ตอนที่ 13 งานกู้ระบบไฟฟ้า
ยานลงจอด ร่อนลงมาจากอวกาศตามเวลาที่นัดหมายเอาไว้
[มาสเตอร์ เรามาถึงแล้วครับ]
“ขอบคุณในความพยายาม”
รูดี้ ติดต่อกับ ฮาล ผ่านสมองอิเลคทรอนิคส์ในขณะที่ยังคงนั่งอยู่
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลับมาแล้ว”
“เข้าไปฆ่าตัวตายข้างใน…ฆ่าตัวตาย? ไม่ใช่สิ…การเตรียมตัว จะเสร็จใน30นาที่ เดส”
“เข้าใจละ ฉันไม่อยากนั่งรออยู่เฉยๆด้วยสิ เดี๋ยวจะออกไปรอข้างนอกละกัน รูดี้ก็รีบมาด้วยกันสิ “
พอพูดจบนาโอมิก็วิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น
ทำตัวเหมือนเด็กเลยนะ รูดี้คิดไปพลางมองตามหลังของเธอ และเริ่มติดต่อ ฮาล เพื่อคุยเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำต่อจากนั้น
เมื่อจบการสื่อสารกับ ฮาล เขาก็ออกไปข้างนอก
ประตูด้านหลังของยานลงจอดได้เปิดออกมาแล้ว และอุปกรสำหรับกู้คืนระบบไฟฟ้าสำหรับซากยานลำนั้น และอุปกรสำหรับใช้ในฐานที่พักก็ถูกขนออกมาเรื่อยๆ
เมื่อเขามองหานาโอมิก็พบว่าเธอกำลังจับตาดูกระบวนการขนส่งสินค้าพวกนั้นอยู่ เธอเอียงหัวไปพลางมองไปที่กล่องพัสดุเหล่านั้น แล้วสงสัยว่าพวกมันคืออะไร
นาโอมิสังเกตเห็นว่ารูดี้เดินไปที่ยานลงจอดจึงพักการสำรวจของเธอลงแล้ววิ่งไปหาเขา
“พวกนี้มันสุดยอดไปเลยนะ เจ้าเกวียนลอยได้พวกนั้นมันขนของออกมาเต็มไปหมดเลย”
รูดี้หันไปมองที่ยานลงจอด เข้าก็เห็นว่าพวก รถขนของ ที่ลอยอยู่เหนือพื้นประมาณ20ซม. กำลังขนส่งพัสดุจำนวนมากเข้าไปในฐานที่พัก
“รถขนของพวกนั้นมันลอยตัวด้วยอุปกรต่อต้านแรงโน้มถ่วง ความฝืด? ติดขัด?…แรงเสียดทาน….มันไม่มีแรงเสียดทานจึงทำให้ขนส่งได้ง่าย เดส “
“หรือก็คือ พวกมันกำลังลอยอยู่กลางอากาศไงล่ะ”
” ลื่นปลื้ดกลางอากาศ เดส”
“อะฮะฮะ ลื่นปลื้ดเนี่ยเหมือนกับกำลังพูดถึงหัวล้านเลยนะ”
นาโอมิ อดที่จะขำไม่ได้ไปกับวิธีใช้คำแบบพิลึกกึกกือของ รูดี้
[มาสเตอร์ เราตรียมการเสร็จแล้วครับ]
ระหว่างที่ ฮาล รายงาน รถขนของก็เคลื่อนตัวเข้ามาหารูดี้ มันขนทั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดรนสำหรับซ่อมบำรุงและวัสดุสำหรับการซ่อมแซมจำนวนมาก มาด้วย
“การกู้คืนระบบไฟฟ้าจะใช้เวลาเท่าไหร?”
[ไม่สามารถระบุได้จนกว่าจะได้ตรวจสอบสภาพของสถานที่จริงครับ แค่ผมคาดว่ามันจะใช้เวลาอย่างน้อย2วัน]
“เข้าใจละ ถ้าอย่างนั้นในระหว่างที่รอ ฉันจะไปสำรวจตัวยานละกัน”
[ครับ มาสเตอร์]
เมื่อจบการติดต่อกับ ฮาล เขาก็มองไปที่ นาโอมิ แล้วเห็นว่าเธอกำลังมองขึ้นไปที่ยานร้าง
“เน่..รูดี้ การที่เจ้ายานลำใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มันลอยอยู่บนท้องฟ้าแล้วเดินทางในอวกาศได้เนี่ย แค่คิดดูแล้วก็รู้สึกว่ามันสุดยอดไปเลยเนอะ”
“ฝืดแล้ว เจ้านี่มันลอยบนฟ้าไม่ได้ เดส”
“….หือ? อย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินรูดี้ตอบแบบนั้น นาโอมิก็หันมามองเขา
“ยานลำนี้มันใหญ่เกินไป ถ้ามันลงมาที่พื้นแล้วล่ะก็จะไม่สามารถส่งมันออกไปในอวกาศได้อีก มันบินบนท้องฟ้าไม่ได้ ที่เห็นนี่คือเพราะมันลงจอดฉุกเฉินนะ เดส”
รูดี้ตอบไปพลางชี้ไปที่พื้นด้านหลังของซากยาน
“อย่างนี้นี่เอง จะว่าไป พื้นดินตรงนั้นมันก็เป็นร่องเลยนี่นะ”
“มันไม่ใช่เรื่องปรกติเลยที่จะยานแบบนี้จะลงจอดบนพื้นผิวของดาวเคราะห์…อืม..ผมคิดว่าพวกเขาน่าเจอเข้ากับปัญหาบางอย่าง..เอ…หืม?..คิดว่างั้นแหละ เพราะอย่างนี้จึงกะไว้ว่าจะลองสำรวจหาสาเหตุของมันดู เดส “
“เข้าใจละ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า บรรพบุรุษของพวกเรามาทำอะไรที่ดาวดวงนี้ “
“ถ้างั้นก็เข้าไปกันเลย เดส”
พอพูดแบบนั้นพวกเขาทั้งสองก็เข้าไปในตัวยาน
ด้านในซากยานที่ไร้กระแสไฟฟ้านั้นมืดมาก
นาโอมิจึงเอาคบเพลิงออกมาจากกระเป่าที่เธอหิ้วมา
“รอเดี๋ยวนะ ฉันเอาคบเพลิงมาด้วย จะจุดให้เดี๋ยวนี้แหละ”
“ไม่จำเป็น เดส”
รูดี้สั่งให้โดรนเปิดไฟ ทางเดินมืดๆก็สว่างขึ้นมาทันที
นาโอมิยักไหล่ให้โดรนแล้วโยนคบเพลิงที่ดูท่าว่าจะไม่จำเป็นแล้วทิ้งไป มันกระดอนไปที่พื้นแล้วส่งเสียง การกระทบออกมา
“เจ้าโกเล็มนี่มันสารพัดประโยชน์ดีนะ”
“โกเล็ม? เจ้านี่คือโดรน เดส”
“โฮ่ เจ้าโกเล็มตัวนี้มันมีชื่อด้วยเหรอ แปลกดีนะ ถ้างั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ โดรน “
เนื่องจากระดับของอารยะธรรมที่ต่างกันจึงทำให้นาโอมิเข้าใจผิดว่านั่นเป็นชื่อของมัน รูดี้เองก็ขี้เกียจที่จะอธิบายเกี่ยวกับโดรนเข้าจึงปล่อยให้เธอเข้าใจผิดต่อไป
ตามหลังรูดี้ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องจ่ายไฟ นาโอมิที่มองไปรอบๆก็เริ่มแตะไปที่พื้นและกำแพงของตัวยานพลางส่งเสียงอึมอำไปด้วย
“พวกมันทำมาจากโลหะที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เดส”
“แม้แต่รูดี้เองก็ไม่รู้?”
อาจจะเป็นเพราะคาดไม่ถึงกับคำตอบของเขา เธอก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ
“ผมไม่ได้สนใจที่ค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องยิบย่อยทุกอย่าง เดส”
“แล้วถ้ามันพังขึ้นมาล่ะ”
“พอถึงเวลานั้นเราะก็แค่ส่งมันเข้าไปบำบัดที่อู่ อีกอย่าง ผมไม่ขึ้นยานที่จะพังง่ายๆขนาดนั้นหรอก มันน่ากลัวเกินไป เดส”
“ไม่ใช่ บำบัด แต่หมายถึง ซ่อมแซม ใช่ไหม”
“….น่าจะเป็นแบบนั้น เดส”
ระหว่างทางพวกเขาก็พบกับแท่นควบคุมการเชื่อมต่อที่ใช้งานไม่ได้ ทำให้สับสนกับทิศทางเล็กน้อยเพราะไม่มีแผนที่ให้ดู นอกจากนั้นแล้วก็ไม่พบปัญหาอะไร ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงท้องจ่ายไฟที่เขาตั้งเป้าเอาไว้
“ถึงแล้ว เดส”
“ที่นี่มันมีอะไรเหรอ?”
นาโอมิ เอียงหัวสงสัย
“ห้องจ่ายไฟ เดส มันการจ่ายระแสไฟฟ้าให้กับยานทั้งลำ เดส”
“…กระแสไฟฟ้าที่ว่านั่นน่ะ มันคืออะไรเหรอ?”
รูดี้ทำหน้าเหมือนจะบอกว่ามันยุ่งยากที่จะอธิบาย
“…เหมือนกับมานาที่ใช้ในเวทมนต์?”
“เข้าใจละ”
“ถ้างั้นก็เข้าไปกันเลย เดส”
รูดี้ เลื่อนประตู ไฮดรอลิค ออก แล้วเข้าไปในห้อง
ภายในห้องนั้นมีเครื่องกำแหนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่สำรับจ่ายไฟให้ยานทั้งลำ แน่นอนว่ามันไม่ทำงาน และในห้องก็เงียบสนิท
“เจ้านี้เองก็เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ยักษ์ เลยนนะ”
“มันคือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงาน ไดโปรตรอน เดส”
“ถึงจะอธิบายไปก็เปล่าประโยชน์ล่ะ ฉันไม่เข้าใจถึงสิ่งที่คุณพูดออกมาเลยสักนิด “
“มันจำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับ ฮีเลี่ยม เดส”
รูดี้ตอบแบบนั้นแล้วเดินเข้าไปที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลางติดต่อกับ ฮาล
“ฉันมาถึงห้องจ่ายไฟแล้ว แต่เจ้านี่มันข้อนข้างจะตกรุ่นไปนานเลยนะ”
[นั่นก็เพราะวิทยาการของเราก้าวหน้าขึ้นมามากในช่วง700ปีที่ผ่านมาครับ]
สงครามระหว่าง กาแล็คติค เอ็มไฟร์ ที่รูดี้สังกัดอยู่กับ เหล่าผู้รุกรายจาก กาแล็คซื่ อื่น เป็นผลให้ วิทยาการหลายๆอย่างก้าวหน้าอย่างมาก ยานอวกาศจากเมื่อ1,000ปีก่อน กลายเป็นของตกยุคสุดๆ ที่หาดูไม่ได้แม้แต่ในพิพิธพรรณ
“วิทยาการมันก้าวหน้าเพราะสงครามนี่นะ… แล้วนายซ่อมมันได้หรือเปล่า?”
[แม้ว่ามันจะแตกต่างจากของยานไนกี้อยู่มาก แต่พื้นฐานโครงสร้างโดยรวมแล้วมันก็คล้ายๆกัน เพราะงั้นจะลองทำอะไรสักอย่างดูครับ]
“เข้าใจแล้ว ถ้างั้นก็เริ่มเลย”
[ครับ มาสเตอร์]
เมื่อรูดี้สั่ง โดรนทั้ง3ตัวที่อยู่บนรถขนของก็ลอยเข้าไปที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเริ่มตรวจสอบมัน
“ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มทำอะไรบางอย่างนะ”
นาโอมิตื่นเต้นที่อยู่ๆพวกโดรนก็เริ่มทำงาน
“บำบัด…ไม่ใช่สิ… ตรวจสอบก่อนการซ่อมแซม เดส”
“มันจะใช้เวลานานแค่ไหนเหรอ?”
“ทั้งหมดเหรอ?….มันน่าจะให้เวลาประมาณ2วัน ระหว่างนั้นผมจะไปสำรวจดูที่อื่นๆ เดส”
ดูเหมืน นาโอมิ จะดีใจเมื่อได้ยินเขาพุดว่า ที่อื่นๆ
*(TL note _:(´ཀ`」 ∠): เพิ่งเคลียร์เควสจบไปแค่2ตัว เหลือ อีก5ตัว แล้วก็ต้องหาตังเพิ่ม อีก 70 ล้าน )