ตอนที่ 555 โรงพยาบาลวินิจฉัยผิด
แม่เสี่ยวที่ “พวกผู้เชี่ยวชาญก็พูดแบบนี้จ้ะ หมอเสี่ยวมู่…ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าในนี้ยังมีโรคที่แทรกซ้อนอยู่ด้วย…”
“ไม่แปลกค่ะ โรครักษายากกับโรคแทรกซ้อนมักอยู่ด้วยกัน ฉันจับชีพจรให้พ่อเสี่ยวที่แล้ว แยกรักษาได้ค่ะ หรือก็คือรักษาโรคแทรกซ้อนก่อน”
แม่สามีกับลูกสะใภ้ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“รักษาได้จริงเหรอจ๊ะ”
“ใช้การฝังเข็มรักษาโรคแทรกซ้อนได้ค่ะ พอรักษาหายแล้ว อาการของโรคหลักก็น่าจะแสดงออกมา แล้วเราถึงจะรู้ว่าใช่โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเปล่าค่ะ แบบนั้นถึงจะรู้ว่ารักษาได้ไหม พวกเราจะมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างก็ย่อมได้นะคะ”
ต่อให้เป็นโรคนั้น หญ้าพิษชีวิตก็น่าจะรักษาได้ บางทีผลหมื่นปีที่ได้รับฉายาว่าปลุกชีพมนุษย์ก็น่าจะพอแล้วไหม
อย่างไรเสียโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็แค่แขนขาไร้เรี่ยวแรง แต่โรคเอแอลเอสจะเป็นการฝ่อของกล้ามเนื้อ เช่น ที่แขนขา ลำตัว หน้าอก หน้าท้อง เป็นต้น หนักกว่ามาก
แม่สามีกับลูกสะใภ้ถามอย่างอึ้งๆ “ไม่ใช่โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเหรอ โรงพยาบาลตรวจผิดเหรอ”
“จะบอกว่าตรวจผิดก็ไม่ถูกค่ะ เพราะอาการของคุณย่าที่แสดงออกมาคือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปกติคุณย่าดื่มน้ำแล้วสำลัก ไออ่อนแรง กลืนลำบาก อะไรพวกนี้บ้างไหมคะ”
“บางครั้งดื่มน้ำแล้วสำลัก แต่ก็เพราะรีบดื่มเกินไปหรือไม่ก็ไม่ทันระวัง แต่น้อยมาก ไออ่อนแรงก็มีแค่ตอนเป็นไข้หวัด กลืนอาหารไม่ลำบาก หลักๆ คือแขนขามันไม่มีแรง ความรู้สึกอย่างอื่นไม่มีมากมายอะไร”
มู่เถาเยาสังเกตแขนขาของย่าเสี่ยวที่ “กล้ามเนื้อของคุณย่ายังมีเยอะแต่ไร้เรี่ยวแรง ไม่ได้มีเค้าลางของการฝ่อ ดูผอมกว่าคนอื่นอาจเพราะนอนป่วยมานาน จึงอาจไม่ใช่โรคนั้นค่ะ…หนูอ่านประวัติการรักษาของคุณย่ากับคุณพ่อเสี่ยวที่แล้ว…น่าจะเพราะโรคแทรกซ้อนถึงได้ส่งผลและแทรกแซงการแสดงอาการของโรคที่เป็นจริงๆ ค่ะ…”
มู่เถาเยาค่อยๆ แจกแจงรายละเอียด เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจ
เวลานี้เสี่ยวที่พาตี้อู๋เปียนที่หิ้วกล่องยากับกล่องอาหารเข้ามา
“ซาลาเปาน้อย ตอนนี้แปดโมงครึ่งแล้ว กินอาหารเช้าก่อนเถอะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “พอค่ะ ขอบคุณค่ะคุณแม่เสี่ยวที่” ต่อให้พวกเขาไม่กินก็ไม่มีทางรู้สึกหิว
“จ้ะ งั้นพวกเธอกินก่อน พี่จะเข้าครัวทำอาหารเช้าให้ย่าเสี่ยวที่ เสี่ยวที่ อยู่กับย่ากับพวกพี่ๆ ไปนะ”
เด็กน้อยพยักหน้าหงึก ๆ
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนเริ่มกินอาหารเช้าที่โรงแรมให้มา
เด็กน้อยมองมู่เถาเยาด้วยดวงตาเปล่งประกายพลางถามมู่เถาเยา “พี่สาว ของบ้านอาถิงอร่อยมากเลยใช่ไหมฮะ” เขาจำกล่องอาหารกับกลิ่นอาหารได้
“อาถิงเหรอ”
ย่าเสี่ยวที่พูด “อาถิงก็คือเจ้าของโรงแรมที่พวกหนูพักกัน พ่อครัวก็เป็นคนท้องถิ่น เคยไปอยู่เมืองใหญ่มา ทำอาหารเก่ง เวลาเด็กๆ อยากกินของอร่อยก็ชอบไปขอกิน”
มู่เถาเยาพยักหน้า
เด็กในหมู่บ้านชนบทก็เป็นแบบนี้ ไปเล่นอยู่ที่ไหนก็กินที่นั่น ไม่มีผู้ใหญ่บ้านไหนที่จะงกของกินแค่นี้ หรือให้กินแค่เด็กบ้านตัวเองไม่ให้เพื่อนที่มาเล่นด้วยกิน
“รสชาติดีค่ะ เสี่ยวที่ กินหน่อยไหมจ๊ะ”
เด็กน้อยส่ายหน้า ถ้าเขากินด้วย พี่สาวก็จะกินไม่อิ่ม
พอกินอาหารเช้าเสร็จมู่เถาเยาก็ถามขึ้น “พี่สาม พวกป้าจางยังไม่ตื่นใช่ไหมคะ”
“ยังเลย ถ้าตื่นแล้วพวกเขาคงโทรมา ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ค่ะ”
ย่าเสี่ยวที่ “พวกเธอมีคนมาด้วยกันอีกเหรอ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “มีคุณลุงคุณป้าที่ข้ามเขตไร้ผู้คนมาด้วยกันค่ะ พวกเขาเดินทางเที่ยวมาสามเดือนแล้ว ร่างกายก็เลยค่อนข้างเหนื่อยล้า ยังไม่ตื่นนอนค่ะ”
“เสี่ยวที่ ไปบ้านอาถิงบอกพี่ชายที่อยู่ข้างหน้าว่าเดี๋ยวถ้าลูกค้าตื่นให้พามาที่นี่ กลางวันกินข้าวบ้านเรา”
มู่เถาเยาไม่ปฏิเสธ เพราะเดี๋ยวก็ต้องฝังเข็มให้ลู่ทงอีก
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนกินอาหารเช้าเสร็จก็เก็บโต๊ะ ตี้อู๋เปียนหยิบขยะออกไปทิ้งข้างนอก
พอแม่เสี่ยวที่ป้อนข้าวแม่สามีเสร็จทุกคนก็ออกไปนั่งที่ใต้ต้นสาลี่ขนาดใหญ่
มู่เถาเยาเปิดกล่องยาใบน้อย หยิบหมอนตรวจชีพจรมาวางบนโต๊ะสะอาดตรงหน้าแล้วเริ่มจับชีพจร
แม่เสี่ยวที่ก็ประคองสามีเข้ามา
พวกเขามองมู่เถาเยาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หลังจากจับชีพจรเสร็จใบหน้าของมู่เถาเยาก็เริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อย เธอถาม “น่าเสียดายที่ทางนี้ไม่มีโรงพยาบาลผิงคัง ไม่อย่างนั้นพวกคุณย่าก็ไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้”
พ่อกับแม่เสี่ยวที่ถามเป็นเสียงเดียวกัน “โรงพยาบาลผิงคังรักษาได้เหรอครับ/ค่ะ”
“ฝังเข็มรักษาโรคแทรกซ้อนได้ค่ะ พอรักษาโรคแทรกซ้อนเสร็จค่อยดูว่าโรคหลักคือโรคอะไร โรคแทรกซ้อนนี้เอาเรื่องมาก รบกวนหนักหนาเอาการเลยค่ะ”
มู่เถาเยาเอามือของย่าเสี่ยวที่ลงจากหมอนแล้วทำท่าบอกให้พ่อเสี่ยวที่เอามือขึ้นมาวาง
อาการของพ่อเสี่ยวที่เบากว่าหน่อย มือเท้ายังพอขยับได้บ้าง
หลังจากจับชีพจรเสร็จอีกครั้งมู่เถาเยาก็หยิบม้วนเข็ม “คุณย่าเพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จ หนูจะฝังเข็มให้คุณพ่อเสี่ยวที่ก่อนนะคะ จริงสิ ใบประกอบโรคศิลปะของหนู…”
อยู่ ๆ มู่เถาเยาก็นึกขึ้นได้ว่าเอกสารของเธอเป็นชื่อ ‘มู่เถาเยา’ แต่ตอนนี้เธอใช้ชื่อ ‘มู่เถาจื่อ’ รูปก็ไม่เหมือนกัน
แอบกระอักกระอ่วนนิดหน่อย…
ช่างเถอะ อย่างมากก็แค่ล้างใบหน้าที่แปลงโฉมออก
ย่าเสี่ยวที่ส่ายมือ “พวกเราเชื่อใจหนูจ้ะ” ฟังเธอพูดแบบที่พวกผู้เชี่ยวชาญพูดมาตั้งมาก พวกเขาไม่มีทางสงสัยว่าเธอไม่ใช่หมอ
มู่เถาเยายิ้ม “งั้นจะเริ่มฝังเข็มแล้วนะคะ คุณแม่เสี่ยวที่ช่วยคุณพ่อเสี่ยวที่ถอดเสื้อหน่อยค่ะ”
แม่เสี่ยวที่ “หมอเสี่ยวมู่คะ ถอดเสื้อผ้าจะไม่สบายไหม กลับเข้าบ้านกันดีไหมคะ”
“ไม่ต้องค่ะ ข้างนอกมีดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์หมายถึงพลังการมีชีวิตท่ามกลางฟ้าดิน วางใจได้ค่ะ รับรองว่าไม่เป็นหวัดแน่”
ใช้ทักษะหุยหยางก่อน เพื่อให้พลังฟ้าดินเข้าร่างกาย อีกเดี๋ยวรักษาโรคแทรกซ้อนจะช่วยปกป้องไม่ให้อวัยวะส่วนอื่นถูกวิชาฝังเข็มที่หนักหน่วงกระทบ
“จ้ะ”
แม่เสี่ยวที่ช่วยสามีถอดเสื้อผ้า
มู่เถาเยาฝังเข็ม