บทที่ 402: สงครามใต้โต๊ะ (1)
ภายในห้องจัดเลี้ยงอันพลุกพล่าน ดวงตาของโรเอลเบิกกว้างขึ้น สัมผัสอันนุ่มนวลประสานกับนิ้วของเขาจากใต้โต๊ะ ทำให้ร่างกายของเด็กหนุ่มสั่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นพร้อมหัวใจที่เต้นระรัว เสมือนว่ากำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่
เกอรัลงงงันกับปฏิกิริยาของโรเอล ซึ่งมันก็แน่นอนว่าเขาคงนึกไม่ถึงว่าโรเอลกำลังประสบกับอะไรอยู่แน่ ๆ
ขณะเดียวกันลิเลียนก็ยังคงพูดคุยกันอย่างใจเย็นเกี่ยวกับคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดอาณาจักรกับพอล โดยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรที่ผิดปกติออกมาเลย
“หัวหน้า มีอะไรหรือเปล่า? ทำไมหน้าคุณถึงแดงขนาดนี้ได้กัน?”
“อา? ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่รู้สึกร้อนนิดหน่อย”
“ใช่ อากาศเริ่มอุ่นขึ้นจริง ๆ”
เกอรัลตัดสินใจที่จะไม่ใส่ใจกับการแสดงออกที่แข็งทื่อของโรเอล แล้วหันไปหมกมุ่นกับอาหารและเครื่องดื่มอย่างเต็มที่แทน ส่วนพอลก็ยังคงนั่งติดกับเก้าอี้แน่น
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ลิเลียนก็เผยรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก
ในฐานะคนที่มีบ้านเกิดเมืองนอนห่างจากโรเอลมากที่สุดทางภูมิศาสตร์ ลิเลียนรู้ดีว่าโอกาสเดียวของเธอที่จะโต้ตอบกับเขาได้คือ ขณะที่พวกเขายังอยู่ในสถาบันการศึกษา อย่างไรก็ตามปฏิสัมพันธ์ของพวกเขานั้นต้องถูกเก็บเป็นความลับ เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการเมือง นี่เป็นข้อเสียเปรียบของเธอในสงครามความรักอันเข้มข้นนี้
อย่างไรก็ตามลิเลียนสามารถชดเชยสิ่งนั้นได้ ด้วยข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งคนอื่น ๆ …การสนับสนุนจาก พอล แอคเคอร์มันน์!
แม้ว่าลิเลียนจะติดต่อกับโรเอลได้จำกัด แต่เธอก็สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องของเขาได้ผ่านทางพอล อันที่จริงความเพลิดเพลินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอในปัจจุบันก็คือการอ่านรายงานประจำวันของโรเอล และการเคลื่อนไหวในวันนี้ก็เป็นกลอุบายที่คำนวณมาแล้วเป็นอย่างดี โดยอาศัยข้อมูลที่รวบรวมมาได้
ลิเลียนรู้ว่าเด็กสาวคนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ามาร่วมงานเลี้ยงนี้ได้ เนื่องจากพวกเธอกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องในฝ่ายของตัวเอง นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเธอในการเคลื่อนไหว ความรู้สึกของการขึ้นนำอย่างลับ ๆ ในงานประลองครั้งนี้ทำให้เธอตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอทำมันต่อหน้าผู้คนมากมาย
ด้วยนิ้วของพวกเขาที่ประสานกัน พลังทางสายเลือดของทั้งสองก็เริ่มสั่นพ้องซึ่งกันและกันโดยธรรมชาติ ใบหน้าของลิเลียนค่อย ๆ แดงขึ้นเล็กน้อยขณะที่เธอรู้สึกร้อนวูบวาบในอก
ลิเลียนเคยทำเรื่องแนวนี้กับโรเอลอย่างเปิดเผยมาแล้ว เพื่อเอาชนะใจเด็กหนุ่มในตอนที่เขาอยู่ในสภาพเด็ก น่าแปลกที่ตอนนี้พอโรเอลกลับคืนสู่ร่างปกติแล้ว เธอกลับไม่กล้ารุกต่อ
อย่างไรก็ตามลิเลียนก็ยังคงสนุกกับการมีปฏิสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างกัน
มันเรียบง่ายแต่ก็เติมเต็มจิตใจของเธอ ประหนึ่งมีพลังงานบางอย่างกำลังชาร์จเข้าไปในหัวใจ ทำให้โลกรอบตัวดูอบอุ่นและคลุมเครือ เธอรู้สึกว่าความรู้สึกที่อบอวลมีความสุขเช่นนี้จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน หากสามารถผูกขาดอีกฝ่ายไว้แต่เพียงผู้เดียวได้
ขณะที่ลิเลียนกำลังหมกมุ่นอยู่กับความสุขที่หายากนี้ ดวงตาสีอเมทิสต์ของเธอก็ม้วนตัวขึ้นด้วยความยินดี เธอรู้ดีว่าห้ามเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงในที่สาธารณะ แต่มุมปากของเธอนั้นกลับขัดต่อเจตจำนงและเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้น การเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกนี้ ดูเด่นชัดในสายตาของพอล ผู้ซึ่งพยายามปกปิดมันเพื่อเธอ
บางคนแสร้งทำเป็นว่าเย็นชาเพื่อให้ดูเคร่งขรึมและมีอำนาจ ในขณะที่บางคนเกิดมาในแบบนั้น ลิเลียนอยู่ในหมวดหมู่หลัง ศัตรูของเธอมักจะเห็นว่าความมีเหตุผลอันเยือกเย็นของเธอเป็นความเกลียดชัง ในขณะที่ผู้ติดตามของเธอเห็นว่ามันเป็นเครื่องหมายของจักรพรรดินีผู้มีอำนาจ
กระนั้น พอลตระหนักได้ว่าท่าทางอันเย็นยะเยือกของลิเลียนจะอ่อนลงทุกครั้งที่เธออยู่เคียงข้างโรเอล เธอดูอ่อนน้อมถ่อมตนและอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นคำที่แทบไม่มีใครใช้อธิบายเธอ
ด้วยเหตุนี้เองพอลจึงเต็มใจรับบทบาทพ่อสื่อระหว่างลิเลียนและโรเอล
อย่างที่คิดไว้จริง ๆ พี่สาวลิเลียนควรคู่กับลูกพี่โรเอล พอลคิดพร้อมด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น
เนื่องจากพวกเขาคุยกันถึงคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเดินจากไปเพื่อให้พวกเขามีพื้นที่ส่วนตัว เกอรัลเองก็เดินไปขอขนมปังปิ้งกับเพื่อน ๆ เมื่อไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ แล้วลิเลียนจึงเริ่มกระซิบบอกโรเอล
“ยินดีด้วยที่ผ่านรอบคัดเลือกนะ”
“ขอบคุณครับ รุ่นพี่ก็เหมือนกัน รอบคัดเลือกเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฉันตั้งใจจะจบมันให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ไปดูงานประลองของเธอ แต่กลุ่มของฉันได้สนามแข่งที่ใหญ่กว่ามาก”
ลิเลียนตอบอย่างเศร้าสร้อย
เด็กสาวได้แต่หงุดหงิดที่กลุ่มของเธอได้รับมอบหมายให้ต่อสู้ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งโรเอลก็หัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของเธอ
“อย่ากังวลไปเลย คุณไม่ได้พลาดอะไรหรอก รอบคัดเลือกนี้ไม่ได้ท้าทายสำหรับผมเท่าไหร่ ผมจะรอดูการต่อสู้ของคุณในรอบต่อไปนะ”
“อา… แบบนั้นก็ลำบากใจแย่น่ะสิ”
“ครับ?”
โรเอลกะพริบตาปริบ ๆ อย่างนึกสงสัยกับคำตอบที่คาดไม่ถึง ลิเลียนบีบมือของโรเอลเบา ๆ ก่อนจะเอนตัวไปหาอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฉันคงตั้งสมาธิต่อสู้ต่อไปไม่ได้แน่ ถ้าสายตาของเธอจับจ้องมาที่ฉัน”
เธอกระซิบข้างหูเบา ๆ
“!”
โรเอลสะดุ้งโหยงกับคำพูดเหล่านั้นก่อนจะหันไปมองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง เด็กหนุ่มรู้สึกคันยุบยิบที่หน้าอกอย่างเหลือทน
การตอบสนองอันงุนงงของโรเอลทำให้ลิเลียนหัวเราะ เธอรู้สึกอยากจะสัมผัสแก้มของโรเอลในทันใด แต่เพราะฝูงชนโดยรอบจึงไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เมื่อไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้เช่นนั้น เธอจึงทำได้เพียงแค่จิ้มมือของโรเอลก่อนจะถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
“เธอไม่คิดว่าพวกเราเจอกันน้อยไปหน่อยเหรอ นับตั้งแต่กลับมาที่สถาบันการศึกษา?”
“ถึงพวกเราจะเจอกันทุกวันในชั้นเรียนได้ก็จริง แต่พวกเราคงไม่สามารถนัดเจอกันเป็นการส่วนตัวได้”
โรเอลตอบพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาค่อนข้างยุ่งเนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะการมาถึงของนักเรียนจากต่างแดนและงานประลองศึกชิงถ้วย ซึ่งทำให้โรเอลไม่สามารถพบกับนอร่าและชาร์ล็อตได้ด้วยเช่นกัน
ผลงานของสมาชิกในฝ่ายภายในศึกชิงถ้วยจะเป็นตัวกำหนดว่า คนอื่นจะมองฝ่ายของพวกเขาอย่างไร เนื่องจากโรเอล และเด็กสาวคนอื่น ๆ ล้วนเป็นผู้นำฝ่าย พวกเธอจึงควรที่จะให้ความช่วยเหลือสมาชิกในฝ่ายสำหรับงานประลองที่สำคัญนี้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำหรือกลยุทธ์สำหรับการต่อสู้
อันที่จริงความแข็งแกร่งของกลุ่มก็เป็นหนึ่งในเกณฑ์การประเมินสำหรับผู้ถือแหวน
โชคดีที่ความพยายามของโรเอลได้ผล เห็นได้จากพัฒนาการของเกอรัลสู่ระดับแก่นแท้ 4 และความก้าวหน้าของพอลที่ทำให้เขาผ่านเข้ารอบจริง
แน่นอนว่าฝ่ายกุหลาบทองและฝ่ายกุหลาบแดงเองก็มีสมาชิกที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับแก่นแท้ของพวกเขา ภายใต้การแนะนำของนอร่าและชาร์ล็อตเช่นกัน
สำหรับฝ่ายกุหลาบม่วง… ที่จริงแล้ว ลิเลียนไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากก็ยังได้ เธอได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งในหมู่นักเรียน และฝ่ายกุหลาบม่วงเองก็มีอำนาจสั่งการที่ไม่สั่นคลอนภายในสถาบันอยู่แล้ว เธอจึงสามารถอุทิศเวลาให้กับเรื่องอื่น ๆ ได้ด้วย
“มันช่วยไม่ได้นี่นา ฝ่ายกุหลาบน้ำเงินของผมยังอยู่ในช่วงเติบโต พวกเราจะต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ได้รับทรัพยากรจากสถาบันการศึกษามากขึ้น ผมมัวแต่ยุ่งกับเรื่องพวกนั้นเนี่ยแหละ”
“ฉันเข้าใจ การประเมินภายในของสถาบันการศึกษาเน้นย้ำเรื่องระดับแก่นแท้มาก มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ”
ลิเลียนตอบพร้อมกับถอนหายใจ
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเธอก็นึกถึงบางสิ่งที่กระตุ้นจิตวิญญาณของเธอ
“หลังจากงานประลองศึกชิงถ้วยสิ้นสุดลง และภาคการศึกษาที่ 2 เริ่มต้นขึ้น พวกเราจะสามารถกลับมาเปิดชั้นเรียนเสริมใหม่ได้ และนักเรียนชั้นปีที่ 2 เองก็จะได้รับอนุญาตให้รับภารกิจนอกสถาบันการศึกษา ตอนนั้นพวกเราน่าจะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นนะ”
ลิเลียนรู้สึกพึงพอใจเมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กลับกันแล้วโรเอลกลับแสดงรอยอันยิ้มบิดเบี้ยวเมื่อได้ยินเกี่ยวกับบทเรียนเสริม
ทันใดนั้นเองที่ข่าวที่ไม่คาดคิดก็มาถึงหู
“หัวหน้า อาจารย์คริสมาครับ”
“อาจารย์คริส มาที่นี่งั้นเหรอ? เดี๋ยวนะ…”
ใบหน้าของโรเอลแข็งทื่อ เมื่อความรู้สึกแห่งลางร้ายกำลังเข้าครอบงำหัวใจ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ คริสก็เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงพร้อมกับเด็กสาวผมสีเงิน
นี่ทำให้อลิเซียและลิเลียนได้สบตากัน