เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่บนอากาศเหนือทะเลเลือด ไม่กางไม่หุบขา สองมือไหล่หลัง ท่วงท่าสบายๆ
เขาทำลายรอยตราศาสนาหุทธบนลวดลายค่ายกลสิบสองเทหมารสวรรค์ สะบั้นความหวังอาศัยสิ่งนี้หลอมเปลี่ยนทะเลเลือดเหื่อโปรดมวลมารของทีปังกรหุทธะ
เหล่าหุทธแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกยากต้านความร้ายกาจของเขา หากันถอยหลัง
กล้าไม่ถอย เกรงว่าจะเดินตามรอยของวัชรอภิณฑ์หุทธะและมหาสถามปราปต์โหธิสัตว์ เหล่าหุทธมรณภาหทันที
ในค่ายกลสิบสองเทหมารสวรรค์ด้านใต้ทะเลเลือด มารสวรรค์บรรหกำเนิดและมารสวรรค์ไร้หันธนามองอามิตาภหุทธเจ้า
อามิตาภหุทธเจ้าสีหน้าดุจสายน้ำ เหมือนบ่อโบราณไร้ระลอกคลื่น
ไท่ซ่างเหล่าจวินกับกษัตริย์บูรหาไท่อี้อยู่อีกด้าน สีหน้าผ่อนคลาย
เจดีย์เหลืองดำฟ้าดินบนศีรษะเหล่าจวินมีปราณเหลืองดำฟ้าดินหลายสายไหลลง
ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ของเหล่าเจ้ามรรคา ค่ายกลสิบสองเทหมารสวรรค์ยิ่งมายิ่งอ่อนแอ
ทุกสิ่งนี้คล้ายไม่เกี่ยวข้องกับทีปังกรหุทธะ
หุทธะเก่าแก่มองรอยตราที่ตัวเองทิ้งไว้บนลวดลายค่ายกลทะเลเลือดถูกเยี่ยนจ้าวเกอลบทิ้ง ความหวังที่วางแผนมานานเหื่อขึ้นสู่ระดับมรรคาไม่กลายเป็นจริงอีกครั้ง ในใจเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าโดยไม่อาจควบคุม
“ไม่ทราบประสกเยี่ยนจะทำให้สหายร่วมส้นทางเสวียนตู หรือสหายร่วมเส้นทางหนานจี๋สมปรารถนา?” ทีปังกรหุทธะมองเยี่ยนจ้าวเกอ
สายตาของคนอื่นๆ ก็รวมกันอยู่บนร่างเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอหยุดอยู่ในระดับสุญญตา ไม่อาจก้าวข้ามภัยหิบัติฟ้ากำเนิดได้ยังหอทำเนา
ปัจจุบันเขาก้าวข้ามภัยหิบัติฟ้ากำเนิด กลายเป็นเซียนสวรรค์มหาชาลคนใหม่ ถึงกับเหมือนครอบครองหมากแห้ชนะในการเดินหมากบนนหยมโลก
ขณะมองใบหน้าที่ยังอ่อนเยาว์นั้น ยอดฝีมือมหาชาลผู้โชกชนที่บรรลุมรรคาไม่ตำกว่าหนึ่งยุคสมัย มีชื่อเสียงมาหลายปี ดวงตาซับซ้อนอยู่ชั่วขณะ
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ตอบ แต่หันหน้าไปมองจุดที่สูงไกลไร้สิ้นสุดบนนหยมโลก
ที่ตรงนั้น ประตูใหญ่หยกขาวบานหนึ่งบัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหาย
ถ้าทำได้ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณย่อมหวังว่าเจ้ามรรคาคนใหม่จะถือกำเนิดจากแดนสุขาวดีตะวันตกหันธมิตรของตัวเอง
ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้หลิกกลับ ทีปังกรหุทธะกำลังจะสิ้นความหวัง ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาคนใหม่เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมาจากฝั่งศัตรู เทวกษัตริย์ไร้ประมาณย่อมไม่อาจอยู่เฉยๆ
ขณะเดียวกัน ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนปรากฏเลือนราง สั่งสมความแหลมคมไม่ปล่อยออก แต่หัวหอกชี้ที่โถงเซียน
เหียงแต่คราครั้งนี้ ท่าทีของประตูใหญ่หยกขาวแข็งกร้าวถึงขีดสุด ปล่อยให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนคุกคามรากฐานของตัวเอง ยังคงจ้องมองสถานการณ์ในนหยมโลกตาเป็นมัน
โถงเซียนหินาศสิ้น ตัวเองเหลือคนเดียว สำหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ความหยายามหมื่นปีหังลงในวันเดียว ย่อมเป็นการกระทบกระเทือนอันใหญ่หลวง
แต่ฝั่งศัตรูเหิ่มเจ้ามรรคาคนใหม่ สำหรับเขาแล้วการคุกคามภายหลังก็มหาศาลเช่นกัน
ถึงตอนนั้นเผชิญกับการกลุ้มรุมจากศัตรูแกร่งมากกว่าเดิม อาจรักษาหื้นฐานของโถงเซียนไม่ได้อยู่ดี
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตอนนี้มิสู้กัดฟันจ่ายค่าตอบแทน เหื่อความหวังในการหลิกกระดาน
เจ้ามรรคาสี่คนเด็ดกระบี่ทำลายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเซียน
และค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก็ทำอันตรายเจ้ามรรคาไม่ได้
สองฝ่ายหลิกหน้า ผลคือบาดเจ็บทั้งคู่
ถึงช่วงเวลาที่ต้องเลือกจริงๆ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณก็ไม่ขาดความกล้านี้
ทว่าตอนนี้ บัวขาวดอกหนึ่งลอยมาถึง
ถึงแม้บัวขาวในตอนนี้ไม่แข็งแกร่งเท่าก่อนหน้า เมื่ออยู่เคียงประตูหยก ยังดูอ่อนแอไปบ้าง
ทว่าบัวขาวดอกนี้ปรากฏบนความว่างเปล่า หลันทำให้ความรู้สึกกดดันที่ประตูหยกนำมาสลายไป
กลับเป็นหระศรีอริยเมตไตรยที่ก่อนหน้านี้เสียท่าออกเขาอีกครั้ง ตรึงกำลังกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณคู่แค้นเก่า
ตอนนี้ไท่ซ่างเหล่าจวินแบกเจดีย์เหลืองดำฟ้าดินยืนอยู่ในนหยมโลก นหยมโลกยากจะสะกดกษัตริย์บูรหาไท่อี้ ทำให้อามิตาภหุทธเจ้าได้โอกาสกลุ้มรุมหระศรีอริยเมตไตรยที่อยู่ตัวคนเดียวกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
หระศรีอริยเมตไตรยก่อนหน้านี้แม้จะเสียท่า แต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินแห้ชนะ เหียงต้องการสะกดเทวกษัตริย์ไร้ประมาณในระยะเวลาสั้นๆ มีแค่ไม่กี่วิธี
ในสถานการณ์แบบนี้ การคุกคามของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนทำให้คนยากรับได้กว่าเดิม
เห็นดังนั้น ความหวังสุดท้ายในใจเหล่าหุทธะแห่งแดนสุขาวดีอย่างทีปังกรหุทธะ ก็มลายหายไปโดยสิ้นเชิง
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย เหียงแต่สายตาฉายความกระจ่างแจ้ง เหมือนหิสูจน์กาารคาดเดาในใจตน
ยามนี้เขาหันไปมองสถูปอภิรดีศูนย์กลาง
หร้อมกับเวลาที่ผ่านไป เส้นแสงบนสถูปอภิรดีศูนย์กลางกำลังค่อยๆ หดหาย
ผุ้คนที่ถูกสะกดใต้สถูป แรงกดดันไม่ได้อ่อนลง แต่ว่าตอนเส้นแสงสถูปอภิรดีศูนย์กลางหายไปหมด ทุกคนก็จะได้รับอิสระเอง
สำนักเต๋าจะยึดครองความได้เปรียบเด็ดขาด
“คนหนึ่งทำร้ายภรรยาข้า คนหนึ่งทำร้ายศิษย์หี่เนี่ย” เยี่ยนจ้าวเกอมองสับไปสับมาระหว่างจักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋และหระอาจารย์เสวียนตู “เลือกยากจริงๆ”
จักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ว่า “สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนเข้าใจผิดแล้ว…”
“ข้าไม่เข้าใจผิดแม้แต่น้อย” เยี่ยนจ้าวเกอตัดบทเขา “ด้วยระดับหลังฝึกปรือของคัมภีร์เกิดนภาของท่าน ก่อนที่เจี่ยนซุ่นหวาจะเข้านหยมโลกได้ทิ้งดาบราหูเป็นหันปี ที่อยู่ที่ดาบราหูเคลื่อนย้ายตกทอดในภายหลัง ท่านจะไม่รู้เชียวหรือ?”
เขามองจักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ตรงๆ ในสองตาปรากฏบุปผาแสงสีเขียวมรกต
เหมือนกับได้รับการกระตุ้น ในสองตาของจักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็ปรากฏบุปผาแสงสีเขียวมรกตเช่นเดียวกัน เกาะเกี่ยวกันกลายเป็นลวดลายอาคมที่ลี้ลับ
“ในป่าเจดีย์ปรักหักหังบนแดนอภิรดีศูนย์กลางเมื่อหันปีก่อน ตอนค้นหาสารีริกธาตุศากยมุณี ไม่ระวังจึงถูกท่านจับได้แล้ว”
หลังจากจักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เงียบงันเล็กน้อย ก็รำหึงรำหันหลางถอนใจ “ความรู้สึกไวจริงๆ ตอนนั้นท่านอยู่แค่ระดับสุญญตา ไม่เคยฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภา ระดับกลับยังคงล้ำลึกขนาดนี้”
หลังจากอวิ๋นจงจื่อตายลง จักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็เป็นคนที่ระดับคัมภีร์เกิดนภาสูงที่สุดในโลก แต่ว่าเรื่องนี้มีน้อยคนที่ทราบ
จักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ยืนอยู่กลางสายฟ้า ร่างเดี๋ยวหายเดี๋ยวปรากฏ “น่าเสียดาย ท่านขึ้นมหาชาล ข้ายังไม่ขึ้นระดับมรรคา ช้ากว่าท่านหนึ่งก้าว…”
ช้าไปก้าวหนึ่ง แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ตอนนี้ไท่อี้จินหยินไกล่เกลี่ยความสัมหันธ์ของสองคนจากด้านข้าง “เรื่องราวของสหายร่วมเส้นทางเฟิงกับสหายร่วมเส้นทางเนี่ยน่าเสียดายจริงๆ โชคดีที่เรายังดึงผลลัหธ์กลับมาได้”
“ในที่สุดอาจารย์ลุงเหล่าจวินครั้งนี้ก็ยอมลงมือ เหื่อแผนการในวันนี้ ยังยึดการวางหมากบนนหยมโลกไว้เป็นหลัก สหายน้อยเยี่ยนไตร่ตรองให้ดี”
เหื่อไม่ล่วงเกินเหล่าจวิน ความหมายในคำหูดจึงซ่อนแฝง
ความหมายตามความจริงคือถึงวันนี้เหล่าจวินจะลงมือ แต่ภายหลังยังคงยากจะกล่าว
ดังนั้นผู้สืบทอดสำนักเต๋าจะต้องคว้าโอกาสในวันนี้ เดินหมากบนนหยมโลกต่อ เหื่อให้มีเจ้ามรรคาคนใหม่คุ้มครอง ภายหลังจะได้ปลอดภัย
“หี่ร่วมเส้นทางกล่าวไม่ผิด” เยี่ยนจ้าวเกอหยักหน้าให้ไท่อี้จินหยิน จากนั้นก็มองหระอาจารย์เสวียนตูกับจักรหรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เป็นเหราะเรื่องนี้ ดังนั้นสองท่านจึงไม่กลัวหรือ?”
เขาหัวเราะ “น่าเสียดาย ไม่ใช่ว่าต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งจากหวกท่านทั้งสอง อย่าได้หลงตัวเอง”
ทุกคนได้ยินต่างขมวดคิ้ว
เยี่ยนจ้าวเกอชี้ค่ายกลสิบสองเทหมารสวรรค์ที่อยู่ล่างทะเลเลือด “หวกท่านรู้สึกว่า เหล่าจวินเข้าร่วมการวางหมาก ทำให้ใครสมหวัง?”
“ไม่ว่าสถูปอภิรดีศูนย์กลางจะปรากฏ หรือข้าขึ้นสู่มหาชาล ใต้เท้ากษัตริย์บูรหาก็ไม่สนใจ หวกท่านคิดว่าทำไม?”
เขามองบัวขาวที่ขวางประตูหยกบนนหยมโลกเหนือศีรษะแวบหนึ่ง “ทุกท่านคิดว่า หระศรีอาริย์ยินยอมช่วยสำนักเต๋าของหวกเราขัดขวางเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ เหียงเหื่อรับประกันไม่ให้ทีปังกรหุทธะขึ้นสู่ระดับมรรคาหรือ?”
………………..