ราชาซากศพบทที่ 319 ผ่านการทดสอบ

บทที่ 319 ผ่านการทดสอบ

บท​ที่​ 319

ผ่านการทดสอบ​

“หืม?”​

หลิน​เว่ย​ขมวดคิ้ว​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​แสดงท่าทาง​ไร้ความรู้สึก​ เขา​คิด​เสมอ​ว่า​พรสวรรค์​ของ​เขา​ยอดเยี่ยม​มาก​ เหตุผล​ที่​เขา​ประสบความสำเร็จ​ใน​วันนี้​ ต้อง​ขอบคุณ​ความช่วยเหลือ​ของ​ทักษะ​คืนชีพ​ของ​โครงกระดูก​

ซึ่งทำให้​เขา​ได้รับ​ทรัพยากร​การฝึกฝน​จำนวนมาก​ และ​ยาเม็ด​มากมาย​

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​เขา​เห็น​สถานการณ์​บน​ผนึก​วิญญาณ​ ใน​ขณะนี้​เขา​รู้สึก​ไม่มั่นใจ​เล็กน้อย​ เท่าที่​เขา​รับรู้​เกี่ยวกับ​ความสามารถ​ของ​เขา​ ใน​ตอนนี้​ช่อง​บน​ผนึก​วิญญาณ​สูงถึงช่อง​ที่​แปด​แล้ว​ ยิ่งไปกว่านั้น​การ​ทดสอบ​ยังคง​ดำเนินต่อไป​

พรสวรรค์​ที่​แท้จริง​ของ​หลิน​เว่ย​อาจ​ไป​ถึงช่อง​ที่​เก้า​

หลิน​เว่ย​ไม่ได้​คิดมาก​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ ตาม​ข้อมูล​ที่​จิตวิญญาณ​แผ่น​หิน​มอบให้​หลิน​เว่ย​ มีการประเมิน​พรสวรรค์​ระดับ​เทพเจ้า​ ระดับสูง​ ใน​บรรดา​ผู้คน​หลาย​ร้อย​ล้าน​คน​ ไม่เคย​ได้​พบ​เจอ​ ความสามารถ​ระดับ​เทพเจ้า​เลย​แม้แต่​คนเดียว​

อื้อ​ … !” ผนึก​วิญญาณ​เบื้องหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​ ก็​สั่นสะเทือน​ออกมา​ ผนึก​วิญญาณ​ทั้ง​เก้า​ช่อง​ กลายเป็น​สีม่วง​เข้ม​ หลิน​เว่ย​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​อย่าง​รีบร้อน​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​มีความสุข​ ปรากฏ​ว่า​เมื่อ​หลิน​เว่ย​กำลัง​คิด​เกี่ยวกับ​ระดับ​พรสวรรค์​ของ​เขา​

ปรากฏ​แสงสีม่วง​พลัน​สว่าง​เต็ม​ใน​ช่อง​ที่​เก้า​ ด้วย​วิธี​นี้​หลิน​เว่ย​จึงมั่นใจ​ได้​ว่า​ พรสวรรค์​ของ​เขา​นั้น​เป็นรอง​เพียง​พรสวรรค์​ระดับ​เทพเจ้า​

“อืม​….เกิด​อะไร​ขึ้น​?”

เมื่อ​หลิน​เว่ย​คิด​ว่าการ​ทดสอบ​สิ้นสุดลง​ และ​พร้อม​ที่จะ​ชัก​มือ​ของ​เขา​กลับมา​ ทันใดนั้น​เขา​ก็​พบ​ว่า​มือ​ของ​เขา​ติด​อยู่​กับ​ผนึก​วิญญาณ​ โดย​ไม่สามารถ​ชัก​ออกมา​ได้​ ซึ่งทำให้​จด​จำได้​กับ​ ฉาก​ก่อนหน้านี้​ ตอนที่​เขา​เผลอ​สัมผัส​กับ​จิตวิญญาณ​หิน​สีทอง​ก่อนหน้านี้​

หลิน​เว่ย​รู้สึก​งงงวย​ แต่​เขา​ไม่ได้​ตื่นตกใจ​ หลังจากนั้น​ ครู่หนึ่ง​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ซีดเผือด​ลง​ เขา​พบ​ว่า​แสงของ​ผนึก​วิญญาณ​ไม่ได้​หาย​ไป​ แต่​ทวี​ความรุนแรง​มากขึ้น​ และ​มีเติมเต็ม​แสงสีม่วง​ลง​ใน​ช่อง​ที่​สิบ​

“นี่​มัน​ … ” เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​… ริมฝีปาก​ของ​หลิน​เว่ย​ก็​สั่นสะท้าน​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​บิดเบี้ยว​

“เป็น​เพราะ​เศษเสี้ยว​แห่ง​ความ​เป็น​เทพ​สงคราม​ของ​ชาย​ชรา​หมิง​ใช่หรือไม่​?” หลิน​เว่ย​มอง​ไป​ที่​ช่อง​ที่​สิบ​ซึ่งปกคลุม​ไป​ด้วย​แสงสีม่วง​ ภายในใจ​พลัน​ปรากฏ​ชุด​ความคิด​แปลก ๆ​

ท้ายที่สุด​แล้ว​ ผนึก​วิญญาณ​เป็น​เพียง​สิ่งที่​ตาย​แล้ว​ บางที​มัน​อาจจะ​เป็น​ชิ้นส่วน​ของ​พลัง​เทพ​ที่​ยังคง​หลง​เหลืออยู่​ใน​ร่าง​ของ​หลิน​เว่ย​ คุณสมบัติ​ของ​หลิน​เว่ย​ได้รับการยกย่อง​ว่า​เป็น​พรสวรรค์​ระดับ​เทพเจ้า​ จาก​ผนึก​วิญญาณ​

อย่างไรก็ตาม​ มีเพียง​หลิน​เว่ย​เท่านั้น​ที่​รู้​ว่า​ ชิ้นส่วน​พลัง​เทพ​นี้​ ไม่ได้​เป็น​ของ​ตัว​เขา​เอง​

“ หวา​!” “ หวา​!” “ หวา​!” “ หวา​!” เช่นเดียวกับ​ที่​หลิน​เว่ย​กำลัง​เฝ้าดู​การเปลี่ยนแปลง​ของ​ผนึก​วิญญาณ​ เกิด​เสียงดัง​สี่ครั้ง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ เกิด​จาก​ใบ​มีด​ตัดผ่าน​อากาศ​ ดัง​ขึ้น​มาจาก​ด้านหลัง​ของ​หลิน​เว่ย​

“หืม?”​ เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​นี้​ หลิน​เว่ย​ก็​รีบ​หันหน้า​ไป​มอง​ข้าง​หลังเขา​อย่าง​รวดเร็ว​

อย่างไรก็ตาม​เขา​พบ​ว่า​ มีเงาสัตว์​ทั้ง​สี่ตัว​ โจมตี​มายัง​ทิศทาง​ของ​เขา​ นั่น​คือ​มังกร​สอง​ตัว​ วัว​หนึ่ง​ตัว​ และ​สุนัขจิ้งจอก​หนึ่ง​ตัว​ สัตว์ร้าย​ทั้ง​สี่ตัว​กำลัง​แบก​ชาย​คน​หนึ่ง​อยู่​บน​หลัง​ของ​พวก​มัน​ แน่นอน​ว่า​หลิน​เว่ย​รู้จัก​พวกเขา​เป็น​อย่าง​ดี​

“ฮ่าฮ่า! เด็กชาย​ จงมอบ​สมบัติ​ใน​มือ​ให้​ข้า​มาเดี๋ยวนี้​ ชาย​ที่​พูด​คือ​ ซ่งลุ่ย​ ผู้​ซึ่งขี่​วัว​ปฐพี​ เขา​พบ​ผนึก​วิญญาณ​และ​คิด​ว่า​ หลิน​เว่ยพบ​เจอ​สมบัติ​ เขา​จึงร้อง​ด้วย​เสียงดัง​ เพราะ​ใน​ตอนนี้​ผนึก​วิญญาณ​กำลัง​ส่องสว่าง​

มัน​ดู​ไม่ธรรมดา​ ซ่งลุ่ย​คิด​ว่า​มัน​น่าจะเป็น​สมบัติ​ที่​ยิ่งใหญ่​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ซ่งลุ่ย​ ใบหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​เปลี่ยนแปลง​ไป​ มีท่า​ทางการ​ดูแคลน​บน​ใบหน้า​ แม้แต่​คำพูด​ก็​ไม่เต็มใจ​ที่จะ​พูด​อะไร​กับ​อีก​ฝ่าย​

“เด็กน้อย​….อยาก​ตาย​งั้น​หรือ​ ข้า​กำลัง​พูด​กับ​เจ้า! อย่า​มาทำ​หูหนวก​” เมื่อ​เห็น​ว่า​ หลิน​เว่ย​ไม่ได้​สนใจ​เขา​เลย​ ซ่งลุ่ย​ก็​รู้สึก​ปั่นป่วน​ใน​ใจของ​เขา​ เขา​โกรธ​….และ​หา​ใคร​เพื่อ​มาระบาย​ความโกรธแค้น​ไม่ได้​!

“ แค่​ก!​ พี่​ซ่ง!” มอง​ไป​รอบ​ ๆ พบ​ว่า​ หลิน​กวน​เทียน​คน​แรก​ที่​ไอ​ออกมา​สอง​ครั้ง​ และ​มอง​ไป​ที่​ซ่งลุ่ย​ด้วย​ท่าทาง​แปลก ๆ​

“อะไร​นะ​?” ซ่งลุ่ย​ยังคง​คิด​ว่า​ เขา​จะสามารถ​ต่อสู้​กับ​ หลิน​เว่ย​ได้​หรือไม่​อยู่​ภายในใจ​ แต่​เมื่อ​เขา​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ หลิน​กวน​เทียน​ เขา​เห็น​ดวงตา​ของ​อีก​ฝ่าย​ จากนั้น​เขา​ก็​ขมวดคิ้ว​และ​มอง​ไป​รอบ​ ๆ จากนั้น​การแสดงออก​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​หยุดนิ่ง​

และ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​สับสน​เล็กน้อย​ หลังจากนั้น​เพียง​ครู่เดียว​ ไร้​ซึ่งเสาตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ตรงหน้า​ เห็นได้ชัด​ว่า​ เช่นเดียวกับ​เสาที่อยู่​ด้านหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​ ค่อนข้าง​คล้าย​กับ​ จำนวน​เสาที่​ผุพัง​

จำนวน​เสาเหล่านี้​มีมากมาย​ มอง​ไม่ชัด​ว่า​ มัน​คือ​อะไร​ และ​อาจ​ไร้ค่า​ด้วยซ้ำ​

“เสาหิน​เหล่านี้​….น่าจะ​ใช้เพื่อ​ทดสอบ​ความสามารถ​ … ” เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​ของ​ซ่งลุ่ย​ หลิน​กวน​เทียน​ยักไหล่​และ​กล่าว​ช้าๆ

“อา​….เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หลิน​กวน​เทียน​ ซ่งลุ่ย​ก็​รู้สึก​อาย​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ จากนั้น​เขา​ก็​คิด​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มา ทันใด​เขา​ก็​หันไป​สบตา​กับ​หลิน​เว่ย​อีกครั้ง​ และ​ใบหน้า​โกรธ​และ​เขา​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​:” สารเลว​! เจ้าตั้งใจ​จะหลอกลวง​ข้า​?

พยายาม​มองหา​สมบัติ​กับ​ซาก​เสาหิน​หัก​เหล่านี้​งั้น​หรือ​?

“ไม่ใช่เรื่อง​ของ​เจ้า….ข้า​อยาก​ทำ​อะไร​ก็​ไม่เกี่ยวกับ​เจ้า ไม่ต้อง​กังวล​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ซ่งลุ่ย​ หลิน​เว่ย​ก็​รู้สึก​หงุดหงิด​ หาก​วันนี้​ เขา​ไม่ได้​โต้เถียง​ เขา​คงจะ​อึดอัด​ใจตาย​

“บัดซบ​! หาก​เจ้าคิด​ว่า​ สุนัข​ที่​คิด​ว่า​ตนเอง​แข็งแกร่ง​…คง​ไม่เคย​รับรู้​ว่า​ ท้องฟ้า​สูง และ​โลก​ใหญ่​เพียงใด​ แต่​เดิมที​ข้า​วางแผน​ที่จะ​พูด​กับ​หลิน​กวน​เทียน​ และ​ข้า​ไม่ต้องการ​ที่จะ​โต้เถียง​กับ​ท่าน​ ‘ตนเอง​เข้าใจผิด​ไป​เอง​ อย่า​มาตำหนิ​ผู้อื่น​ ”

เมื่อ​ได้ยิน​หลิน​เว่ย​ดุด่า​เขา​ เหมือน​สุนัข​ต่อหน้า​ฝูงชน​ ใบหน้า​ของ​ซ่งลุ่ย​ก็​เปลี่ยนเป็น​สีแดงก่ำ​ทันที​ เจตนา​สังหาร​แผ่ซ่าน​ออกมา​ และ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​เย็นชา​

“ไป​กัน​เถอะ​!”

“ หวา​!” อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ซ่งลุ่ย​พร้อม​ที่จะ​เริ่ม​โจมตี​ หลิน​เว่ย​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​ไท่​ซาน​ เมื่อ​เขา​หัน​ศีรษะ​ไป​ เขา​มองเห็น​เพียง​ด้านหลัง​ของ​ไท่​ซาน​และ​มังกร​เงิน​เท่านั้น​

เรา​จะปล่อย​ให้​เขา​เป็น​ผู้นำ​ไม่ได้​” ทันทีที่​เสียง​นั้น​ลดลง​ หลิน​กวน​เทียน​และ​ ซ่งลุ่ย​ ก็​เห็น​ร่าง​สีแดง​เคลื่อนไหว​ตาม​ไป​ติดๆ​ หลง​ห​ลี่​แห่ง​อาณาจักร​โบราณ​กัง​ห​ลัน​ และ​มังกร​ไฟของ​เขา​ก็​พลัน​หาย​ไป​ เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​กำลัง​ไล่ตาม​ไท่​ซาน​

“ พี่​ซ่ง ดูแล​ตนเอง​ด้วย​ เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​หลิน​กวน​เทียน​ก็​รีบ​ประสาน​หมัด​ให้​ซ่งลุ่ย​ หลังจาก​พูด​จบ​ โดย​ไม่คำนึงถึง​การแสดงออก​ของ​อีก​ฝ่าย​ เขา​ก็​ขี่​จิ้งจอก​หาง​คู่​ ตรง​ไป​ทันที​ เพื่อ​ติดตาม​คนอื่นๆ​ ไป​อย่าง​รีบร้อน​

“ ไอ้​สารเลว​!” เมื่อ​เห็น​ทั้ง​สามคน​จากไป​ทีละ​คน​ หัวใจ​ของ​ซ่งลุ่ย​ก็​เริ่ม​วิตกกังวล​อย่าง​มาก​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​แสดง​ความรู้สึก​เร่งด่วน​ เขา​รีบ​ขอให้​วัว​ปฐพี​ ไล่ตาม​พวก​นั้น​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ ก่อนที่​เขา​จะจากไป​ เขา​หันกลับ​มอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​อย่าง​เย็นชา​ และ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา​: “เด็กชาย​…วันนี้​ถือว่า​เจ้าโชคดี​! ข้า​ไม่มีเวลา​สนใจ​เจ้า ภาวนา​ขอ​อย่า​ให้​เจ้าได้​พบ​กับ​ข้า​อีก​ ไม่งั้น​เจ้าจะไม่ได้​โชคดี​เช่นนี้​”

หลังจาก​พูด​สิ่งนี้​ ก่อนที่​หลิน​เว่ย​จะเริ่ม​โต้เถียง​ ซ่งลุ่ย​ก็​รีบ​ติดตาม​หลิน​กวน​เทียน​และ​ตรง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​พวกเขา​จากไป​ ทิ้ง​หลิน​เว่ย​ไว้​คนเดียว​ ที่​ใบหน้า​ปกคลุม​ไป​ด้วย​เส้น​สีดำทะมึน​

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ร่าง​ของ​คน​สี่คน​ และ​สัตว์ร้าย​อีก​สี่ตัว​ ปาก​ของ​หลิน​เว่ย​กระตุก​ จากนั้น​ เขา​ส่าย​หัว​ด้วย​ความ​เยาะเย้ย​ หันหน้า​ไป​อย่าง​สงบ​และ​จ้องมอง​ไป​ที่​เสาหิน​ตรงหน้า​อีกครั้ง​ โดย​ไม่ได้​รู้สึก​เร่งด่วน​แต่อย่างใด​

ดัง​คำกล่าว​ที่ว่า​ พบ​ไม้งามเมื่อ​ยาม​ขวาน​บิ่น​ ตอนนี้​ดูเหมือน​เขา​จะเสียเวลา​ไป​มาก​ ดูเหมือนว่า​สถานการณ์​จะไม่เอื้ออำนวย​สำหรับ​เขา​ แต่​ใน​ความคิด​ของ​เขา​ หลังจากที่​เขา​กลายเป็น​ศิษย์​อย่าง​เป็นทางการ​ของ​ตี้เฉิง​ซ่ง น่าจะ​เป็นประโยชน์​

คงจะ​สามารถ​ชดเชย​กับ​เวลา​ที่​เขา​เสีย​ไป​ที่นี่​ได้​

สิบ​กว่า​นาที​ต่อมา​ มีแสงสีม่วง​ใกล้​จะเติมเต็ม​ช่อง​ที่​สิบ​ได้​ เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​ใบหน้า​ของ​ หลิน​เว่ย​ก็​แสดง​สีหน้าท่าทาง​ของ​ความตื่นเต้น​ ดวงตา​ของ​เขา​จ้องมอง​ไป​ที่​ช่องว่าง​ที่​เหลือ​ และ​แม้แต่​ลมหายใจ​ของ​เขา​ก็​ผันผวน​

“ ฮึบ​ … !”

“ ตูม​ … !” เมื่อ​ช่อง​ที่​สิบ​เต็มไปด้วย​แสงสีม่วง​ ผนึก​วิญญาณ​ทั้งหมด​ก็​หาย​ไป​ทันที​ หลังจาก​สั่น​ๆเล็กน้อย​ อย่างไรก็ตาม​ ครู่​ต่อมา​แสงสีม่วง​ซึ่งเดิม​จำกัด​ อยู่​ที่​ผนึก​วิญญาณ​ก็​ลอย​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​และ​ทะลุ​ผ่าน​กลุ่ม​เมฆเป็นเวลา​นาน​

หลิน​เว่ย​ตื่นตกใจ​ และ​ทาง​ฝั่งของ​ชาย​ทั้ง​สี่คน​ก็​มองเห็น​เหตุการณ์​แปลก​ๆ

“นั่น​คือ​อะไร​…เจ้าเด็ก​หลิน​เว่ย​เป็น​คน​ทำ​ขึ้น​มางั้น​หรือ​ หรือว่า​เขา​จะพบ​สมบัติ​?” คน​ทั้งหมด​หันหน้า​ไป​มอง​เสาแสงสีม่วง​ ที่​ปรากฏ​อยู่​ข้าง​หลังเขา​จู่ ๆใบหน้า​ของ​ซ่งลุ่ย​ ก็​แสดง​สีแห่ง​ความสงสัย​ และ​คาดเดา​ออกมา​

“ นั่น​คือ​แสงจาก​เสาหิน​ก่อนหน้านี้​ แน่นอน​ถ้าพี่​ซ่งต้องการ​ไปดู​ให้​เห็น​กับ​ตา​ ข้า​จะไป​กับ​ท่าน​” หลง​ห​ลี่​ที่นั่ง​อยู่​บน​หลัง​มังกร​เพลิง​ กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แผ่วเบา​ แต่​สายตา​ของ​เขา​ ที่​มอง​ไป​ยัง​ซ่งลุ่ย​นั้น​มีรอยยิ้ม​เป็นนัย​ ๆ

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ หลิน​กวน​เทียน​ขี่​จิ้งจอก​หาง​คู่​ไม่ได้​พูด​อะไร​ เขา​มอง​ไป​ตาม​ถนนหนทาง​ เพราะ​เขา​เห็น​ว่า​ซ่งลุ่ย​หมายถึง​อะไร​ เมื่อ​พูด​คำ​เหล่านี้​ เขา​ไม่อยาก​มือ​เปื้อน​เลือด​ อย่าง​น้อย​ขอ​เพียง​สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​หลิน​เว่ย​

แน่นอน​ว่าการ​ได้​เห็น​ท่าทาง​ของ​หลิน​กวน​เทียน​ หลง​ห​ลี่​ และ​ ไท่​ซาน​ ซ่งลุ่ย​ไม่รู้สึก​คิดมาก​อีกต่อไป​ หลังจากนั้น​ พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​มองเห็น​เสาหิน​ตรงหน้า​หลิน​เว่ย​ ที่​พุ่งตรง​ไป​บน​ท้องฟ้า​นั้น​ คล้าย​กับ​แสงบน​เสาหิน​ตรงหน้า​หลิน​เว่ย​

โดย​พวกเขา​ไม่คิด​ว่า​ แสงสีม่วง​นั้น​ จะถูก​สร้าง​ขึ้น​โดย​เสาหิน​ที่อยู่​ตรงหน้า​หลิน​เว่ย​ และ​เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​ ซึ่งมัน​ไม่น่าเชื่อถือ​

ในความเป็นจริง​ พวกเขา​ไม่รู้​ว่า​ มัน​คือ​ผนึก​วิญญาณ​ ซึ่งถือว่า​เป็น​สมบัติ​จริง ๆ​ เพราะ​หลังจาก​เสาพวก​นั้น​สลาย​ไป​ และ​แสงสีม่วง​ค่อยๆ​จางลง​ไป​ ป้าย​หยก​ขนาด​ประมาณ​ฝ่ามือ​ ก็​ลอย​ออก​มาจาก​ใจกลาง​สิบ​ช่อง​ นั่น​คือ​ รู​กลม​ ๆขนาด​เท่า​ฝ่ามือ​

หลังจากนั้น​ มัน​ก็​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​อย่าง​เงียบ ๆ​ เมื่อ​มองเห็น​ป้าย​หยก​นั้น​ ใบหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​ก็​พลัน​สดใส​ขึ้น​และ​เขา​รู้สึก​โล่งใจ​ เนื่องจาก​ป้าย​หยก​เป็น​ศิษย์​อย่าง​เป็นทางการ​ของ​สำนัก​ตี้เฉิง​ซ่ง เขา​จึงเป็นกังวล​

บางที​อาจ​ไม่มีป้าย​หยก​ ที่อยู่​ใน​ผนึก​วิญญาณ​ ที่​เขา​กำลัง​มองหา​ โชคดี​ที่​ดูเหมือนว่า​ โชคชะตา​จะเข้าข้าง​เขา​

Options

not work with dark mode
Reset