ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้วบทที่ 857 การเริ่มต้นของภัยพิบัติ (1)

บทที่ 857 การเริ่มต้นของภัยพิบัติ (1)

บทที่ 857 การเริ่มต้นของภัยพิบัติ (1)

หากความลับสวรรค์ตกอยู่ในความโกลาหล นั่นคือภัยพิบัติกำลังจะมาถึง

หลี่ฉางโซ่วผู้ถือ ‘ใบพัดบอกทิศทางลม’ หลายใบในมือของเขาสำหรับมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพ ซึ่งไม่ทันระวังตั้งตัวจริงๆ

สายฟ้าที่ฟาดลงมาตรงหน้าไป๋เจ๋อเมื่อครู่นี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ไป๋เจ๋อตกใจและเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเท่านั้น แต่ยังทำให้หลี่ฉางโช่วตกใจด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่า การปรากฏตัวของสายฟ้านี้ไม่ใช่เรื่องของการ ‘ฟาดสุนัขที่เปิดเผยให้ตาย’ แต่เป็นคำเตือนจากสายฟ้าเทพสวรรค์ม่วงที่แท้จริง!

สวรรค์เตือนไป่เจ๋อให้ระวังในการหยั่งรู้ความลับสวรรค์และการคำนวณโชคดีหรือภัยพิบัติ

หากเขาไปแทรกแซงการปฏิบัติการของภัยพิบัติครั้งใหญ่ สายฟ้าเทพสวรรค์ม่วงที่แท้จริงก็จะฟาดลงบนหัวของเขา

หลี่ฉางโซ่วกอดอกและครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วความคิดแปลกๆ ก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา

เหตุใดตอนนี้?

ไม่ใช่ว่ามหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพนั้น เกิดจากการที่องค์เง็กเซียนถูกบรรดาศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าทั้งสามดูถูก

จากนั้นพระองค์ก็ไปบ่นกับบรรพาจารย์เต๋าที่วังเมฆม่วง แล้วบรรพาจารย์เต๋าก็ลงมาจัดการหรอกหรือ?

หากวิเคราะห์จากมุมมองนี้…

ในเวลานี้ พลังของสิ่งมีชีวิตในโลกได้มาถึงค่าวิกฤตในระดับหนึ่งแล้ว

จากตรงนั้น มันย่อมทำให้เต๋าสวรรค์ส่งภัยพิบัติครั้งใหญ่ลงมา ทว่าภัยพิบัตินั้นยังกำลังก่อตัวอยู่ อีกทั้งภัยพิบัติก็ยังไม่ได้รับการพิจารณากำหนด ‘รูปแบบ’ และ ‘เนื้อหาภายใน’ ออกมา

ภายในพื้นที่ปฏิบัติการที่นี่…

เปรี้ยง!

จู่ๆ ก็มีสายฟ้าอีกสายหนึ่งที่มีความหนาเท่ากับนิ้วหัวแม่มือปรากฏขึ้นมาจากอากาศ ทำให้ยอดเขาเฮยฉือสว่างจ้าขึ้นและมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน แล้วฟาดลงตรงหน้านิ้วเท้าของหลี่ฉางโซ่ว!

อันใดกันนี่?!

ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ล้มเลิกความคิดที่บ้าระห่ำในใจของเขาทันที และโค้งคำนับให้ท้องฟ้าจากในระยะไกลในขณะที่ยังตกใจและมีเหงื่อเย็นผุดออกมามากอีกด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ฉางโซ่วและไป๋เจ๋อก็นั่งยองๆ อยู่ริมสระน้ำ พวกเขาต่างคนต่างก็เอามือกอดอกไว้ในแขนเสื้อและอยากจะพูด แต่พวกเขาก็ยังลังเลอยู่พักหนึ่ง

หากข้าพูดบางอย่างผิดเล่า?…แล้ว

“ท่านไป๋” เพียงขณะที่หลี่ฉางโซ่วกล่าว ไป๋เจ๋อก็ตัวสั่นเทาเล็กน้อย และมองไปรอบๆ ทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจกลัว

ไป๋เจ๋อถามเบาๆ ว่า “เทพวารี แห่งน้ำ เมื่อครู่นี้ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ? ”

“พูดเรื่องนี้ได้หรือ…”

“โอ้ ใช่ ใช่ หากข้าบอกว่าพวกเราทั้งสองคนจะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน” ไป๋เจ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอก

ทว่าในเวลานี้ เขาก็ระมัดระวังแม้แต่ในการพูดแล้ว และไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดหัวข้ออย่างไรแล้ว

หลี่ฉางโซ่วถามอีกครั้งว่า “ท่านไป๋ ท่านมีความรู้สึกอยากจะ… ออกไปจากสถานที่นี้หรือไม่? ”

“ไม่เลย” ไป๋เจ๋อรู้สึกอย่างระมัดระวังอยู่พักหนึ่ง แล้วส่ายหัวอย่างจริงจัง “ข้าคิดว่าที่นี่สบายทีเดียว”

“เพราะด้วยพลังเวทของท่านหรือ?”

“อืม สถานที่แห่งนี้ทำให้ข้ารู้สึกสะดวกสบายยิ่ง ”

หลี่ฉางโซ่วอดจะปล่อยหินครึ่งก้อนในใจ[1]ของเขาออกไปไม่ได้

ในเวลานี้ มันไม่น่าจะมีวิกฤติเกิดขึ้นในสำนักตู้เซียน แต่พลังเวทของไป๋เจ๋อนั้นเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับความลับสวรรค์

เขาไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่ว่า ด้วยเหตุที่ความลับสวรรค์ตกอยู่ในความโกลาหล สัมผัสเหนี่ยวนำของไป๋เจ๋อจึงเกิดความสับสนออกไปได้…

ไป๋เจ๋อจับจ้องมองหลี่ฉางโซ่วอย่างระมัดระวังอยู่พักหนึ่ง และถามยิ้มๆ ว่า “เทพวารีตกใจหรือ?”

“ไม่หรอก เป็นเพียงแค่มันกะทันหันเล็กน้อยเท่านั้น” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและนั่งยองๆ จมอยู่ในความคิดลึกซึ้งต่อไป

ไม่ว่าอย่างไร ภัยพิบัติก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว

ปรมาจารย์เต๋าสวรรค์เพิ่งเตือนเขาและไป๋เจ๋อโดยตรง

สัญญาณต่างๆ ทั้งหมดล้วนบ่งบอกว่า เส้นทางต่อไปข้างหน้าของเขานั้นไม่ง่ายที่จะก้าวเดินไปอย่างแน่นอน

พวกเขาทั้งสองนั่งยองๆ กันอยู่อีกสักพัก แล้วไป๋เจ๋อก็กล่าวว่า “แล้วไยเราไม่ไปหารือเรื่องนี้กับปรมาจารย์จอมปราชญ์เล่า? ”

“หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์ ปรมาจารย์จอมปราชญ์ก็จะให้คำแนะนำแก่ข้าโดยตรง

ช่างเถิด ข้าจะกลับไปดูสถานการณ์ในศาลสวรรค์ว่าเป็นอย่างไรก่อน ขอท่านไป๋โปรดช่วยข้าเฝ้าติดตามดูแลสำนักตู้เซียนให้ด้วย”

“เทพวารี อย่ากังวลมากไปเลย” ไป๋เจ๋อกล่าวอย่างจริงจังว่า “มันคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่ภัยพิบัติครั้งใหญ่จะลงมาถึง ในเวลานี้ มันเป็นเพียงภัยพิบัติหนึ่งเท่านั้น

สันนิษฐานได้ว่า ในขณะนี้ ผู้ที่เก่งกาจในการหยั่งรู้และทำนาย ได้สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในความลับสวรรค์แล้ว

มีเหล่าปรมาจารย์มากมายในสามสำนักบำเพ็ญเต๋า และพวกเขาทุกคนก็น่าจะตระหนักถึงความแตกต่างที่นี่ได้”

“ข้าเพียงจะไปดูว่ามีเรื่องอะไรผิดปกติในศาลสวรรค์หรือไม่ ท่านไป๋ ท่านไม่ต้องกังวล แน่นอนว่า ข้าย่อมเข้าใจเหตุผลที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากมาย”

หลี่ฉางโซ่วแย้มยิ้มพลางพยักหน้า แล้วขี่เมฆกลับสู่ยอดเขาหยกน้อย

ในตอนแรกเขาได้ส่งข้อความเสียงเพื่อเตือนท่านอาจารย์และศิษย์น้องหญิงของเขาไม่ให้ออกไปข้างนอกในช่วงเวลานี้

หากพวกเขาทั้งสองคนมีความคิดแปลกๆ อยู่ในใจ พวกเขาจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับเขาก่อนจะตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่

ต่อจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เคลื่อนย้ายจิตสนใจของเขาไปมาระหว่างเหล่าตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ และเขาก็รีบพุ่งไปที่ศาลสวรรค์ก่อน

ศาลสวรรค์เป็นสถานที่สำคัญของเต๋าสวรรค์ หากเต๋าสวรรค์ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และความลับสวรรค์เปลี่ยนแปลงไป

ศาลสวรรค์ก็น่าจะเป็นที่แรกที่ต้องแบกรับผลกระทบที่หนักหนาสาหัสนั้น…

………………………………………………………………..

[1] ปลดปล่อยเรื่องหนักใจออกไปได้ รู้สึกโล่งใจ

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลเรื่อง ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง! หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัว เขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์ เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง! เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิต จนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา… เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset