[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?บทที่1 – ทำไมถึงเป็นสีแดงสดล่ะ ?

บทที่1 - ทำไมถึงเป็นสีแดงสดล่ะ ?

บทที่ 1 – ทำไมถึงเป็นสีแดงสดล่ะ?

 

[ นั่นไงๆเด็กผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องน่ะ คิดมานานแล้วว่าจะชวนเธอออกไปเที่ยวกัน ไม่ใช่กับทุกคน แต่แค่เราสองคน… ]

[ ว้าว ฉันเคยได้ยินนายพูดเรื่องนี้มาบ้าง ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงแล้วสินะ ]

[ ใช่ !… ข้องร้องเถอะ ! ช่วยทำให้ฉันมีความกล้าเถอะนะ คูยะ! ]

 

แล้วเสียงปรบมือเสียงก็ดังขึ้น เพื่อนตั้งแต่สมัยม.ต้นของผมประกบมือเหมือนกำลังอธิษฐานอยู่ 

 

[ ฉันรู้ว่ามันดูน่าสมเพช แต่ฉันอยากรู้ว่าฉันมีโอกาสมั้ย… ขอร้องล่ะ ! ใช้ความสามารถของนายช่วยฉันที! ]

[ แน่นอน ! ให้ฉันจัดการเอง… แค่นายไปคุยกับเธอแบบสบายๆ เดี๋ยวฉันจะดูจากตรงนี้ให้ ]

[ โอ้ว! ขอบคุณมาก! ฉันติดหนี้นายแล้ว!  –โอเค! งั้นเริ่มกันเลย… ]

 

หลังจากโฮมรูมช่วงบ่ายจบลง หลังเลิกเรียนในห้องเรียน ฮัตสึเสะ ยูจิ เพื่อนของผมรวบรวมความกล้าและเดินไปหาเด็กผู้หญิงที่เขาสนใจ

 

[ อ๊ะ นาคาบายาชิ ฉันส่งเอกสารของคณะกรรมการให้ครูไปแล้วนะ ครูบอกจะตรวจสอบให้ภายในสัปดาห์หน้า ]

[ โห ฮัตสึเสะ ขอบใจนะ~ แล้วครูว่าอะไรบ้างมั้ย ? โอเครึเปล่า ? ] 

[ อืม…ก็… ]

[ อะไรอะ? ไม่ได้เรื่องเลยเหรอ? ]

[ โทษที ๆ แค่แกล้งเล่นน่ะ ดูเหมือนจะโอเคแล้วล่ะ ]

 

เมื่อพูดแบบนั้น ยูจิก็หัวเราะ เด็กผู้หญิงที่เขาสนใจหัวเราะแล้วตีไหล่เขาเบาๆ บอกว่า [ โม่วว นายนี่ก็ขี้แกล้งจังเลยนะ—! ]

เธอน่าจะมาจากห้องข้างๆ ใช่มั้ย? ตอนนี้ยูจิดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกับเธอ… แต่ในฐานะเพศตรงข้ามล่ะ?

ผม คูยะ มิยาชิโระ กำลังตั้งใจมองทั้งสองจากที่นั่งของผม สังเกตการพูดคุยของพวกเขา

สิ่งที่ผมโฟกัสไม่ใช่ยูจิ แต่เป็นเด็กผู้หญิงที่เขากำลังคุยด้วย จากตัวเธอ มีหมอกบางๆ เริ่มปรากฏขึ้นในมุมมองชองผม

หมอกนั้นมันสีส้ม อ่า นี่มัน…!

ไม่นานนัก ยูจิก็เดินกลับมาหาผม

 

[ คูยะ เป็นไงบ้าง? ]

 

เขาถามด้วยเสียงกระซิบเบาๆ ผมตอบกลับไปในลักษณะเดียวกัน

 

[ ยูจิ เอ่อ… อืม… ]

[ อะไรนะ? ดูไม่ดีเหรอ? ]

[ โทษที ๆ แค่แกล้งเล่นน่ะ ]

[ เห้ย นั่นมันมุกเดียวกับที่ตูเล่นกับนาคาบายาชิเลยนี่หว่า ]

[ ดีใจที่นายรู้ทันนะ คิดว่าน่าเป็นหลักฐานว่าฉันดูนายกับเธออยู่จริงๆ ]

 

พอพูดจบ ยูจิก็ส่ายหัวพร้อมพูดว่า [ ไม่ต้องก็ได้มั้ย ! ]

 

[ แต่ถ้าจะพูดตรงๆ ล่ะก็… ดูมีหวังเลยทีเดียว ]

[ !… จริงเหรอ? ]

[ ยังไม่ถึงขั้นที่เธอจะชอบนายในฐานะเพศตรงข้าม แต่ก็ใกล้เคียงแล้ว ถือว่าเป็นไปได้อยู่… แต่แน่นอน นี่แค่สิ่งที่ฉันคิด ไม่มีการรับประกัน- ]

[ ไม่ๆๆ ความสามารถของนายที่ใช้กับเรื่องพวกนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว ฉันเชื่อนาย นายเคยถูกปรึกษามากี่ครั้งแล้วนะ? ]

[ อืม ประมาณสามสิบครั้งได้ ]

[ แล้วผิดกี่ครั้ง? ]

[ …ยังไม่เคย ]

[ เห็นไหมล่ะ! ใช่เลยๆๆๆ ! ใช่แน่ๆๆ ! ]

 

ยูจิดูดีใจมาก ทำท่าทางดีใจซ้ำไปซ้ำมา เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็อดยิ้มไม่ได้

ยูจิเป็นเพื่อนที่ดีมาก เขาเป็นคนใจดีและคิดถึงคนอื่น ผมจะดีใจมากถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีสำหรับเขา

 

[ ขอให้นายโชคดีนะ ยูจิ ]

[ อืม ! ขอบใจมาก! อย่างที่ฉันพูดเอาไว้ ฉันจะชวนเธอไปเที่ยวล่ะ! ]

 

หลังจากพูดคุยกันเบาๆ อีกหน่อย ยูจิก็ออกไป ดูเหมือนจะไปทำกิจกรรมชมรม เอาล่ะ ได้เวลาที่ฉันต้องไปบ้างแล้ว

ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนมีค่ามาก และมักจะหมดไปในพริบตา ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำก่อนถึงวันพรุ่งนี้

คิดได้แบบนั้น ผมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่แขวนอยู่ข้างโต๊ะ แล้วก็…

 

[ ประมวลผลข้อมูลดูหนักหน่วงน่าดูนะ ]

[ เอ๊ะ? ]

[ นายไม่เหนื่อยเหรอ? ที่ต้องมาสังเกตสิ่งที่ไม่เป็นเส้นตรงอย่างมนุษย์และอารมณ์ของมนุษย์น่ะ ]

 

คนที่พูดคือเด็กผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ผม

 

[ …อา เอ่อ เธอกำลังคุยกับฉันใช่ไหม? ]

[ แล้วจะเป็นอย่างอื่นได้อีกมั้ยล่ะ ? ]

[ ขอโทษนะ แค่รู้สึกว่านานมากแล้วตั้งแต่ได้ยินเสียงของเธอ… ประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้? ]

[ ถ้าจำไม่ผิด ฉันไม่ได้พูดกับมิยาชิโระคุงมา 11 วันแล้ว รวมถึงคนอื่นๆในห้องด้วย ]

[ ไม่แปลกใจเลย แล้วเธอพูดว่าไงนะ? ถามว่าเหนื่อยมั้ยหรอ ? ก็ไม่เท่าไหร่นะ… ได้ยินที่พวกเราคุยกันหรอ? ]

[ ขอโทษนะ บังเอิญได้ยินน่ะ ]

[ งั้นสินะ เข้าใจล่ะ ]

 

ไม่เห็นภาพที่จะตั้งใจแอบฟังเลย คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆนั้นแหละ

 

เธอนั่งโต๊ะติดที่หน้าต่าง ถึงเราจะคุยกันอยู่ แต่เธอก็ไม่หันหน้ามาทางผมเลย แต่กลับมองออกไปข้างนอกแทน

 

ดูเหมือนไม่ใช่เพราะอยากมองทิวทัศน์ภายนอก แต่เหมือนเพราะไม่อยากให้เป็นที่สนใจในห้องด้วย นั่นแหละคือนิสัยเธอ

 

[ การวิเคราะห์ ‘โอกาสสำเร็จ’ ของนายนี่เป็นทักษะพิเศษที่ไม่ธรรมดาเลยนะ ]

[ อืม… ก็ใช่แหละ ]

 

มีไม่กี่คนที่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของผม

 

สำหรับคนรอบข้าง มักจะถูกมองว่า “สามารถคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่ยังไม่ได้คบกันจะพัฒนาไปได้มั้ยแบบคร่าวๆ ” มันก็คล้ายๆ กับการทำนายดวงนั้นแหละ

 

เพราะความแม่นเหมือนกับยูจิเมื่อกี้ ผมถึงได้ถูกขอให้ตัดสินความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์อยู่เป็นระยะๆ

 

…ในความเป็นจริง ไม่ใช่แค่การมองเห็นว่ามีโอกาสหรือไม่ แต่ถ้าอธิบายทั้งหมดมันจะทำให้คนฟังกลัวได้ เลยเลือกที่จะไม่ทำ

 

[ ก็แค่แชร์ความรู้สึกตามลางสังหรณ์ของฉันเอง ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น ]

 

[ งั้นเหรอ? ฉันว่ามันสำคัญมากเลยนะ การที่จะประเมินความรู้สึกโรแมนติกที่ปั่นป่วนของมนุษย์จากภายนอกได้เนี่ย… ]

[ ปั่นป่วน? ]

[ ไม่ใช่แค่ปั่นป่วน แต่ก็ไม่ได้จำกัดแค่ความรู้สึกโรแมนติก อารมณ์ของมนุษย์… หรือพูดให้ชัดเจนเลยคือตัวมนุษย์นั้นแหละคือความปั่นป่วน ]

 

ถึงด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ชัดเจนว่านี่คือความคิดจริงๆในหัวเธอ

 

เธอเอามือพิงแก้ม แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เธอหันหน้ามาทางผมเล็กน้อย

 

[ การรับมือกับคนอื่นๆ ในฐานะระบบอินพุต-เอาท์พุตแล้วมีพารามิเตอร์เยอะเกินไป ไม่มีพฤติกรรมตามกฎกำลัง…แถมความไวต่อค่าเริ่มต้นก็สูงเกินไป ไอเดนติฟายซิสเต็มก็ทำไม่ได้ ไม่เสถียร ไม่เป็นลิเนียร์ ไร้เหตุผล… นายไม่คิดเหรอว่ามนุษย์มันยากที่จะจัดการบ้างเหรอ? ]

[ ขอโทษนะ สิ่งที่เธอพูดมันซับซ้อนเกินไปสำหรับฉันน่ะ……. ]

 

เธอคือท็อปของประเทศในภาควิชาวิทยาศาสตร์ในการสอบmockทั่วประเทศ เธอยังมีทักษะและเทคนิคในการใช้งานจริงด้วย ถึงผมจะไม่รู้รายละเอียดมาก มีข่าวลือว่าเธอทำเงินได้มากมายจากงานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในช่วงค่ำแม้จะยังอยู่ม.ปลาย

 

คำศัพท์ของเธอมักมีคำที่ผมไม่คุ้นเคย ทำให้งงงวยในบางครั้ง

 

[ คอมมูนิเคทกับคนอื่นมันยุ่งยากมากนะ ]

[ คนเราชอบบอกว่า’การสื่อสาร’มันยุ่งยากกันทั้งนั้นแหละ แต่หายากที่จะเจอคนที่แทบจะไม่พูดกับเพื่อนร่วมห้องแบบนี้ สำหรับคนส่วนใหญ่ในห้อง คำพูดเดียวที่พวกเขาได้ยินจากเธอคือ ‘ขอโทษนะ ฉันไม่สนใจ’ ]

[ นั่นแหละที่ทำให้คนอื่นไม่ค่อยกล้ามาคุยกับฉัน ]

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้เพื่อนร่วมห้องไม่ค่อยกล้าเข้าหาเธอ

พูดง่ายๆ คือ พวกเขารู้สึกกลัว

 

…การที่ได้พบเธอทำให้รู้ว่ามนุษย์สามารถรู้สึกกลัวจากความสวยงามได้จริงๆ

 

ขนตายาวเรียงเส้นสวยงามดวงตาเรียว ผิวพรรณเหมือนมีแสงอ่อนๆ ส่องประกาย จมูกเรียวตรงและริมฝีปากสีชมพูจัดเรียงอยู่บนใบหน้าอย่างลงตัว

เส้นผมสีดำที่บางครั้งดูเหมือนเป็นสีแดงเมื่อโดนแสง เหมาะกับเธออย่างมาก

ไม่ว่าผมจะเห็นเธอกี่ครั้ง ก็ยังรู้สึกว่าการมีผู้หญิงที่สวยและเก่งขนาดนี้นั่งอยู่ข้างๆในห้องเรียนนั้นเป็นเรื่องที่ผิดพลาดแน่นอน

 

แต่ว่า ถึงอย่างนั้น ฉายาของเธอในโรงเรียนก็ไม่ได้มาจากความฉลาดหรือความสวยของเธอเลย…

 

[ พวกเกลียดมนุษย์… มิยาชิโระคุง ฉันถูกเรียกอย่างนั้นจากทุกคนใช่มั้ย ? ถ้าพวกเขารักษาระยะห่างได้จะขอบคุณมากเลย มันช่วยลดเสียงรบกวนในชีวิตประจำวันของฉันได้เยอะเลย อัตราส่วน S/N ที่ดีก็จะถูกคงที่ไว้ ]

นี่แหละคือเธอ คุเรไน คุโจ

TL : SNR, S/N (SIGNAL TO NOISE RATIO ) คือ ค่าอัตราส่วนระหว่างสัญญาณกับสัญญาณรบกวน
 

 

 

แปลเพราะนางเอกเป็นโปรแกรมเมอร์ล้วนๆ อ่านแล้วชอบด้วย( แต่ศัพท์Techในภาษาญี่ปุ่นนี่แกะยากอยู่นะ . )

[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?

[LN]ในเมื่อฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนายแล้ว งั้นฉันก็ควรจะเป็นแฟนนายแล้วนะ ?

Score 10
Status: Completed
จะให้พูดว่า— “ฉันชอบเธอ” ได้ไงเล่าาา !!! [ มือถือที่สั่นตามจังหวะหัวใจของผู้ชายที่ชอบเนี่ย มันฟินสุดๆ ไปเลยยยย ] คุเรไน คุโจ โปรแกรมเมอร์ฝีมือฉกาจที่คว้าคะแนนอันดับหนึ่งจากการสอบทั่วประเทศถึงจะเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย แต่เธอก็หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากความสามารถของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับเกลียดมนุษย์และไม่ยอมคุยกับใครเลย ยกเว้นแต่ คูยะ มิยาชิโระ หนุ่มโต๊ะข้างๆที่เธอแอบปลื้ม เธอไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยเธอรู้สึกสับสนจนกลายเป็นว่าเธอใช้ทักษะการเขียนโปรแกรมของเธอเพื่อสืบเรื่องของคูยะจนกลายเป็นงานอดิเรกไปซะแล้ว จากข้อมูลที่รวบรวมมา เธอมักจะหาเรื่องคุยกับคูยะทุกๆสิบวัน มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยความอึดอัดใจและเจ็บปวด แต่จริงๆแล้วคูยะมีความสามารถพิเศษที่สามารถเห็นอารมณ์ของคนเป็นสีต่างๆ เขาเลยรู้ถึงความรู้สึกที่ คุเรไนพยายามปิดซ่อนเอาไว้――! นี่คือเรื่องราวรักวุ่นๆ ระหว่างสาวเก่งที่ไม่กล้าเผยความในใจ กับหนุ่มผู้มีพลังพิเศษที่ไม่เชื่อในความรัก!

Options

not work with dark mode
Reset