[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?บทที่1.4 – ทำไมถึงเป็นสีแดงกุหลาบล่ะ?

บทที่1.4 - ทำไมถึงเป็นสีแดงกุหลาบล่ะ?

บทที่1.4 – ทำไมถึงเป็นสีแดงกุหลาบล่ะ?

 

พูดถึงแล้ว พื้นฐานครอบครัวของเธอก็ดีมากเช่นกัน เธอเป็นทายาทของตระกูลอาโดะที่มีชื่อเสียงมากในพื้นที่นี้

 

[…คูยะ? เป็นอะไรหรือเปล่า? นายจ้องฉันอยู่นะ ]

[ มะ-ไม่มีอะไรหรอก ]

 

ถึงจะพูดไปเมื่อกี้ว่ารู้สึกไม่คู่ควร แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น

 

[ หืม นายเหนื่อยเหรอ? หรือว่านั่งวาดภาพตลอดโดยไม่พักเลย? ]

[ อา ฉันตั้งใจมากจนสะดุ้งเพราะฝนนี่แหละ ]

[ อืม…]

 

ซุยกะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า

 

[ ตั้งใจทุ่มเทมันก็ดี แต่ก็ต้องพักบ้างนะ มันไม่มีประโยชน์ถ้านายทำตัวเองให้  เหนื่อยเกินไป ฉันรู้นานแล้วว่านายเป็นคนที่หยุดไม่ได้เวลาจดจ่อกับอะไรซักอย่าง…]

[ งั้นเหรอ… ใช่ บางทีเธออาจพูดถูก ]

[ ก็ใช่น่ะสิ! คูยะ นายเป็นคนทำงานหนักมาก ฉันเป็นห่วงนายจริง ๆ ที่สำคัญสุดคือต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะงั้นได้โปรด… อ๊ะ! ข้างหน้ามีน้ำขังนะ! ระวังด้วยล่ะ ]

[ โห ขอบคุณนะ ]

[ ไม่เป็นไร แล้วก็เอาร่มไปถือให้ตรงกับตัวนายมากกว่านี้สิ ถ้าไหล่ของนายเปียกมันจะไม่ดีต่อสุขภาพนะ! แต่ถ้าเปียกแล้วฉันมีผ้าเช็ดหน้าให้ ]

[ ไม่เป็นไร ฉันไหล่ยังไม่เปียก ]

 

ผมอดหัวเราะไม่ได้ ซุยกะเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เรายังเด็ก

 

เธอมักจะห่วงใยผมเสมอ เพราะผมเป็นคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงนักและมักจะละเลยการดูแลตัวเองเมื่อจดจ่อกับการวาดภาพ เธอจึงคอยดูแลเสมอ

แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่ควรให้เธอเป็นห่วงหรือทำให้เธอลำบากมากเกินไป… ขณะที่ผมคิดแบบนั้น

 

[ ขอโทษนะ! หลบหน่อย!! ]

 

──อะไร!?

 

เสียงตะโกนดังมาจากพื้นดิน ผมหันไปตามเสียงนั้นแล้วร่างกายของผมก็แข็งทื่อ

ลูกเบสบอลกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ทีมเบสบอลที่ยังคงฝึกซ้อมแม้ว่าฝนจะตกอยู๋ คงจะตีลูกเบสบอลผิดทาง มันพุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว ไม่ถึงวินาทีมันจะชนเข้าที่หัวของผม ทั้งหมดที่ผมทำได้คือคาดการณ์ว่ามันหลบไม่ได้

ในใจก็คิดว่า “ดีแล้วที่เดินฝั่งนี้”

ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ซุยกะจะไม่โดนลูกเบสบอล──

 

[ …ฮึบ ! ]

 

เสียงตึงดังสะท้อนไปทั่ว

 

[ เอ๊ะ? ]

 

เสียงที่หลุดออกมาจากปากของผมไม่ใช่เสียงกรีดร้อง เพราะลูกบอลไม่ได้ชนหน้าผม…

 

[ นี่ ! ถึงจะตั้งใจทำกิจกรรมชมรมอยู่ แต่มาทำให้คนอื่นตกอยู่ในอันตรายแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ! ]

 

ซุยกะที่ไม่รู้ว่าขยับมาเมื่อไหร่จับลูกเบสบอลไว้ด้วยมือเปล่า ไม่ได้ปล่อยหรือปัด แต่จับไว้ได้ด้วยมือเดียว

 

“อ๊ะ” เธอส่งเสียงออกมาแล้วหันกลับมาทางผมอย่างรวดเร็ว

 

[ คูยะ โคลนกระเด็นใส่รึเปล่า!? ]

[ …ไม่นะ! เธอมาห่วงฉันทำไมเนี่ย! เธอจับลูกเบสบอลที่พุ่งมาแรงขนาดนั้นด้วยมือเปล่าเลยนะ…! มือนี่ไม่เจ็บใช่มั้ย!? ]

 

ถึงจะพูดไปแบบนั้น ผมก็รู้ว่ามันเป็นความห่วงใยจากเพื่อนสนิทที่คอยดูแลผมมาตลอด และหลังจากนั้น

 

[ เจ็บเหรอ? ดูถูกกันมากเลยนะคูยะ! ]

 

ซุยกะยกคิ้วที่สวยงามของเธอขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

[ ──ไม่ใช่สิ! แค่ลูกบอลอ่อน ๆ น่ะ จะมาสู้มือขวาที่ฝึกฝนมาอย่างดีของผู้หญิงตระกูลอาโดะได้ยังไง! ]

 

…ใช่แล้ว

 

เพื่อนสมัยเด็กของผมที่คอยดูแลด้วยความอ่อนโยน เธอมีความสามารถทางกายที่เหนือกว่าคนทั่วไป นั่นแหละคือ อาโดะ ซุยกะ

 

[ …ลูกบอลอ่อน ๆ งั้นเหรอ… นั่นมันลูกเบสบอลแข็งๆไม่ใช่หรอ? ]

 

[ ขนมปังเมล่อนก็ไม่มีเมล่อนอยู่ในนั้น ขนมปังปูก็ไม่มีปูอยู่ในนั้น ชื่อกับความจริงมันไม่เหมือนกันหรอก ]

[ ก็จริงนะ มากิแตงกวาก็ไม่ได้มีแตงกวาห่ออยู่ แต่ตรรกะนี้มันก็แปลก ๆ อยู่นะ… ]

[ อ๊ะ แต่คูยะ ห้ามจับลูกเบสบอลด้วยมือเปล่าเชียวนะ! อันตรายมากๆเลย! แล้วเสื้อนายไม่เปื้อนใช่มั้ย? ]

[ ไม่ได้เปื้อน เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับฉันแต่เป็นซุยกะสิ… ฉันรู้ว่าซุยกะแข็งแกร่งหรือจะบอกว่าสุดยอดก็ได้นะ แต่…เดี๋ยวสิเสื้อเธอเปียกฝนนิดหน่อยนะ… ]

[ ไม่ต้องห่วงเรื่องเสื้อของฉันก็ได้… โอ๊ะ ต้องคืนลูกบอลนี่นา ! ]

 

ซุยกะหันกลับไปทางสนามเบสบอลอย่างรวดเร็ว หนึ่งในสมาชิกทีมเบสบอลที่ดูรู้สึกผิดกำลังวิ่งเข้ามาหาเรา

 

[ เอ่อ ขอโทษครับ! ไม่บาดเจ็บกันใช่มั้ย!? ]

[ อืม ! เราสบายดี! ส่งคืนไปละนะ! ]

[ เอ๊ะ? อ-โอเค… โอ้โห จริงดิ!? ]

 

เสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจดังขึ้นจากสมาชิกทีมเบสบอลที่วิ่งมารับลูกบอล เป็นเรื่องเข้าใจได้ ถึงจะอยู่ห่างกัน แต่การโยนลูกของสซุยกะนั้นมาถึงปลายทางโดยไม่สะท้อนพื้นเลย เป็นเส้นตรงไม่ใช่โค้งขึ้น

 

ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือลูกบอลนั้นยังไม่เบี่ยงเบนจากเส้นทางเลยแม้แต่น้อย และถูกดูดเข้าถุงมือของสมาชิกทีมเบสบอลที่ถูกสุอิกะเรียกให้มารับด้วยความแม่นยำสูง ไม่ใช่แค่พละกำลัง แต่ยังมีการควบคุมที่แม่นยำ

 

[ …สุดยอด ]

 

[ นี่แหละคือธรรมเนียมของหญิงตระกูลอาโดะ ในยามจำเป็นต้องสามารถบดขยี้หัวของนักเลงด้วยหินที่กลิ้งอยู่ใกล้ๆได้…! ]

[ เก่งมากเลย แต่โลกทัศน์ของเธอนี่มันแปลกๆนะ ]

 

แน่นอน ซุยกะไม่ได้พูดเล่น ครอบครัวของเธอ ตระกูลอาโดะ เริ่มต้นสร้างฐานะในธุรกิจช่วงยุคเมจิ แต่เดิมพวกเขาเป็นตระกูลซามูไรชื่อดัง

จิตวิญญาณและธรรมเนียมเหล่านี้ยังคงถูกถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน และในฐานะทายาท ซุยกะได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบ ไม่แน่ใจว่าส่วนที่ต้องขว้างหินนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะการต่อสู้ด้วยหรือเปล่า

 

[ เอาล่ะ จบเรื่องนั้นแล้ว กลับมาคุยเรื่องของเรากันต่อเถอะ ]

[ เราคุยอะไรกันอยู่นะ? ฉากเมื่อกี้ทำให้ฉันลืมหมดเลย… ]

[ คุยประมาณว่าต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้น่ะ! ]

[ เธอพูดแบบนั้นหลังจากจับลูกเบสบอลแข็งๆด้วยมือเปล่าเนี่ยนะ… ]

 

พอพูดออกมาแบบนั้น ผมก็รู้ว่าผมยังไม่ได้พูดบางสิ่งที่สำคัญออกไป

 

[ ขอโทษนะ ก่อนอื่นเลย ซุยกะ ขอบคุณนะ เธอช่วยฉันไว้จริง ๆ ]

[ นี่แหละคือเหตุผลที่ผู้หญิงตระกูลอาโดะต้องฝึกฝนล่ะ! ]

 

ซุยกะยิ้มอย่างร่าเริง เช็ดมือที่ดูเหมือนจะเลอะเล็กน้อยด้วยผ้าเช็ดหน้าที่เธอดึงออกมา

 

ท่าทางนั้นดูสง่างาม ทำให้ฉากที่เธอจับลูกเบสบอลแข็งๆด้วยมือเปล่าดูเหมือนจะเป็นเรื่องโกหกไปเลย

 

[ ดูสิ คูยะ นายควรดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้นะ… นายทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะเวลาที่มีคนมาขอให้นายช่วย ]

[ ก็ฉันทำเพราะฉันชอบวาดภาพนี่นา… ]

[ แต่ภาพที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้ จริงๆแล้วนายทำให้ตัวเองเหรอ? ]

 

คำถามนั้นทำให้ผมตอบกลับอย่างทันทีไม่ค่อยได้

 

[ ภาพนี้ก็เป็นหนึ่งในภาพที่ฉันอยากจะวาด… แต่ว่า ]

 

[ ไม่ใช่สิ่งที่นายเลือกทำด้วยตัวเองใช่มั้ย? เพราะนายถูกขอให้ทำอีกแล้วเหรอ? แล้วคราวนี้เพื่อใครที่ไหนล่ะ ? คราวที่แล้วก็เป็นโรงพยาบาลนิ? ]

 

ซุยกะเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับผม พอทำใจได้แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

[ ที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นสำหรับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า…  เธอน่าจะรู้อยู่ ที่ๆตั้งอยู่นอกถนนใหญ่นั่น ]

 

[ งั้นเหรอ… คูยะ นั่นวิเศษมากเลยนะ ]

 

[ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ]

 

 

 

[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?

[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?

Score 10
Status: Completed
จะให้พูดว่า— “ฉันชอบเธอ” ได้ไงเล่าาา !!! [ มือถือที่สั่นตามจังหวะหัวใจของผู้ชายที่ชอบเนี่ย มันฟินสุดๆ ไปเลยยยย ] คุเรไน คุโจ โปรแกรมเมอร์ฝีมือฉกาจที่คว้าคะแนนอันดับหนึ่งจากการสอบทั่วประเทศถึงจะเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย แต่เธอก็หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากความสามารถของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับเกลียดมนุษย์และไม่ยอมคุยกับใครเลย ยกเว้นแต่ คูยะ มิยาชิโระ หนุ่มโต๊ะข้างๆที่เธอแอบปลื้ม เธอไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยเธอรู้สึกสับสนจนกลายเป็นว่าเธอใช้ทักษะการเขียนโปรแกรมของเธอเพื่อสืบเรื่องของคูยะจนกลายเป็นงานอดิเรกไปซะแล้ว จากข้อมูลที่รวบรวมมา เธอมักจะหาเรื่องคุยกับคูยะทุกๆสิบวัน มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยความอึดอัดใจและเจ็บปวด แต่จริงๆแล้วคูยะมีความสามารถพิเศษที่สามารถเห็นอารมณ์ของคนเป็นสีต่างๆ เขาเลยรู้ถึงความรู้สึกที่ คุเรไนพยายามปิดซ่อนเอาไว้――! นี่คือเรื่องราวรักวุ่นๆ ระหว่างสาวเก่งที่ไม่กล้าเผยความในใจ กับหนุ่มผู้มีพลังพิเศษที่ไม่เชื่อในความรัก!

Options

not work with dark mode
Reset