ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 89 เขาแอบดูพวกเรา

บทที่ 89 เขาแอบดูพวกเรา

บทที่ 89 เขาแอบดูพวกเรา

การสนทนาต่อจากนั้น หวูเฉียง โอ้อวดความสัมพันธ์ของบ้านเขาใน จินหลิงตลอด

แน่นอนว่า ยังคงพูดคุยถึงเฉินเกอโดยตลอด

ถ้าจะบอกว่าไม่โกรธเลย ก็ไม่จริง

เฉินเกอต้องการเหยียบหวูเฉียงคนนี้ให้สิ้นซากจริงๆ

แต่เมื่อมาคิดในภายหลังแล้ว เขาจะโอ้อวดก็อวดไป จะเยาะเย้ยก็เย้ยไป นอกจากนี้ เขายังมีอะไรอีกบ้าง?

ดังนั้น มื้อเที่ยงของครอบครัว จึงทานได้จืดชืดไร้รสชาติ หลังทานอาหารเสร็จ ก็เป็นการพูดคุยอีกครั้ง คุยไปคุยมา เห็นว่าช่วงบ่ายก็กำลังจะผ่านไปแล้ว

เนื่องจากเฉินเกอวันนี้ตื่นแต่เช้า และเสียเวลาที่นี่เกือบหนึ่งวัน จึงรู้สึกง่วงเล็กน้อย!

แต่ซูเหมยส่งเสียงดังขึ้น ทำให้เฉินเกอตกใจ

“อุ้ย พี่หวูเฉียง พี่ยียี เกือบห้าโมงเย็นแล้ว ปาร์ตี้เรือสำราญของวันนี้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เรารีบไปกันเถอะ! ไปช้าจะไม่ดีนะ!”

“อืมๆ พูดถูกต้อง!”

“เพราะยังไงแล้ว ก็เป็นคุณชายหวางเริ่มจัดขึ้น เราต้องให้เกียรติอย่างเต็มที่!”

หวูเฉียงพูด

“ได้ งั้นพวกเธอรีบไปกันเถอะ ใช่แล้ว หวูเฉียง คุณช่วยดูแลซูเหมยกับยียีดีๆนะ!” หลินหงพูดขึ้นอย่างรีบร้อน

ประโยคนี้ กีดกั้นเฉินเกอไว้ข้างนอกโดยธรรมชาติ

“ไม่มีปัญหา!”

ส่งเสียงตอบกลับไป แต่ละคนต่างไปขับรถ ส่วนเฉินเกอ ด้วยการยืนกรานของหลินยียี ถึงได้ขึ้น BMW Series 7 ของซูเหมย

มิฉะนั้นตามความหมายของพวกเขา คาดว่าจะไม่อนุญาตให้เฉินเกอขึ้นรถแน่นอน

ในระหว่างนั้น หลินยียีก็ยังคงจับมือของเฉินเกอไว้แน่น ใช้แรงมาก

ความหมายเหมือนจะพูดว่า

ขอโทษ! ขอโทษ! ขอโทษ!

คุณชายเฉิน ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพวกเขาจะเป็นแบบนี้ วันนี้ทำให้คุณได้รับความคับอกคับใจมากขนาดนี้ ต้องขอโทษจริงๆนะคุณชายเฉิน!

แต่เฉินเกอแค่ส่ายหัวและยิ้มเบาๆ ถือเป็นการตอบรับ

ในขณะที่พูดคุยหัวเราะ ทุกคนก็มาถึงที่หน้าประตู ของหาดทรายสีทองอีกครั้ง

“ใช่แล้ว เฉินเกอ คุณมีบัตรรับเชิญไหม?” หวูเฉียงอยากถามประโยคนี้มานานมาแล้ว แต่ว่า เขาต้องรอจนกว่าเฉินเกอมาถึงแล้ว

ค่อยพูด

ก็คือต้องการทำให้เฉินเกอต้องอับอาย

“อ๋อ ฉันมี!”

เฉินเกอพยักหน้า หยิบบัตรรับเชิญออกจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง

“เหอะๆ พี่ยียีต้องเป็นคนให้เขาแน่นอน จริงเลยนะ พี่ยียี ทำไมพี่ถึงทำดีกับเขาขนาดนี้! พี่รู้ไหมว่าพี่แบบนี้ กลับเป็นการทำร้ายเขานะ เขาไม่ใช่คนบนโลกเดียวกันกับพวกเรา ทำไมดันจะต้องให้เขาเข้ามาในโลกของเราด้วยให้เขาใช้ชีวิตแบบธรรมดาเรียบง่ายไม่ดีหรอ?”

แม้ว่าปกติแล้วซูเหมยจะไม่มีทีท่าเหมือนผู้ใหญ่

แต่ในตอนนี้ เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เกรงใจ

ดูเหมือนมีประสบการณ์เป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย

ปกติเธอจะเคารพนับถือหลินยียีมาก

แต่ว่าวันนี้ จนถึงตอนนี้ เธออดไม่ได้แล้วจริงๆ

วันนี้เป็นโอกาสอะไร? เป็นคุณชายหวางที่รวบรวมคุณชายคุณหนูไฮโซจำนวนมาก มารวมตัวปาร์ตี้กัน คนที่มาล้วนมีหน้ามีตาหมด

เธอรู้ดีว่า พี่สาวอาจจะชอบเฉินเกอคนนี้มาก ดังนั้นจึงต้องการพาเขามาเจอสังคม

แต่ว่า หลังจากเข้าไปแล้ว ได้เห็นทายาทเศรษฐีมากมายขนาดนั้น ศักดิ์ศรีของเขา จะไม่ถูกทำร้ายหรือ?

“เอาล่ะ เสี่ยวเหมยเรื่องบางอย่าง เธออย่าพูดเกินไป ต้องเหลือที่เวลาว่างไว้บ้าง!”

หลินยียี กระทืบเท้าอย่างร้อนรน

“เอาล่ะ พวกคุณสองพี่น้องเลิกทะเลาะกันได้แล้ว ฉันว่าเราเข้าไปเธอ ให้เฉินเกอตามเราไปแล้วกัน บางอย่าง ที่เขาไม่กล้าพูด ถ้ามีใครถามขึ้น ฉันพูดแทนเขาแล้วกัน!” หวูเฉียง พูดอย่างมีความชอบธรรม

“เหอะๆ ยังคงเป็นพี่หวูเฉียงที่ดีที่สุด มีความสามารถ!”

ซูเหมยชมเชยเขา

มองขวางเฉินเกออีกครั้ง

ทุกคนจึงรวมกลุ่มกันเดินเข้าไป

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายห้าโมงแล้ว ด้านข้างหาดทรายสีทองเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย คึกคักมากกว่าตอนกลางวันเสียอีก

“เฉียงจื่อมาแล้วหรอ!”

“เสี่ยวเหมย เธอก็มาแล้วหรอ ทำไมถึงเพิ่งมากัน เรากำลังทำบุฟเฟ่ต์บาร์บีคิว!

ทันทีที่หวูเฉียงมาถึง ก็มีพวกทายาทเศรษฐีหลายคน โบกมือให้ กับพวกหวูเฉียง

เห็นได้ชัดว่ารู้จักกัน

“เฮ้ๆ เพื่อนเยอะจริงๆ พี่ยียี ไปกันเถอะ ฉันแนะนำพวกเขาให้พี่รู้จัก!”

พวกทายาทเศรษฐีแต่ละคนต่างเล่นกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ดื่มกันสนุกสนาน มีความสุขจนหมดคำบรรยาย

และเฉินเกอ ไม่อยากไปรู้จักเพื่อนใหม่แล้วจริงๆ วันนี้เขาเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน หัวกำลังจะระเบิดแล้ว!

แค่อยากหาที่เงียบๆ

และถามด้วย ว่าพวกไป๋เสี่ยวเฟยอยู่ที่ไหน

เลยพูดว่า “พวกคุณเล่นเถอะ ฉันไปห้องน้ำครู่หนึ่ง ไม่ต้องสนใจฉัน!”

พูดเสร็จ เฉินเกอก็หันเดินจากไป

“เหอะๆ “คืออยากไปห้องน้ำหรอ? คงเป็นเพราะ กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเขาเป็นทายาทคนจน ลูกหลานโลโซ ก็ยังแอบเข้ามา รู้สึกอับอายมั้ง!”

“ใช่เลยๆ ทั้งๆที่จน มีความรู้อยู่แก่ใจหน่อยจะดีไหม โอกาสแบบนี้ สามารถไม่เข้าร่วมได้ ก็อยากเข้าร่วมเลย ดูสิ หลังจากที่เข้ามาแล้ว เสียใจแล้วใช่ไหม!”

แต่ละคนต่างพูดวิจารณ์

หลินยียีอยากจะติดตามเฉินเกอด้วย

แต่เมื่อคิดดูแล้ว วันนี้ได้รบกวนคุณชายเฉินมากพอแล้ว เธอไม่กล้าที่จะไปรบกวนเฉินเกออีกแล้ว

“คนคนนั้นเป็นใคร ไม่ทักทายเลยก็ไปแล้ว?”

ทายาทเศรษฐีหนึ่งในนี้ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

“ไม่ต้องไปสนใจเขา นายกระจอกคนหนึ่งเท่านั้น!”

ซูเหมยพูดอย่างไม่เกรงใจ

เฉินเกอซึ่งกลายนายกระจอกดั่งที่เธอเรียก ได้เดินมาถึงอีกด้านหนึ่งของชายหาดแล้ว

เฉินเกอชอบความรู้สึกนี้ เดินคนเดียวดูไปรอบๆ

พนักงานเสิร์ฟเดินผ่านมาพร้อมไวน์แดง เฉินเกอก็ได้หยิบแก้วหนึ่ง นั่งลงบนเก้าอี้ยาว ดื่มอย่างสบายใจ

สบายจัง หูก็สงบเสียที!

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเฉินเกอก็ดังขึ้น

เหลือบมองไป คือหลี่เจิ้นกั๋วที่โทรมา

“คุณชายเฉิน คุณเข้าร่วมงานเลี้ยงได้อย่างไรบ้าง?”

ก่อนหน้านี้ เฉินเกอเคยบอกกับหลี่เจิ้นกั๋ว เกี่ยวกับงานเลี้ยงคืนนี้ เขาก็เลยรู้ดี

“ยังโอเค!”

เฉินเกอยิ้มแห้งๆ

“อืมๆ คุณชายหวางคนนั้น น่าจะทำให้คุณพอใจ มีอะไรบางอย่าง ไม่รู้ว่าสมควรพูดหรือไม่ เฮ้ย พูดดีกว่า ที่จัดงานปาร์ตี้ในครั้งนี้ คือคุณชายหวาง ที่จริงพูดขึ้นมา ก็มีความสัมพันธ์กับพี่สาวของคุณมาก และจุดประสงค์ของการจัดงานของเขาในครั้งนี้ เห็นได้ชัดเจน ว่าพุ่งมาที่คุณ!”

“เอ่อ? มีอะไรหรอ?” เฉินเกอชะงัก ถ้าหากพุ่งมาที่ตัวเอง แล้วทำไมแม้แต่บัตรรับเชิญ ยังเป็นหลินยียีที่จัดหาให้ตัวเอง

นอกจากนี้ ทายาทมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในซูโจว มีความสัมพันธ์อะไรระหว่างกับพี่สาวตัวเอง?

“แค่กๆ เป็นอย่างนี้ครับ ตระกูลหวางนี้ ที่สามารถเติบโตขึ้นมาได้ นั่นเป็นเพราะการสนับสนุนที่ของพี่สาวคุณ ท่านประธานเฉินเสี่ยว เพราะเหตุนี้ แม่ของคุณชายหวาง หลายปีก่อน เคยรับพี่สาวของคุณเป็นลูกบุญธรรม ฉันพูดแบบนี้ คุณน่าจะเข้าใจนะ?”

เฉินเกอไม่คาดคิดว่า จะมีความสัมพันธ์ด้านนี้ด้วย ดูเหมือนว่าหลังจากพี่สาวถูกเลี้ยงอย่างลำบากจบลง อยู่ในจินหลิง ไม่ใช่ คือทั้งเจียงหนาน พัฒนาสร้างกิจกรรมทั้งหมด ตัวเองถึงได้รู้รายละเอียดความเป็นมาบ้าง

“ส่วนสาเหตุที่ทำไมฉันถึงบอกข้อมูลนี้กับคุณ ก็เป็นเพราะว่าตระกูลหวางนี้ ถนัดการประจบสอพลอมาก เหมือนกับตอนนั้น พวกเขาทำดีต่อพี่สาวของคุณ หลังจากได้รู้ฐานะตัวตนที่แท้จริงของพี่สาวของคุณแล้ว ก็อยากจะประจบ แต่ก็แสร้งทำเป็นว่า ตอนที่คุณยากจนฉันช่วยคุณ เมื่อคุณร่ำรวย ฉันจะไม่ใกล้ชิด ท่าทีอย่างสง่างาม พี่สาวของคุณก็รู้สึกซาบซึ้งใจเพราะเหตุนี้ เลยสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่ !

“แน่นอนว่า พวกเขาก็ภักดีต่อท่านประธานเฉินเสี่ยวมาตลอด!”

“คราวนี้ คุณชายหวาง ต้องใช้แผนเดิมแน่นอน จัดงานปาร์ตี้อะไร ที่จริงก็คือรอคอยคุณมา แล้วแสดงต่อหน้าคุณ แค่กๆ ในเมื่อคุณบอกเรื่องงานปาร์ตี้กับฉันแล้ว ฉันคิดทบทวนไปมา ถ้าไม่บอกที่ฉันรู้ทั้งหมดให้คุณทราบ ก็ค่อนข้างจะรู้สึกผิดในใจ!”

“เอ่อ ฉันรู้แล้ว พี่เจิ้นกั๋ว รบกวนพี่แล้ว!”

“คุณชายเฉิน อย่าพูดแบบนี้ ฉันยังอยากทำเพื่อคุณมากกว่านี้!”

หลังจากคุยกันสองสามคำ เฉินเกอก็วางสาย

การสนทนานี้ เฉินเกอได้ยินข้อมูลไม่น้อย แต่ว่า ก็เห็นบางอย่างที่น่าสนใจ

นั่นก็คือ หลี่เจิ้นกั๋วดูเหมือนจะไม่ถูกกับตระกูลกวาง แอบชี้ให้กับตัวเองว่า ตระกูลหวางนี้ มีพฤติกรรมเจ้าเล่ห์

พวกเขากำลังแอบต่อสู้อะไรกัน?

พูดตามตรง เฉินเกอเพิ่งเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตาม ทำให้หัวใจของหลี่เจิ้นกั๋วผิดหวัง เฉินเกอทำไม่ค่อยลง

เฉินเกอกำลังดื่มไวน์ คิดถึงเรื่องนี้อยู่ในใจ

“เอ๋ พวกเธอรีบดูสิ คนคนนั้นดูพวกเราเล่นวอลเล่ย์บอลมานานแล้ว เพราะเห็นว่าเราใส่บิกินี่หรือเปล่า? เขาเลยจินตนาการพวกเราอยู่ที่นี่ตลอด

“ห๊ะ? คงไม่ใช่มั้ง? ในโลกนี้ จะมีคนที่น่าขยะแขยงแบบนี้ด้วยหรอ?

และในขณะนี้เอง เสียงของหญิงงามหลากหลาย ก็ดังเข้ามาในหูของเฉินเกอ

ดึงสติกลับมาแล้วมองดู บนชายหาด กลุ่มสาวสวยในชุดบิกินี่ กำลังมองตัวเองอย่างเย็นชา กระซิบพึมพำพูดอะไรกัน….

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset