ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด 352 ตำหนักแห่งการหลับใหล

ตอนที่ 352 ตำหนักแห่งการหลับใหล

รู​บน​กำแพง​นั้น​มีขนาด​ไม่ใหญ่​ แต่​หาก​คลาน​ไป​ทีละ​คน​ยังมี​ช่องว่าง​เหลือ​อีก​มาก​ บริเวณ​รอบด้าน​ภายใน​รู​ไม่เหมือน​ดิน​โคลน​ หาก​แต่​เป็น​กำแพง​หิน​ที่​เย็น​ราว​หยก​ สิ่งสำคัญ​คือ​สิ่งที่​แผ่ออก​มาจาก​กำแพง​หิน​นั้น​ไม่ใช่พลัง​ปีศาจ​ แต่​เป็น​พลัง​ที่​ทำให้​พวกเขา​รู้สึก​สบาย​อย่าง​มาก​ ราวกับ​สามารถ​เกื้อหนุน​พลัง​ลมปราณ​ภายใน​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ พลัง​ลมปราณ​ที่​สูญเสีย​ไป​ฟื้น​คืน​กลับมา​อย่าง​รวดเร็ว​

แทบจะ​เป็น​ชั่ว​ขณะที่​พวก​เธอ​คล้าย​เข้าไป​ ด้านนอก​ก็​มีเสียง​การ​เลื้อยคลาน​ดัง​ขึ้น​ ปีศาจ​งูจากไป​อย่าง​ไม่ลังเล​แม้แต่น้อย​

ทั้งสอง​คน​: “…” ควรจะ​บอ​กว่า​ใจกว้าง​เกินไป​หรือไม่​ เขา​ไม่คิด​แม้แต่​จะรอ​ดู​ก็​หันหลัง​จากไป​ ไม่กลัว​ว่า​ทันทีที่​เขา​จากไป​ พวก​เธอ​จะถอย​ออกมา​เหรอ​ อวิ๋นเจี่ยว​ระอา​เล็กน้อย​ แต่​ก็​ไม่มีที​ท่าจะ​ถอย​ออก​ไป​

“เจ้าหนู​ ปีศาจ​งูนั้น​จากไป​แล้ว​ พวกเรา​ออก​ไป​หรือไม่​” เมื่อ​พบ​ว่า​ปีศาจ​งูด้านนอก​จากไป​แล้ว​ ชาย​แก่​จึงถามขึ้นเสียง​เบา​

“ไม่ พวกเรา​เข้า​ไปดู​ด้านใน​!” เพราะ​จาก​คำพูด​ของ​ปีศาจ​งูนั้น​สามารถ​เห็น​ได้​ว่า​นาย​ท่าน​ที่​เขา​พูดถึง​คือ​เทพ​ปีศาจ​ที่​พวกเขา​ตา​มหาเทพ​ปีศาจ​ เพียงแต่​เทพ​ปีศาจ​แตกต่าง​จาก​สิ่งที่​เขา​ได้ยิน​มาจาก​จี้เฟิง คน​หนึ่ง​บอก​ดับสูญ​ อีก​คน​บอก​หลับใหล​ แต่​ไม่ว่า​จะเป็น​แบบ​ไหน​ อย่าง​น้อย​พวกเขา​ไม่ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​อีก​ฝ่าย​ “อาวุธ​คำสาป​ของ​อาจารย์​ปู่​อาจ​อยู่​ภายใน​ตำหนัก​แห่ง​นี้​”

“ได้​” ชาย​แก่​พยักหน้า​ พร้อม​คลาน​ไป​ด้านหน้า​ต่อ​ สักพัก​ราวกับ​นึก​บางอย่าง​ได้​จึงพูด​ขึ้น​ “จริง​สิ เจ้าหนู​เมื่อกี้​เจ้าพูด​อะไร​กับ​ปีศาจ​งูนั้น​ เจ้าฟังสิ่งที่​เขา​พูด​ออก​หรือ​”

อวิ๋นเจี่ย​วชะ​งัก​ไป​ ก่อน​จะมอง​ไป​ด้านหน้า​อย่าง​ฉงน​ “เมื่อกี้​ข้า​…พูด​ภาษามนุษย์​!”

“เอ๊ะ​? ไม่ใช่!” ชาย​แก่​เอง​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​ เขา​คลาน​กลับมา​ทันที​ “ข้า​ได้ยิน​เจ้าพูด​ภาษาที่​ข้า​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ ข้า​ไม่เข้าใจ​แม้แต่​ประโยค​เดียว​ ข้า​เข้าใจ​ว่า​เจ้ารู้​ภาษางูเสีย​อีก​”

“ก่อนหน้า​นั้น​ล่ะ​? เหล่า​หมาป่า​กะโหลก​ และ​สัตว์ประหลาด​ยักษ์​ชิว​อู​นั้น​ เจ้าก็​ไม่เข้าใจ​สิ่งที่​พวก​มัน​พูด​หรือ​” อวิ๋นเจี่ยว​ถามอีกครั้ง​

“เอ๊ะ​? พวก​มัน​พูด​ได้​ด้วย​หรือ​” ชาย​แก่​ยิ่ง​ตกตะลึง​ “ข้า​ได้ยิน​เพียง​เสียงร้อง​แปลกประหลาด​ของ​พวก​มัน​!”

“…” อวิ๋นเจี่ยว​ตกตะลึง​อย่าง​มาก​ ทั้งที่​เธอ​ไม่รู้สึก​ว่า​ภาษาของ​อีก​ฝ่าย​แตกต่าง​จาก​พวกเขา​ แต่​จาก​มุมมอง​ของ​ชาย​แก่​กลับ​แปร​เปลี่ยนเป็น​อีก​ภาษาหนึ่ง​ เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

เธอ​ขมวดคิ้ว​ คิด​หา​สาเหตุ​ไม่เจอ​ภาย​ในเวลานั้น​ ทำได้​เพียง​มุ่งหน้า​ต่อไป​ แต่​รู​นั้น​เหมือน​จะมีขนาด​กว้าง​ขึ้น​อีก​เล็กน้อย​ จาก​ตอนแรก​ที่​ทำได้​เพียง​หมอบคลาน​นั้น​ เวลานี้​พวก​เธอ​สามารถ​ลุกขึ้น​เดิน​ได้​แล้ว​

บน​กำแพง​หิน​ข้าง​ตัว​นั้น​ก็​ปรากฏ​แสบง​สีม่วง​อย่าง​เลือนลาง​ ราวกับ​เปิดไฟ​กลางคืน​สีม่วง​ ส่องสว่าง​ให้​โดยรอบ​กลายเป็น​สีม่วง​อ่อน​ อวิ๋นเจี่ยว​แยก​ไม่ออ​กว่า​กำแพง​หิน​รอบด้าน​ทำ​มาจาก​วัสดุ​อะไร​ แต่​มัน​มีผิว​สัมผัส​ที่​เรียบ​และ​ลื่น​ ดู​แล้ว​ไม่เหมือน​ถูก​ตี​ทะลุ​เข้ามา​ หาก​แต่​ผ่าน​การ​สร้าง​ขึ้น​โดยเฉพาะ​ อีก​ทั้ง​แสงสีม่วง​พวก​นี้​ก็​มีความ​แปลกประหลาด​

“เจ้าหนู​…” ชาย​แก่​สัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​ “แสงสีม่วง​เหล่านี้​มีปัญหา​ใช่หรือไม่​ เหตุใด​เมื่อ​ถูก​พวก​มัน​ส่อง​เข้า​ พลัง​ลมปราณ​ใน​ตัว​ของ​ข้า​ก็​ฟื้น​คืน​กลับมา​ทั้งหมด​”

อวิ๋นเจี่ยว​สัมผัส​ตัน​เถียร​ของ​ตนเอง​ ไม่เพียง​ชาย​แก่​ แม้แต่​พลัง​ลมปราณ​ภายใน​ร่างกาย​ของ​เธอ​ก็​ฟื้น​คืน​กลับมา​กว่า​ครึ่ง​ เส้น​ชีพจร​เสวียน​ของ​เธอ​มาจาก​อาจารย์​ปู่​ นอกจาก​ครั้ง​ก่อนที่​ดูดกลืน​พลัง​เทพ​เข้าไป​แล้ว​ ก็​ไม่เคย​มีครั้งไหน​ที่​กิน​จน​เต็มอิ่ม​ แต่​แสงสีม่วง​เหล่านี้​กลับ​มีความ​เข้มข้น​เสีย​ยิ่งกว่า​พลัง​เทพ​

“ท่าน​รู้สึก​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือไม่​” เส้น​ชีพจร​เสวียน​ของ​เธอ​มีความ​พิเศษ​จึงไม่จำเป็นต้อง​กังวล​ แต่​ชาย​แก่​ไม่เหมือนกัน​ พลัง​ที่​เข้มข้น​เกินไป​ เส้น​ชีพจร​เสวียน​ไม่อาจ​ซึมซับ​ได้​

“ไม่มี!” ชาย​แก่​ส่าย​หัว​ เขา​ไม่เพียง​ไม่มีปัญหา​ แม้แต่​กำลัง​ก็​มีแนวโน้ม​ที่จะ​บรรลุ​ไป​อีก​ขั้น​

อวิ๋นเจี่ยว​จับชีพจร​ของ​เขา​อย่าง​ไม่วางใจ​ หลังจากที่​พบ​ว่า​ไม่มีความผิดปกติ​จึงโล่งอก​ เธอ​มอง​ไป​รอบด้าน​อย่าง​ระแวง​ “พวกเรา​รีบ​เข้าไป​ ตามหา​อาวุธ​คำสาป​ให้​พบ​ก่อน​”

ชาย​แก่​พยักหน้า​ ทั้งสอง​คน​เร่งความเร็ว​ใน​การ​เดินทาง​

พวก​เธอ​ไม่ได้​เดิน​เป็นเวลา​นาน​มาก​ ราว​ยี่สิบ​นาที​พวก​เธอ​ก็​มาถึงสุด​ทาง​ บริเวณ​ตรงหน้า​ปรากฏ​ประตู​ไม้เรียบง่าย​บาย​หนึ่ง​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ประตู​หิน​ที่​มีแกะสลัก​ค่าย​กล​ซับซ้อน​มากมาย​ที่​หน้า​ตำหนัก​นั้น​ ประตู​ไม้บาน​นี้​เรียบง่าย​อย่าง​มาก​ ดู​จาก​สภาพ​แล้ว​เหมือน​ใช้แผ่น​ไม้ปะติดปะต่อ​เข้ากัน​อย่าง​ไม่ใส่ใจ เอาไว้​เพื่อ​ปิด​เอาไว้​เท่านั้น​

ชาย​แก่​ผลัก​ออก​เบา​ๆ ประตู​เปิด​ออก​อย่าง​ง่ายดาย​ ด้านใน​คือ​ตำหนัก​ที่​มีลักษณะ​หรูหรา​โอ่อ่า​ ภายใน​ตำหนัก​มีขนาดใหญ่​มาก​ มีเสาสูงหลาย​สิบ​ต้น​ตั้งอยู่​ บน​เสามียันต์​อักขระ​สีทอง​อยู่​ ดู​แล้ว​มีอายุ​ยาวนาน​

ภายใน​ตำหนัก​เต็มไปด้วย​อาวุธ​วิเศษ​นานา​ชนิด​ อีก​ทั้ง​ยังมี​สิ่งของ​ที่​ไม่ทราบ​ชื่อ​อีก​มากมาย​ กอง​อยู่​ทั่ว​พื้น​ แต่ละ​ชิ้น​ล้วน​มีพลัง​ที่​น่า​ตกตะลึง​ มีพลัง​เซียน​ พลัง​ปีศาจ​ หรือ​แม้กระทั่ง​พลัง​เทพ​ สิ่งที่​มีมาก​ที่สุด​คือ​พลัง​ที่​มอง​ไม่ออ​กว่า​คือ​พลัง​อะไร​

ตรงกลาง​ของ​ตำหนัก​ใหญ่​คือ​พลัง​สีม่วง​ที่​ก่อตัว​กัน​ บน​ก้อน​พลัง​นั้น​มีร่าง​ที่นอน​ราบ​ลอย​อยู่​เหนือ​อากาศ​ แสงสีทอง​ทั่ว​ทั้ง​ท้องฟ้า​สาดส่อง​ลง​มาจาก​ยอด​ตำหนัก​กระทบ​เข้ากับ​ร่าง​ที่​กำลัง​หลับใหล​ ทำให้​อีก​ฝ่าย​ดูเหมือน​กำลัง​เปล่งประกาย​แสงสีทอง​

ชาย​แก่​และ​อวิ๋นเจี่ยว​เงยหน้า​มอง​ร่าง​ที่อยู่​เหนือ​อากาศ​นั้น​ คาด​ว่า​อีก​ฝ่าย​คงจะ​เป็น​นาย​ท่าน​ที่​กำลัง​หลับใหล​ของ​ปีศาจ​งูนั้น​

“เขา​คือ​เทพ​ปีศาจ​หรือ​” ชาย​แก่​ตบ​หัวใจ​ที่​สั่นเทา​เล็กน้อย​ “เขา​…คง​ไม่ตื่นขึ้น​มากะทันหัน​ใช่หรือไม่​!”

“คงจะ​ไม่” ไม่ง่าย​เช่นนั้น​

“เช่นนั้น​…อาวุธ​คำสาป​จะอยู่​ที่นี่​จริง​หรือ​” ไป๋​อวี้​มอง​ไป​ยัง​กอง​อาวุธ​และ​สิ่งของ​มากมาย​กลาง​ตำหนัก​ ชิ้น​ไหน​กัน​

“คงจะ​ใช่” อวิ๋นเจี่ยว​พยักหน้า​ “ลอง​หา​ดูเถิด​ ใน​เมื่อ​เป็น​อาวุธ​ที่​ลง​คำสาป​ต่อ​อาจารย์​ปู่​ เช่นนั้น​ด้านบน​คง​ต้อง​มีพลัง​ของ​อาจารย์​ปู่​หลง​เหลืออยู่​”

“ได้​!” ชาย​แก่​พยักหน้า​ ก่อน​จะชี้ไป​ด้าน​ข้าง​ “ข้า​เริ่ม​หา​จาก​ทางซ้าย​!”

“ระวัง​กับดัก​!” อวิ๋นเจี่ยว​กำชับ​ ก่อน​จะหันไป​หาทาง​ด้าน​ขวา​ ทั้งสอง​คน​แยกย้าย​กัน​ไป​คนละ​ด้าน​ เริ่มต้น​การ​ค้นหา​ด้วย​คาถา​ค้นหา​ แต่​หลังจากที่​พวกเขา​ใช้คาถา​ค้นหา​ติดต่อกัน​ไป​หลาย​รอบ​ ก็​ยัง​ค้นหา​สิ่งของ​ที่​มีพลัง​ของ​อาจารย์​ปู่​ไม่พบ​

อวิ๋นเจี่ยว​กำมือ​แน่น​ หรือว่า​เธอ​เดา​ผิด​ หรือว่า​มาผิดที่​

“เจ้าหนู​ ดู​เร็ว​!” ชาย​แก่​ชี้ไป​ยัง​พลัง​สีม่วง​เหนือ​อากาศ​นั้น​ ก่อน​จะอุทาน​ออกมา​!

อวิ๋นเจี่ยว​เงยหน้า​มอง​ไป​ตาม​ทิศทาง​ที่​เขา​ชี้ มอง​ไป​ยัง​เทพ​ปีศาจ​ที่​กำลัง​หลับใหล​อยู่​เหนือ​อากาศ​ เห็น​เพียงแต่​ภายใน​พลัง​สีม่วง​ที่​ประคองตัว​ของ​อีก​ฝ่าย​เอาไว้​ มีหยก​สีขาว​ชิ้น​หนึ่ง​ห้อย​ลงมา​ ส่วน​อีก​ด้าน​ผูก​ติด​ไว้​บน​ตัว​ของ​ เทพ​ปีศาจ​ บน​หยก​ไม่มีพลัง​พิเศษ​อัน​ใด​ เพียงแต่​ด้านบน​แกะสลัก​ตัวอักษร​ที่​โดดเด่น​อย่าง​มาก.​..เยี่ย​ยวน​!

อวิ๋นเจี่ยว​ตกตะลึง​เล็กน้อย​ ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​อาวุธ​คำสาป​ของ​อาจารย์​ปู่​จะอยู่​บน​ตัว​ของ​เทพ​ปีศาจ​ แค่​เพียง​เรื่อง​การเขียน​ชื่อ​ไว้​ด้านบน​นี้​ก็​แสดงถึง​ความ​ใจใหญ่​ของ​อีก​ฝ่าย​ นี่​เป็น​เหมือน​การใบ้​อย่าง​ชัดเจน​!

“ไม่รู้​ว่า​ด้านบน​มีค่าย​กล​ใด​หรือไม่​ ข้า​เข้า​ไปดู​” อวิ๋นเจี่ยว​กำชับ​ ไม่ว่า​มีกับดัก​หรือไม่​ เธอ​ต้อง​เอา​สิ่งนี้​มาให้ได้​ ดังนั้น​จึงส่งยันต์​ขนส่ง​ให้​ชาย​แก่​ใบ​หนึ่ง​ “ท่าน​เตรียม​ไว้​ให้​ดี​ รอ​ข้า​หยิบ​อาวุธ​คำสาป​ได้​ ท่าน​รีบ​กระตุ้น​ยันต์​ พวกเรา​กลับ​เขต​หมิ่น​เฟิน​!”

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Score 10
Status: Completed

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี!

ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?)

ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน

ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง

รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Options

not work with dark mode
Reset