บทที่ 663 เซียวเทียนประลองกับซ่งซิง
บทที่ 663 เซียวเทียนประลองกับซ่งซิง
แสงสว่างนับหมื่นแสนส่องประกายกดดันทั่วห้วงเวหาบีบอัดจนพื้นที่มิติพังทลายลงมา ดุจดังท้องฟ้าถูกเจาะเป็นช่องรูปกรวย เหตุเพราะพลังวิญญาณที่ปั่นป่วนจนมิติฉีกขาดเกิดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏหลุมดำขึ้นแล้วหายไป สรรพสิ่งราวกับโลกาวินาศ
เซียวเทียนยืนหยัดท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลเหนี่ยวรั้งกระบี่ยักษ์ในมือแน่น ดวงตาเปี่ยมล้นด้วยความฮึกเหิมแห่งการต่อสู้
จากก้นบึ้งของเกล็ดหัวใจมังกรเริ่มร้อนระอุ เปลวไฟน้อย ๆ ลุกโชนขึ้นจากกึ่งกลางหัวใจลามไปทั่วทั้งร่างเผาผลาญเสื้อผ้าจนมอดไหม้เป็นจุณ
เมื่อเสื้อผ้าถูกเผาผลาญไปจนหมด สิ่งที่ปรากฏขึ้นแทนที่คือลวดลายมังกรสีแดงเข้มที่สลักอยู่บนร่าง
ลายมังกรนี้ช่างลึกลับและน่าพิศวง ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน!
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่น่าตกตะลึงคือ บนลายมังกรนั้นกลับมีประกายของพลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาและพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ เทียบเท่ากับพลังศักดิ์สิทธิ์ของซ่งชิงที่ยืนหยัดอยู่บนท้องฟ้าไร้ซึ่งสิ่งใดรองรับ!
“กระบี่ยักษ์มังกรคำราม ปฐพีสยบยอม!”
เซียวเทียนคำรามลั่นสองมือจับด้ามกระบี่แน่น ออกแรงกวัดแกว่ง ในขณะเดียวกันกระบี่ยักษ์ในมือพลันมีพลังอำนาจบางอย่างไหลหลั่งเข้ามา น้ำหนักของมันเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าตัว
แม้เซียวเทียนจะใช้สองมือเปล่งพลังแห่งสวรรค์ออกมา ตอนนี้แขนทั้งสองข้างก็ปรากฏเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา ไม่อาจยกกระบี่เล่มนั้นขึ้นได้!
ซ่งชิงเหนือบนท้องฟ้าเบื้องบนมองกระบี่เล่มนี้พลางหรี่ตาลง พลันรู้ว่ากระบี่เล่มนี้ไม่ใช่ของธรรมดา อย่างน้อยก็ไม่ใช่ของแผ่นดินหยวนหงแห่งนี้เป็นแน่!
ชิ้ง!
กระบี่ยักษ์ถูกยกขึ้น บนคมกระบี่พลันปรากฏลวดลายมังกรเช่นเดียวกับบนร่างของเซียวเทียน!
ครั้งนี้พลังมหาศาลนับหมื่นพุ่งลงมาจากฟากฟ้ากดทับลงตรงหน้าเซียวเทียน!
เซียวเทียนขมวดคิ้วขึ้นดวงตากลมโตแปรเปลี่ยนรูม่านตากลายเป็นสีเขียวคล้ายดวงเนตรของมังกรจริง ๆ!
“มังกรคำราม บังเกิด!”
เซียวเทียนกระชากกระบี่ออกฟาดฟันอย่างรวดเร็ว บนท้องฟ้า เมฆหมุนวนซัดสาดท่ามกลางปุยเมฆนับพันชั้นบังเกิดสายฟ้าฟาดฟันนับสิบสาย เสียงคำรามของมังกรดังกึกก้อง!
เสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวราวกับทั่วหล้าถูกครอบงำด้วยเสียงคำรามของมังกร!
กระบี่ยักษ์ฟาดฟันพุ่งเข้าปะทะกับพลังมหาศาลนับหมื่นที่พุ่งลงมา!
ตูม!!!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวแสงสว่างสีขาวบดบังทั่วทั้งเมืองไร้ขอบเขต!
ท้องฟ้าโดยรอบปริแตกออกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้พลังอันบ้าคลั่งไม่อาจควบคุมสิ่งใดได้อีกต่อไปราวกับสวรรค์และโลหกำลังจะถล่มลงมา ทุกสิ่งมลายหายสิ้น
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง แสงสว่างสีขาวจึงสลายไป เมืองไร้ขอบเขตกลายเป็นเพียงเถ้าธุลี ใต้แรงปะทะอันน่าสะพรึงกลัว เซียวเทียนยืนหยัดแขนทั้งสองเปรอะเปื้อนเลือดหอบหายใจแรง คมดาบในมือยังคงกำแน่น
เซียวเทียนเงยหน้ามองซ่งชิงมือทั้งสองสั่นไหว แขนปวดร้าว เหงื่อไหลอาบใบหน้า
เซียวเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
ความเย่อหยิ่งที่สะสมอยู่ในใจพลันสลายหายไปจนหมดสิ้น
เขาเป็นผู้ร้องขอลู่หยวนสำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้เอง
แต่ ณ ตอนนี้ แม้มีพลังเทพสถิตอยู่ก็ไม่อาจเทียบซ่งชิงได้ เพียงแค่โจมตีอย่างไร้จิตวิญญาณก็มากพอที่จะทำให้ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อต้านทาน
สุดท้าย เขาก็ยังอ่อนแอเกินไป แม้เซียวเทียนผู้นี้จะเติบโตขึ้นมากเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซ่งชิงก็ยังคงเป็นเพียงหอยทากตัวเล็ก ๆ เดินทางอย่างยากลำบาก
ความแค้นของตระกูล วันนี้เขาไม่อาจล้างแค้นได้…
เซียวเทียนออกแรงบีบมือกระบี่ยักษ์ในมือก็พลันหายวับไป แล้วจึงล่าถอยไปด้านหลังอย่างสบายอารมณ์ ทรุดกายลงนั่งขัดสมาธิรักษาบาดแผล
ซ่งชิงเห็นดังนั้นก็คิ้วขมวดเข้าหากันดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจ
ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอย่างละเอียด บริเวณที่ว่างเปล่าไม่ไกล เบื้องหน้า ก็เริ่มก่อรูปขึ้นใหม่ ชุดขาวโบกสะบัด คิ้วคมดุจดาบ ดวงตาดั่งดวงดาว ปรากฏขึ้น
บุรุษผู้นี้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับซ่งชิงมุมปากมักมีรอยยิ้มเย้ยหยัน สายตาเปี่ยมไปด้วยความเยาว์วัย โอหัง ท้าทายโลก ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน!
เขาผู้นี้คือ ลู่หยวน!
“เช่นนั้นหรือ? ไม่เป็นเต่าหดหัวแล้วรึ? อยากออกมาสู้กับข้าแล้วหรือ?”
ซ่งชิงหัวเราะเยาะหยันรีบชักดาบยาวออกมา
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเทพแล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลู่หยวนเขาก็ไม่กล้าประมาท
เล่ห์เหลี่ยมของเจ้าหนูผู้นี้ไม่อาจคาดเดา ใคร ๆ ก็ไม่อาจล่วงรู้ว่าเขามีไพ่วางแผนอะไรไว้บ้าง
ลู่หยวนกลับไม่มีท่าทีจะต่อสู้ เพียงแต่มองสำรวจซ่งชิงขึ้นลง แล้วหัวเราะเยาะ “เทพเจ้า? ซ่งชิง เจ้าขึ้นเป็นเทพแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพียงเทพปลอมที่ไม่มีตำแหน่ง กลับกล้าเรียกตัวเองว่าเทพเจ้า ช่างรู้จักประจบเสียจริง”
“ข้าเป็นเทพไม่ได้หน้าด้านเหมือนเจ้าหรอก วันที่ข้าเรียกตัวเองว่าเทพเจ้านั้น จะต้องเป็นวันที่กฎเกณฑ์แห่งหมื่นโลกยอมสยบต่อข้า!”
ซ่งชิงชี้ดาบไปทางลู่หยวน “วางใจเถิด ข้าจะไม่มีวันให้เจ้าได้มีวันนั้นแน่! ลู่หยวน วิถีสวรรค์และวิถีโบราณต่างบอกว่าครั้งนี้เจ้าจะชนะ แต่ข้าจะให้พวกมันรู้ว่าครั้งนี้ข้าต่างหากที่จะเป็นผู้ชนะ!”
“มาสู้กัน!”
พร้อมกับคำพูดของซ่งชิงพลังเทพที่สามารถเปลี่ยนฟ้าผันแผ่นดินได้ก็ปะทุออกมาจากร่างของเขาทั้งโลกพังทลายลงในพริบตา เกาะสังหารเซียนก็จมหายลงไปในทะเลดำพร้อมกัน!
ลู่หยวนก็ถือหอกยาวในมือปล่อยพลังออกมาจากร่างอย่างน่าเกรงขาม!
พลังของทั้งสองปะทะกันในชั่วพริบตา พื้นที่บิดเบี้ยว กาลเวลาหมุนวน ถึงกับเปิดมิติอีกด้านหนึ่งขึ้นมาดูดทั้งสองเข้าไปในนั้น!
เซียวเทียนและฮ่วนซิงไป๋มีพลังเทพคุ้มครองจึงสามารถหลบหนีออกไปจากพลังทั้งหมดนั้นได้อย่างปลอดภัย
…….
ณ แดนเซียน
มหาจักรพรรดิตั้งเก้าพระองค์ต่างมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับแผ่นดินหยวนหงมากที่สุด ดวงตาของทุกพระองค์ต่างจับจ้องไปยังที่เดียวกัน ที่แห่งนั้นปรากฏภาพลวงตาแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างลู่หยวนและซ่งชิง!
มหาจักรพรรดิจิ่วเทียนมองดูลู่หยวนและซ่งชิงอย่างใกล้ชิด ก่อนจะพูดว่า “ไม่ว่าใครในพวกเขาเป็นฝ่ายชนะ แต่ม่านกั้นระหว่างแดนเซียนและแผ่นดินหยวนหงก็จะหายไปในพริบตานั้น! พวกเจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้ชักช้าเมื่อถึงเวลาที่ต้องลงมือ ในครั้งนี้พวกเราทุกคนต่างก็อยู่บนเรือลำเดียวกัน ชนะ พวกเราก็จะได้ประโยชน์ร่วมกัน แพ้ พวกเราก็จะถูกคนอื่นเชือดทิ้ง!”
“ก้าวหนึ่งสู่กฎแห่งสวรรค์ อีกก้าวหนึ่งสู่ความเป็นมนุษย์ พวกเจ้าจงไตร่ตรองให้ดี”
เหล่ามหาจักรพรรดิต่างเข้าใจดี พวกเขาย่อมจะต้องลงมืออยู่แล้ว แต่จะลงมืออย่างไรนั้น ต่างฝ่ายต่างก็มีแผนการในใจ
ในบรรดาพวกเขา มหาจักรพรรดิหมิงตี้กลับดูสงบนิ่งยิ่งนัก ในฐานะที่เป็นร่างแยกของวิถีสวรรค์ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มมหาจักรพรรดิ สิ่งที่เขาต้องทำก็เพียงแค่รายงานสิ่งที่เห็นเท่านั้น
ในเวลานี้ สิ่งที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดก็คือมหาจักรพรรดินีเหยาจี ศิษย์พี่หญิงของนางเทพธิดาแห่งสงครามผู้นั้น ผู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ในแดนเซียน ผู้ที่สามารถผนึกแผ่นดินหยวนหงทั้งแผ่นดินได้เพียงลำพัง ตอนนี้ก็น่าจะตื่นขึ้นแล้ว!
เพียงแต่ข่าวคราวของเทพธิดาแห่งสงครามผู้นี้ยังไม่แพร่ออกไป ไม่รู้ว่ามหาจักรพรรดินีเหยาจีจะจัดการอย่างไรกับศิษย์พี่ของนางจะให้เข้าร่วมในแผนการครั้งนี้อย่างไร?
มหาจักรพรรดิหมิงตี้กดความคิดในใจลงก่อนจะหันกลับไปมองภาพตรงหน้าต่อ
ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วมหาจักรพรรดินีเหยาจีผู้ควบคุมเทพธิดาแห่งสงคราม ควรจะมีสีหน้ายินดีปรีดา ในแผนการครั้งนี้ นางควรจะมีความมั่นใจมากกว่ามหาจักรพรรดิคนอื่น ๆ หลายเท่า ทว่าในเวลานี้ใจของนางกลับหนักอึ้งราวกับถูกก้อนหินทับถม
เพราะว่าเทพธิดาแห่งสงครามศิษย์พี่ของนางหลังจากที่ตื่นขึ้นกลับไม่ยอมช่วยนางอีกต่อไป!