่ได้คิดจะจุดสงครามใหญ่สักหน่อย ตาเฒ่าหลี่ก็น่าจะนึกไม่ถึงเหมือนกัน เขาลงมือเพราะอยากจะก่อความเคลื่อนไหวเล็กน้อยให้ฟางผิงไม่ตกเป็นจุดสนใจ คงคาดไม่ถึงว่าจะล่อคนเข้ามาทั้งหมด!
ฝั่งมนุษย์ขั้นเก้าหนึ่งคน ขั้นแปดหนึ่งคน ขั้นแปดครึ่งๆ กลางๆ อีกหนึ่งคน
ฝั่งถ้ำใต้ดินขั้นเก้าสองคน ขั้นแปดสี่คน!
แต่ตอนนี้ยังดีที่ว่าไม่ได้ถึงขั้นถูกล้อมเอาไว้ พวกเขาไม่เข้ามารวมตัวกัน ต่างเปิดเผยลมหายใจของตัวเองก่อนจะวิ่งหนีกระจัดกระจายไปอย่างรวดเร็ว ครู่ต่อมาทุกคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
ฟางผิงยังตกอยู่ในภวังค์ คึกคักดีจริงๆ เหล่าหลี่คงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอกนะ?
ถอนหายใจเบาๆ ตอนนี้ขั้นเก้าและขั้นแปดภายในเมืองออกไปแล้ว น่าจะไม่มีใครคาดถึงว่าจะยังมีคนแทรกซึมเข้ามาอีก
ฟางผิงมีประสบการณ์จากครั้งก่อน ครั้งนี้จึงค่อนข้างสบายๆ ไม่นานก็ปะปนเข้าไปอยู่ในเมืองได้
ช่วงเวลาสั้นๆ เมืองจู้หลิวน่าจะคาดไม่ถึงว่าฟางผิงจะกลับมา ประตูเมืองไม่ได้ตรวจตราเข้มงวดเท่าไหร่ อันที่จริงยากที่เข้มงวดอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ใกล้ๆ แทบจะเข้าเมืองราชาเป็นจำนวนมากทุกวัน ระบบตรวจสอบตัวตนของถ้ำใต้ดินไม่ได้เคร่งครัดขนาดนั้น
—
ในเวลาเดียวกัน
หมู่บ้านแห่งหนึ่งนอกเมือง พวกฉินเฟิ่งชิงสามคนต่างใบหน้าชื้นเหงื่อ
ผ่านไปพักใหญ่ ฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยอย่างงุนงงว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
อยู่ดีๆ ก็ต่อสู้กันขึ้นมา ทั้งยังอยู่บนหัวพวกเขาอีก น่ากลัวเกินไปแล้ว!
หลี่หานซงพึมพำว่า “ทีมสนับสนุนมาแล้ว?”
ฝั่งมนุษย์เหมือนมีแสงสีทองสองสาย แต่ตอนที่เข้ามามีขั้นแปดแค่คนเดียว
ระหว่างที่พูดหลี่หานซงก็เอ่ยด้วยใบหน้าซีด “ไปเถอะ อันตรายเกินไปแล้ว! ห่างจากเมืองแค่ไม่กี่สิบลี้ นี่หากถูกขั้นเจ็ดขั้นแปดไล่ตามคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“ไปกับผีน่ะสิ!”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยด้วยตาเป็นประกาย “คนของพวกเรามาแล้ว! ตอนนี้ยอดฝีมือระดับสูงออกไปหมด เป็นโอกาสให้พวกเราทำการใหญ่พอดี ไปเถอะ เข้าไปใกล้เมืองทำอะไรสักหน่อย ตรวจสอบสถานการณ์ก่อน ถ้าภายในเมืองไม่มียอดฝีมือนั่งรักษาการณ์ก็เข้าเมืองไปทำการใหญ่กัน!”
“บ้าไปแล้ว!”
หวังจินหยางเอ่ยอย่างครุ่นคิด “เข้าเมืองอันตรายเกินไป อย่าทำแบบนั้นจะดีกว่า แต่หมู่บ้านรอบๆ เมืองพอจะลองดูได้ ถ้ำใต้ดินที่นี่เพิ่งอุบัติ มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว พวกนายก็เห็นนี่ แค่สุ่มปล้นหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งก็ได้หินพลังงานมาไม่น้อยแล้ว”
“ได้ อย่าเสียเวลาอีกเลย ไปเถอะ!”
พูดจบฉินเฟิ่งชิงก็เดินนำหน้ามุ่งไปทางเมืองจู้หลิวทันที
หลี่หานซงทำได้แค่ยอมรับชะตากรรม ตามไปเถอะ อยู่กับสองคนนี้อย่าได้มองชีวิตเป็นชีวิตอีกเลย
แต่จะว่าไปแล้วปล้นแค่สองหมู่บ้าน กลับได้หินพลังงานฝึกวิชามานับสิบก้อน หินพลังงานทั่วไปกว่าร้อยก้อน ถ้ำใต้ดินเพิ่งอุบัติกอบโกยได้เยอะจริงๆ ด้วย
ไม่เหมือนถ้ำใต้ดินปักกิ่ง บางครั้งกระทั่งหินพลังงานทั่วไปยังหาไม่เจอด้วยซ้ำ
“บางที…หลังจากนี้อาจจะนำคนของปักกิ่งลองดูสักหน่อยได้…”
หลี่หานซงครุ่นคิดอยู่ในใจ ความรู้สึกที่ได้ปล้นนั้น…ยอดเยี่ยมจริงๆ
—
ในตอนที่พวกหลี่หานซงเข้าไปปล้นหมู่บ้านเล็กๆ ฟางผิงก็ยืนอยู่หน้าประตูร้านค้าแลกเปลี่ยนหินพลังงาน ตรวจสอบสถานการณ์อย่างเงียบๆ
เป็นปัญหาอยู่บ้าง!
สถานที่เก็บหินพลังงานมีการติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัย
เรื่องนี้เคยเสียเปรียบจากครั้งก่อนแล้ว ตอนนี้ฟางผิงจึงระวังตัวขึ้นมา
ทั้งยังมีขั้นหกคนหนึ่งนั่งรักษาการณ์อยู่ ถือเป็นอีกปัญหาเช่นกัน
แต่ร้านค้าแห่งนี้ เป็นร้านที่เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เข้มข้นที่สุดแล้ว
“อย่างน้อยหินพลังงานน่าจะมูลค่าเกือบหมื่นล้าน!”
“ขุดดินก็เป็นเรื่องยาก ใต้ดินมีรากต้นหลิวเยอะเกินไป จะถูกพบเจอได้ง่าย ตอนนี้ต้นหลิวปีศาจไม่ได้ยุ่งกับการผนึกน้ำพุแห่งชีวิตอีกแล้ว”
“ขั้นหกก็ไม่ได้ฆ่าง่ายๆ…ทั้งอาจจะฆ่าไม่ได้เสมอไป งั้นทำได้แค่ปล้นร้านค้าเล็กๆ ที่มีขั้นห้าควบคุมอยู่เท่านั้น ตอนนี้ฉันมีพลังจิตใจเจ็ดร้อยกว่าเฮิรตซ์ รวมกับร่างกายที่เทียบได้กับขั้นห้าสูงสุด และอาวุธระดับ A ภายใต้การโจมตีกะทันหัน ฆ่าอีกฝ่ายน่าจะไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ปล้นหนึ่งร้าน ร้านที่สองน่าจะระวังตัวมากขึ้นแล้ว”
ฟางผิงเดินไปก็ครุ่นคิดไปตลอดทาง
ตอนนี้เมืองราชากำลังยุ่งวุ่นวายอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้ถูกฟางผิงก่อเรื่องไปครั้งหนึ่ง หลายร้านค้ายังได้รับความเสียหายอยู่ ตอนนี้กำลังสร้างใหม่อีกครั้ง
“ยังวุ่นวายไม่พอ!”
ฟางผิงมองบนท้องฟ้าที่ยังมีระดับสูงลาดตระเวนอยู่ จนใจอยู่บ้าง ไม่ได้ ยังไม่ยุ่งพอ ต้องก่อความวุ่นวายเพิ่มอีกสักหน่อย!
ระดับสูงพวกนี้ปกติน่าจะไม่ลาดตระเวน แต่ตอนนี้เกรงว่าจะถูกกระตุ้นมา
“ทำยังไงถึงจะวุ่นวายกว่านี้ล่ะ? ตกลงคนของหนานเจียงจะมาเมื่อไหร่? ถ้าล่อต้นหลิวปีศาจออกไปได้ ฉันอยากจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น”
ตอนที่ฟางผิงกำลังคิดเรื่องพวกนี้ จู่ๆ เมืองราชาก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมา!
ภายในเมือง ยอดของต้นหลิวยักษ์มีการขยับเขยื้อน!
บนถนนมีหลายคนทรุดตัวลงกับพื้น ฟางผิงรีบคุกเข่านั่งลงตาม ในใจกลับเต้นระส่ำ สัมผัสได้ถึงฉัน?
ไม่นานฟางผิงก็รู้ว่าเขาคิดมากไป
พลังที่แข็งแกร่งหลายสายทะยานขึ้นท้องฟ้า ผ่านไปสักพักพลังที่แข็งแกร่งพวกนั้นก็มุ่งหน้าไปทางใต้ทันที!
ต้นหลิวปีศาจรับรู้ได้ถึงลมหายใจของผู้แข็งแกร่ง!
ห่างออกไปห้าร้อยลี้ ต้นหลิวปีศาจยังคงรับรู้ถึงคลื่นพลังงาน!
มียอดฝีมือปรากฏตัวขึ้นอีกคน พลังแข็งแกร่งมาก ราชาหลิวปะทะกับอีกฝ่ายแล้ว
—
ข้างนอกทางเดิน
จ้าวซิ่งอู่เผยสีหน้าตกใจ หลี่ฉางเซิงตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง?
“หลี่ฉางเซิง…”
“…”
เขาเพิ่งจะตะโกน ยังไม่ทันได้ถามอะไร ตาเฒ่าหลี่ก็วิ่งเร็วยิ่งกว่าตอนมาซะอีก หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา!
ฉันไปก่อนล่ะ สงครามใหญ่ของขั้นเก้าสองคน เขาไม่แทรกแซงหรอก ไปร่วมมือกับเจ้าเด็กฟางปล้นหินพลังงานดีกว่า!
จ้าวซิ่งอู่มาแล้ว ครั้งนี้ก็ง่ายขึ้นล่ะ ราชาหลิวน่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ หากล่อต้นหลิวปีศาจออกมาได้ ไม่แน่ว่า…จะสามารถกวาดรังอีกฝ่ายได้จริงๆ!
จ้าวซิ่งอู่หมดคำจะพูด ฉันยังไม่ได้ถามเลย นายวิ่งหนีทำไมกัน!
วิ่งก็วิ่งไปเถอะ นี่ฉันเพิ่งจะเข้ามา นายกลับส่งขั้นเก้ามาให้ฉันหนึ่งคนแล้ว เกรงใจอะไรขนาดนี้?
อีกอย่างไม่ใช่พูดว่าสถานการณ์ทางนี้เลวร้ายมากหรือไง?
ทำไมดูแล้วอีกฝ่ายดูเดือดเนื้อร้อนใจมากกว่าล่ะ!
ยอดฝีมือขั้นเก้าที่ตามมาคนนั้น รู้สึกเหมือนจะโมโหจนบ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว
ราชาหลิวใกล้จะบ้าคลั่งขึ้นมาแล้วจริงๆ จะเป็นใครไปได้อีก เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน้ำแร่แห่งชีวิตจากร่างไอ้เวรนั่น เป็นเขา เป็นไอ้เวรคนนี้ที่ขโมยน้ำแร่แห่งชีวิตไป แทบจะทำลายเมืองจู้หลิวแล้ว!
เขาถึงกระทั่งไม่สนใจไล่ตามอู๋ชวน เอาแต่ไล่ฆ่าหลี่ฉางเซิงมาจนถึงตอนนี้
รอจนเห็นอีกฝ่ายถูกตัวเองซัดฝ่ามือใส่ น้ำแร่แห่งชีวิตซ่อมแซมอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว ราชาหลิวก็แทบจะเลือดขึ้นหน้า
ตั้งแต่สร้างเมืองจู้หลิวจนมาถึงตอนนี้ เขาและเทพหลิวก็เริ่มสะสมน้ำแร่แห่งชีวิตเพื่อเตรียมการณ์ไว้ในอนาคตมาหนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว!
หนึ่งร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้ มีครั้งนี้ที่สูญเสียหนักที่สุด ถูกขโมยพลังไปเกือบหนึ่งในสิบ!
ฟางผิงคิดว่าตัวเองเอาไปไม่เยอะ อันที่จริงเดิมทีฟางผิงก็ไม่รู้ว่าน้ำพุพลังงานสายนั้น ดูเหมือนขนาดใหญ่มีน้ำแร่พลังงานมาก แต่ในความเป็นจริงบางส่วนกลับไม่ใช่น้ำแร่พลังงาน เป็นแค่การรวมตัวของพลังงานอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่ทันได้เปลี่ยนแปลงอะไร
สิ่งที่เขาขโมยไป นั่นถึงเป็นน้ำแร่พลังงานที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
แม้ราชาหลิวจะยังอยากไล่ฆ่าหลี่ฉางเซิงต่อ แต่ก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน ตอนนี้ดินแดนแห่งการเกิดใหม่มียอดฝีมือขั้นราชามาอีกคนแล้ว ทั้งพลังยังแข็งแกร่งอย่างมาก เขาไม่กล้าประมาทเหมือนกัน
ทางเขตหวงห้าม ครั้งนี้ทำให้เขาตกที่นั่งลำบากจริงๆ แล้ว!
ไหนบอกว่าแม้ยอดฝีมือของดินแดนเกิดใหม่จะเป็นฝ่ายได้เปรียบก็จะเฝ้าระวังอยู่ที่เดิมไม่ใช่หรือไง?
ทำไมถึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!
อีกฝ่ายอยู่ที่เดิมตรงไหนกัน!
คลำมาหารังตัวเองเสียหมด ไอ้เวรจากเขตหวงห้ามพวกนั้นจงใจหลอกเขางั้นเหรอ?
จากคำพูดของยอดฝีมือเขตหวงห้าม ถึงจะพ่ายแพ้ให้คนของดินแดนเกิดใหม่ก็ไม่เป็นไร อย่างมากอีกฝ่ายแค่จะครองอาณาเขตผืนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะเริ่มสงครามทั้งสองฝ่าย นั่นล้วนเป็นการฝึกทหารของระดับกลางและระดับล่าง
หากชนะก็จะได้ประโยชน์มากมาย เขตหวงห้ามไม่หวงรางวัลเช่นกัน
ผลลัพธ์กลับยิ่งแล้วใหญ่ นอกจากไม่เห็นรางวัลยังสูญเสียไปจำนวนมาก
ราชาหลิวที่โมโหเนื่องจากถูกรังแกยังไม่ทันลงมือ ดาบใหญ่ของจ้าวซิ่งอู่ก็ฟันออกมาแล้ว ลมหายใจที่ระเบิดออกมานั้น ทำให้ราชาหลิวโกรธแค้นขึ้นมากกว่าเดิม เขตหวงห้ามหลอกเขาแล้วจริงๆ!
ครั้งนี้สู้ไม่ไหว ฉันจะไม่เฝ้าต่อแล้ว ให้คนของเขตหวงห้ามไปเฝ้าเอง เขากลัวว่าเฝ้าต่อไปอีก บ้านเมืองตัวเองคงไม่เหลืออีกแล้ว
———————-