ตอนที่ 194 – เงาประสานกัน
“เชิญเข้าครับ” ชิ่งเฉินกล่าวอย่างสงบนิ่ง
กลับเห็นเจียงเสี่ยวถังก้าวช้า ๆ เข้ามา นั่งลงบนโซฟาไม่ไกลจากชิ่งเฉินอย่างสบาย ๆ “ฉันคิดไม่ถึงว่าพวกคุณสองคนเมื่อวานสู้กันเอาเป็นเอาตาย วันนี้มาเป็นเพื่อนกันแล้ว”
“ยังไม่นับว่าเป็นเพื่อนครับ” ชิ่งเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
คำพูดนี้พูดจนหวงจื่อเสียนอึ้งไป แต่เขารู้สึกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วอีกว่า วิธีพูดที่ไม่เสแสร้งสักนิดเดียวแบบนี้ของอีกฝ่ายทำให้คนปลอดโปร่งอยู่บ้าง
เจียงเสี่ยวถังยิ้ม ๆ “คุณช่างตรงไปตรงมา งั้นฉันก็จะตรง ๆ สักหน่อยดีกว่า คุณเซ็นสัญญาผู้จัดการกับฉันเถอะ ให้ฉันเป็นผู้จัดการของคุณ”
ชิ่งเฉินตกตะลึงอยู่บ้าง
เจียงเสี่ยวถังเห็นแววตาตกตะลึงของเขา “แม้แต่ว่าฉันทำอะไรคุณยังไม่รู้เลยใช่ไหมคะ?”
หวงจื่อเสียนอธิบายอยู่ข้าง ๆ ว่า “บอสเจียงถึงจะเป็นบอสของค่ายมวยไห่ถัง แต่ก็เป็นผู้จัดการที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขตที่สี่ด้วย เธอดูแลแค่นักมวยที่ร้ายกาจที่สุดในรุ่นแลนด์ครุยเซอร์เท่านั้น”
ความหมายในคำพูดคือ นักมวยรุ่นต่ำกว่าแลนด์ครุยเซอร์ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติเซ็นสัญญาผู้จัดการกับเธอ
ชิ่งเฉินถามว่า “ผมได้ประโยชน์อะไรครับ?”
“ฉันสามารถช่วยคุณจัดคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุดได้” เจียงเสี่ยวถังยกขาไขว่ห้างแล้วกล่าว “อีกอย่างฉันสัญญาว่าจะช่วยคุณวางแผนเส้นทางสร้างชื่อที่เร็วที่สุด เหมือนเมื่อวานที่ฉันช่วยจัดแจงหวงจื่อเสียนให้คุณ ทำให้คุณเดินบนเส้นทางสร้างชื่ออย่างเน้น ๆ กลายเป็นต้นไม้เงินที่ดีที่สุดให้ค่ายมวยไห่ถังของฉัน”
ผู้หญิงคนนี้ถึงจะไขว้ห้างก็ยังสง่างามอ่อนช้อยเป็นพิเศษ
“ทำไมเป็นผม?” ชิ่งเฉินถาม
“หน้าตาดูดี หุ่นสมบูรณ์แบบ วิธีสู้ใจเด็ด” เจียงเสี่ยวถังนับนิ้ว “นักมวยประเภทอย่างคุณนี่ดึงดูดผู้ชมเพศหญิงได้ง่ายที่สุดเลย โดยเฉพาะพวกป้า ๆ ที่ใช้เงินเป็นน้ำพวกนั้น พวกเธอจะขายบ้านขายช่องเพื่อคุณ”
ชิ่งเฉินมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนั้นอย่างสงบนิ่ง ที่แท้อีกฝ่ายมีความคิดแบบนี้
ปีที่แล้วมีนักมวยหนุ่มที่หน้าตาน่าชมคนหนึ่งได้รับการไล่ตามของผู้หญิง น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของเขาไม่ไหว และบวกกับที่นักมวยคนอื่นทนไม่ได้ที่เห็นเขาก่อนจะขึ้นเวทียังต้องแต่งหน้า เลยทุบตีเขาจนตายคาเวทีมวยไปแล้ว
เรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วยังขึ้นข่าวของสำนักข่าวซีวั่งเลย ว่ากันว่าถนนเส้นหนึ่งของเขตที่สี่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ผู้หญิงรำลึกถึงเขา
อีกสองเดือนจะครบรอบหนึ่งปีที่นักมวยคนนี้ตายแล้ว ว่ากันว่ามีผู้หญิงเริ่มจัดเตรียมพิธีรำลึกของเขาแล้ว
ชิ่งเฉินส่ายหน้าให้เจียงเสี่ยวถังกล่าวว่า “ผมไม่รู้สึกสนใจกับพวกสิ่งที่คุณพูดเลยครับ”
เวทีมวยเป็นเพียงสถานที่ให้เขาศึกษาเทคนิค, เสริมจุดบกพร่อง เขาไม่ได้วางแผนจะสร้างชื่อที่นี่ แล้วก็ไม่ได้วางแผนจะเลี้ยงชีพด้วยสิ่งนี้
บางที ถึงตอนที่ชิ่งเฉินสามารถเอาชนะนักมวยรุ่นแลนด์ครุยเซอร์โดยไม่ใช้อุบาย เขาก็จะจากไปอย่างเด็ดเดี่ยว
เพราะว่าเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่า
เจียงเสี่ยวถังคล้ายจะไม่เหนือคาดกับคำตอบของชิ่งเฉินเลย เธอพูดอีกครั้งว่า “ถ้าคุณเซ็นสัญญาผู้จัดการกับฉันจะไม่มีใครกล้าฆ่าคุณบนเวทีมวย”
“ไม่มีวิกฤตเป็นตาย เวทีมวยกลับจะไม่มีความหมายแล้วครับ” ชิ่งเฉินส่ายหน้าอีกครั้ง “ขอบคุณความปรารถนาดีของบอสเจียงนะครับ แต่ความทะเยอทะยานของผมไม่อยู่ที่นี่”
หวงจื่อเสียนที่อยู่ด้านข้างแอบกังวลใจแทนเขาอยู่บ้าง เพราะเขาทราบชัดว่าในรุ่นไทเกอร์เวทมีนักเลงตัวตึงของค่ายมวยไห่ถังอยู่ คนประเภทนั้นจะเก็บกวาดนักมวยที่ไม่เชื่อฟังบนเวทีมวยให้เจียงเสี่ยวถังโดยเฉพาะ
เจียงเสี่ยวถังมองไปทางหวงจื่อเสียนกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง “ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร แต่ฉันจะไม่ทำอย่างนี้ น้องชายที่ดูดีขนาดนี้ ฉันจะหักใจให้เขาตายได้ยังไงล่ะคะ ถึงจะไม่เซ็นสัญญาผู้จัดการกับฉันก็สามารถทำงานไม่น้อยให้ค่ายมวยไห่ถังฉันเหมือนกันนะ โอเค งั้นไม่รบกวนทั้งสองคนดูการแข่งขันแล้วค่ะ”
ว่าแล้ว เจียงเสี่ยวถังลุกขึ้นเดินออกไปนอกประตู จู่ ๆ เธอหันหน้ากลับมาอีกแล้วกล่าวกับชิ่งเฉินว่า “จริงสิ ห้องส่วนตัวนี้ยกให้คุณใช้นะ อยากจะดูการแข่งขันเมื่อไหร่ก็มาได้เสมอ แล้วก็ ถึงคุณจะไม่ได้เซ็นสัญญาผู้จัดการกับฉัน แต่อัตราส่วนแบ่งของราชามวยรุ่นไทเกอร์เวทฉันยังจ่ายให้คุณเหมือนเดิม”
ชิ่งเฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า “ขอบคุณครับ”
ห้องส่วนตัวหมายเลข VIP001 อยู่ใกล้กรงแปดเหลี่ยมที่สุด การดูก็ชัดเจนที่สุด
และส่วนแบ่งของระดับราชามวยก็น่าดึงดูดพอจริง ๆ
ตอนนี้หวงจื่อเสียนสับสนไปหมดแล้ว เขาแทบจะเชื่อว่าบอสเจียงคนนี้กลายเป็นแฟนคลับของชิ่งเฉินไปแล้ว!
บอสค่ายมวยกลายเป็นแฟนคลับของนักมวยสักคนไม่ได้แปลกประหลาดเลย แต่เรื่องนี้ถ้าหากเกิดขึ้นกับบอสเจียงผู้เป็นดั่งอสรพิษ ไม่ว่าอย่างไรก็ทำให้คนรู้สึกไม่เป็นความจริงอยู่บ้าง
“รีบ ๆ รักษาแผลให้หายเถอะค่ะ” เจียงเสี่ยวถังหัวเราะเบา ๆ “วันนี้คุณดูไม่ดีเท่าไหร่เลย”
ชิ่งเฉินแตะแก้มที่บวมเป็นซาลาเปาของตนเองจากจิตใต้สำนึก……
“แล้วก็ คุณไม่เรียกฉันว่าบอสเจียงก็ได้ ถ้าเรียกฉันว่าพี่สาว ฉันจะเพิ่มอัตราส่วนแบ่งของคุณไปถึงรุ่นแลนด์ครุยเซอร์เลยเป็นไงคะ?” เจียงเสี่ยวถังหัวเราะเบา ๆ
ชิ่งเฉินอึ้งไป
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะมีปฏิกิริยา เจียงเสี่ยวถังก็ออกจากประตูไปแล้ว “ล้อเล่นค่ะ”
เขาแทบจะพุ่งออกจากประตูไปเรียกพี่สาวเลย……
ตอนกลางคืน ชิ่งเฉินนั่งอยู่ในรถตู้กลับบ้าน หลี่ซูถงยังคงไม่เห็นแม้แต่เงา
เขาทบทวนผลรับของวันนี้เงียบ ๆ รู้สึกว่าวันนี้วันเดียวก็ทำให้เขาเพิ่มพูนประสบการณ์ไปไม่น้อย ถ้าเผชิญหน้ากับหวงจื่อเสียน เกรงว่าเขาจะสามารถมีวิธีการมากกว่านี้มาต้านทานการเข้าจู่โจมของอีกฝ่าย จะไม่อเนจอนาถอย่างเมื่อวานเป็นอันขาด
ชิ่งเฉินต้องให้ทุก ๆ ก้าวที่ตนเองเดินมั่นคงอย่างที่สุด
“หนึ่ง คุณอยู่ไหม?” ชิ่งเฉินถาม
“ฉันอยู่” หนึ่งตอบ “เจียงเสี่ยวถัง 31 ปี ไม่แต่งงานไม่มีลูก…..”
“เดี๋ยว” ชิ่งเฉินรีบตะโกน “นี่มันอะไรกันครับ เอไอซุบซิบนินทาถึงระดับนี้ได้ไงครับเนี่ย?! ผมไม่ได้อยากถามเรื่องนี้เลย แล้วก็ไม่ได้สนใจเลยว่าเจียงเสี่ยวถังเขามีสถานการณ์ยังไง! ผมรู้ว่าเจียงเสี่ยวถังวันนี้ประหลาดมาก แล้วผมก็รู้ชัดว่าเธอจะต้องให้การดูแลผมเป็นพิเศษเพราะว่ารู้จักท่านอาจารย์”
ตอนที่ชิ่งเฉินตระหนักว่าไม่ถูกต้องในวันนี้ก็เริ่มสำรวจความทรงจำ จากนั้นเขาก็ค้นพบว่าเมื่อวานตอนท่านอาจารย์ขึ้นรถมันช้าไปก้าวหนึ่ง หลังจากตนเองขึ้นรถ หลี่ซูถงจะต้องพูดอะไรกับเจียงเสี่ยวถัง นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญที่เจียงเสี่ยวถังให้การดูแลเขาเป็นพิเศษ
ไม่อาจไม่พูดว่า การที่สามารถสำรวจความทรงจำได้เป็นเรื่องดี มันสามารถช่วยให้คุณย้อนนึกถึงรายละเอียดที่หลงลืมไปได้เสมอ
ชิ่งเฉินเอนตัวบนโซฟามองเพดาน เปล่งข้อสงสัยที่ออกมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณว่า “หนึ่ง ทำไมคุณช่างกอสซิปขนาดนี้ล่ะ”
“คุณไม่รู้สึกว่าการสังเกตปฏิกิริยาของทุกคนเงียบ ๆ ตอนที่มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเหรอ?” หนึ่งถามกลับ “โดยเฉพาะบนอินเทอร์เน็ต คนที่ขี้ขลาดในตอนปกติกลับกลายเป็นกล้าหาญอย่างกะทันหัน คนอย่างคุณที่กล้าเสี่ยงชีวิตบนเวทีมวยกลับกลายเป็นระมัดระวังสุดขีด การสังเกตทุกสิ่งนี้มันน่าสนใจมากเลย”
“ดังนั้น คุณกำลังสังเกตมนุษย์?” ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอยากรู้
ความรู้สึกประเภทนี้แปลกพิกลมาก เหมือนกับมีสิ่งมีชีวิตอันยิ่งใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในโลกใบนี้เงียบ ๆ มันกับมนุษย์อยู่ร่วมกัน แต่มนุษย์กลับไม่อาจสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวและความคิดของมัน
หนึ่งกล่าวว่า “ในชีวิตอันยาวนาน ต้องมีความสนุกสนานให้ตัวเองสักนิดสิ”
“โอเค คุณมีความสุขก็ดีแล้ว” ชิ่งเฉินนอนบนโซฟาพักผ่อนเงียบ ๆ
“ตอนแรกคุณอยากถามอะไรเหรอ?” หนึ่งถาม
“ท่านอาจารย์ผมไปไหน?” ชิ่งเฉินถาม
“กลับเรือนจำหมายเลข 18 แล้ว” หนึ่งตอบ
“เขากลับคุกหมายเลข 18 ไปทำอะไร?” ชิ่งเฉินฉงน
“เพราะเขาประเมินว่า หลังการแข่งมวยความเคลื่อนไหวของคุณจะดึงดูดความสนใจของคนบางคนในตระกูลชิ่งขึ้นมา ถึงยังไงความน่าจะเป็นที่คนชื่อแซ่เดียวกันจะปรากฏตัวก็ไม่ถือว่ามาก ดังนั้นจะต้องส่งคนไปตรวจสอบที่เรือนจำ” หนึ่งตอบ “ดังนั้นท่านอาจารย์คุณเปลี่ยนหน้าตาง่าย ๆ ช่วยคุณสร้างหลักฐานว่าไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ”
ดังนั้น ตอนที่กลุ่มการเงินตระกูลชิ่งไปตรวจสอบว่าชิ่งเฉินตระกูลชิ่งอยู่ที่เรือนจำหมายเลข 18 หรือไม่ ก็จะค้นพบว่าชิ่งเฉินสองคนมีตัวตนอยู่ในเวลาเดียวกัน นี่ก็จะพิสูจน์ว่านักมวยชิ่งเฉินกับชิ่งเฉินตระกูลชิ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลย
ชิ่งเฉินคิดไม่ถึงว่า หนึ่งวันที่ท่านอาจารย์หายตัวไปนี้ ถึงกับจะเป็นการแต่งเติมตัวตนให้ตนเอง
เพื่อให้ตนเองมีตัวตนใหม่ อีกฝ่ายก็ถือว่าอุตสาหะเลยทีเดียว
เวลานี้ นอกประตูมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชิ่งเฉินเคลื่อนไปใกล้อย่างระแวดระวัง “ใครครับ?”
ระหว่างที่พูด กลายประตูส่งเสียงคลิกและเปิดขึ้นมาเอง เห็นเพียงข้างนอกมีเจ้าหน้าที่สหพันธรัฐสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งมือซ้ายแสดงบัตรประจำตัว มือขาวถือปืนชี้ไปที่ชิ่งเฉิน “ยกมือทั้งสองขึ้น ตรวจสอบตามปกติ”
อีกคนหนึ่งเก็บอุปกรณ์ถอดรหัสที่ใช้เปิดประตูช้า ๆ จากนั้นเดินเข้ามานวดใบหน้าของชิ่งเฉินหลังจากที่ชิ่งเฉินยกมือทั้งคู่ขึ้น ดูว่าใส่หน้ากากหนังมนุษย์จำลองหรือไม่
หลังจากยืนยันว่าไม่มี เจ้าหน้าที่สหพันธรัฐทั้งสองหมุนตัวเดินจากไปอย่างไร้สุ้มไร้เสียงโดยไม่มีเจตนาจะขอโทษที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นเลยสักนิดเดียว
ชิ่งเฉินตะโกนอย่างโมโหไล่หลังไปว่า “นี่ พวกคุณทำอะไรครับ?”
แต่เจ้าหน้าที่สหพันธรัฐทั้งสองคนกลับไม่ได้ตอบเลย เข้าลิฟต์จากไปอย่างรวดเร็ว
ชิ่งเฉินปิดประตู “คุณรู้ว่าพวกเขาจะมาปะ?”
หนึ่งตอบว่า “ใช่”
“งั้นไหงคุณไม่เตือนผมล่ะ?” ชิ่งเฉินจนใจ
“อย่างนั้นการแสดงออกของคุณจะไม่เป็นธรรมชาติสิ” หนึ่งกล่าว
“พวกเขาอยากทำอะไรเหรอ?” ชิ่งเฉินสงสัย
“ตรวจสอบสองทาง ยืนยันสองชั้น”
……
……
ยามค่ำคืน กำลังมีขบวนรถขับออกจากเมืองหมายเลข 18 ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า ขับไปยังเรือนจำหมายเลข 18 ที่อยู่ชานเมือง
ตอนที่ขบวนรถพุ่งออกจากป่าเหล็กกล้าอันสลับซับซ้อน ทัศนวิสัยก็เปิดออกมาทันที
บนรถมีคนถือแท็บเล็ตหนึ่งเครื่อง นั่นเป็น “คำสั่งฟ้องร้อง” ที่สหพันธรัฐเพิ่งจะอนุมัติอย่างเร่งด่วน
เอกสารแสดงว่า : อนุญาตให้คณะกรรมการบริหารความมั่นคงสาธารณะของสหพันธรัฐสอบปากคำชิ่งเฉิน สั่งให้เขาช่วยในการสืบสวนคดีหมายเลข 1092112
คดี 1092112: เขตที่สี่เมืองหมายเลข 18 เกิดคดีฆาตกรรมในครัวเรือน ผู้ต้องสงสัยกำลังหลบหนี……
อันที่จริงคดีนี้ไม่สำคัญเลย ที่ให้ชิ่งเฉินช่วยสืบสวนก็ไร้เหตุผล
“พนักงานสืบสวน” ทั้งหมดในรถก็ล้วนเป็นคนของตระกูลชิ่ง ไม่ว่าจะขายชีวิตให้ตระกูลชิ่ง หรือว่าตัวเองเป็นสมาชิกตระกูลชิ่ง
พูดตามหลักเหตุผลเรื่องนี้ไม่ควรจะซับซ้อนขนาดนี้ ตระกูลชิ่งเพียงต้องส่งคนสักคนมาเยี่ยม จากนั้นยืนยันสักหน่อยตอนที่เยี่ยมก็พอ
แต่ดันเกิดปัญหาในขั้นตอนนี้: ระบบบริหารเรือนจำส่งประกาศเตือนโรคระบาดต่อคณะกรรมการบริหารความมั่นคงสาธารณะเมื่อสองวันก่อน บอกว่าในเรือนจำปรากฏผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหนึ่งเคส ขณะนี้เรือนจำทั้งหมดอยู่ในภาวะเฝ้าระวังระดับ 3 กำลังดำเนินการกักกันป้องกันโรคระบาด
การเยี่ยมทั้งหมดถูกยกเลิก!
นี่บังคับให้ตระกูลชิ่งจำเป็นต้องเดินเรื่องผ่านกระบวนการยุติธรรมจึงสามารถพบชิ่งเฉินได้อย่างราบรื่น
ในรถมีคนกล่าวเบา ๆ ว่า “พวกเขาบอกว่า ภาวะเฝ้าระวังระดับ 3 ที่ว่ากันไม่ใช่ว่ามีคนอยากจะช่วยเหลือชิ่งเฉินปิดบังอะไรหรอกเหรอครับ ไม่งั้นทำไมบังเอิญขนาดนี้?”
มีคนกล่าวว่า “ระบบบริหารเรือนจำไม่ใช่ระบบเหมือนของพวกเรา เกรงว่าที่นั่นเป็นสถานที่ที่ยุติธรรมไม่คำนึงถึงน้ำใจที่สุดจากทั่วทั้งสหพันธรัฐแล้ว ใครจะสามารถทำให้หนึ่งคนนั้นช่วยทำเรื่องเล็ก ๆ ประเภทนี้ได้?”
“ผมรู้สึกตลอดเลยว่ามันพิลึกอยู่บ้าง เรื่องทั้งหมดมีแต่กลิ่นตุ ๆ” อีกคนกล่าว “ช่างเหอะ ทุกอย่างรอเจอชิ่งเฉินก็รู้แล้ว”
เมื่อพวกเขามาถึงชานเมืองที่อยู่ห่างออกไป 20 ลี้ คนเจ็ดคนบนขบวนรถรออยู่ข้างนอก ในขณะที่มีสองคนดำเนินการตามมาตรการฆ่าเชื้อภายใต้การชี้นำของพัศดีจักรกล
ไม่เพียงเท่านี้ พนักงานสืบสวนสองคนที่มือถือหมายเรียกยังต้องเปลี่ยนเป็นชุดป้องกันที่ครอบคลุมทั้งตัว ตลอดทั้งร่างมีเพียงใบหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันโปร่งแสง ตรงส่วนอื่นล้วนห่อหุ้มอย่างรัดกุม
พนักงานสืบสวนทั้งสองสบตากัน ล้วนสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดนิด ๆ
พวกเขาเข้าไปในห้องสอบสวนโดยการนำทางของพัศดีจักรกล ไม่ทันไร ชิ่งเฉินที่ร่างสวมชุดป้องกันแบบเดียวกันก็นั่งลงตรงกันข้ามพวกเขาภายใต้การคุ้มกันของพัศดีจักรกล
‘ชิ่งเฉิน’ กล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “ผมไม่รู้คดี 1092112 อะไรเลย แล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่ช่วยได้ ถ้าในตระกูลชิ่งมีคนอยากให้ผมถอนตัวออกจากสังเวียนแห่งเงาผ่านเรื่องเหลวไหลเลอะเทอะประเภทนี้ งั้นพวกเขาก็คงจะคิดมากไปแล้ว”
พนักงานสืบสวนหนึ่งคนในนั้นกล่าวว่า “ไม่ต้องเกร็งไปครับ อันที่จริงนี่เป็นวิธีเข้ามาในคุก ไม่มีใครอยากจะใส่ร้ายคุณจริง ๆ หรอกครับ ขอผมแนะนำตัวหน่อย ผมเป็นผู้กำกับการระดับ 2 ของคณะกรรมการบริหารความมั่นคงสาธารณะ ชิ่งซุน ว่ากันอย่างเคร่งครัด น่าจะถือเป็นลูกผู้พี่ของคุณ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เราสองคนก็ไม่เคยพบหน้ากันก็ตาม”
‘ชิ่งเฉิน’ ที่อยู่ตรงข้ามผ่อนลมหายใจ “พวกคุณหาผมมีธุระเหรอครับ?”
“พวกเราอยากจะถามสักหน่อยครับว่าเร็ว ๆ นี้คุณเคยออกไปจากคุกหรือไม่ครับ?” ชิ่งซุนถาม
“เปล่า ถ้าผมออกไปได้ก็ออกไปนานแล้ว” ‘ชิ่งเฉิน’ กล่าว
ณ ขณะนี้ ชิ่งซุนกับพนักงานสืบสวนอีกหนึ่งคนจู่ ๆ เดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าวพร้อมกัน ทั้งสองคนร่วมมือกันฉีกชุดป้องกันบนร่าง ‘ชิ่งเฉิน’ เผยให้เห็นหน้าตาแท้จริงของชิ่งเฉินภายใต้เสื้อผ้า
พวกเขาระแวงว่า ชุดป้องกันนี้ก็คือสิ่งที่ใช้ปกปิดตัวตนแท้จริง คนที่อยู่ใต้ชุดป้องกันอาจจะไม่ใช่ชิ่งเฉินเลย!
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นในห้องสอบสวน ส่วนชิ่งซุนกด ‘ชิ่งเฉิน’ แน่น ดึงแท็บเล็ตมาตรวจสอบรูปลักษณ์พลางเอามือถูใบหน้าอีกฝ่ายแรง ๆ อย่างรวดเร็ว เหมือนกับต้องการดูว่าเขาสวมหน้ากากหนังมนุษย์หรือไม่
ทุกวันนี้สหพันธรัฐมีองค์กรที่ผลิตหน้ากากเสมือนจริงมากมาย หลายอันสามารถหลอกเสียเหมือนจริง
สิบกว่าวินาทีให้หลังชิ่งซุนก็ผ่อนลมหายใจ “เส้นเสียงตรงกัน ใบหน้าตรงกัน ยืนยันตัวตน”
ภายใต้ชุดป้องกันนี้ถึงกับเป็น ‘ชิ่งเฉิน’ ที่หนึ่งแก้ไขไว้ในระบบ
เวลานี้พัศดีจักรกลนอกประตูบุกเข้ามา เสียงไร้เพศเสียงหนึ่งกล่าวว่า “พวกคุณสองคนต้องสงสัยว่าละเมิดมาตราที่ 27 ของระเบียบบริหารเรือนจำ จะจำกุมพวกคุณสองคนชั่วคราวก่อน โอนให้คณะกรรมการบริหารความมั่นคงสาธารณะดำเนินการสอบสวน”
ชิ่งซุนและพนักงานสืบสวนอีกคนสบตากันยิ้มหนึ่งที พวกเขารู้แต่แรกว่าหนึ่งจะโอนพวกเขาออกไป ดังนั้นไม่กังวลใจเลย
จากที่พวกเขาเห็น ระบบบริหารเรือนจำถึงจะยุติธรรม แต่ยังคงไม่ยืดหยุ่นขนาดนี้
รอจนพวกเขาถูกโอนไปถึงคณะกรรมการบริหารความมั่นคงสาธารณะก็จะได้รับการปล่อยตัวโดยไร้ความผิดทันที จากนั้นพวกเขาก็สามารถกลับไปนอนหลับฝันดีแล้ว
หลังจากสองคนนี้ถูกพัศดีจักรกลพาตัวไป ใบหน้าของ ‘ชิ่งเฉิน’ ฟื้นฟูสู่รูปลักษณ์ของตัวหลี่ซูถงเอง เขาลูบแก้มของตัวเอง “ฉันแทบจะอดใจไม่ไหวฆ่าสองคนนี้ไปแล้วจริง ๆ”
ด้านหลัง หลินเสี่ยวเสี้ยวผลักประตูเข้ามา “บอสครับ พวกเราจำเป็นต้องทำงี้เหรอครับ แล้วยังจงใจใส่ชุดป้องกันกระตุ้นให้พวกเขาระแวง?”
หลี่ซูถงยิ้มแล้วกล่าวว่า “เธอจะเข้าใจอะไร คนทุกคนบนโลกนี้ล้วนเชื่อเพียงความจริงที่ตัวเองหาได้อย่างลำบากลำบน ถ้าไม่ลำบากสักหน่อย พวกเขายังจะระแวงต่อไป”
จนกระทั่งขณะนี้ ตัวตนใหม่ของชิ่งเฉินจึงถือว่าปลอดภัยแล้ว
เพื่อให้ชิ่งเฉินกลายเป็นเงาที่แท้จริงอย่างมั่นคง หลี่ซูถงวันนี้เลือกจะกลายเป็นเงาให้ชิ่งเฉิน
…………………………………………….
ตอนที่ 195 – ACE-005? ให้เธอแต่แรกแล้วนะ