ตอนที่ 515 รายงานดีไหมนะ / ตอนที่ 516 กลัวจะถูกหลอกไป
ตอนที่ 515 รายงานดีไหมนะ
อยู่บ้านตระกูลตี้อู่หนึ่งอาทิตย์มู่เถาเยา ลู่จือฉิน พวกหยวนเหยี่ย ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลตี้อู่ และครอบครัวตี้อู่ลู่น่าก็ยกโขยงกันไปเมืองเย่ว์ตู
หลังจากหารือเรื่องช่วงเวลาจัดงานแต่งเสร็จตี้อู่เหลียนจิงก็ไปดูบ้านอย่างอารมณ์ดี
มู่เถาเยากับลู่จือฉินอาศัยช่วงที่อยู่เมืองเย่ว์ตูนี้ไปตรวจอาการของหวังต้าฟาที่ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงกับลูกสาว รวมถึงสองพ่อลูกหวังซูเหยาที่เปลี่ยนไต
เมื่อแน่ใจว่าพวกเขาฟื้นฟูร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็ไปส่งพวกคนแก่กับเด็กกลับหมู่บ้านเถาหยวนซาน
สองผู้อาวุโสของตระกูลตี้อู่ก็ตามไปด้วย
กลับจากฉลองตรุษจีน จั่วฮั่วกับภรรยาพาอาทั้งสองคนของพวกเขามาหมู่บ้านเถาหยวนซานด้วย หรือก็คือปู่รองทั้งสองของจั่วอีเหิง
หมู่บ้านเถาหยวนซานบรรยากาศดี คนแก่ทั้งสองมาที่นี่อาจช่วยต่ออายุที่ไม่รู้จะหมดลงเมื่อไรได้
มู่เถาเยาเลยถือโอกาสชวนสองผู้อาวุโสตระกูลน่าหลานมาด้วย
เวลานี้สี่ตระกูลปลีกวิเวกได้มารวมตัวกันอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานแล้ว
อยู่บ้านจนถึงปลายเดือนมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนก็เตรียมไปเมืองหลวง
เจ้าขาวปุยอยากตามไปด้วย แต่ตี้อู๋เปียนบอกมันว่าเมืองหลวงไม่มีป่าแบบป่าเซียนโหยว ไม่มีสัตว์แบบฝูงม้าป่า และก็ไม่มีผลไม้กับดอกไม้แสนอร่อย ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเด็กๆ เล่นกับมัน…ต้องถูกขังอยู่ในบ้านรอตอนเย็นมู่เถาเยากลับมาเล่นด้วย
เจ้าตัวน้อยช็อกมาก จำต้องยอมอยู่ที่นี่ เพราะทุกวันมันต้องไปเขตป่าชั้นในกินผลไม้ดอกไม้ ไปเขตป่าชั้นนอกเล่นกับพวกฝูงม้า
จิ้งจอกน้อยก็ย่อมต้องอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานเช่นกัน
ตกลงกับพวกเด็กๆ และพวกสัตว์เสร็จมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนก็พาเสี่ยวเหยี่ย ไป๋เสวี่ย รวมถึงตี้อู่ลู่น่ากับสามี ครอบครัวตี้อู๋เสียทั้งสามคนกลับเมืองหลวง
โค้ชเถียนดีใจขนาดไหนคงไม่ต้องบอก
มู่เถาเยา “โค้ชคะ หนูขอฝึกศิลปะบังคับม้าหนึ่งอาทิตย์ก่อน จากนั้นค่อยเป็นยกน้ำหนัก ยิงปืน ยิงธนู กรีฑา เรือใบ วนไปแบบนี้นะคะ”
“ได้สิ แล้วแต่เธอเลย ตอนเย็นกินข้าวกับพวกโค้ชไหม”
“ค่ะ มากินบ้านหนูไหมคะ”
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย บ้านเธอเล็กไป”
โค้ชเถียนยิ้มพูด “ไม่งั้นไปบ้านโค้ชดีกว่า บ้านโค้ชอยู่ตรงกลาง ใครๆ ไปมาก็สะดวก”
มู่เถาเยาย่อมไม่คัดค้าน
นัดเวลากินข้าวกันเสร็จมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนก็กลับบ้านที่มีสามห้องนอนที่มู่เถาเยาซื้อไว้ใกล้กับมหาวิทยาลัยวิศวกรรมสารสนเทศเหยียนหวง
ตี้อู๋เปียนตามไปนั่งที่โซฟาด้วย ถามอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ “ซาลาเปาน้อย จะไม่ไปพักที่ตำหนักพระจันทร์จริงเหรอ”
“ไม่ล่ะ ที่นี่ใกล้ศูนย์ฝึกขี่ม้า ฉันกับพี่หร่วนเหวินพักที่นี่ดีกว่า”
หร่วนเหวินยิ้มพูด “คุณชายตี้วางใจได้ค่ะ พี่ทำอาหารเป็น หัวหน้าเผ่าน้อยไม่อดตายแน่นอนค่ะ”
มู่เถาเยาทิ้งหยางฮุ่ยไว้ที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน เพราะจางซุ่นเฟิงก็อยู่ที่นั่น เธอไม่อยากพรากคู่รัก
ตี้อู๋เปียนลอบถอนหายใจ หร่วนเหวินไม่ได้รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
เวลาซาลาเปาน้อยไปฝึกตามปกติเขาคงไม่ตามไปด้วย เพราะใบหน้าของเขาเหมือนพ่อไม่มีผิดเพี้ยน เดี๋ยวจะทำคนอื่นเกร็งไปหมด
เธอไม่พักตำหนักพระจันทร์แล้วเขาจะเจอเธอได้ยังไง ให้ไปเจอตอนฝึกเสร็จทุกวันงั้นเหรอ
ไม่ แค่นั้นมันไม่พอหรอก!
ตี้อู๋เปียนครุ่นคิดสักพักก็นึกขึ้นได้วิธีหนึ่ง “ซาลาเปาน้อย สอนแปลงโฉมหน่อยสิ”
แบบนี้เขาก็ตามเธอไปสนามฝึกได้แล้ว!
เขาไม่อยากใช้สมุนไพรแปลงโฉมออกมาขี้เหร่แบบคราวก่อนอีกแล้ว!
“พี่สามหายดีแล้ว วิทยายุทธก็ดี อยากไปไหนไม่จำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ ทำไมถึงยังอยากเรียนแปลงโฉมอีกล่ะคะ”
“บางครั้งมันไม่สะดวก”
มู่เถาเยาครุ่นคิดแล้วพยักหน้า “ได้ค่ะ งั้นรอตอนเย็นพี่อีเหิงกลับมาฉันจะขอยืมอุปกรณ์จำเป็นมาสอนให้”
ได้วิชาแถมยังได้อาศัยอยู่ด้วย ยิงปืนหนึ่งนัดได้นกสองตัว!
ทำไมเราถึงได้ฉลาดขนาดนี้นะ!
กดไลก์ให้ตัวเองหน่อยซิ!
“เอ่อ บ้านฉันเล็ก พี่สามอยู่ได้เหรอ”
ขนาดห้องของบ้านหลังนี้เล็กกว่าห้องที่หมู่บ้านเถาหยวนซานสองเท่า ยิ่งไม่ต้องเทียบกับวังตระกูลตี้หรือเซิ่งซื่อฉางอันเลย
“เธออยู่ได้แล้วทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้”
“…ถ้าไม่ถือสาก็ตามสบายค่ะ”
หร่วนเหวินชักร้อนใจ
ถึงแม้เธอเองก็คิดว่าวันหน้าหัวหน้าเผ่าน้อยกับเจ้าชายเล็กตี้เป็นคู่ที่เหมาะสมกัน แต่อย่างไรเสียตอนนี้ก็ยังไม่ใช่!
ต่อให้มีเธออยู่ที่นี่ด้วยก็จริง แต่เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติมาอาศัยอยู่ด้วยออกจะไม่ดีหรือเปล่า
หัวหน้าเผ่าน้อยไม่ได้คิดอะไร แต่เธออาบน้ำร้อนมาก่อน ก็เลยคิดมากหน่อย
รายงานเรื่องนี้ดีไหมนะ
ใบหน้าหล่อเหลาของตี้อู๋เปียนมีรอยยิ้ม “ซาลาเปาน้อย จากวังตระกูลตี้ไปสนามกีฬาใกล้กว่าที่นี่หน่อย อาทิตย์หน้าจะไปพักที่วังตระกูลตี้ใช่ไหม”
แบบนี้เขาก็ไปรับไปส่งเธอได้ทุกวันแล้ว!
มู่เถาเยายิ้มพูด “อันที่จริงก็ใกล้กว่ากันไม่เท่าไร”
“อย่างน้อยเธอก็กินข้าวสะดวกกว่าเยอะเลย หร่วนเหวินทำอาหารเป็นก็จริง แต่ยังไงก็ไม่ใช่เชฟ แถมของว่างตอนบ่ายก็ให้หร่วนเหวินเอาขนมจากวังไปให้เธอกินได้ด้วย”
ทันใดนั้นมู่เถาเยาก็นึกถึงเบเกอรี่ที่เชฟขนมของวังตระกูลตี้ทำ มีทั้งทีรามิสุ พุดดิ้ง ชีสเค้ก มูสเค้ก แบล็กฟอเรส ไอศกรีม…
พยายามควบคุมไม่ให้กลืนน้ำลายอย่างรุนแรง เธอพยักหน้า “งั้นอาทิตย์หน้าฉันย้ายไปพักที่วังตระกูลตี้”
ตี้อู๋เปียนยิ้ม อารมณ์ดี แม้แต่ห้องเล็กๆ แบบนี้ก็ดูสวยขึ้นมาทันตา
“ได้ค่ะ”
ตอนที่ 516 กลัวจะถูกหลอกไป
ตี้อู๋เปียนกลับวังตระกูลตี้ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
สองผู้อาวุโสดูแลจินเหยี่ยน้อยอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน คนในบ้านก็ไปทำงานกันหมด เขากลับมาก็ไม่มีใครให้ระบายความดีใจนี้ ทำได้เพียงให้พ่อบ้านไปบอกเชฟขนมหวานทำขนมที่เสร็จเร็วหน่อย จากนั้นเขาก็กลับห้องไปเก็บของ
หยิบของใช้จำเป็นเสร็จก็โทรบอกคุณนายอวิ๋นเหอว่าช่วงหลายวันนี้จะไปพักกับมู่เถาเยา
จากนั้นเขาก็ไปห้องครัวขนมหวาน
เนื่องจากมีเวลาจำกัด เชฟเบเกอรี่จึงทำคุกกี้ ทาร์ต และขนมวอลนัท ตี้อู๋เปียนก็ไม่รังเกียจ ชิมอย่างละชิ้นเสร็จก็หิ้วขนมทั้งสามอย่างที่เพิ่งห่อเสร็จออกไป
ไม่ต้องคนขับรถ ไม่ต้องบอดี้การ์ด เขาขับรถไปเอง
แต่ก็ให้คนขับรถขับอีกคันตามหลังมา เพราะต้องทิ้งรถไว้ให้หร่วนเหวินใช้หนึ่งคัน
วันต่อจากนี้เขาเตรียมจะไปส่งซาลาเปาน้อยที่ศูนย์ฝึกขี่ม้าด้วยตัวเอง คนขับรถกับบอดี้การ์ดมันเกินความจำเป็น!
มีเขาคอยเฝ้าอย่างรัดกุม จะเซี่ยซิงเฉิน โจวซือหย่วน หรือใครก็ตาม อย่าได้หวังจะนัดซาลาเปาน้อยเป็นการส่วนตัวเลย!
ตี้อู๋เปียนนึกถึงวันหลังจากนี้ก็อารมณ์ดีจนฮัมเพลง
ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาเลิกงาน รถจึงไม่ติด ไม่นานก็ถึงบ้านมู่เถาเยา
คอนโดจยาเหอที่อยู่ในเมืองใหญ่ที่ที่ดินมีมูลค่าสูงแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นคอนโดระดับหรูหรา แต่ก็มีศิลปะ
เจ้าของห้องส่วนใหญ่เป็นบุคลากรของสถาบันการศึกษาแถวนั้นหรือไม่ก็พนักงานออฟฟิศ ซึ่งต่างก็เป็นคนง่ายๆ และมีมารยาท
เนื่องจากเป็นคอนโดที่อยู่ในแหล่งสถาบันการศึกษา ราคาก็เลยแพงมากทีเดียว!
แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมไม่ได้หรูหราอะไร แต่จุดแข็งอยู่ที่คนมีการศึกษาและทำเลดี ตี้อู๋เปียนจึงไม่ได้อะไรมากที่มู่เถาเยาจะมาอยู่ที่นี่
ตอนนี้เขามาอยู่ด้วยได้แล้วยิ่งรู้สึกว่าที่นี่ใช้ได้ อย่างไรเสียที่นี่ก็เล็กกว่าวังตระกูลตี้เยอะมาก เดินสวนกันได้ทั้งวัน!
เยี่ยมมาก
พอไปถึงหน้าตึกตี้อู๋เปียนก็เอากุญแจรถจากคนขับรถแล้วให้เขากลับไป ส่วนตัวเองหิ้วของ สแกนบัตร เข้าลิฟต์ขึ้นชั้นบน
เคาะประตู
มู่เถาเยากับหร่วนเหวินที่อยู่ข้างในกำลังชงชา
“พี่สามเอาขนมมาได้เวลาพอดีเลยค่ะ ฉันกำลังคุยกับพี่หร่วนเหวินว่าทำขนมอะไรง่ายๆ ดี”
“งั้นหร่วนเหวินไปพักที่วังตระกูลตี้ได้นะ จะได้เรียนทำขนมที่เธอชอบกิน”
หร่วนเหวินยิ้มพูด “รอหัวหน้าเผ่าน้อยย้ายไปพี่ค่อยย้ายตามค่ะ”
เธอไม่กล้าปล่อยให้หนุ่มสาวอยู่กันในห้องเล็กๆ ตามลำพังหรอก
ถึงแม้หัวหน้าเผ่าน้อยจะไม่คิดอะไรมาก เจ้าชายเล็กก็ไม่มีทางทำอะไรรุ่มร่าม แต่ถ้าไม่ให้เธอคอยดูไว้เธอนี่แหละจะไม่สบายใจ
หัวหน้าเผ่าน้อยฉลาดมากก็จริง แต่นิสัยกลับใสซื่อไร้เดียงสา!
ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเข้าเธอก็ยิ่งมีความร้อนใจเหมือนคนเป็นพ่อแม่ กลัวลูกตัวเองจะถูกหลอกไปเมื่อไรก็ไม่รู้!
พอได้ยินหร่วนเหวินพูดแบบนั้นตี้อู๋เปียนก็แอบเสียดาย เขายังแอบคิดว่าจะได้ไล่ กขค. ออกไปเสียที!
แต่แบบนี้ก็ดีกว่า เขากลัวพี่ชายสองคนของซาลาเปาน้อยจะมาเสียบแทน…
ส่วนทางนั้นรู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ที่นี่ หร่วนเหวินต้องรายงานทางตระกูลเย่ว์แน่นอน
เข้าใจได้ เขาไม่โกรธหรอก
ดื่มชากินขนมเสร็จ จากนั้นตี้อู๋เปียนกับมู่เถาเยาก็เลือกของฝากที่เอามาจากหมู่บ้านเถาหยวนซานกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์แล้วไปบ้านโค้ชเถียน
เซี่ยซืออวิ้นดีใจมากที่ทั้งสองคนมา เอาใบชาที่มู่เถาเยาให้มาชงทันที
“เคยได้ยินเหล่าเถียนกับเถียนซินเล่าว่าหมู่บ้านเถาหยวนซานสวยมาก ของจากที่นั่นก็ชั้นดี…เมื่อกี้น้าโทรไปหาพี่สะใภ้ใหญ่ก็เอาแต่พูดถึงหมู่บ้านเถาหยวนซาน…ไอ๊หยา เล่นเอาน้าอยากไปใจจะขาดอยู่แล้ว”
“น้าเซี่ยคะ ถ้ามีเวลาก็ไปได้ตลอดเลยนะคะ คนหมู่บ้านเถาหยวนซานยินดีต้อนรับแขกค่ะ” แน่นอนว่าต้อนรับเฉพาะคนที่รู้จักกันดีเท่านั้น
มู่เถาเยายิ้มพลางพยักหน้า “พาปู่เซี่ยย่าเซี่ยไปด้วยก็ได้นะคะ หมู่บ้านเถาหยวนซานมีคนแก่อายุยืนเยอะ ที่นั่นเรียบง่ายไม่หวือหวา ปู่เซี่ยย่าเซี่ยต้องชอบแน่ค่ะ”
เซี่ยซืออวิ้นลังเลเล็กน้อย “แต่พ่อกับแม่น้าอายุมากแล้ว นั่งเครื่องบินจากเหนือไปใต้มันนาน…”
“เครื่องบินของหนูเร็วค่ะ วันไหนอยากไปบอกหนูนะคะ จะให้พี่หร่วนเหวินมารับไปส่งค่ะ”
“ได้ยังไงกันจ๊ะ! รอหนูกลับไปพวกเราค่อยติดไปด้วยดีกว่า”
“ค่ะ ไว้หนูจะบอกล่วงหน้านะคะ”
“จ้ะ กินขนมกันก่อนสิ เหล่าเถียนบอกว่าพวกหนูมากินข้าว น้าเลยตั้งใจทำขนมไว้ให้”
มู่เถาเยาไม่ได้บอกว่าเมื่อครู่พวกเธอกินมากันแล้ว เธอแค่บอกขอบคุณ
เซี่ยซืออวิ้นนั่งคุยเป็นเพื่อนมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนจนกระทั่งโค้ชเถียนพาพวกโค้ชคนอื่นๆ กลับมาเธอถึงเข้าครัวไปดูว่าอาหารเย็นเตรียมถึงไหนแล้ว
เถียนซินพามู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน และอวิ๋นสุ่ยเหยากลับมาก่อนเริ่มอาหารค่ำ
มู่เถาเยาถามด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน เสี่ยวเหยา มากันได้ยังไง”
เซี่ยซืออวิ้นยิ้มพูด “น้าตั้งใจโทรไปบอกเสี่ยวซินเองจ้ะ ว่าให้พาเสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน เสี่ยวเหยากลับมากินข้าวด้วย จะได้เจอหนูด้วย”
“ใช่ค่ะ พี่เยาเยา พวกเรากะเซอร์ไพรส์พี่ไงคะ” ตาโตๆ ของเถียนซินโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว
เด็กสาวทั้งสามยิ้มตาม
มู่เถาเยาก็ดีใจ
โค้ชเถียน “พวกเรากินไปคุยไปเถอะ”
ทุกคนพยักหน้า
ครอบครัวเถียนทั้งสามคนเรียกให้ทุกคนกินข้าว
เนื่องจากครอบครัวเถียนมีกันแค่สามคน โต๊ะอาหารจึงไม่ใหญ่ เลยแบ่งเป็นสองโต๊ะ
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนนั่งกับพวกโค้ชในห้องอาหาร
เซี่ยซืออวิ้นพาพวกเด็กสาวและป้าแม่บ้านไปนั่งอีกโต๊ะในห้องรับแขก เวลาพวกเธอคุยกันจะได้ไม่รบกวนทางนั้นคุยเรื่องงาน
กินอาหารเย็นเสร็จมู่เถาเยาก็คุยเรื่องฝึกกับพวกโค้ชเสร็จพอดี
ทุกคนบอกลากลับบ้านอย่างมีความสุข