ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก 533 ลูกชายฝาแฝด(1)

ตอนที่ 533 ลูกชายฝาแฝด(1)

ตอนที่ 533 ลูกชายฝาแฝด(1)

ตอนที่ 533 ลูกชายฝาแฝด(1)

ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจืออยู่บ้านกันทั้งคู่เพราะทราบว่ามู่หลานใกล้จะคลอดแล้ว ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างจึงกลับมาประจำการอยู่ที่บ้านทันที และวันนี้พวกหล่อนก็บังเอิญอยู่กันพร้อมหน้า

ซูหว่านอี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ “อาหลี่ เธอพามู่หลานไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ เดี๋ยวให้จิ้งจือไปกับพวกเธอ แม่จะเตรียมข้าวของก่อน แล้วจะรีบตามไป”

จากนั้นก็หันไปมองฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงก่อนจะเอ่ยว่า “พวกคุณอยู่บ้านดูแลชิงชิงกับเฉินเฉินไปนะ แวคอยไปส่งข้าวให้พวกเรา”

“ได้”

ฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงดูร้อนรนในตอนแรก หลังจากได้ยินคำชี้แนะแล้วจึงทราบว่าตัวเองต้องทำอะไร

เซี่ยเจ๋อหลี่ก็พยักหน้า หลังจากนั้นเขากับเหยาจิ้งจือก็พาฉินมู่หลานไปโรงพยาบาลด้วยกัน หลังจากทั้งสามาถึงโรงพยาบาล ก็ตามหมอเพื่อให้มาตรวจทันที

หลี่ปิ่งฉวนทราบว่าฉินมู่หลานมาแล้วก็รีบเข้าไปช่วยเหลือทันที โชคดีที่ฉินมู่หลานวางแผนเอาไว้ว่าจะมาโรงพยาบาลเร็วกว่ากำหนดเพื่อรอคลอด จึงเตรียมของอำนวยความสะดวกบางอย่างเอาไว้แล้ว เธอจึงถูกพาตัวไปที่ห้องพักอย่างรวดเร็ว

หลังจากแพทย์สูตินรีเวชมาตรวจแล้ว ก็รีบกล่าวขึ้นทันที “รอเดี๋ยวนะคะ อีกประเดี๋ยวจะพาไปที่ห้องคลอด ตอนนี้กำลังเตรียมห้องอยู่ค่ะ”

ฉินมู่หลานมาอย่างกะทันหัน จึงต้องเตรียมห้องคลอดอย่างฉุกละหุก ครั้งแรกฉินมู่หลานคลอดฝาแฝดโดยการผ่าคลอด ครั้งนี้ก็ยังต้องผ่าคลอดเช่นกัน จึงต้องมีวิสัญญีแพทย์ และหมอสูตินรีเวชคอยอยู่ด้วย

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นสีหน้าของแนมู่หลานดูเจ็บปวด จึงได้แต่รู้สึกปวดใจ

“หมอครับ มีวิธีไหนที่จะทำให้มู่หลานเจ็บน้อยลงไหมครับ”

หมอคนนั้นมองเซี่ยเจ๋อหลี่ ก่อนจะเอ่ย “ตอนคลอดลูกก็ต้องใช้วิธีแบบนี้แหละ ถึงจะต้องดมยาสลบแต่ก็ทำได้ในระหว่างที่คลอดเท่านั้นค่ะ”

“แต่ว่า…”

เซี่ยเจ๋อหลี่อยากจะพูดอะไรต่อ แต่ฉินมู่หลานคว้าเอาไว้ก่อน “อาหลี่ ฉันไม่เป็นไรหรอก คลอดลูกก็แบบนี้แหละ รอจนกว่าจะคลอดก็ได้” จริง ๆ แล้วหลังจากผ่าคลอดแล้วจะรู้สึกเจ็บไปช่วงระยะหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้

เหยาจิ้งจือที่อยู่ข้าง ๆ ตบบ่าเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วกล่าวว่า “เอาเถอะอาหลี่ เดี่ยวฉันอยู่ที่นี่กับมู่หลานเอง แกไปบอกตายายของแก แล้วก็พ่อแท้ ๆ ของมู่หลานเขาด้วย ให้พวกเขาทราบว่ามู่หลานจะคลอดแล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้า จากนั้นก็ลูบผมของฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “มู่หลาน ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปก่อนนะ”

“อื้ม”

หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่ออกไป เหยาจิ้งจือก็นั่งลงข้างฉินมู่หลาน ก่อนจะกล่าวว่า “มู่หลาน เธอไม่ต้องกลัวนะ ครังแรกเธอก็ผ่านมาได้ด้วยดี ครั้งนี้ก็จะราบรื่นเหมือนกันแน่นอน”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็ฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า หลังจากนั้นเธอก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เหยาจิ้งจือเห็นแบบนี้ก็รีบเอ่ยถาม “มู่หลาน เจ็บมากเลยเหรอ เดี๋ยวฉันไปตามหมอให้”

ฉินมู่หลานส่ายหัวแล้วกล่าว “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวหมอเตรียมอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มา”

ทางด้านเซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบไปแจ้งนายท่านเหยาและเซี่ยฉางชิงอย่างรวดเร็ว หลังจากแจ้งพวกเขาว่าฉินมู่หลานใกล้จะคลอดแล้ว ก็รีบกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง

“มู่หลาน คุณเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

เมื่อเห็นสีหน้าภรรยาดูซีดเซียว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้แต่รู้สึกกังวลนิดหน่อย

ฉินมู่หลานยังไม่ทันตอบกลับ ซูหว่านอี๋ก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กใหญ่ เมื่อเดินเข้าประตูมาแล้วเห็นว่ามู่หลานยังไม่เข้าห้องคลอด ก็รีบถามสถานการณ์ทันที

“หว่านอี๋ เธอนั่งรอก่อน เมื่อกี้หมอเพิ่งมาบอกว่าอีกสักพักห้องคลอดจะเตรียมเสร็จแล้ว” เหยาจิ้งจือเล่าสถานการณ์ของฉินมู่หลานให้ซูหว่านอี๋ฟัง แต่เมื่อเห็นว่ามู่หลานดูเจ็บมากเหลือเกิน จึงอดพูดไม่ได้ “หรือว่า ให้ฉันไปตามหมอตอนนี้เลยไหม ดูว่าพวกเขาเตรียมที่นั่นเสร็จหรือยัง”

“ได้ เดี๋ยวฉันไปกับเธอ”

พวกซูหว่านอี๋เดินตามกันไปเพื่อไปตามหมอ

หลังจากหมอมา ก็พาฉินมู่หลานเข้าไปในคลอดทันที “เตรียมทุกอย่างที่นั่นพร้อมแล้ว หมอที่บอกก่อนหน้านี้ก็มาประจำตำแหน่งกันแล้ว พวกเราเข้าไปกันได้เลยค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ตามเข้าไปด้วยไม่ได้ ได้แต่เดินไปมาอยู่ตรงหน้าห้องคลอด

“พอแล้วอาหลี่ แกนั่งลงเถอะ อย่าเดินไปเดินมา มันทำให้ฉันเวียนหัว” เหยาจิ้งจืออดจ้องมองลูกชายคนเล็กไม่ได้ ก่อนจะบอกว่าไม่ต้องกังวล

แต่เซี่ยเจ๋อหลี่เป็นกังวลมากจริง ๆ เพียงแต่เขาไม่เดินวนไปวนมาอีกแล้ว กลับยืนนิ่งอยู่กับที่แทน

ในตอนนั้นเอง นายท่านเหยาและคุณหญิงเหยาก็พาเซี่ยเจ๋อเหว่ยและหลี่เสวี่ยเยี่ยนมากัน เมื่อนายท่านเหยาเห็นเหยาจิ้งจือ ก็รีบเอ่ยถามทันที “จิ้งจือ เป็นยังไงบ้าง มู่หลานคลอดหรือยัง?”

เหยาจิ้งจือส่ายหัว ก่อนจะเอ่ย “ยังเลยค่ะ ตอนนี้อยู่ในห้องคลอดแล้ว ใกล้จะคลอดแล้วค่ะ”

“ฟู่…ดูเหมือนพวกเราจะมาทันเวลาพอดี ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็อยู่รอด้วยกันเถอะ”

คุณนายเหยารีบร้อนเดินทางมา ก็รู้สึกเหนื่อยหอบ จึงรีบนั่งลงทันที ก่อนจะสูดหายใจแล้วพูดว่า “มู่หลานอยู่ในนั้นนานแค่ไหนแล้ว?”

“เพิ่งเข้าไปได้ไม่นานค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็คงอีกสักพักแหละนะ”

ขณะที่หลายคนกำลังพูดคุยกัน เซี่ยฉางชิงก็มาหาอย่างเร่งรีบเหมือนกัน เขาเห็นว่าทุกคนอยู่ที่นั่นกันหมด ก็ทราบได้ว่าลูกสาวยังไม่คลอด จึงเดินตรงไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วเอ่ยถาม “มู่หลานยังอยู่ข้างในเหรอ?”

“ครับ มู่หลานเพิ่งเข้าไปได้ไม่นานเองครับ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยฉางชิงก็พยักหน้า จากนั้นก็หันไปทักทายนายท่านเหยาและคนอื่น ๆ อีกครั้ง สุดท้ายก็ทำเหมือนเซี่ยเจ๋อหลี่ ยืนรออยู่ตรงหน้าประตูห้องคลอดอย่างใจจดใจจ่อ

ในขณะนี้ที่แห่งนี้ก็มีผู้คนมารวมตัวกันมากมาย คนอื่นที่เดินผ่านไปมา คิดว่ามีหญิงตั้งครรภ์หลายคนที่กำลังคลอดอยู่ข้างใน คนในครอบครัวจึงมารวมตัวกันเยอะขนาดนี้ ไม่รู้เลยว่าทุกคนในที่นี้ต่างเป็นครอบครัวเดียวกัน

ในตอนนั้นเองหลังจากฉินมู่หลานดมยาสลบไปแล้ว หมอก็ทำการเริ่มผ่าคลอด ไม่นานลูกคนแรกก็ออกมา หมอรีบตรวจระบบทางเดินหายใจของเด็กทันที หลังจากนั้นก็ตีก้นเด็กอย่างแรง

“อุแว้…อุแว้…”

เมื่อเด็กร้องไห้เสียงดังแล้ว หมอก็ส่งเด็กคนแรกให้พยาบาลทำความสะอาดร่างกาย หลังจากนั้นก็นำลูกคนที่สองออกมาให้มู่หลาน และในไม่ช้าเด็กคนที่สองก็ออกมา “ยินดีด้วยค่ะ ได้ลูกชายทั้งสอง”

ฉินมู่หลานรู้สึกมึนงงเล็กน้อยภายใต้การดมยาสลบ แต่ก็พยายามมองเด็กทั้งสองอย่างเต็าที่ หลังจากนั้นก็พูดกับหมอว่า “ขอบคุณค่ะหมอ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ เดี๋ยวจะเริ่มเย็บแผลให้คุณนะคะ”

หลังจากหมอดำเนินการเสร็จแล้ว พยาบาลก็อาบน้ำแล้วห่อตัวให้เด็กทั้งสอง “เด็ก ๆ ทั้งสองคนคลอดก่อนกำหนด เพราะฉะนั้นจะคุณต้องอยู่รอดูอาการต่อไปก่อนค่ะ”

หลังจากประตูห้องคลอดถูกเปิดออก เซี่ยเจ๋อหลี่ก้เป็นคนแรกที่เข้ามา “แม่เด็กเป็นยังไงบ้างครับ?”

“วางใจค่ะ ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก แม่เด็กยังต้องอยู่ในห้องคลอดเพื่อสังเกตอาการต่อไปก่อน ส่วนนี่ลูกชายสองคนของคุณค่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของพยาบาล สีหน้าของคุณนายเหยาก็เต็มไปด้วยความสุข “มู่หลานคลอดลูกชายฝาแฝดเหรอ?”

“ใช่ค่ะ”

พยาบาลตอบพร้อมรอยยิ้ม

ถึงแม้ว่านายท่านเหยาจะไม่สนใจว่าจะได้เด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงก็ตาม แต่หลังจากได้ยินว่าเป็นเด็กผู้ชายทั้งคู่ เขาก็ดีใจมาก หากเป็นแบบนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นคนโต ก็จะมีเด็กชายที่ใช้แซ่เหยา “คนไหนเป็นคนโตเหรอครับ?”

“คนนี้ค่ะ”

พยาบาลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก้าวไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม พลางยื่นเด็กไปให้

นายท่านเหยากลัวที่จะต้องอุ้มนิดหน่อย เป็นคุณนายเหยาที่ก้าวเข้ามารับแทน สวมกอดเด็กพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า แววตาเต็มไปด้วยคามสุขใจ

ในตอนนั้นเองซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ก้าวมาข้างหน้าเหมือนกัน โดยที่ซูหว่านอี๋อุ้มคนเล็กเอาไว้

พยาบาลทั้งสองคนเห็นว่าคนในครอบครัวอุ้มเด็กไปแล้ว ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พวกคุณพาเด็กกลับไปที่ห้องพักฟื้นก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวอีกสักสองชั่วโมงจะพาแม่เด็กกลับไป”

“ครับ”

เซี่ยเจ๋อหลี่เหลือบมองเด็กทั้งสองเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปมองเหยาจิ้งจือแล้วกล่าวว่า “แม่ พวกแม่ไปที่ห้องพักฟื้นกันเถอะ เดี๋ยวผมจะรอมู่หลานอยู่ตรงนี้”

“ได้”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

คราวนี้ได้ผู้ชายทั้งคู่ บรรยากาศบ้านต้องครึกครื้นแน่นอน

สงสัยจังว่ามู่หลานโดนดมยาสลบไปแล้วยังฟื้นขึ้นมาคุยกับหมอได้อยู่อีกเหรอ ปกติยาสลบจะออกฤทธิ์ได้นานขนาดไหนคะ ใครรู้มาอภิปรายได้นะคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Score 10
Status: Completed
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก [嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住] ผู้แต่ง : 钰儿 เรื่องย่อ หลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

Options

not work with dark mode
Reset