[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 167 บทที่ 8 24

ตอนที่ 167 บทที่ 8 ตอนที่ 24

บทที่ 8 ตอนที่ 24

วันถัดมาหลังเทศกาลเปิดสถาบัน

 

ชั้นเรียนของสถาบันโซลมินาติถูกปิดและโนโซมุก็ใช้เวลาอยู่คนเดียวในเขตช่างฝีมือ

 

เป้าหมายคือทำของขวัญให้กับไอริส

 

มันคือกระดิ่งอันเล็กๆที่มอบให้โซเมียก่อนหน้านี้ เขากำลังหลอมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

 

ดังนั้นโนโซมุจึงหาร้านที่จะสามารถยืนเตาเผาได้เพื่อขึ้นรูป……。

 

 

 

「เอ๋? อยากจะใช้เตาเผางั้นเหรอ? ล้อเล่นรึไงไอ้หนู!」

 

 

 

「คงต้องรอไปอีกสามปีพ่อหนุ่มเอ้ย」

 

 

 

เพราะแบบนี้ก็เลยไม่มีที่ไหนเลย

 

ช่วยไม่ได้ เพราะของๆใคร เขาก็รักเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินของพวกเขาด้วย

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างฝีมือในอาคาร์ซัม

 

เนื่องจากความมั่นใจและความมุ่งมั่นในทักษะของพวกเขา พวกเขาจึงไม่สามารถยอมรับข้อเสนอของโนโซมุได้

 

หลังจากถูกไล่ออกจากร้านช่างตีเหล็กทั้งสิบสามร้าน โนโซมุก็กลับไปยังถนนสายหลักของย่านช่างฝีมือและเริ่มมองหาร้านต่อไป

 

ขณะที่เดินไปตามถนนสายหลัก ก็จะได้ยินเสียงค้อนและเครื่องทอผ้าจากทั่วทุกมุมสายตา

 

บางคนก็ดุลูกศิษย์ของพวกเขาและโนโซมุก็นึกถึงชิโนะที่เยาะเย้ยเขา

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ โชคดีที่รวบรวมวัสดุทั้งหมดได้ ดังนั้นจึงต้องหาสถานที่จะให้ยืมเตาเผาได้

 

 

 

「ไอริส จะสบายดีไหมเนี่ย……」

 

 

 

เจ้าของตระกูลวาจาร์ตที่จู่ๆก็ได้เจอกับวิโทร่า มีความสนใจอย่างชัดเจนในตัวโนโซมุ

 

นอกจากนี้ ตระกูลฟรานซิส เริ่มเข้าหาตระกูลวาจาร์ต

 

เมื่อเขารู้เกี่ยวกับข้อตกลงในอดีตที่ทำให้เกิดความวุ่นวายใจโนโซมุก็รู้สึกว้าวุ่นใจ

 

 

 

「ไปปรึกษาคุณมีน่าดีไหมนะ……」

 

 

 

โนโซมุอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ดังนั้น เขาจึงส่ายหัวและสลัดความคิดที่เข้ามาในใจเขา

 

ตอนนี้โนโซมุโดนจิฮัดสั่งห้ามเข้าใกล้ตระกูลฟรานซิส

 

เป็นเพราะความสัมพันธ์ของโนโซมุกับไอริสรวมถึงปัญหาเทียแมตในตัวของโนโซมุเอง

 

สถานการณ์ที่จิฮัดตื่นตระหนกมากที่สุดคือตระกูลวาจาร์ตยุ่งกับโนโซมุหากเผลอเกินความควบคุม แล้วไปกระตุ้นเทียแมตให้คืนชีพและอาคาร์ซัมจะถูกทำลาย

 

โนโซมุเองก็ควบคุมไม่ได้ถึงสองครั้งในอดีต ดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจความกังวลของจิฮัดได้

 

ตอนนี้เขากำลังฝึกควบคุมพลังของเทียแมตด้วยความช่วยเหลือจากซอนเน่ซึ่งเป็นมังกรขาวที่คอยจับตาดูเทียแมต สามารถยืดระยะเวลาปลดปล่อยพลังได้ประมาณ ยี่สิบวินาทีเท่านั้น

 

และสภาพแวดล้อมของโนโซมุในตอนนี้นั้นอยู่ในสภาพที่เขาไม่มีเวลามาฝึกได้เลย เพราะสถานการณ์นั้นวุ่นวายมากๆ

 

เพราะการเติบโตเพียงน้อยนิด ทำให้โนโซมุรู้สึกหงุดหงิด

 

 

 

「สำหรับตอนนี้ ผมแค่คิดถึงสัญญาที่ให้ไอริสก็พอ……」

 

 

 

สลัดความคิดแย่ๆทิ้งไปโนโซมุหายใจเข้าลึกๆเพื่อจดจ่อกับการทำกระดิ่งที่ให้สัญญากับไอริส

 

การออกแบบนั้นอยู่ในหัวของเขาแล้ว

 

แม้ว่าส่วนผสมจะค่อนข้างต่างจากเดิม แต่ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อม และตอนนี้ก็ได้มาครบแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเอวของเขา

 

สิ่งที่ต้องทำก็คือหาเตาเผาเพื่อหลอมและขึ้นรูป

 

คำถามคือจะมีช่างตีเหล็กคนไหนให้โนโซมุยืนเตาเผาหรือไม่ ซึ่งเป็นมือสมัครเล่นในด้านการตีเหล็ก

 

ขณะที่โนโซมุมองไปรอบๆเพื่อสำรวจอีกครั้ง เสียงที่ค่อนข้างทำให้เขาปวดหัวก็ดังขึ้นมา

 

 

 

「โนโซมุคุง~!」

 

 

 

「อาจารย์อันริ?」

 

 

 

ในขณะที่มองไปตามทางทิศทางที่ได้ยินเสียง เห็นอาจารย์อันริแต่งตัวด้วยเสื้อผาเรียบง่ายแต่งดงาม (T/N: บทอาจารย์หายไป 1 บทเต็มๆ)

 

เมื่อดูจากวิธีที่เธอแต่งตัวแล้วดูเหมือนจะอยู่ระหว่างทำงาน

 

อย่างไรก็ตาม ปกติเธอจะทำงานอยู่ในสถาบัน และไม่ออกจากสถาบัน

 

 

 

「เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่」

 

 

 

「ก็เป็นงานนี่ค้าาาาาา~กำลังไล่เก็บอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับงานเปิดสถาบันเพื่อส่งคืนค่า~」

 

 

 

「……งั้นเหรอครับ」

 

 

 

จากข้อมูลของอาจารย์อันริแล้ว ดูเหมือนจะมี พวกเครื่องแต่งกาย โต๊ะ จาน และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆจำนวนมากที่นักเรียนเช่าจากร้านค้าซึ่งต้องส่งคืนทางร้านค้า

 

ไม่บ่อยนักที่จะจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่เทศกาลเปิดสถาบัน ดังนั้นเช่าจากทางสถาบันจึงถูกกว่าการไปเช่าร้านโดยตรง (T/N: ก็เหมือนแบบที่บ้านเราเลยครับ เวลาซื้อชุดนักเรียนก็ซื้อกับทางโรงเรียนจะได้ในราคาที่ถูกกว่า เพราะทางโรงเรียนเขาเหมาอะเนอะ)

 

อย่างไรก็ตาม พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้มีมูลค่าสูง เพื่อป้องกันการสูญหายหรือการขโมยอาจารย์อันริจึงทำหน้าที่ในการส่งคืน

「แล้วโนโซมุคุงทำไมถึงมาอยู่แถวนี้เหรอค้า~?」

 

 

 

「จริงๆแล้วผม……」

 

 

 

เมื่อบอกอาจารย์อันริว่ากำลังมองหาเตาเผาเพื่อนำมาหลอมเป็นกระดิ่งให้ไอริส แต่ที่ได้รับตอบกลับก็คือไล่ออกจากร้าน

 

 

 

「เข้าใจแล้ว~เพราะฉะนั้นยังหาเตาเผาไม่ได้ใช่มั้ย~」

 

 

 

「ครับ ผมควรจะทำยังไงดี?」

 

 

 

ในการตอบคำถามของโนโซมุ อันริเอียงคอเล็กน้อยและส่งเสียง “อืม~…….”

 

บางทีอาจเป็นเพราะความงามของเธอที่ดูเป็นผู้หญิงและท่าทางสดใสทำให้เหล่าชายที่เดินผ่านต้องเบือนหน้าหนีด้วยความอาย

 

ในขณะที่โนโซมุคิดว่าเธอเป็นที่จับตามองของเหล่าผู้ชายโดยไม่รู้ตัว อันริก็ดูเหมือนจะคิดอะไรออกและปรบมือต่อหน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ของเธอ

 

 

 

「ถ้างั้นมาหาทางทำอะไรสักอย่างกันดีกว่าเนอะ?」

 

 

 

「เอ๋ไม่เป็นไรงั้นเหรอครับ?」

 

 

 

「อุมุ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เค้าเองง~」

 

 

 

ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหากสามารถใช้เตาเผาได้โนโซมุก็รู้สึกขอบคุณมาก

 

โนโซมุโค้งคำนับอันริพร้อมกับกล่าว “ขอบคุณมากครับ”

 

 

 

「แต่ว่ามีข้อแลกเปลี่ยนน้าาา โนโซมุคุงเองก็ต้องช่วยเค้าเหมือนกัน~」

 

 

 

「เอ่อจะให้ช่วยอะไรเหรอครับ?」

 

 

 

แทนที่จะบอกว่าเขาจะไปใช้เตาเผาได้ที่ไหน แต่อันริกกลับมีเรื่องอยากให้ช่วย

 

เมื่อพิจารณาถึงการที่อันริได้คืนสิ่งของที่ยืมมาจากร้านค้าแล้ว โนโซมุก็คิดว่าให้ช่วยขนของหรือเปล่า แต่อันริส่ายหัวปฏิเสธ

 

 

 

「บูบู ของที่ยืมมาเค้าเอาไปคืนหมดแล้ว เพราะงั้นไม่ใช่หรอกน้า~ เพราะงั้นตามเค้ามาเร็ว~」

 

 

 

เธอจับมือโนโซมุและพาเดินออกไป

 

โนโซมุที่กำลังสนทนากับสาวต่างวัยถูกผู้ชายรอบข้างมองด้วยแววตาอาฆาต

 

 

 

“เฮ้อ ไม่ว่าจะไปที่ไหนเดี๋ยวนี้ก็โดนมองแรงไปหมด……”

 

 

 

ด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าขณะที่ต้องทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่ไม่ชินนี้ โนโซมุออกจากเขตช่างฝีมือด้วยการจับมือเดินกับอันริ

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

 

อันริพาโนโซมุมาที่อาคารเรียนที่อยู่ติดกับสถาบันโซลมินาติ

 

แม้ว่าจะขนาดเล็กกว่าของสถาบัน แต่ตัวอาคารเองก็ค่อนข้างใหญ่โดยมีอาคารเรียนสามชั้นสองหลังสร้างขึ้นในทางทิศเหนือและใต้

 

อาคารนี้เป็นสถาบันในเครืองของสถาบันโซลมินาติ ซึ่งโซเมียกำลังศึกษาอยู่

 

 

 

「ที่นี่มันอีครอสเหรอครับ?」

 

 

 

อีครอส

 

สถาบันที่ติดกับสถาบันโซลมินาติที่โซเมียน้องสาวของไอริสเข้าเรียน

 

เป็นสถาบันให้การศึกษาแก่เด็กที่มีพรสวรรค์ทั่วทวีปตั้งแต่อายุยังน้อย

 

โดยธรรมชาติแล้ว โนโซมุไม่เคยเข้ามาที่นี่เลย (T/N:เข้ามาก็911อะพี่น้อง)

 

ประตูหลักของอีครอสได้รับการปกป้องทั้งกลางวันและกลางคืน และทางสถาบันก็มีกำแพงล้อมรอบพร้อมเวทย์ตรวจจับ

 

มีประตูเดียที่จะเข้าสถาบันอีครอสได้และคนเดียวที่จะสามารถผ่านประตูนี้ได้ก็คืออาจารย์ของสถาบันโซลมินาติ นักเรียนของสถาบันอีครอสและผู้ที่เกี่ยวข้องด้านปฏิบัติการ

 

 

 

「ถูกต้องแล้ว~เค้าเองก็สอนที่นี่ด้วยน้า~อยากให้โนโซมุคุงมาเห็นนานแล้ว~」

 

 

 

ขณะที่พูดเช่นนั้นอันริก็จูงมือโนโซมุและเดินผ่านประตูหลักของอาคารเรียนอีครอสอย่างภาคภูมิใจ

 

เป็นเรื่องปกติที่อันริที่เป็นอาจารย์ของสถาบันโซลมินาติจะสามารถผ่านประตูหลักของอีครอสได้ แต่เมื่อเธอเข้ามาก็โบกมือทักทายยามที่เฝ้าประตู เขาเองก็โบกมือกลับมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น และดูเหมือนว่าเธอจะมาที่นี่ค่อนข้างบ่อยมาก

 

ในทางกลับกัน โนโซมุอดไม่ได้ที่จะกังวลกับอันริที่ยังคงจับมือเขาแน่น

 

 

 

「เอ่อ อาจารย์อันริ มือ……」

 

 

 

「หือออ? ไยหย๋อ~~?」

 

 

 

「……เปล่า ไม่มีอะไรครับ」

 

 

 

เป็นเรื่องน่าอายสำหรับโนโซมุที่เดินจับมือกันแบบนี้ซึ่งฝ่ายตรงข้ามก็เป็นอาจารย์ที่อายุมากกว่าแถมสวยมากด้วย แต่อันรินั้นเก่งกว่าเขามากแม้ว่าเขาพยายามจะสลัดมือเธอแล้วก็ตาม

 

แม้ว่าจะพยายามให้เธอปล่อยมือ แต่ก็ยากที่จะพูดต่อหน้ารอยยิ้มอันอ่อนโยนของอันริ

 

แต่ว่าการโผล่เข้ามาของอันริกับโนโซมุในอีครอสนั้นเด่นเกินไป

 

ยิ่งไปกว่านั้นอันริเองก็มีคนรู้จักมากมายในสถาบันอีครอสและได้รับการทักทายจากเหล่าอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องขณะที่เดินอยู่

 

สายตาของทุกคนต่างหันมามองโนโซมุที่จับมืออันริ แต่อันริกลับทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม ขณะที่เธอมองมาทางโนโซมุเธอก็ยิ้มมากขึ้นอีกซึ่งมันกระตุ้นให้โนโซมุอายเข้าไปอีก

 

ไม่ใช่ความอาฆาตเหมือนกับเหล่าผู้ชายที่เดินผ่านบนถนน แต่สำหรับโนโซมุความอับอายนี้มันมากเกินกว่าจะรับไหว

 

 

 

「อาจารย์อันริทำไมต้องเป็นผมเหรอครับ? ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไม」

 

 

 

「น่า น่า อยาคิดมากทำตัวให้สบายเน้อออออ~」

 

 

 

โดยไม่สนใจคำถามของโนโซมุเธอบอกปัดโนโซมุที่พยายามหนีจากความอับอายจากตรงนี้

 

อันริพาผมไปที่ฝึกกลางแจ้งที่อยู่ติดกับอาคารเรียนอีครอส

 

ขนาดเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับสนามฝึกของสถาบันโซลมินาติ

 

อย่างไรก็ตามรอบๆสนามฝึก แม้ว่าจะเรียบง่าย แต่ก็มีบาเรียเวทย์ที่จัดตั้งขึ้นในสถานฝึกและสนามฝึกที่นี่ค่อนข้างจะหรูหรากว่าของสถาบันโซลมินาติ

 

ที่ขอบสนามฝึกมีเด็กชายและเด็กหญิงประมาณสามสิบคนอายุประมาณสิบขวบนั่งเรียงราย

 

ตรงหน้าเด็กๆคือผู้หญิงที่เหมือนกับเผ่ามนุษย์สัตว์ซึ่งดูจะเป็นครูประจำชั้นและ ผู้ชายกับผู้หญิงที่โนโซมุรู้จักดี

 

 

 

「……เอ๊ะ มาร์กับทิม่าเหรอ?」

 

 

 

「เอ๊ะ……」

 

 

 

「เห?」

 

 

 

เมื่อมาร์และทิม่าเห็นโนโซมุ พวกเขาเองก็ดูตกใจ

 

 

 

「ทำไมโนโซมุมาอยู่ที่นี่?」

 

 

 

「ทำไมมาร์กับทิม่าถึงมาอยู่ในอีครอสได้ล่ะ?」

 

 

 

「ก็ชั้นเป็นคนดูแลทิม่า ดูเหมือนเธอจะมีคนรู้จักอยู่ที่อีครอส……」

 

 

 

「ก่อนที่จะมาเรียนที่สถาบันโซลมินาติ ดิฉันเคยเรียนที่อีคอรอสเป็นเวลาสั้นๆ และช่วงนี้ก็รับหน้าที่มาเป็นผู้บรรยายคลาสเรียนเวทมนตร์ค่ะ」

 

 

 

จากข้อมูลของทิม่าดูเหมือนตอนนี้เธอจะลงทะเบียนในสถาบันอีครอสเป็นกรณีพิเศษเป็นเวลาหลายเดือนก่อนจะเข้าสถาบันโซลมินาติ

 

เดิมทีเธอมาที่อาคาร์ซัมเพราะโดนตรวจพบว่ามีพลังเวทย์สูง แต่ในตอนแรกเธอควบคุมพลังเวทย์ไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงมาเรียนรู้พื้นฐานที่สถาบันอีครอส

 

 

 

「ทำไมโนโซมุคุงถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?」

 

 

 

「เพราะอาจารย์อันริลากตัวมา……」

 

 

 

โนโซมุหันมามองอันริที่กำลังคุยกับผู้หญิงเผ่าหูกระต่ายซึ่งดูเหมือนจะเป็นอาจารย์ของสถาบันอีครอส

 

อายุของเธออยู่ในช่วงประมาณสามสิบถึงสี่สิบปี

 

เธอเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วใบหน้านั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและหูที่ชวนให้นึกถึงกระต่ายในขณะที่มีผมสีน้ำตาลเข้ม

 

เผ่าหูกระต่ายเป็นหนึ่งในเผ่ามนุษย์สัตว์ แต่ในบรรดาเผ่ามนุษย์สัตว์พวกเธอนั้นแทบจะอ่อนแอที่สุด

 

มีนิสัยขี้ขลาด และไม่ชอบการต่อสู้ มักจะหนีทันทีเมื่อต้องสู้

 

อย่างไรก็ตามด้วยนิสัยขี้ขลาดทำให้พวกเขาหนีมาที่ พวกเขาจึงเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆที่ย้ายเข้ามาในอาคาร์ซัม และด้วยเหตุนี้เผ่าหูกระต่ายจึงมีจำนวนมาก

 

 

 

「เอ่อ….ขอโทษด้วยนะคะ ฉันชื่อ เวรี่ค่ะ(ヴェリ) จบการศึกษาจากสถาบันโซลมินาติและตอนนี้เป็นอาจารย์ของอีครอส

 ไม่ต้องกังวลไปแค่ต้องให้ความร่วมมือในชั้นเรียนของฉันก็พอแล้วค่ะ?」

 

 

 

น้ำเสียงของเธอนั้นเงียบพอๆกับเหมือนคนพูดน้อยทำท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนและดันสุภาพกับอีกฝ่ายที่อายุน้อยกว่า

 

โนโซมุไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรดี ที่จะสามารถผูกมิตรกับเธอได้

 

 

 

「อืม อาจารย์อันริเธอเป็นคนแบบไหนเหรอครับ……」

 

 

 

「เธอเป็นรุ่นพี่ของเค้าเอง~」

 

 

 

「กล่าวอีกนัยหนึ่งอาจารย์อันริคือรุ่นน้องใช่ไหม?」

 

 

 

「อืมม~……」

 

 

 

จากข้อมูลของเวรี่เธอเป็นนักเรียนปีแรกของสถาบันโซลมินาติและเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาจากสหพันธ์สุมายา

 

โนโซมุอยากรู้เกี่ยวกับความแตกต่างของอายุที่แปลกประหลาดนี้ พวกเธอสองคนแม้ว่าพวกเธอจะอายุห่างกันไม่กี่ปี แต่ตามเรื่องราว เธอเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาเมื่อเธออายุยี่สิบปลายๆ

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของเมืองแห่งนี้ที่ซึ่งทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยีมารวมตัวกันจากทั่วทวีป

 

ด้วยเหตุนี้ ดูเหมือนว่าจะละทิ้งงานก่อนหน้าในฐานะนักวิจัยของสหภาพสุมายาและมาที่อาคาร์ซัม

 

แม้จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นผู้ใหญ่ แต่ความสามารถของเธอก็โดดเด่น

 

โดยไม่คำนึงถึงรูปร่างหน้าตาและบุคลิกผิวเผินของเธอผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่รู้จักอันริ

 

 

 

「รุ่นพี่เวรี่เค้า สอนเวทมนตร์ทิม่าเมื่อเธอมาที่อีครอสและตอนนี้เธอเป็นครูประจำชั้นของชั้นเรียนของโซเมีย~~」

 

 

 

「……อะไรนะ? จริงงั้นเหรอเนี่ย!?」

 

 

 

「ใช่ ใช่ ยังไงก็ตามสิ่งที่ฉันสอนได้ก็แค่พื้นฐานเท่านั้นค่ะ แม้แต่ในชั้นเรียนก็มีเด็กๆหลายคนที่ไม่ยอมรับให้ฉันเป็นผู้สอนเลยล่ะคะ……」

 

 

 

เวรี่นั้นขี้อายและอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ตามที่อันริกล่าวเธอมีความรู้มากมายมหาศาลเพราะเป็นเผ่าที่แสวงหาความรู้

 

โดยธรรมชาติแล้วการศึกษาพื้นฐานก็มั่นคงเช่นกัน และมีการขายความรู้หลากหลาย และว่ากันว่าเธอให้ความรู้แก่เด็กๆที่คาดว่าจะมีอนาคตที่อีครอสนี้

 

 

 

「อาระ โซเมียจังล่ะ……」

 

 

 

「เธอกำลังพักผ่อน ช่วงนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ……」

 

 

 

โนโซมุเหลือบมองนักเรียนในชั้นเรียนของเวรี่แต่อย่างที่เธอพูดโซเมียไม่ได้อยู่ด้วย

 

เมื่อเห็นท่าทางเศร้าๆของเวรี่ โนโซมุรู้สึกว่าความวิตกกังวลที่เธอเก็บไว้ข้างในนั้นยิ่งใหญ่

 

การประชุมกันระหว่างตระกูลวาจาร์ตและตระกูลฟรานซิส เป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในอาคาร์ซัม ณ ตอนนี้

 

สำหรับ โนโซมุ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว แม้ว่าจะไม่เป็นทางการ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ไอริสและโซเมียหลุดพ้นจากความกังวลนี้

 

กระดิ่งที่ตั้งใจจะทำให้ไอริส บนกระเป๋าที่บรรจุส่วนผสมนั้นโนโซมุวางมือเอาไว้

 

 

 

「นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะถามคุณค่ะ……」

 

 

 

ดูเหมือนเวรี่พอจะทราบเรื่องราวเลยอยากจะถามจากปากโนโซมุ

 

โนโซมุมาที่นี่เพราะถูกอันริขอให้มา

 

ในทางกลับกันดูเหมือนว่าเธอจะเต็มใจที่จะช่วยทำกระดิ่งของไอริส ดังนั้นโนโซมุจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

 

 

 

「เอ่อ นั่นสินะครับ ที่บอกว่าขอความร่วมมือ แต่จริงๆแล้วให้ผมทำอะไรกันแน่……」

 

 

 

「คือคุณโนโซมุเป็นผู้ใช้วิชาดาบสไคล์มิคางุระใช่ไหมคะ ฉันอยากจะให้ช่วยสาธิตในชั้นเรียนให้หน่อยค่ะ」

 

 

 

「เอ๋ สาธิตเหรอครับ?」

 

 

 

「ค่ะ ศิลปะวิชาดาบทางตะวันออกพวกเรานั้นไม่เคยได้สัมผัสกับมันเลย แต่อยากให้แสดงต่อหน้าเด็กๆเพื่อขยายความรู้ความเข้าใจของพวกเขาค่ะ」

 

 

 

พลังในการเรียนรู้ของเหล่าเด็กๆนั้นน่าทึง

 

พูดได้อย่างมั่นใจว่าการสาธิตนี้จะทำให้เหล่าเด็กๆสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

 

 

นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เวรี่ต้องการให้เด็กๆนั้นมีประสบการณ์และความรู้มากขึ้น และมีมุมมองที่กว้างขึ้นด้วย

 

 

 

「เอ่อ ถ้าแค่สาธิตล่ะก็……」

 

 

 

「ตกลงแล้วนะคะ! ถ้างั้นก็มาเริ่มกันเลยค่ะ!」

 

 

 

เวรี่ยิ้มอย่างมีความสุขและหันมามองเหล่านักเรียนของเธอ

 

ในที่สุดโนโซมุก็อยู่ต่อหน้าเด็กๆ

 

ทันใดนั้นดวงตาทั้งสาบสิบคู่ก็จ้องมองมาที่เขาและโนโซมุรู้สึกเกร็งเล็กน้อย

 

 

 

「ทุกคน วันนี้ฉันมีแขกรับเชิญพิเศษมาสอนในชั้นเรียนและจะมาสาธิตวิชาที่หาดูได้ยากค่ะ

 

 รุ่นพี่ของพวกเธอ โนโซมุ เบลาตี้ นักเรียนชั้นปีที่ 3 จากสถาบันโซลมินาติคะ」

 

 

 

「สวัสดีครับทุกคน」

 

 

 

「ทุกคนทักทายกันเร็ว~」

 

 

 

「「ฝากตัวด้วยนะครับ/คะ」」

 

 

 

「โนโซมุคุงเป็นเซียนด้านวิชาดาบสไตล์มิคางุระ ซึ่งเป็นวิชาดาบของทางตะวันออกทุกคนคงทราบถึงความยอดเยี่ยมของมันดีใช่ไหมคะ~?」

 

 

 

นักเรียนของอีครอสได้ดูการต่อสู้จำลองของเขากับจิฮัด

 

ดังนั้นพวกเขาเลยตอบกลับเวรี่ด้วยน้ำเสียงร่าเริง

 

 

 

「ในชั้นเรียนวันนี้พวกเราจะมาศึกษาวิชาดาบมิคางุระกับโนโซมุคุงคนนี้เองค่ะ~」

 

 

 

「「ครับ/ค่ะ」」

 

 

 

「เอาล่ะคะ ถ้างั้นรบกวนด้วยนะคะ โนโซมุคุง」

 

 

 

「……เอ๊ะ ผมต้องแสดงตรงนี้เลยเหรอครับ!?」

 

 

 

ทันใดนั้นเขาก็ถูกบังคับให้ยืนด้านหน้าและอธิบาย และโนโซมุก็ถามราวกับจะยืนยัน

 

ในฐานะที่โนโซมุไม่เคยสอนใครมาก่อน นี่เป็นเรื่องที่น่ากังวล

 

 

 

「ก่อนสาธิตอยากจะแนะนำวิชาดาบสไตล์มิคางุระ เอิ่ม ขออธิบายแบบรวบรัดด้วยนะคะ」

 

 

 

จากข้อมูลของเวรี่ดูเหมือนว่าจะต้องแนะนำเล็กน้อย

 

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นโนโซมุก็ตั้งตัว

 

 

 

「อะแฮ่อม เอ่อ ถ้างั้นจะขออธิบายนะครับ สไตล์ดาบมิคางุระนั้นเป็นวิชาดาบที่ได้มาจากศานสนาชินโตที่นับถือกันในทางตะวันออก

 

 ในดินแดนที่แคบและเป็นเนินเขาทางตะวันออกมีประวัติการศึกษาเพื่อจุดประสงค์ในการสังหารฝ่ายตรงข้าม เพื่อเอาชีวิต รอดจากผู้คนและสัตว์อสูรครับ」

 

 

 

ก่อนอื่นโนโซมุเริ่มอธิบายเกี่ยวกับเบื้องต้น

 

ใช้คำยากเกินไปหน่อยรึเปล่านะ? โนโซมุกังวลแต่ดูเหมือนเด็กๆจะเข้าใจกัน

 

เด็กที่นี่ล้วนเป็นอัจฉริยะถึงสามารถเข้าเรียนที่อีครอสได้

 

 

 

「อาวุธที่ใช้กันคือดาบคาตานะที่ผ่านการขึ้นรูปให้มีความคมเพียงด้านเดียวและมีความโค้งมนเล็กน้อย จุดประสงค์ก็เพื่อในการฟันหรือเฉือน ดาบคาตานะนั้นจะถูกตีให้เรียวบางกว่าดาบทั่วไปเป็นอย่างมากและใช้จำนวนเหล็กที่ถูกตีเป็นแผ่นบางๆในการทับซ้อนหล่อขึ้นรูปจนเป็นดาบเล่มนี้ครับ」

 

 

 

โนโซมุดึง “ไร้นาม”ออกมาจากเอวของเขาและถือด้วยมือทั้งสองข้าง เพื่อถือด้ามและแสดงดาบอันงดงามให้เด็กๆเห็น

 

เด็กๆที่เห็นดาบอยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะเด็กผู้ชายดูเหมือนจะสนใจเป็นอย่างมาก

 

 

 

「โดยพื้นฐานของสไตล์ดาบมิคางุระแล้วจะไม่เน้นการป้องกันครับ หากสู้กับสัตว์อสูรโดยมีการป้องกันหรือการโจมตีครึ่งๆกลางๆก็ไม่สามารถเอาชนะได้

 

 วิชาที่ใช้นั้นสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ในพริบตาเพราะฉะนั้นมันอันตรายมากนะครับ อยากให้ทราบถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย โดยวิชาดาบเหล่านี้จะเน้นไปที่ การทะลวงไปยังจุดๆหนึ่งของเป้าหมาย และ การทำลายล้างอวัยวะภายในของศัตรู ซึ่งสามารถใช้ฆ่าสัตว์อสูรได้อย่างง่ายดายหากฝึกจนชำนาญ」

 

 

 

โนโซมุเอียงคอสงสัยเล็กน้อยแม้เด็กๆจะฟังเรื่องเล่านี้แล้วแต่ก็ยังจ้องมองด้วยความคาดหวัง

 

 

 

「ในทางกลับกันในแง่การป้องกันนั้นแทบไม่มีเลยครับ นักดาบในทวีปนี้ส่วนใหญ่เน้นไปที่การป้องกันมากกว่าการโจมตีและหลบหลีก ในแง่ของวิชาดาบแล้วสามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับแต่ละคนได้ครับ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้และความถนัดในการใช้งานครับ」

 

 

 

ณ จุดนี้ โนโซมุ หันดาบไปที่มาร์

 

 

 

「มาร์ ช่วยผมหน่อยได้ไหม?」

「ได้สิ」

 

 

 

โนโวมุและมาร์ขยับตัวออกจากเด็กๆสักตรู่และหันหน้าเข้าหากันโดยถืออาวุธของพวกเขา

 

จากนั้นก็เริ่มแลกดาบกัน

 

 

 

「ฮึก!」

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกห์!」

 

 

 

ดาบใหญ่ของมาร์เหวี่ยงเข้าหาโนโซมุ

 

โนโซมุเบี่ยงเบนวิถีดาบที่กระแทกเข้ามาไปด้านนอกและฟันสวนกลับไปแถวลำตัวของมาร์

 

มาร์รีบดึงดาบใหญ่กลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการโจมตี

 

คมดาบทั้งสองเผชิญหน้ากันทุกทิศทาง เช่น การฟันธรรมดา การฟันแบบย้อนกลับ การเบี่ยงวิถีดาบ และการแทง

 

 

 

「แย่แล้ว……」

 

 

 

ภาพของโนโซมุที่รับดาบใหญ่ของมาร์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีพลังโจมตีสูงเขารับดาบของมาร์ได้โดยไม่ถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว

 

วิชาดาบของทวีปกลางและวิชาดาบของทางตะวันออก

 

สายตาของเหล่าเด็กๆต่างจ้องมองวิชาดาบทั้งสองประเภท

 

ในที่สุดทั้งสองที่สู้กันเองก็ก้าวมาข้างหน้าพร้อมกับราวกับว่าแสดงให้เห็นและเก็บดาบ

 

 

 

 

 

「ก็ประมาณนี้ล่ะครับ?」

 

 

 

「จ้า ขอบคุณมากเลยค่า วันนี้ต้องขอบคุณแขกรับเชิญของเรา โนโซมุ เบลาตี้ นักเรียนชั้นปี 3 ได้สาธิตวิชาดาบตะวันออกให้พวกเราเห็นกันแล้วค่ะ」

 

 

 

「「ขอบพระคุณมากครับ/ค่ะ!」」

 

 

 

「ขอบคุณมากนะคะโนโซมุคุง ถ้าอยากมาเยี่ยมชั้นเรียนของพวกเราเมื่อไร ก็มาพร้อมกับอาจารย์อันรินะคะ」

 

 

 

「เข้าใจแล้วครับ」

 

 

 

โนโซมุโค้งคำนับและถอยหลัง

 

จากนั้นราวกับว่าจะแทนที่โนโซมุ ทิม่า ยืนอยู่ข้างหลังเวรี่

 

โนโซมุตัดสินใจดูชั้นเรียนของอีครอสกับมาร์จากระยะไกล

 

เมื่อวานไข้กินครับ วันนี้ก็ได้แค่ตอนเดียวยังเพลียๆอยู่มาก พรุ่งนี้กับวันอาทิตย์คิดว่าจะพักสักหน่อยครับ

 

ขออภัยล่วงหน้าหากทำให้ใครรอ

 

สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ

 

ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset