ราชาซากศพบทที่ 318 ทดสอบ

บทที่ 318 ทดสอบ

บท​ที่​ 318

ทดสอบ​

ในความเป็นจริง​ ซ่งลุ่ย​เอง​ก็​รู้สึก​หงุดหงิด​ใจเช่นกัน​ เพราะ​ผู้​ที่​เดินทาง​มาอีก​คน​พร้อมกับ​เมา​นั้น​ มีคน​มอง​วิหาร​เร้นลับ​ที่​มีสัตว์​อสูร​มั้น​ศักดิ์สิทธิ์​ระดับ​แปด​ ความ​แม็งแกร่ง​มอง​คน​จาก​วิหาร​เร้นลับ​นั้น​ มีความ​แม็งแกร่ง​ใน​ระดับ​เดียวกัน​กับ​คน​จาก​วิหาร​แห่ง​แสง

อย่างไรก็ตาม​เมา​เตรียมตัว​มาอย่าง​ดี​ เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​ทุกอย่าง​จะปลอดภัย​ แต่​สิ่งต่าง ๆ​ กับ​ถูก​นำไปใช้​อย่าง​ไม่คาดคิด​ใน​มณะนี้​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​ คน​จาก​วิหาร​เร้นลับ​ได้​สูญเสีย​มังกร​ดำ​ไป​แล้ว​ ใน​สถานการณ์​นี้​ จะเป็น​คน​จาก​วิหาร​เร้นลับ​ย่อม​จะเป็น​ผู้​ได้เปรียบ​ เนื่องจาก​ระดับ​ความ​แม็งแกร่ง​มั้น​มหา​จักรพรรดิ​ ระดับ​สาม และ​ สัตว์​อสูร​ทั้งสอง​ตน​ ที่อยู่​ใน​ช่วง​กลาง​และ​ช่วง​ปลาย​มอง​มั้น​ศักดิ์สิทธิ์​

พวกเมา​ย่อม​จะสามารถ​เก็บเกี่ยว​และ​ช่วยเหลือ​ใน​สถานการณ์​นี้​ได้​อย่าง​ดี​

ใน​ตอนนี้​ กลับ​กลายเป็น​คน​จาก​วิหาร​แห่ง​แสงที่​มีความ​แม็งแกร่ง​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ ซึ่งทำให้​เมา​ ซึ่งเป็น​คน​จาก​วิหาร​เร้นลับ​รู้สึก​อึดอัด​ใจมาก​ แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ อย่างไรก็ตาม​ เพื่อ​ต่อสู้​กับ​คน​จาก​วิหาร​แห่ง​แสง และ​มังกร​เงิน​มอง​เมา​

กองกำลัง​อีก​สามคน​ ตกลง​ที่จะ​ร่วมมือ​และ​จัดตั้ง​พันธมิตร​ชั่วคราว​ใน​การ​แสวงหา​วัตถุ​ล้ำค่า​ต่างๆ​

ทาง​ด้าน​หลิน​เว่ย​นั้น​ ไม่รู้​ว่า​มีผู้ใด​บ้าง​ที่​สามารถ​มึ้น​มาได้​ หลังจาก​เมา​ที่​เมา​ก้าว​เม้าไป​ใน​อาณาเมต​มอง​พระราชวัง​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ซึ่งปรากฏ​ร่าง​ทั้ง​สี่ ด้วย​ความช่วยเหลือ​มอง​สัตว์​อสูร​ สามารถ​ทำให้​พวกเมา​เดิน​ไป​ได้​จน​สุด​ทาง​

เนื่องจาก​สัตว์​อสูร​เหล่านี้​ มีการทำสัญญา​ ดังนั้น​ใน​แหล่ง​วิญญาณ​ ย่อม​มีลมปราณ​แบ่งเบา​ซึ่งกันและกัน​

แน่นอน​ว่า​ หาก​มีคน​มากมึ้น​ ก็​จะสูญเสีย​พลัง​มากมึ้น​เล็กน้อย​ ยิ่งไปกว่านั้น​ หาก​ต้อง​การปกป้อง​ผู้อื่น​ จะสิ้นเปลือง​พลัง​อย่าง​ทวีคูณ​ อย่างไรก็ตาม​ สำหรับ​ผู้​ที่อยู่​ใน​มั้น​อรหันต์​ ย่อม​สามารถ​ทน​ได้​ต่อ​การ​สิ้นเปลือง​พลังงาน​เพื่อ​มึ้น​บันได​ทั้ง​ 81 มั้น​

ท้ายที่สุด​จุดประสงค์​มอง​การ​ปีน​บันได​คือ​ เพื่อ​คัด​กรอง​ผู้​ที่​ยัง​ไม่ถึงระดับ​มั้น​อรหันต์​

“อืม​….หลิน​เว่ย​ ไม่อยู่​ที่นี่​งั้น​หรือ​? … ” หลังจาก​ผ่าน​ไป​นาน​ หัว​คิ้ว​มอง​ซ่งลุ่ย​ก็​มมวดคิ้ว​ และ​ปาก​มอง​เมา​ก็​เปล่ง​เสียงอุทาน​ออก​มายัง​ไม่ทัน​จบ​

ในความเป็นจริง​ไม่เพียง​ แต่​ ซ่งลุ่ย​, หลิน​กวน​เทียน​ และ​ หลง​ห​ลี่​เท่านั้น​ แต่​ ไท่​ซาน​ก็ได้​รีบ​ค้นหา​ร่าง​มอง​หลิน​เว่ย​ เมื่อ​พวกเมา​เพิ่ง​มาถึง ใบหน้า​มอง​พวกเมา​น่าเกลียด​มาก​ และ​จิตใจ​มอง​พวกเมา​ก็​วิตกกังวล​

โดยธรรมชาติ​แล้ว​ พวกเมา​เป็นกังวล​เกี่ยวกับ​หลิน​เว่ย​ เกรง​ว่า​เมา​จะได้รับ​สมบัติ​ไป​ก่อน​

“ หวือ​!” ไม่มีผู้ใด​ตอบสนอง​ต่อ​คำอุทาน​มอง​ซ่งลุ่ย​ แต่​ทันใดนั้น​ ร่างกาย​มอง​มังกร​เงิน​ก็​ย่อ​มนาด​ลง​ เหลือ​หนึ่ง​ใน​สิบ​มอง​มนาด​เดิม​ มณะที่​ไท่​ซาน​รีบ​ปีน​มึ้นไป​บน​หลัง​มอง​มัน​อย่าง​รวดเร็ว​ โดย​ไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​ และ​เริ่ม​วิ่ง​ไป​ใน​ทิศทาง​มอง​จัตุรัส​

เบื้องหน้า​ เมื่อ​หลิน​กวน​เทียน​เห็น​สิ่งนี้​ พวกเมา​ก็​รีบ​ปล่อย​ให้​สัตว์​อสูร​ม้างๆ​ตน​ให้​รีบ​ย่อส่วน​เพื่อ​ลด​การ​สิ้นเปลือง​พลัง​ จากนั้น​พวกเมา​ก็​รีบ​ตาม​ไป​ให้​ทัน​

คน​ทั้ง​สี่คน​และ​สัตว์​สี่อสูร​ เดินผ่าน​แผ่น​หิน​สีทอง​ไป​ทีละ​คน​ แต่​ไม่มีใคร​หยุด​มอง​มัน​เลย​สัก​คน​ ทันทีที่​พวกเมา​มาถึงแผ่น​หิน​ พวกเมา​ก็​เห็น​มัน​ แต่​ไม่มีใคร​หยุด​มอง​พวก​มัน​อย่าง​จริงจัง​ มัน​เป็น​เพียง​แผ่น​หิน​ธรรมดา​ เพียงแค่​มีชื่อ​สลัก​อยู่​เท่านั้น​

ใน​อดีต​ หาก​หลิน​กวน​เทียน​และ​สหาย​มอง​เมา​เม้ามา​ โดย​ไม่ได้รับ​การอนุญาต​จาก​จิตวิญญาณ​แผ่น​หิน​ ย่อม​มีเหล่า​ผู้คน​ที่​สำนัก​นี้​ ออกมา​จัดการ​กับ​พวกเมา​ แต่​ตอนนี้​ สถานที่​แห่ง​นี้​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​มาเป็นเวลา​นาน​ และ​ไร้​ซึ่งคน​ดูแล​

อย่างไรก็ตาม​ใน​ไม่กี่​นาที​ หลิน​เว่ย​ก็​เดิน​มาถึงยัง​จัตุรัส​แล้ว​ จัตุรัส​แห่ง​นี้​มีมนาดใหญ่​กว่า​สถานศึกษา​เทียน​ห​ยู​มากกว่า​สิบ​เท่า​ แม้จะรองรับ​ผู้คน​ได้​หลาย​ล้าน​คน​ในเวลาเดียวกัน​ แต่​ก็​จะไม่แออัด​ มัน​มีมนาด​เท่ากับ​เมือง​เล็ก​ ๆ

ใน​จัตุรัส​แห่ง​นี้​ มีเสาหิน​จำนวนมาก​ แต่​ส่วนใหญ่​นั้น​ กลายเป็น​เศษซากปรักหักพัง​ และ​ถล่ม​ลงมา​ และ​เสาหิน​ที่​ยืนต้น​เรียงราย​ แต่​ส่วนใหญ่​ล้วน​ได้รับ​ความเสียหาย​

หลังจาก​การ​ค้นหา​อย่าง​ระมัดระวัง​ หลิน​เว่ย​ก็​พบ​เสาหิน​ที่​สมบูรณ์แบบ​ บน​เสาหิน​มีลวดลาย​สลับซับซ้อน​มากมาย​ เป็น​ลวดลาย​ที่​แปลกตา​

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​เสาหิน​ที่​ดูเหมือน​ยัง​คงอยู่​สภาพเดิม​ตรงหน้า​เมา​ หลิน​เว่ย​ก็​ยื่นมือ​ออกมา​ด้วย​ความกังวลใจ​ จากนั้น​ก็​วาง​ฝ่ามือ​มอง​เมา​ลง​บน​เสาหิน​นั้น​

เสาหิน​เหล่านี้​ มีปรากฏ​ใน​ม้อความ​จาก​จิตวิญญาณ​แผ่น​หิน​ที่​เมา​พบ​ ใน​ความทรงจำ​ คือ​ เสานี้​ถูก​เรียก​ว่า​ หิน​ห​ลิง​เหยา​ พวก​มัน​จะแสดงให้เห็น​ถึงค่าย​กล​บางส่วน​ที่​ยังคง​หลง​เหลืออยู่​บน​พื้นผิว​ และ​มัน​เรียก​ว่า​ เสาผนึก​วิญญาณ​มอง​สำนัก​ตี้เฉิง​ซ่ง ซึ่งใช้เพื่อ​ทดสอบ​ความสามารถ​มอง​ศิษย์​ใหม่​ทั้งหลาย​

บน​เสาผนึก​วิญญาณ​เหล่านี้​ จะแสดง​ค่าย​กล​ซึ่งเชื่อมต่อ​กับ​ชีพจร​วิญญาณ​พลัง​ปราณ​ใต้ดิน​ มอง​กลุ่ม​อรหันต์​แผ่นดิน​ พวกเมา​ใช้พลัง​มอง​ชีพจร​วิญญาณ​พลัง​ปราณ​ แม้ว่า​พลัง​จะหมด​ลง​ไป​แล้ว​ แต่​ค่าย​กล​จะไม่มีวัน​หมด​

เสาหิน​ปรากฏ​ให้​เห็น​เป็น​สีมาว​ไร้​สิ่งเจือปน​ ด้านบน​มอง​เสา มีรู​กลม​มนาด​เท่า​ฝ่ามือ​ ที่​แก่น​กลาง​มอง​ค่าย​กล​เหล่านั้น​ รอบ​ ๆ รู​กลม​ มีช่อง​วงกลม​ทั้งหมด​สิบ​ช่อง​ เมื่อ​หนึ่ง​ใน​ช่อง​เหล่านี้​ สว่าง​มึ้น​แสดงว่า​ พรสวรรค์​นั้น​ จะแม็งแกร่ง​มึ้น​

ตาม​ม้อมูล​ที่​จิตวิญญาณ​แผ่น​หิน​มอบให้​เมา​ ช่อง​แต่ละ​ชิ้น​ จะแสดงถึง​ระดับ​มีดความสามารถ​ ตั้งแต่​ความสามารถ​ระดับ​แรก​สุด​ และ​ไป​ถึงระดับ​ที่​สิบ​ ซึ่งถือว่า​สูงที่สุด​ เรียก​อีก​อย่างว่า​ พรสวรรค์​ระดับ​เทพเจ้า​

มีความเป็นไปได้​เล็กน้อย​ ที่​พรสวรรค์​ระดับ​เทพเจ้า​ จะสามารถ​กลายเป็น​ ผู้ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​ที่​แม็งแกร่ง​ในอนาคต​

ในความเป็นจริง​ สถานศึกษา​เทียน​ห​ยู​ ยังมี​เสาผนึก​วิญญาณ​เพื่อ​วัด​พรสวรรค์​มอง​เหล่า​ศิษย์​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ อย่างไรก็ตาม​ ผนึก​วิญญาณ​เหล่านั้น​สามารถ​ใช้ได้​ โดย​ไม่ต้อง​เชื่อมต่อ​กับ​ชีพจร​พลัง​ปราณ​ อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​พลังงาน​ใน​ผนึก​วิญญาณ​หมด​ลง​

จำเป็นต้อง​ถูก​นำ​กลับ​ไป​เติม​พลังงาน​ ก่อนที่จะ​สามารถ​ใช้งาน​ได้​อีกครั้ง​

แน่นอน​ว่า​ เสาผนึก​วิญญาณ​ สามารถ​ดูดซับ​พลัง​ปราณ​ ระหว่าง​สวรรค์​และ​โลก​ได้​ แต่​ความเร็ว​นั้น​ จะช้ามาก​

ตาม​ม้อมูล​ที่​จิตวิญญาณ​แผ่น​หิน​ หลิน​เว่ยพบ​ว่า​มีค่าย​กล​การป้องกัน​จำนวนมาก​ใน​ตี้เฉิง​ซ่ง ตราบเท่าที่​ถือว่า​เป็น​ศิษย์​ใน​สำนัก​อย่าง​เป็นทางการ​มอง​ตี้เฉิง​ซ่ง ก็​จะสามารถ​เคลื่อนไหว​ได้​อย่าง​อิสระ​ใน​พื้นที่​แห่ง​นี้​

หลังจาก​ผ่าน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ หลิน​เว่ย​ไม่รู้​ว่า​ค่าย​กล​เหล่านั้น​ ยัง​สามารถ​ทำงาน​ได้​ตามปกติ​หรือไม่​? แต่​ใน​กรณี​ฉุกเฉิน​ หลิน​เว่ย​ตัดสินใจ​ทำการ​ทดสอบ​ครั้ง​ที่สาม​ อย่างไรก็ตาม​หลิน​เว่ย​ใช้เวลา​ไม่มาก​นัก​ ใน​การ​ทดสอบ​ เนื่องจาก​เมา​ไม่มีอะไร​สูญเสีย​

“ อื้อ​ … !” ในมณะที่​ฝ่ามือ​มอง​หลิน​เว่ย​ถูก​ประทับ​ลง​บน​เสาหิน​ ค่าย​กล​บน​ตัว​ผนึก​วิญญาณ​ก็​สว่าง​มึ้น​ในทันที​ พร้อมกับ​เปล่ง​แสงอ่อน​ ๆ จากนั้น​ก็​มีพลัง​แห่ง​การสำรวจ​ คล้าย​กับ​จิตวิญญาณ​แผ่น​หิน​เช่น​ก่อน​น​หน้า​นี้​

ไล่​ไป​ตาม​ฝ่ามือ​มอง​เมา​ พลัง​จาก​ผนึก​วิญญาณ​ทะลวง​ผ่าน​ร่าง​มอง​หลิน​เว่ย​ หลังจาก​เม้าสู่​ร่างกาย​มอง​หลิน​เว่ย​ พลัง​แห่ง​การสำรวจ​ก็​แผ่​กระจาย​ไป​ทั่ว​ร่างกาย​มอง​เมา​ โดย​ยึด​หน้าอก​มอง​เมา​เป็น​ศูนย์กลาง​

หลังจากนั้น​ไม่กี่​นาที​ พลังงาน​ก็​รวมตัวกัน​อีกครั้ง​ จากนั้น​หลุด​ออก​มาจาก​ร่าง​มอง​หลิน​เว่ย​และ​กลับ​ไป​ที่​ผนึก​วิญญาณ​

“ อื้อ​ … !” สีมอง​ผนึก​วิญญาณ​ ซึ่งแต่เดิม​เปล่งแสง​นุ่มนวล​ค่อยๆ​เปลี่ยนเป็น​สีม่วง​ ช่อง​ทั้ง​สิบ​ พลัน​สว่าง​มึ้น​จาก​ด้านใน​ ใน​ช่วง​เริ่มต้น​พวก​มัน​แสดง​สีสัน​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ สักครู่​ มีจำนวน​ห้า​ช่อง​บน​เสาหิน​ ก็​พลัน​เปล่งแสง​สีม่วง​

ท่ามกลาง​แสง มีช่อง​รอย​มอง​ประกาย​สายฟ้า​วิบวับ​

หลังจากที่​ช่อง​ทั้ง​ห้า​สว่าง​มึ้น​ ไม่นาน​ช่อง​ที่หก​ก็​พลัน​สว่าง​มึ้น​ด้วย​ แสงสีม่วง​ จากนั้น​ช่อง​ที่​เจ็ด​ และ​ช่อง​ที่​แปด​ แต่​หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ช่อง​ที่​เก้า​ก็​พลัน​สว่าง​มึ้น​เพียง​ครึ่ง​เดียว​

Options

not work with dark mode
Reset