ตอนที่ 528 ไม่รีบร้อนหาเงิน
เช้าตรู่วันเสาร์ พวกมู่เถาเยากินอาหารเช้าเสร็จก็เริ่มทำงานกันทันที
จัดคนไปพักที่ตำหนักพระจันทร์กับบ้านตระกูลตี้ทั้งคู่ จึงต้องเตรียมส่งขนมกับผลไม้ไปที่นั่น ทั้งยังต้องเตรียมวัตถุดิบสำหรับสองวันและเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
ช่วงสองปีนี้ตั้งแต่มู่เถาเยาไปเรียนที่เมืองหลวง ทางเซิ่งซื่อฉางอันก็แทบจะไม่มีเจ้านายมาพักเลย ทิ้งคนไว้เฝ้าบ้านแค่คนสองคน
เนื่องจากครั้งนี้พวกเขาก็กลับมากะทันหัน คนทางนี้จึงเตรียมทันแค่ทำความสะอาด
พอเสร็จงานมู่เถาเยาก็ชวนครอบครัวอ้ายโยวทั้งสามคนที่พักอยู่ในเซิ่งซื่อฉางอันมาด้วย
อ้ายโยวให้อภัยเหยียนจื่อเย่าแล้ว ทั้งสามคนกลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิม
สิ่งที่แตกต่างจากเมื่อก่อนคือ อ้ายโยวออกไปทำงาน เหยียนจื่อเย่าอยู่บ้านเลี้ยงลูก ทุ่มเทให้กับครอบครัว
ปรากฏว่าเขาแต่งเพลงได้ดีได้ไพเราะยิ่งกว่าเดิม ภาพลักษณ์การเป็นสามีและพ่อที่ดียิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาดังขึ้นไปอีก
เสี่ยวเหยียนเหยียนที่อายุยังไม่ถึงห้าขวบเป็นเด็กร่าเริงสดใส สืบทอดพรสวรรค์ทางด้านดนตรีและการเต้นจากพ่อแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตอนเด็กน้อยได้เจอมู่เถาเยาอีกครั้งก็ทั้งร้องทั้งเต้นให้เธอดู
เด็กน้อยไม่มีหวาดกลัวเลยสักนิดท่ามกลางสายตาของคนมากมายที่อยู่ในห้อง แสดงได้ไม่มีผิดพลาด ไม่ต่างจากมืออาชีพ
ทุกคนพลอยสนุกสนานไปกับเสี่ยวเหยียนเหยียนด้วย
ตาโตของมู่หว่านโค้งมน หยิกแก้มยุ้ยของเด็กน้อย “เสี่ยวเหยียนเก่งจังเลย!”
“คุณแม่สอนเต้น คุณพ่อสอนร้องเพลงฮะ”
“เหรอ คุณพ่อคุณแม่ของหนูก็เก่งจ้ะ!”
อ้ายโยวมีความสุขมาก
เหยียนจื่อเย่ามองภรรยากับลูกด้วยความพึงพอใจแล้วพูดกับมู่หว่าน “เสี่ยวหว่าน เสียงเธอดีนะ มีความสดใส เคยคิดเรื่องเอาดีทั้งสองด้านไหม เดี๋ยวพี่เขียนเพลงให้”
“เพลงของพี่เขยมีแต่นักร้องดังๆ ร้อง ถ้าเขียนให้ฉัน แบบนั้นฉันก็กำไรมหาศาลเลยค่ะ! ไอ๊หยา ยังไม่ทันร้องฉันรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นซุป’ตาร์แล้ว!”
เหยียนจื่อเย่าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่เลือกเสียงที่เหมาะกับเพลง ไม่จำกัดว่าต้องเป็นนักร้องระดับไหน”
ก็แค่เมื่อก่อนเพลงที่เขาเขียนค่อนข้างเหมาะกับศิลปินบางคน และศิลปินเหล่านั้นเป็นนักร้องดังพอดี หรือไม่ก็ร้องเพลงของเขาจนโด่งดังเป็นนักร้องแถวหน้า
ถูกต้อง เมื่อก่อนเขาไม่เคยตั้งใจแต่งเพลงให้ใครโดยเฉพาะ แค่ทำตามที่ตัวเองชอบ หลังจากนั้นค่อยเลือกคนที่เสียงเหมาะมาร้อง
มู่หว่านยิ้มพูด “พี่เขยคะ อาฉือซานก็เคยอยากทำเพลงให้ฉันร้องสักเพลง บอกว่ามีไว้สักเพลงสองเพลงยิ่งดี เวลาไปออกรายการจะได้เอาไว้สร้างกระแส แต่ถึงยังไงก็ต้องเอางานแสดงเป็นหลักค่ะ เพียงแต่ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ ยังต้องเอาเรื่องเรียนเป็นหลักค่ะ”
ครอบครัวเธอร่ำรวยอยู่แล้ว! เธอจึงไม่เดือดร้อนต้องหาเงินเข้าบ้านเลยสักนิด!
เหยียนจื่อเย่าพยักหน้า “คุณฉือซานเป็นผู้จัดการส่วนตัวมือฉมัง เชื่อเธอไว้ไม่ผิดแน่ เอาเบอร์ของพี่ไปให้คุณฉือซานนะ บอกคุณฉือซานว่าพี่จะทำเพลงให้เธอ มีเพลงช่วยเสริม ครั้งหน้าเธอได้เป็นนักแสดงนำแน่”
“ขอบคุณค่ะพี่เขย”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
อ้ายโยวยิ้มพูด “ยังไงก็ต้องหาคนร้อง ไม่สู้ให้คนกันเองร้องดีกว่า”
ทุกคนพลอยยิ้มตามไปด้วย
ต่างรู้ว่าถึงแม้ยังไงก็ต้องหาคนมาร้อง แต่ถ้าให้ดารานักร้องแถวหน้าร้อง ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องดีกว่าให้มู่หว่านที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่แน่นอน แถมยังจะทำเงินได้เยอะกว่า
ทุกคนสนทนาเรื่อยเปื่อย พวกอาจารย์อาเล็กกับศิษย์พี่ใหญ่ทยอยมาถึง
ไม่นานตี้อู่เหลียนจิง ลู่จือฉิน ตี้อู่หลันฉือ ปาอิน ถังถัง และลู่หันซูก็มาถึง
สิบโมงกว่าเครื่องบินจากหมู่บ้านเถาหยวนซานก็ลงจอดที่ลานจอดของเซิ่งซื่อฉางอัน
เครื่องบินลำนี้เป็นของปู่เย่ว์ เร็วเหมือนเครื่องบินของมู่เถาเยา
ตี้อู๋เปียนที่ไปรับตรงลานจอดเครื่องบินด้วยรู้สึกอิจฉาตาร้อน “ซาลาเปาน้อย ฉันก็อยากได้เครื่องบินที่เร็วและเท่ห์แบบนี้สักลำ”
“บอกพี่ใหญ่ของฉันสิ” มู่เถาเยาแหย่พวกเด็กๆ เล่น พูดโดยไม่เงยหน้ามอง
“ไม่ ฉันจะคิดค้นเอง”
สายตาของมู่เถาเยาละจากพวกเด็กๆ ไปที่ตี้อู๋เปียน ไม่กี่วินาทีถัดมาถึงพูดขึ้น “งั้นก็สู้ๆ นะ!”
ตี้อู๋เปียน “…”
ปู่เย่ว์ยิ้มพูด “อู๋เปียน ตั้งใจขนาดนี้งั้นก็ลองคุยกับอาเหิงดูนะ”
“ครับ” เขามีความรู้ด้านทฤษฎี แต่ไม่เคยลงมือปฏิบัติ
เขาไม่ต้องกลุ้มเรื่องโครงการอย่างปรับปรุงวิศวกรรมการระบายน้ำในเมืองที่เกิดน้ำท่วมง่ายทั้งประเทศหรือช่วยเหลือคนตกยากแล้ว ดังนั้นงานหลักของเขาในตอนนี้ก็คือการเก็บข้อมูลแบบเมื่อก่อน รวมถึงดูแลและจัดการเรื่องเฉพาะของหน่วยงานพิเศษ
ตอนนี้อาการป่วยหายดีแล้ว ไม่ต้องถูกขังไว้ในบ้าน มีแรงไปทำเรื่องต่างๆ ได้มากมาย ซาลาเปาน้อยจะได้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาใหม่ ไม่มองว่าเขาเป็นคนอ่อนแออีกต่อไป
เขามองออกว่าซาลาเปาน้อยชื่นชมและยกย่องพี่ชายทั้งสองคนของเธอมาก
มู่เถาเยาให้คนขับรถพาคนไปที่บ้านตระกูลตี้ก่อน ปล่อยคนลงเสร็จค่อยเอาสัมภาระไปส่งที่ตำหนักพระจันทร์ จากนั้นรถก็ตีกลับไปที่ลานจอดเครื่องบินอีกครั้งเพราะคนตระกูลเย่ว์ใกล้มาถึงแล้ว
มีคนอยู่ไม่เท่าไร รถตู้แบบนักธุรกิจพอนั่ง แต่พวกเขาเอาของฝากมาเยอะ ไหนจะอาหารสำหรับให้ลู่จือฉินที่ตั้งท้อง จึงจำเป็นต้องใช้รถหลายคัน
“ซาลาเปาน้อย ฉันรู้สึกว่าเธอให้ความสำคัญกับอาจารย์คนนี้พอๆ กับปู่หยวนปู่ซย่าโหวเลยนะ”
อีกทั้งเขาเองก็รู้สึกว่าน้าสะใภ้เย่ว์เลี่ยงปฏิบัติต่อลู่จือฉินแตกต่างจากที่คนตระกูลเย่ว์ปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะตั้งใจเดินทางไกลมาเยี่ยมเพียงเพราะอาจารย์ของหลานสาวตั้งท้อง
รวมถึงเยี่ยนหังด้วย…
เขาเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
แต่เขารู้ว่าลู่จือฉินก็มีความลับเหมือนกัน
จากข้อมูลที่เขาสืบได้ เธอไม่ควรมีความสามารถที่เก่งขนาดนี้…
แต่ทว่าเขาเชื่อซาลาเปาน้อย ซาลาเปาน้อยเชื่อในตัวลู่จือฉิน เขาจึงไม่คิดอะไรมากแล้ว
“ฉันรู้จักกับอาจารย์สามตั้งแต่เด็กแล้ว” มู่เถาเยายิ้ม ไม่พูดอะไรมาก
ตี้อู๋เปียนก็ไม่ถามเซ้าซี้ เปลี่ยนเรื่องคุย “ซาลาเปาน้อย อีกไม่กี่วันก็ต้องไปต่างประเทศแล้ว เตรียมของเสร็จหรือยัง”
“อืม”
แม้การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติจะจัดปลายเดือน แต่พวกเขาต้องไปเข้าหมู่บ้านนักกีฬาก่อนล่วงหน้า
“ฉันจะพักอยู่โรงแรมที่ใกล้หมู่บ้านนักกีฬามากที่สุด”
คนที่ไม่ใช่นักกีฬาห้ามเข้าหมู่บ้านนักกีฬา แต่นักกีฬาเลือกที่จะไม่อยู่ในหมู่บ้านได้ เพียงแต่นักกีฬาของประเทศเหยียนหวงพักกันหมด มู่เถาเยาไม่อยากทำตัวพิเศษจึงเข้าไปพักด้วย
“อันที่จริงพี่สามไม่ต้องตามไปก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไร เสร็จเรื่องนี้เธอก็ไม่ยุ่งแล้ว พอถึงตอนนั้นพวกเราไปเที่ยวกันดีไหม”
“เอาสิ พาพวกอาจารย์ไปด้วยกัน” นับตั้งแต่เธอออกจากหมู่บ้านเถาหยวนซานไปเรียนหนังสือ ก็ไม่เคยได้พาพวกอาจารย์ไปเที่ยวโดยเฉพาะเลย
ตี้อู๋เปียน “…!”