ตอนที่20 ความเผ็ดร้อนที่ทำให้ติดใจ
“อุ..นี่เธอจะไปที่บ้านของฉันเหรอ?”
“ผมเป็นลูกศิษย์ของคุณแล้วนะ เพราะงั้นการที่จะไปอาศัยอยู่ในบ้านของชิโชวมันก็เป็นเรื่องปรกรติอยู่แล้ว”
นาโอมิถามออกมาอย่างประหลาดใจ แต่รูดี้กลับตอบราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
“แต่ว่าที่บ้านของฉันมันไม่มีห้องว่างเลยนะ”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้อาหารพร้อมแล้ว มากินด้วยกันซะ เดส”
ว่าแล้วรูดี้ก็ขนอาหารที่ทำไว้ออกมา
“ไม่สิ มันเป็นเรื่องสำคัญนะ มาคุยกันให้จบก่อน”
“ชิโชว ดื่มเหล้าด้วยหรือเปล่า เดส?”
“หา..ถ้าเธอมีเหล้าละก็ฉันก็ขอด้วยละกัน ไม่สิ เดี๋ยวนะ เธอพยายามจะหลอกล่อฉันอีกแล้ว”
รูดี้พยายามหันหน้าหนีเมื่อถูกจ้องโดยนาโอมิ
“รู้ได้ไงเนี่ย…”
“ว่าแล้วเขียว….”
“แต่เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน แล้วมันจะไม่อร่อยเอา เพราะงั้นรีบมากินก่อนเถอะ อันนี้แหละที่ผมยอมไม่ได้ เดส”
“รู้แล้วน่า รู้แล้วน่า แต่ว่าเด๊ยวเราต้องมาคุยกันต่อหลังจากนี้นะ”
“รับทราบ เดส”
รูดี้พยักหน้าแล้วเริ่มจัดอาหารลงบนโต๊ะ
“ต้มยำกุ้งกับผัดกระเพราราดข้าว เดส”
“นี่คือ เอสินิคุ เหรอ?”
“จะพูดให้ถูกก็คือมันเป็นอาหารที่เกิดขึ้น……แพร่กระจาย?… มันเป็นอาหารที่มาจากประเทศที่ชื่อว่า ไทย เดส”
เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ นาโอมีก็อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้
ต้มยำกุ้งประกอบไปด้วยกุ้งตัวโตในน้ำซุบสีน้ำตาลแดง ส่งกลิ่นเครื่องเทศชวนน้ำลายสอออกมา ดูเหมือนว่ากลิ่นที่ลอยออกมาจากในครัวเมื่อครู่จะมาจากเจ้าซุปนี้
ผัดกระเพราะราดข้าว ดูเหมือนจะเป็นอาหารที่ทำจากการผัดหมูสับกับพริกเขียวและหัวหอม และขางๆกันก็มีข้าวสวยที่โปะหน้าด้วยไข่ดาว และแตงกวาที่หันเป็นแว่นๆ ประดับไว้ในจาน
“แย่ละสิ แบบนี้ มันแย่แน่ๆ มันจะดูน่าอร่อยเกินไปแล้ว”
“ชิโชว ความสามารถในการพูดของคุณเสื่อมสภาพแล้ว เดส”
“เพราะเธอทำของที่มันดูน่าอร่อยขนาดนั้นออกมายังไงล่ะ”
“ผมผิดซะงั้น เดส”
เลิกสนใจรูดี้ที่ดูเหมือนจะช็อคเล็กน้อย นาโอมิหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปต้มยำกุ้งแล้วชิมรสชาติของมันดู
ทันไดนั้นรสชาติที่จัดจ้านของน้ำซุปพร้อมทั้งความหวานของเนื้อกุ้งและกะทิก็พุ่งเข้าจู่โจมลิ้นของเธอพร้อมๆกัน
“อื้ม~~ เผ็ดจัง! แต่อร่อยมาก!!”
นาโอมิ ยืดหลังและเริ่มตัวสั่นเล็กน้อยระหว่างที่พูดแบบนั้น
หลังจากนั้นเธอก็ผสมผัดกระเพราเข้ากับข้าวสวยและไข่ดาวแล้วกินเข้าไปพร้อมๆกัน
*(TLnote: กินเป็นนี่หว่า)
การผสมผสานกันระหว่างใบกระเพรา พริก กระเทียม เครื่องปรุงรสและซอสหอยนางรม แม้มันจะเผ็ด แต่ไข่ดาวที่เป็นยางมะตูมก็ช่วยให้มันลดความเผ็ดร้อนนั้นลงและทำให้มันรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น ซึ่งผลที่ได้ทำให้มันออกมาอร่อยมากเช่นกัน
“ไอ้นี่มันเสพติดได้ง่ายๆเลยนะ สุดยอดไปเลย”
“ชิโชว ดื่มเบียร์นี่ด้วย เดส ”
เมื่อเห็นนาโอมิพึงพอใจกับความอร่อยของอาหารรสจัดจ้านเหล่านั้น รูดี้ ก็ยื่นแก้วเบียร์ให้เธอ
“อื้อ..ขอบใจนะ”
เมื่อรับแก้วเบียร์มาเธอก็ยกขึ้นมาส่องดูของเหลวสีทองที่อยู่ในนั้น
“สีของมันต่างจากเบียร์ที่ฉันรู้จักนะ”
“ผมไม่รู้หรอกว่าเบียร์ของดาวดวงนี้เป็นยังไง เดส”
“งั้นก็ขอลองดูหน่อยละกัน”
นาโอมิยกเบียร์ขึ้นมาจิบ
ทันไดนั้นรสชาติของข้าวบาร์เลย์และความขมของฮ็อปก็กดลงไปที่ลำคอของเธอ ทำให้เธอมึนเมาไปกับรสชาติของมันที่รุนแรงกว่าเบียร์ที่เธอเคยดื่มหลายเท่า
“เป็นเบียร์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยดื่มมาเลย นี่มันเป็นเบียร์จริงๆใช่ไหม?”
“ก็แค่เบียร์ ลาเกอร์ ธรรมดา เดส”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าลาเกอร์คืออะไร”
การที่ นาโอมิ จะไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเบียร์ลาเกอร์ต้องใช้กรรมวิธีการหมักบ่มในอุณหภูมิต่ำนั้นยังไม่ได้มีการผลิตขึ้นมาบนดาวดวงนี้ เบียร์ที่เธอพูดถึง จะเป็นของประเภทที่เรียกกันว่า เอลส์ ซะมากกว่า
นอกจากนั้น ฮ็อป ที่ต้องใช้ในการผลิตเบียร์นั้นถูกนำมาใช้แค่ในบางพื้นที่เท่านั้น เพราะแบบนั้นเบียร์บางชนิดถึงกับใส่พืชมีพิษบางอย่างลงไปเพื่อเป็นการถนอมมัน
(เดี๋ยวค่อยๆมอมเหล้าเธอไปแบบนี้แล้วขออนุญาตเข้าไปยู่ที่บ้านของเธอเลยละกัน)
รูดีคิดไปพลางๆระหว่างที่รินเบียร์ลงในแก้วเปล่าของนาโอมิเรื่อยๆ
2ชั่วโมงต่อมา
“ชิโชว…คอแข็งเอาเรื่องเลยนะ เดส”
“งั้นเหรอ? ฉันกลับคิดว่ารูดีต่างหากที่คออ่อนเองน่ะ”
“ตะแหง่ว~~!”
หลังจากที่รินเบียร์ให้นาโอมิจนหมด รูดี้ก็ยังขนทั้งไวน์และวิสกี้ออกมาให้เธอด้วยแต่ทว่าเข้ากลับเม จนลูกตาหมุนติ้วไปเองซะก่อน แล้วล้มฟุบไปบนโต๊ะ แผนการร้ายจึงล้มเหวไปแบบไม่เป็นท่า
นาโอมิที่เป็นนักดื่มคอทองแดงนั้น มองดูสภาพของเขาแล้วคิดว่าคงจะพูดเรื่องการย้ายไปอยู่ที่บ้านของเธอไม่ได้แล้ว เธอจึงรินไวน์ใส่แก้วตัวเองแล้วดื่มต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย
วันรุ่งขึ้น
นาโอมิตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มๆแล้วลุกขึ้นมานั่ง
เมื่อคืนที่ผ่านมานี้ หลังจากที่รูดี้เมาหลับไป โดรนในห้องก็นำทางเธอมาที่ห้องนอนนี้
“อื้น~~ ไม่ได้ดื่มหนักขนาดนี้มานานแล้วนะเนี่ย”
การอาศัยอยู่ในป่านั้นเป็นเรื่องยากมาที่จะมีโอกาสได้แอลกอฮอล์มาครอบครอง ฉันแค่ได้จิบมันเล็กน้อยในตอนที่พักผ่อนช่วงหัวค่ำเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น มันนานมากแล้วที่ไม่ได้ดื่มจนจุใจแบบนี้
เธอเดินมานั่งหน้าโต๊ะแต่งตัวแล้วมองเข้าไปในกระจก
ตอนที่ได้เห็นใบหน้าตัวเองอีกครั้งรอยไหม้อันแสนเกลียดชังก็หายไปหมดแล้ว แม้แต่ตอนนี้เองก็ไม่อยากจะเชื่อเลย
(แต่ถึงแม้ว่ารอยไหม้จะหายไป การแก้แค้นของฉันก็ยังไม่จบลงหรอกนะ)
ระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ประเทศของเธอถูกทำลาย ทั้งพ่อแม่และคู่มั่นของเธอถูกสังหาร เธอก็จ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของตัวเองในกระจก
ระหว่างเธอกำลังหวีผมของตัวเอง โดรนก็ลอยเข้ามาในห้องพร้อมกับชุดของเธอที่ซ่อมเสร็จแล้ว
“ซ่อมเสร็จแล้วเหรอเนี่ย เธอนี่เก่งจังนะ”
เจ้าโดรนยื่นชุดให้กับเธอระหว่างที่มันลอยอยู่กับที่
“….หรือว่าเธออยากจะให้ฉันตรวจผลงานให้เหรอ?”
เจ้าโดรนตอบคำถามของเธอด้วยการหมุนทั้งตัวขึ้นลงราวกับว่ามันพยักหน้า
“เข้าใจละ รอเดี๋ยวนะ”
เธอหยิบมันขึ้นมากางออกดู ในจุดที่มันเคยมีรอยขาดก่อนหน้านี้กลับเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้ร่องรอย และผลลัพที่ออกมาก็ดูเหมือนชุดใหม่จนไร้ที่ติ
“เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากเลยละ ขอบคุณนะ”
เมื่อนาโอมิแสดงความขอบคุณ เจ้าโดรนก็พยักหน้าให้อีกครั้งก่อนจะลอยออกไปจากห้อง
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วนาโอมิก็ไปที่ห้องนั่งเล่น แล้วก็พบว่ารูดี้กำลังนอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟา หน้าซีดเผือด และเอาผ้าขนหนูชุบน้ำโปะหน้าผากตัวเองเอาไว้
“ไง…อรุณสวัสดิ์ ขอบใจที่เลี้ยงเมื่อวานนะ ”
“…อรุณสวัสดิ์…เดส…”
รูดี้ตอบด้วยเสียงแหบแห้ง พลางเหลือมมองมาที่นาโอมิ ฌะอจึงยักไหล่แล้วนั่งลงบนโซฟาฝั่งครงข้าม
“เมาค้างสินะ”
“จะตายแหล่ว…เดส”
“งั้นเหรอ ลำบากหน่อยนะ ถ้างั้นเรามาคุยกันต่อเลยเถอะ”
“….ตอนนี้เลยเหรอ เดส?”
รูดี้ที่ดูเหมือนจะหมดแรงหยิบผ้าออกจากหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นนั่ง
“ก็เพราะเมื่อวานนี้ ไม่ได้คุยกันต่อยังไงล่ะ”
“ชิโชว…โหดร้ายเกินไปแล้ว อุ๊ฟ!”
รูดี้ ผู้พยายามอย่างหนักที่จะไม่อวกออกมา ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้
“เพราะว่าฉันมีนะโยบาย ในการฝึกลูกศิษย์ที่เข้มงวดยังไงละ ..ก็นะ ถึงจะเพิ่งคิดขึ้นมาเมื่อกี้ก็เหอะ”
“….ฮ่า—….”
รูดี้ถอนหายใจยาวๆก่อนที่จะเริ่มพูดถึงการย้ายบ้าน
*(TLnote: (= ω = ✧︎) b หิวอะดิ)