[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 117 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] เข้ากันได้ดี

ตอนที่ 117 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - [บทศูนย์] เข้ากันได้ดี

“{อิมมอร์ทัลแฟลร์ (เพลิงไร้วันดับมอด)}! {กราวิตี้เบลด (คมดาบแรงโน้มถ่วง)}! {เบรคเลเซอร์ (ลำแสงทำลายล้าง)}!”

 

ไฟสีฟ้าลุกขึ้นมา คมดาบบินฉวัดเฉวียนเหมือนไอความร้อน และลำแสงสีแดงพุ่งลง แตกกระจายเมื่อถูกเป้าหมายที่ยิงใส่

 

“อ๊าฮ่าฮ่าฮ่า!! จะมาขัดขืนชั้นน่ะ มันยังเร็วไป 600 ปี!!”
“วะฮะฮะฮะฮะฮ่า! ไม่เลวเลยนี่นา ฟราน! เอาอีกสิ! ยิงเข้าไปอีกโลด!!”
“ด- เดี๋ยวสิ… ใจเย็นๆ ก่อนนะ ทั้ง 2 คน…”

 

ทั้งเวทมนตร์ของฟรานกับเวทมนตร์ของฉันระเบิดไฟไปทั่วและทำลายพื้นที่รอบข้างจนราบคาบ

ฉันก็เปลี่ยนเป็นเข้าต่อสู้ระยะประชิดบ้างเป็นครั้งคราว แล้วก็เข้าไปอัดศัตรูจนยับเลย

ฟรานก็จ้องไปที่ศัตรูด้วยสายตากระหายการต่อสู้ และแม้แต่ตอนนี้ เธอก็สาดเวทมนตร์ระดับสูงลงมาทั่วบริเวณกว้างด้วย

 

“เอาล่ะ เข้ามาเลย! เจ้าพวกสัตว์อสูร!! จะมากันกี่ร้อยตัวก็มาคณนามือฉันกับฟรานหรอกน่า!!”
“ไม่ปฏิเสธเลย――!!”
“ก็บอกว่า ให้ใจเย็นๆ ก่อนไงเล่า! ทั้ง 2 คน!”

 

พวกเรากำลังอยู่ระหว่างถูกโจมตีจากฝูงสัตว์อสูรพอดี

เป็นสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายไฮยีน่าประมาณ 20 ตัว แถมพวกมันก็ไม่ใช่พวกปลาซิวปลาสร้อยเลยด้วย

มันควรจะหายากเลยนะที่จะได้มาเจอสัตว์อสูรในที่แบบนี้ได้น่ะ นี่แสดงว่า ฟรานเป็นตัวดึงความโชคร้ายเข้ามาจริงๆ สินะเนี่ย?

 

ตอนแรกฉันนึกว่าพวกเราแค่โดนยัดเด็กสาวกับระเบิดติดมากับพวกเราด้วยซะอีก… จนกระทั่งเวทมนตร์ของฟรานระเบิดออกนี่แหละ

จริงๆ แล้ว พรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของฟรานน่ะสุดยอดไปเลยล่ะ

ทักษะของเธอน่ะ เก่งกว่าฉันซะอีก อยู่ในระดับที่แม้แต่อัจฉริยะอย่างฉันยังหลงใหลในทักษะระดับนั้นเลยล่ะ

ด้วยเวทมนตร์นั่น พวกสัตว์อสูรก็โดนซัดกระเด็นกระดอน ถูกไล่ต้อน และก่อนที่ฉันจะทันรู้ตัว ฉันก็เข้าไปร่วมวงไล่ตามพวกสัตว์อสูรที่พยายามจะหนีไปด้วยอีกคนนึง

พูดง่ายๆ คือ ทั้งฉันทั้งฟรานกำลังคึกสุดๆ เพราะเห็นความสุดยอดในความสามารถของแต่ละฝั่งล่ะนะ

 

ฉันจัดการสัตว์อสูรตัวสุดท้ายลงเรียบร้อย เก็บวัตถุดิบและเนื้อจากพวกมันมาจนหมด และส่งให้ริงกะช่วยเริ่มนำไปย่างให้ที

 

“วะฮะฮะฮะฮ่า! ฟราน! ฉันเข้าใจเธอผิดไปนะเนี่ย! ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะใช้เวทมนตร์ขนาดใหญ่อย่างเท่ระดับนั้นได้ด้วยน่ะ! ถ้ามีสัตว์อสูรโผล่มาอีกล่ะก็ โชว์เวทอลังๆ แบบนั้นให้ดูอีกซักหน่อยนะ!!”
“ฟิลิสเองก็เหมือนกันนะ! เธอก็ใช้เวทมนตร์ได้ดีเลยเหมือนกันนะ! ถึงจะไม่เท่าชั้นก็เถอะ แต่ทั้งการต่อยการเตะของเธอเนี่ยแข็งแกร่งสุดๆ ไปเลยนะ!! อะฮะฮะฮ่า! อยากรู้จังว่ายังมีสัตว์อสูรเหลืออีกมั้ยน้า~!”
“ส- สองคนนี้จะแปลกกันเกินไปแล้วนะ… แรงกดดันรอบๆ ก็ชักจะแปลกซะแล้วสิ…”

 

ริงกะ พูดอะไรเสียมารยาทแบบนั้นเล่า

เวทมนตร์นั่นของฟรานมันสุดยอดจริงๆ นี่นา ฉันต้องเรียนรู้เอาไว้ซักหน่อยแล้วสิ

ในฐานะอัจฉริยะแล้ว ฉันรู้ดีถึงความสำคัญของทักษะ [การซึมซับจากผู้อื่น] ยังไงล่ะ

 

“คิดว่าไงล่ะ ฟราน เธออยากจะออกเดินทางมาพร้อมกับพวกเราแบบนี้ต่อมั้ยล่ะ? ฉันยินดีมากเลยนะ”
“เอ๋!?”
“อืม… ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสลัดปะป๊าหลุดหรือเปล่าน่ะสิ… ต่อให้ชั้นบอกว่าจะข้ามพรมแดนไปกับพวกเธอด้วย ชั้นก็คงโดนขังไว้ไม่ให้ออกไปได้หรอก…”
“อืม เธอก็เป็นเจ้าหญิงของเอลฟ์ด้วยนี่เนอะ นั่นคือการที่มีตำแหน่งติดตัวสินะ อื้อ”
“เอลฟ์น่ะมีระบบสืบสายเลือด ไม่เหมือนกับแวมไพร์น่ะ เอาเถอะ ยังไงชั้นก็ไม่ได้อยากเป็นราชินีอยู่แล้ว ชั้นกะจะยกให้น้องสาวของชั้น เทียน่า เป็นคนรับตำแหน่งไปน่ะ อ๊ะ เรื่องนี้อย่าเอาไปพูดต่อล่ะ”
“ป- เป็นอิสระจังเลยนะ ฟรานจัง… ว่าแล้วเชียว ฟรานจังกับฟิลิสจังน่ะคล้ายกันจริงๆ นั่นแหละ…”

 

“อะ! มองเห็นแล้วล่ะ! ไม่ผิดแน่! นั่นแหละ! เมืองของเผ่ามนุษย์มังกรล่ะ!”

 

พอได้ยินเสียงของริงกะแล้ว ฉันก็มองเห็นเมืองนึงอยู่ไกลๆ

มีแต่มนุษย์มังกรอยู่ทั่วเลย เพราะงั้นไม่ผิดแน่นอน

 

“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นเลยนะ อย่างที่เคยคุยกันไว้นะ ฟราน อย่าสร้างปัญหาอะไรล่ะ ตกลงมั้ย?”
“อะฮะฮะ รู้แล้วน่า!”
“ให้ตายสิ… ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ขอพูดแบบเดียวกันหน่อยนะ เพราะฟิลิสจังเองก็เหมือนกัน เนอะ?”
“ไม่ๆ นี่พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ ริงกะ ฉันน่ะนะ…”
“ เพราะ ฟิ ลิส จัง เอง ก็ เหมือน กัน เนอะ ? ”
“…ค่ะ”

 

…ฉันต้องห้ามลืมว่า ฉันจะไม่ควรจะขัดใจริงกะเด็ดขาด

 

พอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและเข้ามาภายในเมืองแล้ว ฉันก็ตะลึงไปนิดนึงกับระดับวิทยาการในการก่อสร้างที่สูงจนน่าตกใจเลยล่ะ

ทิวทัศน์เมืองที่สร้างขึ้นจากหิน ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความวิจิตรศิลป์เลยล่ะ

 

“อุหวาาาา――! สุดยอดดดด――! เท่ระเบิด!”
“ด- เดี๋ยวสิ! ฟรานจัง! ใจเย็นก่อนนะ!”
“ริงกะ ช่วยทีสิ มาช่วยกันจับเอาไว้ก่อนเร็ว”

 

พวกเรามุ่งหน้าไปที่ใจกลางเมือง ที่ที่ผู้นำของเผ่ามนุษย์มังกร จักรพรรดิมังกร อาศัยอยู่ โดยที่หนีบฟรานเอาไว้ด้วยแขนของฉัน

 

“หือ? …พวกเธอเป็นใครน่ะ?”
“ฟราน ฟอเรสเตอร์ เจ้าหญิงแห่งเผ่าเอลฟ์ และแวมไพร์ผู้คุ้มกัน 2 คน”
“พวกเธอ! ฟราน ฟอเรสเตอร์งั้นเหรอ!”
“……ทำไมทหารคุ้มกันต้องกันผู้ว่าจ้างออกไปด้วยล่ะเนี่ย?”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันกดเจ้าหญิงบ้านี่เอาไว้ไม่ให้ทำอะไรโง่ๆ แล้วล่ะ”
“…น- นั่นสินะ…”

 

พวกทหารคุ้มกันถอยกลับไปเล็กน้อย แต่ยังไงก็ตาม เราก็ยื่นใบรับรองให้เขาไป แล้วเขาก็ให้พวกเราผ่านมาได้เลย

หลังจากที่รอในห้องนั่งเล่นอยู่ครู่นึง ประตูก็เปิดออก และเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนึงที่ตรงข้ามกับผู้ชายตัวยักษ์ที่เดินตามเข้ามานั่นทุกอย่างเลย

 

“พวกเธอคือคณะผู้ส่งสารจากเผ่าเอลฟ์สินะ ขอต้อนรับสู่เมืองของเผ่ามนุษย์มังกร เราคือจักรพรรดิมังกร เวอร์กา ดราเกรย์ ครั้งนี้ พวกเธอช่วยเราไว้ได้มากจริงๆ นะ เราขอขอบใจพวกเธอมาก”
“ไม่หรอกค่ะ พวกเราเป็นแค่ผู้คุ้มกันเท่านั้นเอง”
“หืม หาได้ยากจริงนะที่มีแวมไพร์เป็นคนคุ้มกันน่ะ เอลฟ์กับแวมไพร์ได้ติดต่อกันแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“ยังค่ะ พวกเรา 2 คนแค่ออกเดินทางกันเท่านั้นเอง… เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมฉันถึงเป็นคนตอบล่ะเนี่ย… ฟรานจัง นี่เป็นหน้าที่ของเธอนี่ เธอเป็นเอลฟ์ไม่ใช่เหรอ”
“เอ๋? ก็ชั้นไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีตอนที่มาอยู่ที่นี่นี่นา!”
“เฮ่ จะดีเหรอที่เชื้อพระวงศ์ของเอลฟ์เป็นแบบนี้น่ะ”

 

ไม่สิ… กรณีแบบนี้ เธอควรจะตอบว่า ‘ชั้นรู้อยู่แล้ว แต่ชั้นจะไม่ทำหรอกนะ’ ถึงจะถูกไม่ใช่เหรอ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกนะ เรื่องที่องค์หญิงคนโตของเผ่าเอลฟ์มีนิสัยอย่างไร เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นที่เลื่องลืออยู่พอควรเลยล่ะนะ”

 

เป็นคนดังแล้วนะเนี่ย ดีจังนะ ไม่เป็นไรนะ เอลฟ์ทุกคน

 

“ถ้างั้น… ขอเราดูของที่พวกเธอนำมาด้วยได้หรือเปล่า?”
“อะ ค่ะ นี่ค่ะ”

 

พอฉันยื่นเมจิกไอเท็มสำหรับเก็บของให้จักรพรรดิมังกร ท่านก็ตรวจดูสิ่งที่อยู่ภายใน และจากนั้นไม่นาน

 

“อื้อ เยี่ยมเลยนะ ขอบใจพวกเธอจริงๆ ตอนนี้ มเหสีของเราต้องอาการดีขึ้นอย่างแน่นอน”

 

แล้ว เขาก็พูดออกมา พร้อมถอนหายใจด้วยความโล่งใจเลย

 

“ถ้าอย่างนั้น วันนั้นก็ค้างคืนเสียที่นี่สิ เราสั่งให้เตรียมห้องสำหรับพวกเธอไว้ที่นี่แล้ว… ฝากเธอนำทางให้พวกแขกด้วยนะ”
“รับทราบค่ะ”

 

เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างหลังจักรพรรดิมังกรอยู่ตลอดเวลาพยักหน้ารับคำสั่งของจักรพรรดิมังกร แล้วก็เดินตรงเข้ามาหาพวกเรา

อายุซัก… 10 ขวบได้มั้ยนะ ทำไมเด็กคนนี้ถึงอยู่กับจักรพรรดิมังกรได้ล่ะเนี่ย?

 

“น- น่ารักจังเลย…”
“อย่าดูถูกจากรูปลักษณ์ภายนอกจะดีกว่านะ แม้เด็กคนนั้นจะเด็กอย่างที่เห็นภายนอกก็จริง แต่เธอเป็นจอมเวทย์ผู้คุ้มครองที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์มังกรเลยล่ะ เป็นอัจฉริยะที่อยู่ในตำแหน่งลำดับที่ 3 กองอัศวินมังกรเวทมนตร์เชียวนะ”
“เอ๋”

 

แบบนี้นี่เอง

อัจฉริยะในหมู่มนุษย์มังกรงั้นเหรอ ขนาดยังเด็กอยู่เลย ก็เป็นกองกำลังอัศวินแล้ว โลกนี้ช่างกว้างใหญ่จริงๆ เลยนะ

 

“ต- แต่ว่า ก็ยังน่ารักมากอยู่ดีนั่นแหละ…”
“…เธอคนนั้น ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ?”
“ไม่เป็นอะไรหรอก ฉันแค่ชอบของน่ารักๆ มากเลยก็เท่านั้นเองแหละ”

 

ห้องของเธอมีตุ๊กตาสัตว์ยัดนุ่นทำมืออยู่เต็มห้องเลยนี่นะ

ขนาดตอนที่เธอเจอเทียน่าในหมู่บ้านเอลฟ์น่ะ เธอคงเข้าไปลูบหัวแล้วสินะถ้าฉันไม่ตื่นอยู่น่ะ

 

“ยินดีที่ได้รู้จักกับพวกคุณนะคะ ดิฉันจะให้การช่วยเหลือในการนำทางให้กับพวกคุณเองค่ะ”
“ว้าว! พูดจาสุภาพมากเลย!”
“เทียน่าของชั้นน่ะพูดสุภาพกว่าอีกนะ!”
“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นซิสค่อนในเรื่องแปลกๆ แบบนี้สิ!”

 

“เรียกดิฉันว่าฟลูเรเทียได้เลยค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

 

TN: …ครับ นี่คืออาเจ๊ฟลูเรเทีย คนเดียวกับที่อัดลีนกับโยมิคนนั้นจริงๆ ครับ สมัยยังละอ่อนล่ะเนอะ 555

ย้อนอดีตมานาน ทุกคนอาจคิดถึงสมัยปัจจุบันก็ได้ เพราะงั้นก็จะมีตอนพิเศษคั่นซักตอนนะครับ

ป.ล. ถึงจะบอกว่าเป็นตอนพิเศษ แต่ทุกเหตุการณ์ก็อยู่ในเนื้อเรื่องหลักเหมือนกันนะครับ

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Score 10
Status: Completed
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน ... แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว...ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

Options

not work with dark mode
Reset