[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ 62 [2] สินค้าใหม่และคู่แข่งทางการค้า? [Part 8]

ตอนที่ 62 [2] สินค้าใหม่และคู่แข่งทางการค้า? [Part 8]

 

ตรงส่วนของหน้าร้านตั้งอยู่ทางทิศใต้ อุณหภูมิในห้องก็เลยจะสูงอยู่หน่อยๆ แต่ก็ยังเย็นกว่าข้างนอกเยอะเลย

เหตุผลก็คือ พวกเรามี [เครื่องพ่นลมเย็น] ติดตั้งเอาไว้เพื่อทำให้ทั้งบ้านเย็นได้เลยอยู่ด้วยล่ะนะ

―――ไม่สิ อันที่จริง มันช่วยทำให้อากาศเย็นได้แค่ห้องเดียวเองนี่นา?

วิธีการเดียวที่จะ ‘อ่าน’ สารานุกรมแปรธาตุ ‘ให้จบ’ ก็มีแต่ต้องสร้างของไล่ไปตามนั้นเท่านั้นแหละ

แต่ว่า ฉันมีเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งคุณภาพสูงอยู่เยอะ ก็เลยทำของที่ค่อนข้างฟุ้มเฟือยซักหน่อยมาใช้งานน่ะ

เพลิดเพลินกับน้ำแข็งใสอย่างเดียวมันก็คงไม่เหมาะหรอก ก็นะ สถานการณ์มันออกจะจำกัดเกินไปหน่อย

หลังจากที่ทานน้ำแข็งใสเรียบร้อยแล้ว ฉันก็นั่งสบายๆ ไปพลาง มองโลเรียจังค่อยๆ ทานน้ำแข็งใสของตัวเองไปพลาง

 

“กลับมาแล้วนะคะ คุณผู้จัดการ”
“กลับมาแล้วค่ะ นายท่านผู้จัดการ… ฟู่ว ที่นี่เนี่ยสวรรค์ชัดๆ เลย”

 

ทั้ง 2 คนเช็ดเหงื่อที่หน้าผากตัวเองกัน ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก

ก่อนที่จะจ้องตรงไปที่ของที่โลเรียจังมีอยู่กันทั้งคู่เลย

 

“เอ โลเรีย นั่นคืออะไรน่ะ?”
“คุณซาราสะทำขนมหวานจากน้ำแข็งให้กินน่ะค่ะ ทั้งเย็น ทั้งหวาน ทั้งอร่อยเลย”
“เห ยอดไปเลยนี่นา?”
“อึม เหมาะกับตอนอากาศร้อนๆ แบบนี้สุดๆ ไปเลยน้า?”
“…ค่าๆ อยากทานด้วยเหมือนกันสินะ เดี๋ยวทำให้ด้วยนะคะ”

 

ถึงจะไม่ได้พูดออกมาชัดๆ แต่ถ้ามองเข้าไปในตาของทั้ง 2 คนแล้ว ฉันก็เข้าใจในสิ่งที่อยากจะพูดได้เลยล่ะ

ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วก็เดินเข้าไปในครั้วเพื่อเตรียมน้ำแข็งใสเพิ่มอีก

 

“อ่า คุณไอริส คุณเคท รู้หรือเปล่าคะ? ขนมหวานอันนี้เนี่ย ถ้ากินรวดเดียวจะอร่อยมากเลยล่ะค่ะ”

 

ในตอนที่ฉันกำลังเตรียมน้ำแข็งใสเอาไว้อีกเยอะๆ ฉันก็ได้ยินเสียงโลเรียจังดังลอยมาจากทางด้านหลัง

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดนั่นแหละนะ สุดท้าย คุณไอริสก็ต้องเอามือขึ้นกุมหัว พยายามกัดฟันทนจนผ่านช่วงจี๊ดหัวนั้นมาได้ในท้ายที่สุด

 

“…ฟู่ว อาการเบาลงซักที ทุกคนใจร้ายกันจังเลย”
“ฉันก็เพิ่งโดนคุณซาราสะแกล้งมาแบบนี้เมื่อกี้นี้เองค่ะ”

 

โลเรียจังแลบลิ้นออกมานิดๆ ก่อนจะเอียงหัวมาทางฉัน คุณไอริสเห็นแบบนั้นก็ยิ้มแหยๆ

 

“แม้แต่นายท่านผู้จัดการเองก็ไม่ห้ามฉันเลยด้วย”
“เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากเลยว่ามั้ยคะ?”
“ฉันไม่อยากต้องเจอประสบการณ์แบบนั้นซักหน่อยนะคะ―――แล้วไหงมีแค่เคทคนเดียวเนี่ยที่เอาตัวรอดได้เนี่ย?”
“พอฉันเห็นสีหน้าของโลเรียจังกับคุณผู้จัดการแล้ว ฉันก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ น่ะสิ”

 

ถ้าให้อธิบายก็คือ ฉันยังไม่ได้ทานน้ำแข็งใสของตัวเอง ทำแค่นั่งมองคุณเคทกับคุณไอริสทานกันก่อนพร้อมกับรอยยิ้มล่ะนะ

โดยไม่ได้พูดอะไรกับคุณไอริสเลยซักคำ

นิ่งเฉย อย่างโหดร้ายเลยล่ะ

 

“แต่ขนมหวานนี้ก็อร่อยจริงๆ นะคะ แค่ว่ามันทำให้ตัวหนาวๆ นิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“ที่นี่ก็เย็นด้วยนั่นแหละค่ะ อาหารอร่อย แล้วตอนกลางคืนก็สบายด้วย ทำเอาไปพักที่เรียวกังไม่ได้เลยค่ะ”
“สำหรับฉัน พอกลับบ้านแล้วก็ลำบากนิดหน่อยนะคะ แต่เวลาเข้านอน ฉันมีผ้าปูที่นอนที่สร้างจากผ้าปรับอากาศที่คุณซาราสะให้เอาไว้อยู่ด้วย นอนหลับสบายมากๆ เลยค่ะ”
“สุดยอดไปเลยนะนั่น ไม่เหมือนตามปกติที่การนอนบนฟูกดีๆ จะสบายกว่าเลยนะ ของดีๆ ขนาดนั้น ใช้แบบนั้นจะดีจริงๆ เหรอเนี่ย?”
“ไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ… ถึงจะไม่สบายใจนิดหน่อยที่ฉันได้ใช้แต่ของดีๆ ก็เถอะ”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้นหรอกนะ! เพราะพวกฉันก็มาอยู่เป็นแขกดอยด้วย”
“ไม่เลยๆ จริงๆ นะ ไม่ต้องคิดมากหรอก”

 

เตียงกับเครื่องนอนที่ฉันเตรียมไว้สำหรับแขกตอนนี้ถูกจองไว้สำหรับ 2 คนแล้วด้วย

ถึงจะว่าแบบนั้น ตอนนี้ จะเอาฟูกมาจาก 2 คนนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ

ข้างๆ 2 คนที่พูดว่า ‘เมื่อคืนร้อนจังเลยนะ นอนลำบากมากเลย’ แล้วคนที่อยู่ด้วยกันบอกว่า ‘เมื่อคืนหลับสบายมากเลยค่ะ’ คิดว่าจะเป็นยังไงล่ะ?

เพราะแบบนั้น ฟูกกับเครื่องนอนเสริมอีก 2 ชุดก็เลยถูกทำขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว

ถ้าเกิดอาจารย์จู่ๆ ก็โผล่มา หรือถ้าโลเรียจังอยากจะมาค้างคืนด้วยก็ไม่มีปัญหาเลย

ปลอดภัยไร้ปัญหา

 

“แต่ว่า ที่ร้านสบายแบบนี้ฉันก็รู้สึกดีมากๆ นะคะ แต่ว่า ก็มีปัญหาอยู่บ้างเหมือนกัน”

 

ฉันหันหน้าไปหาโลเรียจังที่กำลังทำหน้าตาลำบากใจอยู่

 

“งั้นเหรอ? ฉันไม่ได้ยินอะไรเป็นพิเศษนะ แต่…”
“ค่ะ พวกนักเก็บสะสมหลายๆ คน ขนาดจัดการธุระเสร็จกันแล้ว ก็ยังอยู่ในร้านไม่ยอมออกไปกันซักที―――”

“โอ๊ะโอ นี่กำลังหมายถึงข้าอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

 

คุณอังเดรเข้ามาในร้านพอดียังกับรอเวลาจะเข้ามาให้ตรงจังหวะเลยล่ะ

เขาเป็นลูกค้าประจำที่แวะมาที่ร้านแทบจะทุกวันเลย ก็ ถ้าถามฉันว่าฉันมองยังไง ก็บอกได้เลยล่ะว่าเขามาที่นี่บ่อยๆ เพื่อมาพักเย็นนั่นแหละ

 

“เอ คุณอังเดร เข้าใจสิ่งที่ฉันสื่อด้วยเหรอคะเนี่ย?”
“มันก็… แน่อยู่แล้วสิ!”

 

รู้อยู่แล้วด้วย!?

 

“เป็นแบบนั้นเหรอ? โลเรียจัง”
“คุณอังเดรยังเป็นคนกลุ่มที่ดีอยู่นะคะ”

 

อ่า แค่ดีกว่าเฉยๆ สินะ แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วย

 

“ถ้าให้น้ำเย็นๆ พวกเขาไป พวกเขาก็ยอมอย่างว่าง่ายแล้ว เพราะงั้น นี่น้ำค่ะ”
“โอ้ ขอบใจนะ―――อึกๆ ฟุฮ่าาาาาา! อร่อยจริงเล้ยยย! ของเย็นๆ ในหน้าร้อนแบบนี้เนี่ย!”

 

ถึงมันจะเย็นก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะถูกแช่ในตู้เย็นมานะ

แค่วางไว้ในร้านที่มีเครื่องพ่นลมเย็นติดตั้งเอาไว้ มันก็เย็นกว่าอุณหภูมิข้างนอกแล้วล่ะ

แต่ก็ ดื่มพรวดเดียวเลยก็ไม่มีปัญหาหรอก

โลเรียจังรับแก้วน้ำที่ดื่มหมดแล้วเรียบร้อยในอึกเดียวมาจากคุณอังเดร ก่อนจะชี้ไปที่ประตูทางออกของร้าน

 

“งั้นเหรอคะ ถ้างั้น กลับบ้านไปได้แล้วนะคะ”
“อุโหว! เฮ่! ไม่เอาน่า! ธุระของข้ายังไม่จบซักหน่อยนะ”
“โอ๊ะโอ เป็นแบบนั้นนี่เอง วันนี้มีอะไรเหรอคะ?”
“ก่อนอื่นก็ ผลประกอบการวันนี้ ช่วยรับซื้อหน่อยนะ แล้วก็โพชั่น― (ยาแปรธาตุ―)”
“ได้ค่ะ”

 

โลเรียจังรีบจัดการรายการซื้อของของคุณอังเดร ที่เป็นการแลกเปลี่ยนที่เธอคุ้นเคยอยู่แล้ว

ฉันเพิ่งจ้างเธอมาไม่กี่เดือนเองนะ แต่เธอทำงานได้คล่องแคล่วดีเลย แถมความจำดีก็ดีด้วย

มันไม่ดีหรอกที่ฉันจะพูดแบบนี้ แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า ‘ในหมู่บ้านชนบทแบบนี้ ได้เจอของดีอย่างโลเรียจังด้วยแฮะ!’ ดีใจจริงๆ เลยนะเนี่ยที่จ้างโลเรียจังมาน่ะ!

 

“―――แค่นี้เหรอคะ?”
“นั่นสินะ วันนี้ฉันก็หาได้เท่านี้นี่แหละ”
“ยังงั้นเหรอคะ ถ้างั้น ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
“โอ-… โอ้ย! ไม่ใช่ยังงั้นสิ! วันนี้ข้ายังมีเรื่องอื่นต้องทำอีกนะ!”
“จริงเหรอคะ? ก็แค่เพราะว่าเย็นดีเท่านั้นเองไม่ใช่หรือไงคะ?”
“ไม่ใช่แค่ซักหน่อย ความเย็นนี่น่ะมันสดชื่นมากเลยต่างหาก―――เอามันไปติดที่โรงแรมของพวกข้าด้วยได้มั้ยเนี่ย?”
“เรื่องนั้น ไปปรึกษากับคุณดีรัลก่อนเถอะนะคะ แต่ว่า ราคามันไม่ถูกหรอกนะคะ เพราะอย่างนั้น ฉันคิดว่าก็คงจะยากซักหน่อย”

 

ถ้าพวกเขาจะซื้อ ฉันก็ดีใจอยู่นะ แต่เมื่อวันก่อน พวกเขาเพิ่งจะมาซื้อเตาไฟพลังเวทจากฉันไปเอง

ต่อให้จะเอาไปติดตั้งอยู่ที่ห้องๆ นึงไปก่อนตอนนี้ หรือไม่ก็ทำความเย็นให้ทั่วทั้งอาคารไปเลย มันก็ต้องใช้เงินมากทั้ง 2 วิธีเลย แถมมันก็ไม่เหมือนเตาไฟพลังเวทด้วย ระยะเวลาที่มันสามารถทำงานได้มันสั้นกว่าครึ่งปีซะอีก

ที่สำคัญ มันใช้พลังเวทปริมาณมากกว่าที่คนธรรมดาจะใช้งานได้ไหวด้วย ไหนจะชิ้นส่วนที่ต้องคอยเปลี่ยนอย่างศิลาเวทหรือเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งก็มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอีก

ถ้าไม่ได้มีโรงแรมมาเปิดแข่ง ไม่มีการแย่งลูกค้ากันล่ะก็ โอกาสที่เขาจะซื้อมันก็คงจะริบหรี่เลย

 

“แล้วนี่ คุณอังเดรมีธุระกับพวกเราอีกหรือเปล่าคะ? มีจะสั่งซื้ออะไรอีกหรือเปล่า?”
“เปล่าหรอก ก็ไม่มีอะไรแล้ว…”

 

พอฉันถามออกไปแบบนั้น คุณอังเดรก็อึกอักไปนิดหน่อย ก่อนจะเหลือบสายตาเลื่อนไปมองทางคุณไอริสแทน

 พอสบเข้ากับสายตานั่นพอดี คุณไอริสก็พยักหน้า ก่อนจะเปิดปากพูด

 

“จากจุดนี้ ฉันขอเป็นคนพูดก็แล้วกันนะ―――นายท่านผู้จัดการคะ คุณรู้เรื่องของ พ่อค้าที่ปักหลักอยู่ในหมู่บ้านอยู่ตอนนี้หรือเปล่าคะ?”
“หมายถึงคุณเกรทส์ใช่หรือเปล่าคะ? ถ้าไม่ใช่ก็ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”
“เป็นพ่อค้าตัวอ้วนๆ อยู่หน่อยๆ ที่แก่กว่าเขาเยอะเลยล่ะค่ะ”
“เช่าบ้านอยู่มาซักพักแล้วล่ะ ดูจะกระเป๋าหนักพอควรเลยด้วย แถมยังเอาคนใช้มาด้วยอีกหลายคนเลยนะ”
“อย่างนั้นเหรอคะ ดูท่าทางแล้วคงจะไม่ใช่พ่อค้าเร่แน่เลย แล้วมีปัญหาอะไรงั้นเหรอคะ?”

 

อย่างที่ชื่อบอกนั่นแหละ พ่อค้าเร่ก็คือคนขายของที่จะตระเวนเดินทางเร่ไปตามเมืองใหญ่หมู่บ้านน้อยทั่วไปหมด

คนอย่างพ่อค้าเร่ตัวอ้วนๆ เนี่ยไม่มีอยู่จริงหรอกนะ อย่างน้อยก็แค่เท่าที่ฉันรู้

ถ้าเป็นหัวหน้าพ่อค้านำขบวนคาราวานใหญ่ก็อาจจะต่างออกไปหน่อย แต่ก็นึกภาพตามยากนิดหน่อยนะที่จะมีกองคาราวานใหญ่แบบนั้นเดินทางร่อนไปร่อนมาแบบนั้นน่ะ

 

“อันที่จริง พ่อค้าคนนั้นทำการรับซื้อเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งอยู่ค่ะ ราคารับซื้อสูงกว่านายท่านผู้จัดการเกือบ 30% เลย”
“อย่างนั้นเหรอคะ? นั่นข่าวใหม่เลยนะคะเนี่ย”
“อ๊ะ!? นี่หรือว่า ที่ช่วงนี้ จำนวนคนที่เอาเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งมาขายลดลงไปจะเป็นเพราะ…?”

 

โลเรียจังอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ ซึ่งคุณเคทก็พยักหน้าตอบ

 

“ฉันว่า นั่นน่าจะเป็นสาเหตุนะ”
“อย่างนี้นี่เอง ฉันก็รู้สึกอยู่ว่าเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งที่เรามีเก็บเอาไว้ดูจะลดๆ ลงไปด้วย”

 

ถ้าเกิดมันหมดไม่เหลือเลยเนี่ยฉันจ้องสังเกตเห็นอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนที่พวกคุณไอริสเอาของกลับมา พวกเธอก็ขายของทุกอย่างเป็นเงินหมดเลย แล้วดูเหมือนว่าพวกคุณอังเดรเองก็ยังเอามาขายให้ฉันอยู่นะ

ถึงวัตถุดิบจะลดลงไปจริงๆ ก็เถอะ แต่เพราะเขี้ยวที่ได้มาทั้งแก่ทั้งคุณภาพดี ปริมาณที่เราเอาไปใช้ในการทำหมวกเย็นฉ่ำก็เลยไม่ได้มากขนาดนั้นด้วย ปริมาณที่ลดลงไปก็เลยไม่ได้มากขนาดที่จะทำให้ฉันตระหนกตกใจน่ะสิ

ถึงจำนวนนักเก็บสะสมหน้าใหม่จะเพิ่มขึ้นมา แต่ปริมาณวัตถุดิบที่เรารับซื้อมากลับไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย ฉันก็สงสัยอยู่ว่า ‘พวกเขาไม่ได้เก็บรวบรวมเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งกันเหรอ?’ หรือไม่ก็ ‘พวกเขาอาจจะเอาไปขายที่เซาว์ท สแตรกก็ได้มั้ง?’ แต่กลายว่าพวกเขาก็แค่ไม่ได้เอามาขายที่ร้านของเรา แต่เอาไปขายที่อื่นเท่านั้นเอง

 

“นายท่านผู้จัดการ จะทำตัวสบายขนาดนี้มันก็…”
“คุณผู้จัดการ ผ่อนคลายแบบนั้นจะดีเหรอคะ? ถ้าราคาต่างกันตั้ง 30% จะไม่มีใครเอามาขายที่นี่เลยไม่ใช่เหรอคะ? แบบนั้นก็แย่แล้วนี่นา?”

 

โอ้โห~ ฉันพยักหน้าให้ พวกคุณไอริสที่มองมาก็มีสีหน้างงๆ กันหมดเลย

 

“ฉันสงสัยอยู่ค่ะว่าถ้าราคาขายสูงกว่ากันตั้ง 30% เนี่ย มันจะไม่มากเกินไปงั้นเหรอ?”

 

TN: อ่าว เปิดตลกอยู่ดีๆ ไหงท้ายตอนดันมีเรื่องซะงั้น

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่

Score 10
Status: Completed
แทบจะเป็นหนทางเลี้ยงชีพทางเดียวเลยที่จะเจริญขึ้นมาได้สำหรับเด็กกำพร้าตัวคนเดียว นั่นคือการเอาหนังสือรับรองการเล่นแร่แปรธาตุแห่งชาติมาให้ได้! ซาราสะ เด็กสาวที่จบจากวิทยาลัยหลวงฝึกสอนนักเล่นแร่แปรธาตุ สถานที่ที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากความสามารถของผู้เรียน ได้รับการเสนอร้านแห่งนึงมาจากอาจารย์ของเธอ เธอเริ่มออกเดินทางภายใต้การมองส่งของอาจารย์ผู้ใจกว้าง เฝ้าฝันถึงชีวิตที่สวยงามกว่าทั่วๆ ไปในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่ว่า ในสถานที่แบบนี้ ถ้าเธอไม่เปิดร้านล่ะก็ ชีวิตแบบนั้นก็ไม่มีวันมาถึงแน่―― เธอที่รายล้อมด้วยพนักงานทำงานพิเศษที่น่ารัก กับชาวบ้านที่เป็นมิตร เป้าหมายอยู่ที่การเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของประเทศอย่างเต็มตัวให้ได้! ชีวิตทำงานอันสโลว์ไลฟ์เริ่มเปิดให้บริการแล้ว! (เรื่องนี้แปลจากฉบับ LN ภาษาญี่ปุ่น)

Options

not work with dark mode
Reset