บทที่ 568 หญิงเลว
บทที่ 568 หญิงเลว
เซี่ยชิงหยวนกำดินทรายไว้ในฝ่ามือ พลางปัดขากางเกงของเธอราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไม่มีอะไรค่ะ แค่ผูกเชือกรองเท้าน่ะ”
เธอลุกขึ้นยืนแล้วมองดูคนกลุ่มเล็ก ๆ สองสามคน ซึ่งรอรถอยู่ไม่ไกล ก่อนจะกุมท้องของตัวเองพร้อมส่งเสียง “อุ๊ย” ออกมาเบา ๆ
เถียนกุ้ยฟางรีบเข้ามายืนข้างกายเธอ “เป็นอะไรเหรอ?”
ท่าทีของเซี่ยชิงหยวนดูเขินอายเล็กน้อย “ฉันปวดท้องนิดหน่อยน่ะค่ะ”
เธอยิ้มให้เถียนกุ้ยฟาง “พี่สาวกุ้ยฟาง พี่ล่วงหน้าไปรอฉันก่อนนะคะ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำแล้วจะตามไป”
มีห้องน้ำสาธารณะซึ่งสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายอยู่ข้างจุดรอรถ โดยสร้างไว้ตรงหลังต้นไทรขนาดใหญ่ที่บดบังสายตาผู้คนเอาไว้บางส่วน
เถียนกุ้ยฟางไม่ได้สงสัยอะไร และเอ่ยตอบ “ได้สิ เธอตามสบาย ยังมีเวลาเหลืออยู่”
เอ่ยจบ เธอก็เดินไปรอที่จุดรอรถ
เซี่ยชิงหยวนเดินไปยังห้องน้ำสาธารณะด้วยความเงียบเชียบ และในตอนที่เธอเลี้ยวผ่านต้นไทรใหญ่ก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เหยียบลงบนใบไม้ที่ร่วงหล่นด้านหลัง
ลูกตาของเซี่ยชิงหยวนขยับเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งร่างของเธอจะหายไปในทันที
ฟู่ชุนไจ่ที่ตามมาข้างหลังตัวแข็งทื่อ พร้อมสงสัยอยู่ในใจว่าเธอไปไหนแล้ว?
เขาเดินวนเวียนอยู่รอบต้นไทรใหญ่ เซี่ยชิงหยวนหายไปเฉย ๆ กลางอากาศงั้นเหรอ?
“กำลังมองหาฉันอยู่เหรอ?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นข้างหลังเขา ฟู่ชุนไจ่หันมองไปโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะพบกับเศษดินปนทรายที่ประพรมลงบนใบหน้าของเขา
เขาหลบเลี่ยงไม่ทันจึงโดนเข้าอย่างจัง
ทันใดนั้น ดวงตาของฟู่ชุนไจ่ก็เจ็บแสบอย่างรุนแรง ชายหนุ่มรีบถอยกลับไปสองสามก้าวก่อนที่จะตั้งสติยืนให้มั่นได้
เซี่ยชิงหยวนค่อย ๆ เดินออกมาจากด้านข้างห้องน้ำพร้อมแท่งเหล็กในมือ และฟาดเข้าที่เอ็นร้อยหวายของฟู่ชุนไจ่
ความเจ็บปวดมาเยือนฟู่ชุนไจ่อีกครั้ง เขาส่งเสียงฟึดฟัด และคุกเข่าลงบนพื้น
เซี่ยชิงหยวนหยิบกุญแจมือแบบง่าย ๆ ซึ่งทำจากแถบไม้ไผ่ที่หัวหน้าเฉินมอบให้เธอออกมา และใช้โอกาสนี้ไพล่มือของฟู่ชุนไจ่ไปข้างหลังแล้วใส่กุญแจมือล่ามไว้กับต้นไม้
เธอเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ว่า “เอาละ บอกฉันมาซิว่านายตามฉันมาทำไม?”
ฟู่ชุนไจ่แสบตาอย่างยิ่ง และแม้ว่าเขาจะกะพริบตาอย่างสุดชีวิตก็ไม่อาจทำให้ก้อนกรวดออกไปได้
เมื่อเขาได้ยินเสียงของเซี่ยชิงหยวน จึงสบถด้วยเสียงต่ำ “ปล่อยฉันนะ!”
เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนจะตกหลุมพรางของสาวน้อยผู้งามหยาดเยิ้มเช่นนี้
เป็นเขาเองที่ประเมินอีกฝ่ายต่ำไป!
เซี่ยชิงหยวนตบขาเขาอีกครั้ง “ตอบคำถามของฉันมาก่อน”
เธอทำอย่างนี้ โดยที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจแต่ยังแกล้งถาม
ตอนนี้หญิงสาวพอเดาได้คร่าว ๆ แล้วว่าฟู่ชุนไจ่ต้องกลับมารวมตัวกับฉีจิ่นจืออีกครั้งโดยบังเอิญ และอยู่กับเขาในประเทศพม่า
ตามลักษณะนิสัยของฉีจิ่นจือแล้ว ฟู่ชุนไจ่ไม่น่าจะรู้ถึงภารกิจของเขา
ทว่านี่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความจริงที่ว่าฟู่ชุนไจ่ยังคงเป็นคนของฉีจิ่นจือ ซ้ำยังเป็นมือขวาของเขาในประเทศพม่าด้วยซ้ำ
เธอไม่สามารถทำร้ายใครได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว แม้ว่าฉีจิ่นจือจะไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย แต่การที่ฟู่ชุนไจ่ไม่กลับไปยังประเทศพม่าก็ยากจะหาเหตุผลมาปกปิดเรื่องนี้ได้
ด้วยเหตุนี้เธอจึงทำได้เพียงเล่นละครตามน้ำไปเพื่อทำให้ฟู่ชุนไจ่เชื่อว่าการพบกันของพวกเขาในวันนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องบังเอิญ
ฟู่ชุนไจ่ส่งเสียงฮึดฮัด “ฉันเห็นคนรู้จักก็เลยคิดจะเข้ามาทักทาย ใครจะรู้ว่าเธอกลับมาทำร้ายฉันเสียอย่างนั้น”
ถึงอย่างไร ตอนนี้เขาก็อยู่ในมือของเซี่ยชิงหยวน เขาย่อมไม่มีทางยอมรับว่าในใจตนนั้นคิดคร่าชีวิตของเธอเด็ดขาด
“อ้อ” เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าราวกับว่ายังมีเรื่องอื่นอีก
หญิงสาวขมวดคิ้ว “แต่ฉันจำไม่เห็นได้เลยว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นสนิทชิดเชื้อกันจนถึงจุดที่ต้องเข้ามาทักทายเมื่อพบหน้ากันนี่?”
เธอหยิบท่อนเหล็กขึ้นมาจ่อที่ไหล่เขา “ที่นายแอบย่องตามฉันมาซึ่งเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เพราะมีเจตนาแอบแฝงใช่ไหม?”
สีหน้าของฟู่ชุนไจ่พลันแปรเปลี่ยนไปอย่างยิ่งทันทีที่เขาได้ยินเซี่ยชิงหยวนพูดว่าเธอแต่งงานแล้ว
อาการแสบตาบรรเทาลงเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ส่งผลต่อน้ำตาและน้ำมูกที่ไหลออกมาจากความเจ็บปวดของเขาในตอนนี้แม้แต่น้อย
ดวงตาเล็กของเขาจ้องเขม็งไปที่เธอ แล้วเอ่ยว่า “เธอเป็นผู้หญิงของลูกพี่ แต่ไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง?”
เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินสิ่งนี้ ก็พลันเบิกบานใจ “ลูกพี่ของนายเป็นคนใครกันสำหรับฉัน? ทำไมฉันถึงจะแต่งงานกับคนอื่นไม่ได้ล่ะ?”
ฟู่ชุนไจ่ค่อนข้างไม่พอใจกับวาจาของเซี่ยชิงหยวน “เธอมันเป็นผู้หญิงที่มีตาหามีแววไม่ ลูกพี่ของฉันเป็นที่ชื่นชอบในสายตาของผู้หญิงคนอื่น ส่วนเธอน่ะเหรอ… ฮึ มีตาหามีแววไม่จริงๆ!”
เมื่อได้ยินฟู่ชุนไจ่ปกป้องฉีจิ่นจือ แทนที่เซี่ยชิงหยวนจะโกรธ แต่หญิงสาวกลับมีความสุขที่มีบุคคลเช่นนี้อยู่เคียงข้างฉีจิ่นจือ
เซี่ยชิงหยวนก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยด้วยสีหน้าจริงใจ “ฉันไม่สนใจว่าวันนี้นายจะตามฉันมาด้วยจุดประสงค์อะไร แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกนายก็คือในตอนนั้น เมื่อครั้งที่อยู่เมืองกว่างโจว พวกเราล้วนเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่พบกันโดยบังเอิญ และนั่นคือทั้งหมด ตอนนี้นายติดตามลูกพี่ของนาย นายก็ควรมีโลกของตัวเอง ส่วนฉันก็แต่งงานและมีลูกแล้ว และจะใช้ชีวิตของฉันอย่างสงบสุข ดังนั้นต่อจากนี้ไปหากเราบังเอิญพบกันบนท้องถนนก็ให้ทำเหมือนไม่รู้จักกันซะ เข้าใจไหม?”
เธอเงียบลงครู่หนึ่ง “บางครั้งสิ่งที่นายคิดว่าดีสำหรับเขา อาจไม่ใช่สิ่งที่เขายินดีเสมอไป แล้วทำไมไม่ทำสิ่งที่เขาต้องการเพื่อเขาแทนล่ะ? อีกอย่าง ผู้ชายที่เปิดเผยตรงไปตรงมาอย่างลูกพี่ของนายก็คงไม่อยากให้นายทำเรื่องเลวร้ายลับหลังเขาหรอก จริงไหม?”
ฟู่ชุนไจ่พลันกลัวที่จะมองตาของเซี่ยชิงหยวนขึ้นมา
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหลังจากไม่ได้เจอเธอเพียงสองสามปี ทำไมเธอถึงทำเหมือนรู้จักตัวเขาเองและฉีจิ่นจือเป็นอย่างดีอย่างนี้นะ?
เขาหันหน้าหนี พลางเอ่ยตอบด้วยเสียงอู้อี้ “ฮึ่ม ฉันไม่คิดอยากจะโต้เถียงกับผู้หญิงแบบเธอหรอก”
เธอตบเขาเบา ๆ “จำไว้ว่าเมื่อหากเราได้พบกันอีกครั้ง อย่าได้ทำเหมือนครั้งนี้อีก”
เอ่ยจบ หญิงสาวก็ตัดเชือกที่มัดมือฟู่ชุนไจ่อย่างรวดเร็ว
กว่าที่ฟู่ชุนไจ่จะตอบสนอง เซี่ยชิงหยวนก็เดินห่างออกไปหลายสิบเมตรแล้ว คิดอยากจะตามเธอต่อก็คงเป็นไปไม่ได้
เซี่ยชิงหยวนโบกมือให้เขาราวกับว่าเธอมีตาอยู่ด้านหลัง “อะไรที่คิดอยู่ในใจน่ะเลิกคิดซะ ติดตามลูกพี่ของนายอย่างสบายใจเถอะ ส่วนเราสองคนอย่าได้เจอกันอีกเลยจะดีกว่า”
ฟู่ชุนไจ่มองไปยังแผ่นหลังของเซี่ยชิงหยวน และจมอยู่กับความคิดอยู่ครู่หนึ่ง
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ตบหัวตัวเอง “ให้ตายสิ เธอพูดราวกับว่ารู้ว่าลูกพี่ยังมีชีวิตอยู่!”
เขาคิดย้อนกลับไปว่าทุกครั้งที่เขาถามถึงช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่ฉีจิ่นจือหายตัวไป ลูกพี่ของเขามักจะเงียบและบอกว่ามันไม่สำคัญ
ถ้าอย่างนั้น เป็นไปได้ไหมว่าฉีจิ่นจือได้กลับมาพบกับเซี่ยชิงหยวนอีกครั้ง และถูกเธอทำให้เจ็บช้ำ?
เธอแต่งงานกับคนอื่น ทำให้ฉีจิ่นจือสะเทือนใจจนกลายเป็นแบบนี้?
เขาสูดน้ำมูก ก่อนจะถุยน้ำลายลงบนพื้น “หญิงเลว!”
หากแต่หลังจากเรื่องในครั้งนี้ ทำให้เขาไม่กล้าลงมือต่อต้านเซี่ยชิงหยวนอย่างโง่ ๆ อีก
ฝีมือของเธอดีกว่าเขาเสียด้วยซ้ำไป!
วิชากังฟูแบบนั้นไม่แน่ว่าอาจได้เรียนรู้มาจากลูกพี่ของเขา ก่อนจะนำมาใช้กับลูกน้องของลูกพี่ในท้ายที่สุด
น่ารังเกียจ!
ในตอนที่เซี่ยชิงหยวนเดินกลับมา เถียนกุ้ยฟางก็มองไปรอบ ๆ พลางยกยิ้มให้ “ฉันกังวลว่าเธอจะไม่สบายจนเป็นลมหมดสติไปในห้องน้ำซะแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนผลิยิ้ม “ใช้เวลานานอยู่สักหน่อยน่ะค่ะ”
เธอมองไปในทิศทางที่รถแทรกเตอร์มาและเอ่ยอย่างสบาย ๆ ว่า “บังเอิญไปเจอลิงป่าเข้า เลยทำให้ล่าช้าน่ะ”
ฟู่ชุนไจ่ซึ่งถูกเซี่ยชิงหยวนเรียกว่า ‘ลิงป่า’ พลันจามออกมาด้วยความน้อยใจ “ฮัดชิ้ว!”
วันนี้เป็นวันที่ซวยสุด ๆ ไปเลย!
เขาพึมพำพลางสบถในขณะที่เดินไปยังสถานที่นัดพบ
ทว่าจู่ ๆ เขาก็พบกับฉีจิ่นจือ ซึ่งยืนรอเขาอยู่ข้างถนน
ฟู่ชุนไจ่พลันหวาดกลัวจนแทบเสียสติ “ลูก.. ลูกพี่”