บทที่ 124 เจียงเวยเวยเปลี่ยนไป
เมื่อหล่อนออกมา เห็นรถลัมโบร์กินีคันนั้นขับออกไปแล้ว
เฉินเกอก็หายไปแล้ว
พูดตามหลักแล้ว เฉินเกอคงยังออกไปได้ไม่ไกล
หรือว่า…
ชิ!
ไม่กล้าคิดต่อแล้ว ไม่กล้าคิดต่อจริงๆ!
หวังเสี่ยวถีสูดหายใจเข้าลึก หรือว่า เฉินเกอจะเป็นเจ้าของรถลัมโบร์กินีคันนั้น!
นึกถึงตอนที่เจอเฉินเกอครั้งแรก เฉินเกอยังหั่นแตงโมอยู่บนรถโดยไม่เกรงใจ
ตอนนี้ล่ะ เฉินเกอมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ และรถคันนี้ก็มาอยู่ที่นี่ด้วย
อีกอย่างสิ่งที่เฉินเกอทำเมื่อครู่ หวังเสี่ยวถีก็เห็นด้วยตาตัวเอง เงินตั้งสองแสน เขาจ่ายโดยไม่แม้แต่ลังเลสักนิด!
อ๊ากกก!
เฉินเกอเป็นเจ้าของรถคันนี้ เขาต้องรวยแค่ไหนกัน?
หวังเสี่ยวถีแทบจะยืนไม่ไหว ไม่ใช่เรื่องจริง ต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน! ! !
หลังจากที่เฉินเกอไปส่งซูเฉียงเวยกลับบ้าน เขาก็กลับมหาวิทยาลัยทันที
เขาขับรถไปจอดในสวนลับตาเหมือนปกติ
เมื่อเดินลงมา เขากดล็อครถ
“ฮัลโหลเฉินเกอ! ! !”
จู่ๆมีผู้หญิงกระโดดออกมาจากพงหญ้า จนทำให้ฉินเกอตกใจทันที
“เฮ้ย เธอทำอะไรน่ะ?”
เฉินเกอตกใจจนรีบเดินถอยหลัง
เมื่อเห็นหน้าคนนั้นชัดเจน เฉินเกอถึงกับตัวไม่ถูก
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า กลับเป็นเจียงเวยเวย
“เหอะๆ คุณชายเฉิน ฉันรอนายมาสักพักแล้ว คิดไว้แล้วว่านายต้องมาจอดรถตรงนี้!”
“ว้าว สุดยอดไปเลยเฉินเกอ คิดไม่ถึงเลยว่ารถคันนี้จะเป็นของนายจริงๆ นายนี่มันร้าย รถคันนี้เป็นของนาย ทำไมไม่รีบบอกฉันล่ะ! ทำให้ฉันเข้าใจนายผิดหมด!”
ตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่แล้ว หลังจากเฉินเกอแกล้งเป็นแฟนเจิ้งยวี่เพื่อไปพบพ่อแม่ของหล่อน บังเอิญเจอกับครอบครัวของเจียงเวยเวย จากนั้นเรื่องที่เฉินเกอซื้อรถหรู จึงถูกเปิดเผยกับเจียงเวยเวย
ทุกคนคงไม่รู้ว่า หลังจากคืนนั้นที่เขากลับมา
เจียงเวยเวยนอนไม่หลับทั้งคืน
พอหลับตาลงก็คิดถึงเฉินเกอ
ค่อยๆนึกถึงเรื่องที่ผ่านมากับเฉินเกอทีละเล็กทีละน้อย
เมื่อก่อนเฉินเกอยากจนมาก มักจะโดนรังแกบ่อยๆ
ให้เขาทำอะไร เขาก็ทำ
ในสายตาของหล่อน เฉินเกอแทบจะเทียบกับหมาไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่รู้ว่าเริ่มจากเมื่อไหร่ ความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเฉินเกอเริ่มเปลี่ยนไป
จนกระทั่งตอนนี้ เจียงเวยเวยยังสงสัยว่าตัวเองตกหลุมรักเขาหรือไม่
ไม่มีเหตุผลที่จะฝันแล้วยังฝันถึงเขาอีก!
อีกอย่างตอนนี้ เมื่อเห็นเฉินเกอ รู้สึกว่าเขาทั้งหล่อและน่าหลงใหล อยากจะเขาไปกัดเขาสักคำ
กระทั่งมีอยู่หนึ่งคืน หล่อนยังนั่งดูรูปเฉินเกอทำเรื่องอย่างว่า โอ้โห น่าอายมาก!
สรุปแล้ว ช่วงนี้เจียงเวยเวยตั้งหน้าตั้งตารอเจอเฉินเกอผู้หน้าตาดี
ดังนั้นวันนี้หล่อนจึงมาเขาอยู่นานแล้ว
“เฉินเกอ นายพูดอะไรหน่อยสิ!” เจียงเวยเวยพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน
โดยเฉพาะสายตาคู่นั้น ทำให้เฉินเกอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
“เอ่อ เจียงเวยเวย เธอไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พูดจริงๆนะ เมื่อก่อนแม้ว่าฉันจะเกลียดที่เธอชอบรังแกฉัน และยังชอบดูถูกฉันอีกด้วย แต่ตอนนี้ ฉันกลับชอบเธอที่เป็นแบบเมื่อก่อนมากกว่า อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม?”
เฉินเกอกลืนน้ำลาย
“หึ! เฉินเกอ ฉันว่านายเพี้ยนแล้ว เอาน่า หรือจะให้ฉันเป็นแบบเมื่อก่อน ด่านาย ลงไม้ลงมือหรือให้นายนอนบนเตียงถึงจะมีความสุข ให้ฉันใช้แซ่ฟาดนายถึงจะพอใจ? บ้าไปแล้ว! ร้ายกาจจริงๆ!”
เจียงเวยเวยบอกเป็นนัย
ทำไมเฉินเกอถึงไม่รู้สึก
ตอนนั้นเขารู้สึกกลัวมาก
ถ้ารู้ว่าเป็นผู้หญิงเช่นนี้ เขาคงไม่เปิดเผยตัวตนกับเจียงเวยเวย
พี่สาว นี่พี่ชอบผมตรงไหน ชอบเงินผมรึเปล่า?
เฉินเกอไม่กล้าพูดต่อ
เจียงเวยเวยร้อนใจจนกระทืบเท้า : “เฮ้อ นายนี่นะ ตั้งแต่ฉันรู้จักนาย นายก็พูดน้อยตลอด แมนๆหน่อยสิ! หึ เห็นแก่สิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับนายมาเมื่อก่อน ฉันให้โอกาสนายลงโทษฉัน นายจะลงโทษฉันยังไงก็ยอม โอเคไหม?”
เมื่อพูดจบหล่อนดึงแขนเฉินเกอมากอดไว้ในอ้อมอก
ช่วงนี้เจียงเวยเวยคิดถึงเขาจนแทบคลั่ง
และยังตัดสินใจที่จะมัดใจเฉินเกอให้ได้
การกระทำของหล่อนตอนนั้นมีเป้าหมายที่ชัดเจน
หากเป็นเมื่อก่อน เมื่อเฉินเกอเจอผู้หญิงสวยอย่างเจียงเวยเวย ที่มักจะคอยรังแกตัวเองอยู่ตลอด แต่ตอนนี้กลับเหมือนหมาที่โดนขังไว้มาผูกรัดพัวพันกับตัวเอง
เขาคงต้องรู้สึกชนะมากแน่ๆ
แต่ตอนนี้ เฉินเกอรู้สึกแย่จนหวาดหวั่น ชาไปทั้งหัว ขนลุกไปทั้งตัว
รีบวิ่งหนีไปทันที
“เฉินเกอ กลับมาเดี๋ยวนี้!”
เจียงเวยเวยกระวนกระวายใจจนกระโดไปมา
แต่เมื่อเฉินเกอวิ่งหนีไป หล่อนกลับยิ้มขึ้น
อิอิ ตอนแรกคิดว่าเฉินเกอเจอตัวเองแล้วจะเกลียด และด่าทอ แต่ทว่า เฉินเกอกลับดูเหมือนกลัวแต่ไม่ได้รำคาญ
งั้นก็หมายความว่า ตัวเองยังมีโอกาส
เจียงเวยเวยครุ่นคิดพลางเอามือกอดอก เหลือบมองไปที่ที่นั่งข้างคนขับของรถลัมโบร์กินี
“ต้องมีสักวัน เจียงเวยเวยอย่างฉันจะต้องได้นั่งตรงนั้น ให้เฉินเกอขับรถพาฉันไปกินลมชมวิวทั้งมหาวิทยาลัย!”
แต่ตอนนี้เฉินเกอกลับวิ่งหนีไปที่ห้องเรียนแล้ว
เห็นแล้วยังล่ะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเฉินเกอจึงไม่เปิดตัวตนที่แท้จริง
อันนี้ไม่ไช่เฉินเกอหลงตัวเองนะ แต่เฉินเกอรู้ดีว่าผู้หญิงที่รักเงินอย่างเจียงเวยเวยและหยางเสว่ ต้องรีบพากันมาเข้าหาเขาแน่นอน
สร้างความวุ่นวายให้ชีวิตเขา
ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ตอนนี้เฉินเกอเพียงคิดแต่ว่าต้องเรียนให้จบ
เมื่อกลับถึงห้องเรียน
เฉินเกอเห็นเพื่อนกำลังพูดคุยกันอย่างครึกครื้น
เมื่อฟังดูคร่าวๆ
ทุกคนกำลังพูดถึงคุณชายจ้าวนักเรียนที่ใหม่ที่เพิ่งย้ายมา
พูดถึงว่าคุณชายจ้าวเก่งขนาดไหน เมื่อเขาย้ายมาอยู่ที่นี่ มีผู้หญิงกี่คนไปสารภาพรักกับเขา
โดยสรุปแล้วเขามีออร่ามาก
“เฉิน มาแล้วเหรอ รีบนั่งลงสิ มาฟังเรื่องของคุณชายจ้าวผู้นี้! เดี๋ยวค่อยเคลียร์เรื่องที่นายคบกับจ้าวยีฟานแล้วไม่บอกพวกฉัน!”
หยางฮุยกำหมัดใส่เฉินเกอ
จากนั้นพูดขึ้น: “ไอ้เฉิน เมื่อวานนายลาหยุด ไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับคุณชายจ้าวที่โรงเรียน ช่างน่าเสียดายซะจริง!”
“เอ่อ ยังจัดงานเลี้ยงต้อนรับเขาด้วยเหรอ? โรงเรียนจัดงานแบบนี้ได้ด้วย? ”
หลี่ปินพูดแทรก: “ชื่องานไม่ได้เขียนว่างานเลี้ยงต้อนรับ แต่คุณชายจ้าวนี่เก่งกาจมาก พ่อของเขาจ่ายเงินลงทุนให้มหาวิทยาลัยถึงห้าสิบล้านเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลอง พูดง่ายๆก็คือ เป็นงานเลี้ยงฉลองต้อนรับคุณชายจ้าวนั่นแหละ! เหอะๆ!”
คำพูดของหลี่ปินแฝงไปด้วยความอิจฉา
“นี่ เรื่องที่น่าตลกที่สุดก็คือครูที่ปรึกษาพวกเราเมิ่งไฉ่หรู เพราะหล่อนเป็นคนสวยที่สุดในสายตาของครู จึงให้หล่อนเป็นผู้ต้อนรับ แต่หล่อนกลับเล่นหูเล่นตากับ คุณชายจ้าว ฉันล่ะหมดคำพูด!”
หยางฮุยหัวเราะพลางพูดขึ้น
“เอ่อ…” เฉินเกอทำได้เพียงส่ายหน้า ยิ้มด้วยความขมขื่น
คิดในใจว่าพวกนายเพิ่งรู้งั้นเหรอ เขารู้ตั้งนานแล้วว่าเมิ่งไฉ่หรูเป็นคนอย่างไร
แค่เฉพาะพวกรูปที่หล่อนส่งให้เขา
เฉินเกอคิดพลาง เหลือบมองวีแชทพลาง วันนั้นเป็นเพราะโมโหมาก จึงไม่ได้ดูให้ดี ตอนนี้เมื่อได้ยินเพื่อนๆพูดเช่นนั้น จึงคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้
จากนั้นเค้าจึงพบว่าตั้งแต่วันนั้น เมิ่งไฉ่หรูมักจะส่งรูปภาพยั่วยวนให้เขาแทบทุกวัน ทุกรูปมีหน้าหล่อนทั้งหมด
เฉินเกอดูจนเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย
จึงตอบกลับคำเดียว : โป๊!
คาดไม่ถึงเลยว่าเมิ่งไฉ่หรูจะตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ใครโป๊ห้ะ? หึ ถึงจะโป๊ก็โป๊ให้นายดูคนเดียว กับคนอื่นก็แค่เล่นละครตบตา หึ หรือนายเห็นว่าเมื่อคืนฉันสนิทสนมกับคุณชายจ้าว นายก็เลยหึง? ถ้านายหึงก็บอกมาเถอะ ฉันจะไม่มองเขาอีกแน่นอน!”
“ไม่ได้หึง!”
“เชอะ ฉันไม่เชื่อหรอก พี่ชาย ถ้ายอมให้ฉันไปเจอสักครั้ง ต่อไปฉันจะให้นายดู โอเคไหม?”
“งั้นก็ค่อยว่ากัน!”
“น่าเบื่อ! โอเค งั้นฉันไปสอนก่อนนะ!”
เฉินเกอที่กำลังคุยกับหล่อน ด้วยความรู้สึกที่รังเกียจหล่อน เมิ่งไฉ่หรูยิ่งเป็นแบบนี้มากเท่าไหร่ เขาก็คิดอยากจะแก้แค้นมากขึ้นเท่านั้น
ทันใดนั้น ประตูห้องเรียนถูกเปิดออก
“เรียนได้แล้ว เสียงดังอะไรกัน!”
เมื่อได้ยินเสียงพูดดังขึ้น
จากนั้นเมิ่งไฉ่หรูเดินถือมือถือเข้ามาพร้อมใบหน้าอันเย็นชา ตรงปรี่เข้ามาหาด้วยท่าทีโกรธเคือง
หล่อนกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างเยือกเย็น
สุดท้าย สายตาของหล่อนหยุดจดจ้องอยู่ที่เฉินเกอ : “เฉินเกอ นายออกมาเดี๋ยวนี้!”