บทที่146 งานเลี้ยงที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน
หลินเจียวเรื่องนี้ ทำให้เฉินเกอปาดเหงื่อจริงๆ เลย
ดีที่หลังจากส่งไปโรงพยาบาลแล้วตรวจวินิจฉัยโรค เพียงแค่สมองกระทบกระเทือน เพราะกระแทกเลยสลบไป
พอได้รับการรักษาพักผ่อนช่วงหนึ่งก็ดีขึ้นแล้ว
“เฉินเกอ นายอย่าไป ฉันรักนาย”
“คุณชายเฉิน คุณอย่าไปเด็ดขาด ฉันรักคุณแทบแย่”
ระหว่างที่ไม่ได้สติ หลินเจียวยังพึมพำพูดจาเพ้อเจ้อ
เฉินเกอครองสติไม่อยู่เช่นกัน นี่คือเธอรักฉันเหรอ เธอเพียงแค่รักสถานะคุณชายเฉินเท่านั้นแหละ
สุดท้ายเฉินเกอยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลมาตรฐานสูงสุดให้กับหลินเจียวอีกด้วย
จากนั้นถึงขับรถไปจอดที่เขาหยุงติ่ง
หลังออกมาจากโรงรถที่เขาหยุงติ่ง เฉินเกอเตรียมโบกรถกลับไป
ทันใดนั้นเวลานี้ เฉินเกอถึงรู้สึกได้ว่าบนเขาหยุงติ่งมีบางอย่างไม่ปกติ
นั่นคือที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนคาดไม่ถึงว่าเวลานี้จะเปิดไฟสว่าง
เดิมทีสไตล์การก่อสร้างของคฤหาสน์หลังนี้เพียบพร้อมไปด้วยกลิ่นอายดนตรีโบราณอย่างมาก เวลานี้แสงยามค่ำค่อนข้างเข้ม แสงไฟเปิดส่องสว่าง ที่จริงเป็นสีทองอร่าม แสงสีอลังการ
งดงามจนไม่สามารถบรรยายได้
แต่ตนเองไม่ได้อยู่ ถังหรานเองคงไม่กล้าเข้ามาพักที่นี่อย่างออกหน้าออกตาแบบนี้
งั้นจะเป็นใครมาอยู่ที่นี่?
เฉินเกอประหลาดใจพักหนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจขึ้นไปดูหน่อย
พอมาถึงประตูด้านหน้าคฤหาสน์ ถึงพบว่าด้านในมีคนอยู่จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังไม่ใช่เพียงคนเดียว มีชายมีหญิง ดูคึกคักอย่างมาก
น่าแปลกใจแล้วสิ นี่มันใครกัน? ทำไมถึงมาจัดปาร์ตี้ที่บ้านฉันได้ โดยเฉพาะยังมีกุญแจของบ้านฉันด้วย
เฉินเกอเดินเข้าไป ผลักประตูเปิดด้วยท่าทางโกรธเคือง
“หือ?”
คนที่อยู่ด้านในมองเห็นเฉินเกอปรากฏตัว เห็นได้ชัดว่าแปลกใจ ตกใจกันยกใหญ่
ล้วนมองอย่างตกตะลึง
ส่วนเฉินเกอล่ะ มองชายหญิงพวกนี้ที่อยู่ในบ้านตนเองด้วยความตกใจเช่นกัน
โอ๊ะ
ชายหญิงสิบกว่าคนเต็มไปหมด
ตรงกลางห้องรับแขกถูกพวกเขาทำเป็นเหมือนผับแห่งหนึ่ง วางขวดเหล้าอาหารรสเลิศสารพัดเต็มที่
สิบกว่าคนนี้ดื่มกันอย่างสนุกสุดๆ เลยล่ะ
แต่สิบกว่าคนนี้ มองอย่างไรเฉินเกอก็ไม่คุ้นหน้าสักนิดเดียว ต้องไม่ใช่พวกของไป๋เสี่ยวเฟยแน่ และไม่ใช่คนของคุณชายหวงน้องบุญธรรมด้วย
นั่นก็น่าแปลกมากเลย
พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนกลางหุบเขาก็ยังอยู่ แล้วคนกลุ่มนี้เข้ามาได้อย่างไรกัน?
“แม่ง นายเป็นใคร? เชี่ย ที่แบบนี้คนธรรมดาขึ้นมาได้ด้วยรึไง?”
ผู้ชายที่นิสัยอันธพาลขมวดคิ้วด่าว่า
“เฮ้ย ดูก็รู้ว่าเป็นพวกโลโซ ต้องได้ยินความยิ่งใหญ่ของเขาหยุงติ่งแล้วอยากมาเข้ามาดูล่ะสิ”
“ถึงได้แอบขึ้นมาจากหลังเขา? โอ๊ย โลกนี้มันช่างกว้างใหญ่จริงๆ คนแบบไหนก็มีหมด”
ผู้หญิงสองสามคนยิ่งมองเฉินเกอด้วยหน้าตาเย้ยหยัน
ใช่สิ เฉินเกอเป็นพวกที่ไม่สนใจแต่งตัว เป็นเพียงพวกที่คิดว่าใส่เสื้อผ้าสะอาดก็พอ เดินไปที่ไหนต้องโดนคนรังเกียจอยู่แล้ว
ผู้หญิงหลายคนนั้นเห็นไฮโซหล่อมาจนชินจึงย่อมดูถูก
“ฉันสิอยากถามพวกนาย ใครให้พวกนายเข้ามา?”
เฉินเกอขมวดคิ้วถามอย่างเรียบนิ่ง
ถ้าบอกว่าไม่โกรธก็คงโกหก ซื้อคฤหาสน์มาหลังหนึ่ง ความปรารถนาแรกไม่ใช่เอามาโอ้อวด แต่ว่าวันหลังตนเองจะได้มีที่พักพิง
ตอนนี้กลายมาเป็นอะไรไปแล้ว? กลายมาเป็นสวนสนุกแล้วหรือ?
“ปากของผู้ชายขี้แพ้คนนี้เบาจริงๆ พวกเราเข้ามาได้ยังไง เป็นสิ่งที่นายถามได้เหรอ?”
ผู้หญิงที่เห็นได้ชัดว่าเมาอยู่บ้างเดินโซเซเข้ามา จิ้มหน้าอกของเฉินเกอไปอย่างไม่เกรงใจสักนิดก่อนจะพูดไป
“ช่างเถอะเสี่ยวลี่ คนแบบนี้เห็นมามากแล้ว ถ้าไม่ใช่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนคุณชายจ้าวกำชับเอาไว้ว่าห้ามเห็นเลือด ฉันจัดการไปเขาแล้ว เรียกยามมา เอาตัวไปส่งสถานีตำรวจเถอะ”
“ใช่ เอาไปส่งสถานีตำรวจเถอะ”
ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน เริ่มโทรศัพท์ไปด้วย
“เอะอะอะไรกันน่ะ?”
ทันใดนั้นในเวลานี้ก็ได้ยินจากระเบียงชั้นสอง เสียงผู้ชายที่รำคาญจนทนไม่ไหวดังขึ้นมา
จากนั้นก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งพาผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ค่อยๆ เดินลงมาจากด้านบน
“ฉันกำลังชมวิวอยู่นะ พวกเธอจะเงียบๆ กันหน่อยไม่ได้เหรอ คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองแล้วรึไง?”
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นหัวหน้าของทุกคน เวลานี้พูดสั่งสอนอย่างไม่เกรงใจ
แต่ผู้ชายที่กำลังชมวิวที่ระเบียงไม่ใช่ใครอื่น คือลูกชายของจ้าวจื่อซิ่ง จ้าวชานคุณชายจ้าว
พอมองเห็นเขา เฉินเกอถือว่านึกได้อย่างฉับพลันแล้ว
ดูแล้วคนที่เอากุญแจให้จ้าวชาน ก็คือจ้าวจื่อซิ่ง
“มีคนมาวุ่นวาย? ใครมันใจกล้าขนาดนี้? ไม่อยากอยู่รึไง?”
จ้าวชานขมวดคิ้ว
“คุณชายจ้าวคุณชายจ้าว เป็นเขาเป็นเขาเป็นเขา”
ผู้หญิงห้าหกคนค่อยๆ ลุกขึ้นมา เดินเข้าไปจับเฉินเกอเอาไว้
มีการแสดงบทบาทของคิงคองน้ำเต้าเบบี้ พวกภูตน้อยจับปู่ของน้ำเต้าเบบี้ไว้ เสมือนเป็นฉากที่ปีศาจงูแย่งเอาความดีความชอบมาเป็นของตน
ลากเฉินเกอมาตรงหน้าจ้าวชานทันที
“เฉินเกอ นายเองเหรอ?”
และผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังจ้าวชานมาโดยตลอดนั้น หลังจากมองเห็นใบหน้าเฉินเกอชัดเจน สีหน้ายิ่งตึงแน่น
เห็นได้ชัดมาว่ามีอารมณ์ตกใจ
ส่วนเมื่อสักครู่เฉินเกอสนใจแต่จ้าวชาน พอมองไปทางนี้ สมองมึนงงเช่นกัน
จ้าวยีฟาน
“หึๆ เฉินเกอ นายขึ้นมาได้อย่างไร? คงไม่ได้คิดที่จะขึ้นมาชื่นชมความสง่างามของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนหรอกมั้ง?”
หลังจากตกใจเสร็จ ที่เหลือก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะถากถาง
วันนี้ เดิมทีมีกิจกรรมอันนี้
พูดตามจริงช่วงก่อนหน้านี้เรื่องที่มีคนรวยลึกลับซื้อคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนแปดร้อยล้านก็ดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว
แน่นอนว่าพวกจ้าวยีฟานต้องเคยได้ยินเรื่องคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน
แต่ก็อยากมาดูหน่อย คิดก็ไม่ต้องคิดเลย
นี่เป็นสถานที่ลึกลับหรูหราที่แท้จริง
แต่จ้าวยีฟานกลับพบว่าตั้งแต่ตนเองรู้จักจ้าวชานมา สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมดเหมือนว่ากลายเป็นไปได้แล้ว
วันนี้ตอนที่จ้าวชานบอกว่าเขามีกุญแจของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน ทุกคนล้วนไม่เชื่อกัน
จนกระทั่งเขาหยิบออกมาด้วยตนเอง ทุกคนถึงตกใจกันยกใหญ่
ยังนัดกับซูเจี๋ยและพวกหลินเจียวเรียบร้อยแล้วว่าให้มาด้วยกัน
แต่ว่าซูเจี๋ยล่ะ ตั้งแต่ช่วงบ่ายมาก็ไม่มีข่าวคราวเลย หลินเจียวยิ่งไม่ต้องพูดถึง โทรศัพท์ไปปิดเครื่องแล้ว
นี่ทำให้จ้าวยีฟานอึดอัดที่อยู่โดดเดี่ยวคนเดียว ยังดีที่จ้าวชานอยู่เป็นเพื่อนหล่อนมาตลอด
เมื่อสักครู่อยู่ที่ระเบียง จ้าวยีฟานมองทิวทัศน์ไกลๆ คิดจริงๆ ว่ารู้สึกประสบความสำเร็จแบบที่เรียกว่าอยู่บนตำแหน่งสูงส่งยิ่งใหญ่
ดังนั้นตอนนี้น้ำเสียงที่หล่อนมีต่อเฉินเกอจึงมีการหยอกล้อนิดๆ ไม่มีความคิดอยากแก้แค้นแบบตอนที่เผชิญหน้ากับเฉินเกอสมัยก่อนเลย
คนแบบนี้มีอะไรให้น่าแก้แค้นกัน?
“ยีฟาน เธอรู้จักคนคนนี้? เธอว่ามาจะจัดการยังไง?”
จ้าวชานยิ่งไม่สนใจเฉินเกอเลย เวลานี้ยิ้มพูดแบบนิ่งเรียบ
“ให้เขาไปเถอะ อยู่ในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ ฉันไม่อยากเห็นคนแบบนี้อยู่ด้วย”
พูดจบ จ้าวยีฟานก็ชายตามองเฉินเกอแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับไปข้างบนอีกครั้ง
ได้ยินรึยัง พี่สะใภ้ให้แกไสหัวไป”
“รีบไสหัวไปสิ”
ไม่ปล่อยให้เฉินเกอได้พูด เขาก็โดนพวกผู้หญิงกลุ่มหนึ่งผลักออกไปแล้ว แถมยังปิดประตูใส่อย่างแรง
ทำให้เฉินเกอโมโหแทบแย่
ก่อนหน้านี้โดนผู้หญิงกลุ่มนี้เหยียดหยาม ต่อมาก็โดนจ้าวยีฟานทิ่มแทงหัวใจจนเจ็บ
สุดท้ายให้ตนเองไสหัวออกไป?
เสือที่ไม่คำราม คิดว่าฉันเป็นแมวป่วยจริงๆ ใช่ไหม?
ที่เฉินเกอเดือดดาลเมื่อสักครู่ บวกกับความโกรธในตอนนี้ รับไม่ไหวอยู่บ้างจริงๆ
เขาควักโทรศัพท์ออกมาทันที อย่างไรก็ต้องให้ถังหรานกับจ้าวจื่อซิ่งเข้ามา……