สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 263 ต้องการเจ้ายิ่งนัก (รีไรท์)

ตอนที่ 263 ต้องการเจ้ายิ่งนัก (รีไรท์)

“เซวียน​ ไม่”

เมื่อ​รับรู้​ว่า​ตน​ถูก​ชายหนุ่ม​อุ้ม​มาที่​เก้าอี้นวม​ยาว​ และ​ร่างกาย​ของ​ชายหนุ่ม​กด​ทับ​อยู่​บน​ร่าง​เธอ​

ลมหายใจ​ดุดัน​ที่​กระจาย​ออก​มาจาก​กาย​ชายหนุ่ม​ และ​กลิ่น​ความปรารถนา​อัน​เข้มข้น​ ทำให้​ซินเอ๋อร์​หวาดกลัว​ใน​ใจ

เมื่อ​รู้สึก​ว่า​ตน​คล้าย​กระต่าย​น้อย​ที่​ถูกจับ​โดย​สัตว์ร้าย​ที่​หลับใหล​มากว่า​หมื่น​ปี​ และ​ต้อง​ถูก​สัตว์ร้าย​ตัว​นี้​กลืน​กิน​จน​ไม่เหลือ​ชิ้น​ดี​ ทำให้​ซินเอ๋อร์​หวาดกลัว​ จน​อด​ยื่นมือ​ผลัก​หน้าอก​แกร่ง​ของ​ชายหนุ่ม​ไว้​ เพื่อ​ไม่ให้​เขา​วู่วาม​เข้ามา​

แต่​สำหรับ​ความหวาดกลัว​ ตกใจ​ สับสน​ของ​ซินเอ๋อร์​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​เพียง​ยื่นมือ​ใหญ่​รัด​มือ​เล็ก​ของ​ซินเอ๋อร์​ไว้​แน่น​ ก่อน​จะออกแรง​ดึง​สอง​มือ​ซินเอ๋อร์​ขึ้น​เหนือศีรษะ​ของ​เธอ​

ก่อน​ยืด​ร่างกาย​ท่อน​บน​ขึ้น​เล็กน้อย​ ใบหน้า​เปี่ยม​ด้วย​ความ​ไฟปรารถนา​และ​เสน่ห์​อัน​ดิบ​เถื่อน​จ้อง​ตรง​ไป​ที่​ซินเอ๋อร์​ เผยอ​ริมฝีปาก​แดง​เอ่ย​อย่าง​แหบ​พร่า​ขึ้น​

“ซินเอ๋อร์​ เจ้างดงาม​จริงๆ​!”

คำพูด​ที่​ชายหนุ่ม​เอ่ย​คือ​ความจริง​

เห็น​เพียง​เวลานี้​หญิงสาว​ที่นอน​อยู่​ใต้​ร่าง​เขา​ เส้น​ผม​ดำ​ดุจ​หมึก​ยุ่งเหยิง​เล็กน้อย​ แต่​ยิ่ง​งดงาม​

ใบหน้า​เล็ก​ประณีต​นั้น​ งดงาม​โดดเด่น​กว่า​คน​ทั่วไป​

ดวงตา​วิบวับ​กระจ่าง​ใสคู่​นั้น​ ดุจ​บ่อน้ำ​ใสสะอาด​ที่สุด​บน​โลก​ เปล่งประกาย​และ​ไร้เดียงสา​ ทำให้​คน​ที่​เห็น​ใจเต้น​อย่าง​รุนแรง​

และ​ริมฝีปาก​ชุ่มฉ่ำคู่​นั้น​ ถูก​ตน​จุมพิต​จน​แดงก่ำ​และ​บวม​เป่ง​ ทำให้​ผู้คน​เกิด​ความสงสาร​ขึ้น​มาอย่าง​ไร้เหตุผล​

เห็น​เช่นนั้น​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​รู้สึก​เพียง​เลือด​ทั่ว​ร่างกาย​ตน​ต่าง​กำลัง​เดือด​พล่าน​ขึ้น​มา

เขา​ต้องการ​มาก​จริงๆ​ ต้องการ​เธอ​

“ซินเอ๋อร์​ ข้า​…”

“จ๊อก​ๆ”

หลัง​คำพูด​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ มีเสียง​ภายใน​ท้อง​ซินเอ๋อร์​ดัง​ขึ้น​มา

เมื่อ​ได้ยิน​ ทั้งสอง​คน​พลัน​ตะลึงงัน​ ภายใน​ห้อง​ก็​กลับมา​เงียบงัน​

หลังจากนั้น​ เมื่อ​ซินเอ๋อร์​ได้สติ​ รู้สึก​เพียง​สมอง​เกิด​เสียง​ ‘ตูม​’ ขึ้น​ ทันใดนั้น​ไอ​ความร้อน​ทะลัก​จาก​ใน​ใจพุ่ง​สู่เหนือศีรษะ​อย่าง​รวดเร็ว​

สวรรค์​!

น่าอับอาย​ยิ่งนัก​!

เหตุใด​ท้อง​ของ​เธอ​จึงดัง​ขึ้น​มาเวลานี้​!

ซินเอ๋อร์​หงุดหงิด​ใน​ใจ บน​ใบหน้า​ยิ่ง​ดู​เขินอาย​มากยิ่งขึ้น​

สีแดง​เข้า​ปกคลุม​บน​ใบหน้า​เล็ก​ของ​ซินเอ๋อร์​อย่าง​รวดเร็ว​ ทำให้​ใบหน้า​เล็ก​แดงก่ำ​ ดุจ​มะเขือเทศ​ที่​เพิ่ง​สุกงอม​

เห็น​เช่นนั้น​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ทราบ​ดี​ว่า​ซินเอ๋อร์​เขินอาย​ แต่กลับ​ยัง​อด​หัวเราะ​ลั่น​ไม่ได้​

แม้จะไม่สามารถ​ทำ​เรื่อง​ที่​เขา​ชอบ​ทำได้​อีกต่อไป​ แต่​มองเห็น​ท่าทาง​เขินอาย​ของ​คนใต้​ร่าง​ ทำให้​เขา​อารมณ์ดี​อย่างยิ่ง​ พร้อม​ชำระล้าง​ความ​มืดมน​ใน​หลาย​วัน​ที่ผ่านมา​ไป​

“เซวียน​ ท่าน​หยุด​หัวเราะ​เดี๋ยวนี้​ ห้าม​หัวเราะ​!”

เมื่อ​เห็น​ชายหนุ่ม​หัวเราะ​สดใส​ ซินเอ๋อร์​เขินอาย​จน​แทบ​อยาก​แทรกแผ่นดิน​หนี​

สวรรค์​ น่าอับอาย​ยิ่งนัก​!

ซินเอ๋อร์​เขินอาย​ใน​ใจ พลัน​สะบัดมือ​ใหญ่​ชายหนุ่ม​ออก​ ก่อน​ใช้มือ​เล็ก​ปิดปาก​ที่​กำลัง​หัวเราะ​ของ​ชายหนุ่ม​ทันที​

สำหรับ​ความ​เขินอาย​ของ​สาวน้อย​ซินเอ๋อร์​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​หัวเราะ​เพียง​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะหยุด​ลง​อย่าง​เชื่อฟัง​

เพราะ​เขา​รู้ดี​ว่า​สาวน้อย​ตรงหน้า​หน้าบาง​ หาก​หัวเราะ​ต่อไป​ เธอ​จะโกรธเคือง​เพราะ​เขินอาย​

พอ​คิดถึง​ตรงนี้​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ดึง​มือ​เล็ก​ของ​ซินเอ๋อร์ลง​ ก่อน​จุมพิต​ที่​ฝ่ามือ​ของ​เธอ​ และ​เอ่ย​อย่าง​ยิ้มแย้ม​

“ได้​ๆ ข้า​ไม่หัวเราะ​แล้ว​ มา อาหารเช้า​เย็น​หมด​แล้ว​ พวกเรา​ทาน​กัน​ก่อน​ ประเดี๋ยว​ข้า​จะพา​เจ้าไป​สถานที่​ที่​น่าสนุก​แห่ง​หนึ่ง​!”

“สถานที่​น่าสนุก​หรือ​!”

ซินเอ๋อร์​ได้ยิน​พลัน​แปลกใจ​

“สถาน​ที่ใด​หรือ​!”

เมื่อ​เห็น​สีหน้า​แปลกใจ​ของ​ซินเอ๋อร์​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​กลับ​ตั้งใจ​หลอกล่อ​ ยิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​

“ประเดี๋ยว​เจ้าก็​รู้​เอง​!”

อาหารเช้า​ครบครัน​อย่างยิ่ง​ และ​ยัง​รส​อ่อน​

เพราะ​หลาย​วันนี้​ซินเอ๋อร์​ลำบาก​มาไม่น้อย​ และ​ยัง​ล้ม​ป่วย​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​จึงให้​ทาง​ห้องครัว​ทำอาหาร​รส​เลิศ​และ​เหมาะกับ​ซินเอ๋อร์​

ดังนั้น​ทาง​ห้องครัว​จึงลงมือ​ทำอาหาร​มาหนึ่ง​โต๊ะ​ใหญ่​ ซินเอ๋อร์​เห็น​จึงพูดไม่ออก​ หัว​คิ้ว​พลัน​ขมวด​เป็น​ปม​ ก่อน​เอ่ยปาก​ขึ้น​

“เซวียน​ พวกเรา​เพียง​สอง​คน​ เหตุใด​จึงมีอาหาร​มากมาย​เช่นนี้​!”

“เอาล่ะ​ ต้องโทษ​ข้า​ ต่อไป​ข้า​จะไม่ให้​ทาง​ห้องครัว​ทำอาหาร​เยอะ​เช่นนี้​แล้ว​ มา ไม่พูด​เรื่อง​นี้​กัน​ดีกว่า​ เจ้าหิว​มิใช่หรือ​ รีบ​ทาน​กัน​เถิด​!”

เห​ลิ่งอวี้เซวียน​เอ่ย​จบ​ อด​คีบ​อาหาร​ให้​ซินเอ๋อร์​ด้วย​ตนเอง​ไม่ได้​

ซินเอ๋อร์​ก็​หิวโหย​อย่าง​หนัก​

เพราะ​หลาย​วัน​มานี้​ เธอ​ทาน​ไม่อิ่ม​ นอนไม่หลับ​ จึงผอม​ลง​อย่าง​มาก​ ตอนนี้​เมื่อ​เห็น​อีก​ฝ่าย​ลงมือ​ จึงเริ่ม​ทาน​อย่าง​ไม่เกรงใจ​

หลัง​ทาน​ไป​พอประมาณ​ ซินเอ๋อร์​คล้าย​ฉุกคิด​ขึ้น​มาได้​ จึงเงยหน้า​เอ่ย​ถามเห​ลิ่งอวี้เซวียน​

“จริง​สิ เซวียน​ เสี่ยว​จื่อ​ที่มา​กับ​ข้า​ เธอ​คือ​น้องสาว​ของ​พี่​อา​หนิ​ว​ ตอนนี้​เธอ​เป็น​เช่นไร​ ปลอดภัย​หรือไม่​!”

เพียง​นึกถึง​คืน​นั้น​สับสนวุ่นวาย​อย่างยิ่ง​ เธอ​และ​เสี่ยว​จื่อ​แทบ​เจอ​กับ​หายนะ​

โชคดี​ที่​เซวียน​ปราก​ฎตัว​ขึ้น​ทันเวลา​

ต่อมา​เธอ​รู้​เพียง​เซวียน​จัด​ให้​เสี่ยว​จื่อ​นั่ง​รถม้า​คัน​ท้ายสุด​ เรื่อง​อื่น​เธอ​ไม่แน่ชัด​

เวลานี้​นึก​ขึ้น​ได้​ ซินเอ๋อร์​จึงรีบร้อน​เอ่ย​ถาม

เพราะ​จะพูด​เช่นไร​ เสี่ยว​จื่อ​คือ​เพื่อนบ้าน​ของ​เธอ​ เป็น​น้องสาว​ของ​พี่​อา​หนิ​ว​

ความสัมพันธ์​ของ​พวก​เธอ​ปกติ​ไม่เลว​ เธอ​ก็​เห็น​เสี่ยว​จื่อ​เป็น​น้องสาว​คน​หนึ่ง​ หาก​เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​เสี่ยว​จื่อ​ เธอ​คง​เสียใจ​อย่าง​มาก​

ขณะ​ซินเอ๋อร์​คิดในใจ​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ด้าน​ข้างหลัง​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ของ​เธอ​ ก้มหน้า​ลง​ครุ่นคิด​ ก่อน​เอ่ยปาก​ขึ้น​

“โอ​ เจ้าหมายถึง​เด็กสาว​ผู้​นั้น​หรือ​ ข้า​ให้​คน​ส่งตัว​เธอ​กลับบ้าน​แล้ว​ เรื่อง​นี้​เจ้าวางใจ​ได้​”

“อืม​ เช่นนั้น​ก็ดี​”

เมื่อ​ได้ยิน​ ซินเอ๋อร์​คลายใจ​ลง​

แต่​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ กลับ​คล้าย​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ สีหน้า​เคร่งขรึม​ลง​ และ​เอ่ย​ถามอย่าง​ไม่พอใจ​

“เสี่ยว​จื่อ​ผู้​นั้น​ เจ้าคล้าย​ห่วง​ใจเธอ​มาก​ทีเดียว​ เป็น​เพราะ​เธอ​คือ​น้องสาว​ของ​พี่​อา​หนิ​ว​ที่​เจ้าชอบ​เอ่ยถึง​หรือ​ ดังนั้น​เจ้าจึงห่วงใย​เช่นนี้​!”

พอ​เอ่ยถึง​ตรงนี้​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ไม่รู้​ว่า​ท่าทาง​เวลานี้​ของ​ตน​ คล้าย​สามีที่​กำลัง​หึงหวง​ผู้​หนึ่ง​ สายตา​ที่​มอง​ซินเอ๋อร์​เปี่ยม​ด้วย​ความไม่พอใจ​

สำหรับ​ความรู้สึก​ขาด​การไตร่ตรอง​ของ​ซินเอ๋อร์​ หลัง​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ และ​เห็น​สีหน้า​แปลกประหลาด​ของ​เขา​ ทันใดนั้น​กลับ​ไม่รู้​ไม่เข้าใจ​แม้แต่น้อย​ ทว่า​เธอ​ยัง​กระพริบตา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​ขึ้น​

“ข้า​เป็นห่วง​เสี่ยว​จื่อ​ นั่น​สมควร​ เพราะ​เธอ​คือ​บุตรสาว​ของ​เพื่อนบ้าน​ข้า​ เป็น​ของ​สาว​ของ​พี่​อา​หนิ​ว​ หลาย​ปี​มานี้​ ครอบครัว​ของ​พวกเรา​ถือว่า​มีความสัมพันธ์​ที่​ไม่เลว​ ข้า​ก็​เห็น​เธอ​เปรียบเสมือน​น้องสาว​คน​หนึ่ง​ ดังนั้น​จึงห่วงใย​เช่นนี้​”

พอ​เอ่ยถึง​ตรงนี้​ ซินเอ๋อร์​คล้าย​ฉุกคิด​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ ก่อน​ดวงตา​จะมืดมน​ลง​ และ​เอ่ย​เบา​ๆ ขึ้น​

“ตอน​มารดา​ข้า​เสีย​ ข้า​เพิ่ง​อายุ​สิบสอง​ น้องชาย​ยัง​เล็ก​ ตอนนั้น​พวกเรา​ไม่มีเงิน​แม้แต่​อีแปะ​เดียว​ ข้า​หิว​จนตาย​ไม่เป็นไร​ แต่​น้องชาย​ข้า​จะทำ​เช่นไร​ เขา​ยัง​เล็ก​ไม่ถึงสอง​ขวบ​ด้วยซ้ำ​ ข้า​จึงอุ้ม​น้องชาย​ที่​เอาแต่​ร้องไห้​โยเย​เพราะ​หิว​ ต่อมา​มารดา​ของ​พี่​อา​หนิ​ว​ก็​เข้ามา​ มอบ​ของกิน​ให้​พวกเรา​ และ​ยัง​ลำบาก​ตามหา​ร้อง​วัวนม​จาก​ผู้อื่น​ ทุกวัน​จะไป​รีดนม​ให้​กับ​น้องชาย​ข้า​ดื่ม​ มิฉะนั้น​ข้า​และ​น้องชาย​คง​หิว​ตาย​ไป​แล้ว​ ดังนั้น​ชีวิต​ของ​ข้า​และ​น้องชาย​ ต่าง​เป็น​ครอบครัว​ของ​พี่​อา​หนิ​ว​ช่วยเหลือ​ไว้​”

ซินเอ๋อร์​เอ่ย​อย่าง​แผ่วเบา​ อาจ​เพราะ​นึกถึง​เรื่องราว​โหดร้าย​ที่ผ่านมา​ ภายใน​ดวงตา​ค่อยๆ​ ปกคลุม​ด้วย​ไอ​หมอก​

ละออง​น้ำ​ที่​แวววาว​ใสกระจ่าง​นั้น​ เกลือกกลิ้ง​ไปมา​ใน​ดวงตา​เธอ​ไม่หยุด​ ทำให้​คน​มอง​ปวดใจ​ขึ้น​มา

เห​ลิ่งอวี้เซวียน​เห็น​เช่นนั้น​ คิ้ว​กระบี่​ขมวด​มุ่น​ สายตา​ที่​มอง​ซินเอ๋อร์​แฝงด้วย​ความสงสาร​อย่าง​ไร้​ที่​เปรียบ​

เพราะ​แม้เขา​จะรู้​ว่า​หลาย​ปี​มานี้​ซินเอ๋อร์​ลำบาก​อย่าง​มาก​ แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​จะน่าสลดใจ​กว่า​ที่​เขา​คาดคิด​ไว้​

และ​ซินเอ๋อร์​ก็​ไม่เคย​เอ่ย​เรื่อง​ที่ผ่านมา​ของ​เธอ​ เธอ​ไม่เอ่ย​ เขา​จึงไม่ถาม เพื่อ​เลี่ยง​ไม่ทำให้​เธอ​เสียใจ​

เวลานี้​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​ของ​ซินเอ๋อร์​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​รู้สึก​เพียง​ใจถูก​มีด​ทิ่มแทง​

นึกถึง​หลาย​ปี​มานี้​ ซินเอ๋อร์​ใช้ชีวิต​อย่าง​ยากลำบาก​เช่นนั้น​ เธอ​เป็น​เพียง​หญิงสาว​บอบบาง​ร่าง​น้อย​ ไม่สามารถ​ทำงานหนัก​ แต่กลับ​ต้อง​ประสบ​กับ​ความ​เศร้าโศก​มาก​ขนาด​นี้​

พอ​คิดถึง​ตรงนี้​ ใจของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ปวดแปลบ​อย่าง​ทรมาน​

ทันใดนั้น​ยื่น​แขน​รวบ​ร่าง​เล็ก​บอบบาง​ของ​ซินเอ๋อร์​เข้าสู่​อ้อมกอด​ของ​ตน​ไว้​แน่น​

“ซินเอ๋อร์​ อย่า​เสียใจ​เลย​ เรื่อง​พวก​นั้น​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ต่อไป​หาก​มีข้า​อยู่​ ข้า​จะไม่ให้​เจ้าลำบาก​แม้แต่​นิดเดียว​ ข้า​จะทำให้​ชีวิต​เจ้าดีขึ้น​ ทำให้​ทุกวัน​ของ​เจ้ามีแต่​ความสุข​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​เต็มไปด้วย​ความ​ปวดใจ​ของ​ชายหนุ่ม​ ซินเอ๋อร์​รู้สึก​เพียง​อบอุ่น​ใน​ใจ จมูก​แสบร้อน​ น้ำตา​สอง​สาย​พลัน​ล้น​ทะลัก​ออก​มาจาก​ดวงตา​ของ​เธอ​

อาจ​เพราะ​หลาย​ปี​มานี้​ เธอ​ใช้ชีวิต​อย่าง​ยากลำบาก​มาก​จริงๆ​

หลาย​ปี​นี้​เธอ​ไร้ญาติขาดมิตร​ ผ่าน​ความ​เศร้าโศก​มากมาย​ แม้จะลำบาก​อย่าง​มาก​ เพราะ​เป็น​พี่สาว​ ดังนั้น​เธอ​จึงต้อง​กัดฟัน​สู้

ความจริง​เธอ​หวัง​อย่าง​มาก​ที่จะ​เป็น​ดังเช่น​เด็กสาว​อื่นๆ​ มีบิดา​มารดา​ปกป้อง​ไป​จน​เติบใหญ่​อย่าง​มีความสุข​ แต่​สิ่งเหล่านี้​ สำหรับ​เธอ​เป็น​เพียง​สิ่งเพ้อฝัน​

ความจริง​คิด​ว่า​ชั่วชีวิต​นี้​ของ​เธอ​ ต้อง​ใช้ชีวิต​เช่นนี้​ต่อไป​ แต่​ชาย​ผู้​นี้​กลับ​ปราก​ฎตัว​ขึ้น​

หรือ​สวรรค์​จะเห็น​เธอ​น่าสงสาร​ จึงตั้งใจ​ส่งชาย​ผู้​นี้​มาช่วยชีวิต​เธอ​

เรื่อง​เหล่านี้​ ซินเอ๋อร์​เอง​ก็​ไม่ทราบ​

เวลานี้​เธอ​เพียง​นำ​ความ​ไม่เป็นธรรม​ที่เก็บ​ซ่อน​ไว้​ใน​ใจระบาย​ออกมา​

น้ำตา​นั้น​ คล้าย​ไม่มีที่​สิ้นสุด​ ไหลริน​ลงมา​อย่าง​ไม่รู้​จบ​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​จึงมอง​อย่าง​ปวดใจ​

ทว่า​เวลานี้​เขา​ก็​รู้​ว่า​สิ่งที่​ตน​สามารถ​ทำได้​ คือ​มอบ​อ้อมกอด​อัน​อบอุ่น​ให้​แก่​ซินเอ๋อร์​ ปล่อย​ให้​เธอ​ระบาย​ออกมา​

มือ​ใหญ่​เรียว​ยาว​นั้น​ ตบ​เบา​ๆ ลง​บน​ไหล่​เล็ก​ของ​ซินเอ๋อร์​ ก่อน​เอ่ย​ปลอบโยน​อย่าง​แหบ​พร่า​

“เด็กดี​ ซินเอ๋อร์​ ต่อไป​ไม่ว่า​ที่ใด​ล้วน​มีข้า​อยู่​”

“ฮือ​ๆ เซวียน​ ท่าน​ เหตุใด​ท่าน​ถึงดี​กับ​ข้า​เช่นนี้​!”

สำหรับ​คำ​ปลอบโยน​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ ทำให้​ซินเอ๋อร์​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​ แต่กลับ​สงสัย​อย่าง​มาก​

เธอ​ไม่เชื่อ​ คน​สอง​คน​ที่​ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน​มาก่อน​ จะดี​กับ​เธอ​ขนาด​นี้​

อาจ​เพราะ​รับรู้​ถึงความสงสัย​ของ​ซินเอ๋อร์​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​จึงเพียง​ยิ้ม​ที่​มุมปาก​

“ข้า​บอก​ไป​แล้ว​มิใช่หรือ​ ความจริง​เมื่อนานมาแล้ว​ พวกเรา​เคย​รู้จัก​กัน​ ทว่า​เจ้าลืมเลือน​ไป​แล้ว​เท่านั้น​!”

เพียง​นึกถึง​ช่วง​วัยเยาว์​ ดวงตา​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ปราก​ฎความอบอุ่น​ขึ้น​มา มุมปาก​ก็​ค่อยๆ​ ยก​ยิ้ม​ขึ้น​

รอยยิ้ม​ที่​มุมปาก​นั้น​ ทำให้​ดู​น่าหลงใหล​

ซินเอ๋อร์​มอง​ชายหนุ่ม​ที่​ยิ้ม​คล้าย​นึกย้อน​ถึงความทรงจำ​บางอย่าง​ด้วย​น้ำตา​ จน​ลืม​ร้องไห้​ เพียง​กระพริบตา​เต็มไปด้วย​น้ำตา​ ครู่หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​ถามขึ้น​

“แต่​ พวกเรา​รู้จัก​กัน​ตั้งแต่​เมื่อใด​หรือ​ เหตุใด​ข้า​จึงลืมเลือน​ ท่าน​บอก​ข้า​ได้​หรือไม่​!”

“ฮ่า ๆ หาก​ตอนนี้​บอก​กับ​เจ้า คง​ไร้​ความหมาย​ ข้า​ต้องการ​ให้​เจ้าลอง​คิด​ให้​ดี​ คิด​ขึ้น​มาด้วยตัวเอง​”

สำหรับ​เรื่อง​นี้​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​จริงจัง​อย่างยิ่ง​

ทันใดนั้น​ นึก​บางสิ่ง​ขึ้น​มาได้​ จึงดึง​มือ​เล็ก​ของ​ซินเอ๋อร์​ พร้อม​เอ่ยปาก​ว่า​

“ไป​ ข้า​จะพา​เจ้าไป​ที่​แห่ง​หนึ่ง​”

………………………………………………………………………………….

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

Score 10
Status: Completed

จู่ๆ ‘เล่อเหยาเหยา’ เด็กสาวที่ข้ามเวลามาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

ฟื้นขึ้นมาในร่างของผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นขันที ใช้ชีวิตอยู่ในยุคเทียนหยวนที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์

แถมยังได้รับหน้าที่ปรนนิบัติ ‘เหลิ่งจวิ้นอวี๋’ ท่านอ๋องแห่งวังรุ๋ยอ๋อง

ผู้ที่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แย้มยิ้มสนทนาขณะสังหารคนโดยไม่กะพริบตา จนทุกคนต่างขนานว่า ‘พญายม’

ทั้งยังมีเสียงเล่าลือกันอีกว่า รุ่ยอ๋องคนนี้เกลียดชังผู้หญิง ชนิดที่ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้เกินห้าก้าว!

ทว่า วันหนึ่งพญายมเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมา

เธอจะทำเช่นไร เพื่อรักษาชีวิต และความลับที่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ ‘ผู้หญิง’

…รวมไปถึง เรื่องที่จู่ๆ ผู้หญิงในร่างขันทีน้อยคนนี้เกิดตั้งครรภ์โดยไม่คาดคิดได้เสียนี่!

สวรรค์! ได้โปรดให้ฟ้าผ่าแล้วพาเธอกลับไปโลกเดิมที!

Options

not work with dark mode
Reset