สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 765 ตำนานบทใหม่

บทที่ 765 ตำนานบทใหม่

บทที่ 765 ตำนานบทใหม่

“นายท่านห้า! นายท่านห้า!”

หน่วยกล้าตายของตระกูลหันพบนายท่านหันห้าที่เกือบจะหมดสติเพราะตากฝน

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่เนื่องจากภูเขาซงซานนั้นสูงมาก อุณหภูมิจึงต่ำกว่าที่อื่นอยู่แล้ว บวกกับพายุฝนที่น่ากลัว นายท่านหันห้าที่บาดเจ็บจึงเกือบจะหมดสติ

ถ้าไม่ใช้ม้าปีศาจดำที่ใช้ร่างกายของเขาบังลมฝนบางส่วนให้เขา เขาคงจะไม่อยู่รอจนคนของตระกูลหันมาพบเข้า

หัวหน้าของหน่วยกล้าตายประคองนายท่านหันห้าให้ลุกขึ้นนั่ง ถอดเสื้อคลุมออกแล้วเรียนนายท่านหันห้า “นายท่านห้า!”

นายท่านหันห้าสั่นไม่หยุด มือและเท้าสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว แม้แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็ชาไปหมด

เดิมทีด้วยฝีมือของเขาไม่น่าพ่ายแพ้เร็วขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่ อีกสาเหตุที่สำคัญคือ วินาทีที่เซียวลิ่วหลังพุ่งเข้าโจมตีนั้น เขาเหมือนเห็นภาพที่คุ้นเคย

นั่นคือภาพที่เขาไม่สามารถลบออกจากหัวได้ในชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน

สติเขาพร่าเลือนไปชั่วขณะ ร่างกายของเขาแข็งทื่อไปหมด ไม่อาจดึงพลังภายในออกมาต้านกระบวนท่าของเซียวลิ่วหลังได้ ผลก็คือเขาตกเป็นเหยื่อของเซียวลิ่วหลัง

เขาไม่ได้พ่ายแพ้เพราะฝีมือ แต่พ่ายแพ้ให้กับจิตใจและอารมณ์ของตัวเอง

หน่วยกล้าตายพูดด้วยความกังวล “ข้าจะพาเจ้ากลับไปเดี๋ยวนี้!”

“ยัง… ยังไม่ต้องสนใจข้า…” นายท่านหันห้าใช้แรงที่เหลืออยู่น้อยนิด พยายามอ้าริมฝีปากที่ชาของตัวเองออก แล้วพูด “ไป… ตาม… เซียวลิ่วหลัง… ที่ค่ายเฟิงหัว… หยิง… ที่แรก…”

บรรดาทหารหน่วยกล้าตายเหล่านี้มิได้อยู่ใต้บัญชาของฉีเซวียน ฉีเซวียนคุมคนของหันเย่ เขาได้รับคำสั่งจากประชุมตระกูลให้ช่วยเหลือนายท่านห้าอย่างลับๆ พวกเขาไม่รู้เลยว่าฉีเซวียนก็เข้ามาด้วย

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาไม่ได้ขี่ม้า

“ขี่…ม้า… ของข้า…ไป…”

เซียวลิ่วหลังต้องการจะยุติการต่อสู้ให้เร็วที่สุด สามกระบวนท่าที่เขาใช้โจมตีอีกฝ่ายเมื่อครู่ได้ใช้พลังทั้งหมดแล้ว ร่างกายของเขาถูกใช้จนหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมองไม่เห็นด้วย หากหน่วยกล้าตายของตระกูลหันสามารถตามทันได้ ก็สามารถโจมตีเขาอย่างหนักและแย่งชิงจดหมายลับกลับมาได้!

หัวหน้าหน่วยกล้าตายสั่งทหารของเขา “พวกเจ้าไปพร้อมกับนายท่านห้า ข้าจะไปตามเซียวลิ่วหลัง!”

หากเขาตามทันแล้ว ก็จะชิงจดหมายลับมาให้นายท่านห้า แล้วคุ้มกันนายท่านห้าไปยังค่ายเฟิงฮั่วที่หนึ่ง!

“ขอรับ!” ทุกคนขานรับ

“เดี๋ยวก่อน…” นายท่านหันห้าเรียกเขาไว้

หน่วยกล้าตายถาม “นายท่านห้า มีอะไรรับสั่งหรือขอรับ”

นายท่านหันห้าเอ่ย “ในเสื้อข้ามีขวดยาสำหรับม้าปีศาจดำ หากม้าปีศาจดำวิ่งไม่ไหว ให้กินยาเม็ดหนึ่ง จะสามารถฟื้นฟูพลังของมันได้”

“ขอรับ!”

หน่วยกล้าตายหยิบขวดยาออกมาหันหลังกลับขึ้นขี่ม้าปีศาจดำ ตอนแรกม้าปีศาจดำไม่ยอมให้ขี่ หน่วยกล้าตายล้มลงหลายครั้งถึงจะขึ้นขี่ได้ เป็นเพราะนายท่านหันห้าใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งหลอกล่อ

แต่หลังจากที่มันยอมรับหน่วยกล้าตายแล้ว ความเร็วของม้าปีศาจดำก็เปรียบดั่งสายฟ้าแลบ

หน่วยกล้าตายควบม้าอย่างไม่หยุดหย่อนมุ่งหน้าไปยังค่ายเฟิงฮั่วที่หนึ่ง

อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างนักบวชชิงเฟิงและเหลี่ยวเฉินก็ใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

เหลี่ยวเฉินไม่ต้องการฆ่าใครในวันนี้ ยามออกกระบวนท่าจึงจงใจออมแรง แต่นักบวชชิงเฟิงกลับเอาแต่ใช้ท่าไม้ตาย

เหลี่ยวเฉินถูกต้อนให้ถอยแล้วถอยอีก ด้านหลังของเขาพิงต้นไม้ใหญ่ เมื่อถอยไม่ได้ นักบวชชิงเฟิงจึงใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างสะกดเข้าที่จุดฝังเข็ม

เหลี่ยวเฉินไม่สามารถขยับได้ เขาถอนหายใจยิ้มพลางมองไปที่นักบวชชิงเฟิง เอ่ยอย่างเจ็บปวด “เจ้าสำนัก ท่านช่างไร้หัวใจจริงๆ ”

นักบวชชิงเฟิงสะกดไปที่จุดตายของเขาด้วยฝ่ามือเดียว!

คิดจะเอาชีวิตของเขาจริงๆ นี่!

เหลี่ยวเฉินฮึดฮัดเหมือนจะโกรธขึ้นมาจริงๆ กำลังภายในทั้งแปดทวารของเขาได้ถูกปลดปล่อย เขาเขย่งเท้าทะยานตัวขึ้นบนกิ่งไม้ มองนักบวชชิงเฟิงที่ยืนอยู่ข้างล่างด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ “เหล้าฉลองไม่ดื่ม ดันอย่างดื่มเหล้าทัณฑ์ ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป ข้าจะลงเอาจริงแล้วนะ”

มีเพียงเหลี่ยวเฉินเท่านั้นที่สามารถทำให้นักบวชชิงเฟิงโกรธจนอยากจะฆ่าคน!

แต่วันนี้นักบวชชิงเฟิงได้กดข่มความโกรธที่มีต่อเหลี่ยวเฉินเอาไว้แล้ว เพราะยังมีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องทำ

เขาเงยหน้าขึ้น มองเหลี่ยวเฉินด้วยดวงตาอันงดงามพลางเอง “เจ้าก็ลงมาสิ ข้าจะดื่มเหล้ากับเจ้า”

เหลี่ยวเฉินยิ้มมุมปากแล้วกระโดดลงมาอย่างสง่างาม

นักบวชชิงเฟิงดึงเชือกออกมาจากแขนเสื้อแล้วมัดเหลี่ยวเฉินไว้!

เหลี่ยวเฉิน “…”

นักบวชชิงเฟิงจับเหลี่ยวเฉินแขวนไว้ใต้ต้นไม้ จากนั้นหันหลังและกระโดดขึ้นม้า

เหลี่ยวเฉินเหมือนหนอนไหมตัวเล็กแกว่งไกวอยู่บนต้นไม้

เขามองดูแผ่นหลังของนักบวชชิงเฟิงที่กำลังควบม้าออกไป ริมฝีปากสีแดงของเขาหยักยกขึ้น แค่นหัวเราะพลางเอ่ย “ถ้าเจ้ากล้าไป นักบวชผู้ยากจนคนนี้ก็จะบอกให้ทั้งโลกรู้ว่าเจ้าคือโจรขโมยนกที่ลูกศิษย์นับพันจับได้วัดไป๋อวิ๋นเหมือนหลายปีก่อน!”

นักบวชชิงเฟิงเดือดดาลจนแทบจะระเบิด…

……

ฝนตกกระหน่ำ

ม้าปีศาจดำไล่ตามไม่หยุดหย่อนท่ามกลางสายฝน

มันยังเด็กมาก พละกำลังเหลือล้าน ทั้งยังอึดกว่าม้าศึกธรรมดา

มันวิ่งอย่างบ้าคลั่งโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ค่อยๆ ทิ้งภูเขาซงซานไว้ด้านหลังให้ไกลออกไป

ฟ้าร้องไม่เคยหยุดยั้งเช่นเดียวกันกับก้าวย่างของมัน เหมือนดั่งนักรบที่ห้าวหาญที่สุด ไล่ล่าตามศัตรูของตนโดยไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ยังไม่พอ…” หน่วยกล้าตายกำเชือกบังเหียนแน่น เช็ดใบหน้าที่เปียกฝน

พวกเขาได้วิ่งมาเกือบร้อยลี้แล้ว ม้าปีศาจดำยังไม่มีอท่าทีว่าจะเหนื่อยล้า เขาไม่เคยเห็นม้าศึกที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อน แต่ความเร็วของมันยังต้องเร็วกว่านี้อีก

หน่วยกล้าตายหยิบยาเม็ดที่นายท่านหันห้าให้มาให้ม้าปีศาจดำกิน

พลังที่สูญเสียไปของม้าปีศาจดำฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ความเร็วก็เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

ในที่สุด หลังจากผ่านอีกป่าเล็กๆ อีกแห่งหนึ่ง หน่วยกล้าตายก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่มาจากด้านหน้า

หน่วยกล้าตายพลันตื่นเต้นดีใจ นั่นคือเซียวลิ่วหลังนี่ต้องเป็นเซียวลิ่วหลังอย่างแน่นอน!

ยามนี้ท้องฟ้าได้มืดสนิทไปแล้ว ทั่วทั้งฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยพายุฝนขนาดใหญ่

ออกศึกกลางดึกท่ามกลางสายฝนเป็นเรื่องเสี่ยงและอันตรายอย่างยิ่ง สายตาของทหารถูกบดบังโดยสายฝน ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาการรับรู้ของม้าเป็นส่วนใหญ่

โดยปกติแล้วม้าศึกจะลดความเร็วลง เหตุหนึ่งเพราะนักรบสั่งให้ทำเช่นนั้น อีกเหตุหนึ่งเป็นเพราะม้ามีสัญชาตญาณหลีกเลี่ยงอันตราย

แต่ถึงกระนั้นเจ้าราชาม้าเฮยเฟิงกลับไม่ได้ลดความเร็วลง

มันแล่นเร็วราวสายฟ้าในยามราตรี

หน่วยกล้าตายได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่ห่างออกไปเรื่อยๆ จึงกัดฟันพูด “โธ่เว้ย! ข้ากำลังจะตามทันแล้วแท้ๆ เหตุใดถึงเหมือนทิ้งห่างไปอีกแล้ว!”

“ไป!”

“ไป!”

หน่วยกล้าตายเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ตามทันราชาม้าเฮยเฟิงอีกครั้ง แต่คราวนี้ระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้จนเหลือเชื่อ

หน่วยกล้าตาย ดึงดาบยาวออกจากเอวของเขา เขาแค่ฟันดาบลงมาเพียงครั้งเดียว เซียวลิ่วหลังก็จะต้องบาดเจ็บสาหัส!

ราชาม้าเฮยเฟิง วิ่งอย่างเร่งรีบ กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขาเกร็งแน่น เส้นสายไหลลื่น

ทันใดนั้น ขณะหน่วยกล้าตายฟันดาบลงมา ราชาม้าเฮยเฟิงก็พุ่งไปด้านขวาอย่างกะทันหัน วิ่งเข้าไปในทางแยกที่อยู่ด้านหน้าทางขวา

“ข้า!”

หน่วยกล้าตาย ฟันดาบออกไปในอากาศเปล่า

เพราะว่าเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าราชาม้าเฮยเฟิงจะเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน เขาไม่สามารถรั้งสายบังเหียนให้หยุดได้ทัน เขาจึงพุ่งไปข้างหน้าอย่างนั้น

ก็ต้องโทษม้าปีศาจดำที่วิ่งเร็วเกินไป

ภายในเวลาชั่วอึดใจ ม้าก็วิ่งออกไปไกลกว่าร้อยฉื่อ

ถ้าจะวกกลับไปตามราชาม้าเฮยเฟิงที่ทางแยกก็เกรงว่ายิ่งตามไม่ทัน

“ช่างเถอะ เจ้าออกมาจากทางแยกแล้ว อย่างไรก็ต้องกลับมาที่ถนนหลวง ข้าจะไปรอข้างหน้าเอง”

แต่ราชาม้าเฮยเฟิงกลับไม่ยอมให้เขาขัดขวาง เมื่อกลับมาที่ถนนหลวง แม้จะเหลือระยะห่างเพียงหนึ่งช่วงตัวม้าเท่านั้น ราชาม้าเฮยเฟิงก็วิ่งนำหน้าไปอีก

“ตามไม่ทันอีกแล้ว!” หน่วยกล้าตายโกรธจนตัวสั่น

ไม่ใช่ว่าม้าแก่หรอกหรือ

เหตุใดมันวิ่งได้เร็วขนาดนั้น!

แต่ข้างหน้าก็ไม่ใช่ทางราบเรียบ ตระกูลหันยังมีองครักษ์คนอื่นเฝ้าอยู่ที่ปากทาง

พวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่เร่งรีบดังมาจากสายฝน ต่างก็ชักกระบี่ออกมา ตั้งแถวปิดถนนหลวงทั้งสาย

พวกเขาเตรียมพร้อมมาอย่างรอบคอบ

ราชาม้าเฮยเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย ราวกับกำลังทะลุทะลวงภูเขาและแม่น้ำ บุกฝ่าแนวกั้นขององครักษ์ตระกูลหันอย่างราบคาบ!

องครักษ์สองคนของตระกูลหันถูกชนจนลอยขึ้นไป!

เร็วเกินไป!

แรงมหาศาล!

นี่ไม่ใช่ราชาม้าเฮยเฟิงที่พวกเขารู้จัก!

ราชาม้าเฮยเฟิงไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้!

หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งมองดูชายคนหนึ่งกับม้าที่ไกลออกไป ตะโกนเสียงดัง “ตัดเชือก!”

ข้างหน้าคือสะพานเชือก!

ยามที่รักษาสะพานเชือกอยู่ฝั่งตรงข้าม ชักกระบี่ออกมาฟันเชือกที่หัวสะพานอย่างแรง!

ระหว่างหน้าผาทั้งสองมีระยะห่างถึงสามจั้ง ม้าศึกใดก็ข้ามไปไม่ได้!

ทว่าองครักษ์เหล่านั้นก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าราชาม้าเฮยเฟิงไม่ได้ชะลอความเร็ว!

“มันจะทำอะไรน่ะ”

“มันคงไม่ได้คิดจะข้ามไปหรอกใช่ไหม! รนหาที่ตายชัดๆ ”

“ทหารม้านั่นโง่หรือไร เหตุใดไม่หยุดมันเล่า!”

“เฮ้ย!” องครักษ์คนหนึ่งตะโกนเรียกกู้เจียวจากด้านหลัง “ม้าเจ้ากำลังจะกระโดดหน้าผาแล้ว! รีบหยุดมันเดี๋ยวนี้!”

พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้กู้เจียวกระโดดได้

พวกเขายังไม่ได้ชิงจดหมายลับที่ซ่อนอยู่ในตัวของกู้เจียว

ถ้ากู้เจียวตกลงไปในเหว นายท่านหันห้าก็ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จได้

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

“ถึงตายเชียวนะ!”

พวกเขาอยากจะหยุดกู้เจียวไม่ให้ตกหน้าผาตายจากใจจริง

ตาของกู้เจียวมองไม่เห็น แต่การรับรู้ของนางยังคงอยู่

นางได้ยินเสียงสะพานไม้แตกหัก และรู้สึกถึงลมเย็นที่พัดมาจากเหวลึก

แต่นางไม่ได้หยุดราชาม้าเฮยเฟิง

ราชาม้าเฮยเฟิงกำลังเร่งความเร็ว

นางใช้มือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก กำบังเหียนแน่น หนีบท้องม้าแน่น ยืนบนอานม้าและยกร่างกายขึ้นเล็กน้อย

ราชาม้าเฮยเฟิงเกร็งกล้ามเนื้อทั้งตัวและกระโดดขึ้น!

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ม้าปีศาจดำและหน่วยกล้าตายก็มาถึง

“สะพานขาดแล้ว! สะพานขาดแล้ว! อย่าไป!” องครักษ์ตระกูลหันตะโกนเสียงดัง

หน่วยกล้าตายดึงบังเหียนอย่างแรง และม้าปีศาจดำก็หักเลี้ยวอย่างกะทันหันที่ขอบหน้าผาและหยุดได้ทัน

สาเหตุที่สามารถหยุดได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการห้ามของหน่วยกล้าตาย อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสัญชาตญาณหลีกเลี่ยงอันตรายของม้าปีศาจดำ

ม้าปีศาจดำถอยหลังไปสองสามก้าว

นี่คือระยะทางที่แม้แต่ม้าปีศาจดำก็ไม่สามารถข้ามได้

ทุกคนไม่กล้ามองลงไปข้างล่าง

ราชาม้าเฮยเฟิงกับทหารม้าผู้นั้นกำลังจะตกลงไปในเหว

“เฮ้ย…” องครักษ์คนหนึ่งร้องออกมาด้วยความตกใจ “ดูสิ! มัน มัน มัน…”

มันข้ามไปได้แล้ว!

มันเอาชนะสัญชาตญาณของตัวเอง เอาชัยหุบเหวอันน่าสะพรึงกลัว และข้ามไปได้ไกลกว่าที่ม้าศึกตัวใดเคยทำได้มาก่อน

มันคือราชาแห่งราชาม้าเฮยเฟิงที่แท้จริง!

ทหารทั้งสองฝั่งสะพานต่างก็ตกตะลึงถึงกับลืมตัวไปชั่วขณะ ราชาม้าเฮยเฟิงจึงพากู้เจียววิ่งผ่านทหารของตระกูลหันไปได้อย่างราบรื่น

“อ้าว! พวกเขาหนีไปแล้ว!” องครักษ์คนหนึ่งที่ถูกราชาม้าเฮยเฟิงชนกระเด็นไปร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

แต่ไม่มีใครลุกขึ้นไปไล่ตาม

เด็กน้อยที่มีความเชื่อใจอย่างหมดจดและความมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อของราชาม้าเฮยเฟิง แสดงให้พวกเขาเห็นสิ่งล้ำค่าที่สุดบนสนามรบ

พวกเขาไม่รู้ว่าความรู้สึกในตอนนี้เรียกว่าอะไร แต่รู้สึกเหมือนหัวใจของพวกเขาถูกสาดไปด้วยเลือด

พวกเขาไม่ต้องการไล่ตามอีกต่อไป

อย่างน้อยก็ในตอนนี้

นายท่านหันห้าคาดการณ์ไม่ผิด ท่าโจมตีสามกระบวนท่าที่กู้เจียวใช้เพื่อเอาชนะเขานั้นแทบจะใช้พลังทั้งหมดของนาง นางไม่เคยใช้วิธีต่อสู้ที่เสียพลังขนาดนี้ในการต่อสู้ครั้งใดเลย

ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถฆ่าหันฉือได้

หันฉือแข็งแกร่งเกินไป

เลือดคลุ้งอยู่ในลำคอของนางไม่จางหาย ไหลออกมาจากมุมปากของนาง

ตอนแรกนางยังกลืนมันลงได้ แต่ต่อมาแม้แต่แรงที่จะกลืนเลือดคาวนี้ก็ไม่มีแล้ว เลือดสดอาบไปทั่งแผ่นหลังของราชาม้าเฮยเฟิง

นางยังคงยืนหยัดด้วยจิตวิญญาณอันแน่วแน่

สภาพของราชาม้าเฮยเฟิงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ม้าปกติต้องหยุดพักหลังจากวิ่งเต็มที่ยี่สิบสามสิบลี้ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของทหารม้าอย่างรวดเร็วอยู่ที่ประมาณเจ็ดสิบแปดสิบลี้ต่อวัน

ถ้าหากเดินทางอย่างเร่งด่วน สามารถเดินทางได้เกินร้อยลี้ แต่ก็ต้องหยุดพักบ้าง

เฉพาะในกรณีม้าที่วิ่งตายเท่านั้น จึงจะเดินทางทั้งวันทั้งคืนเป็นระยะทางหลายร้อยลี้

สองร้อยลี้

สองร้อยห้าสิบลี้

สองร้อยหกสิบลี้

……

ราชาม้าเฮยเฟิงเข้าใกล้ขีดจำกัดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เหนื่อยจนอยากจะล้มลงไป แต่ก็ยังกัดฟันฝืนทนต่อไป

เมื่อยามฟ้าสาง สายฝนหยุดลง

แสงแรกของรุ่งอรุณลอดผ่านเมฆบาง เคลื่อนผ่านยอดเขา สาดส่องลงบนค่ายทหารอันเงียบสงัด

ในทุกวัน เหล่าทหารจะตื่นจากเสียงกลองศึกในค่ายทหาร

ทว่าในวันนี้พวกเขากลับถูกเสียงฝีเท้าม้าที่เร่งรีบปลุกให้ตื่น

พวกเขายังนึกว่าจะมีศัตรูบุกโจมตี เมื่อมาถึงหน้าค่าย มองไปก็เห็นแต่ม้าศึกตัวดำสนิทและเด็กน้อยคนหนึ่งที่ปิดตาอยู่

เด็กหนุ่มกับม้าคู่ใจควบม้าเข้ามาอย่างสง่างาม ราวกับมีกองทัพทหารนับพันกำลังติดตามมาด้วย แผ่นดินทั้งผืนก็สั่นสะเทือนไปหมด

กู้เจียวส่งมอบกระบอกไม้ไผ่ให้กับของรองแม่ทัพฝ่ายขวาได้สำเร็จ

รองแม่ทัพฝ่ายขวามองดูเด็กหนุ่มที่ปิดตา ยื่นมือโบกไปมาตรงหน้าเขาอย่างอดไม่ได้

เด็กหนุ่มไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ

รองแม่ทัพฝ่ายขวาถึงกับตกตะลึง

เขาตาบอดตั้งแต่เกิดอย่างนั้นหรือ

แล้วเขาวิ่งมาที่นี่เป็นระยะทางสามร้อยลี้ได้อย่างไร

รองแม่ทัพฝ่ายขวากำลังจะถามกู้เจียวว่าตาของเขาเป็นอะไรอยู่นั้น ก็เห็นเด็กหนุ่มกับม้าคู่ใจล้มฟุบลงกับพื้นพร้อมกัน

รองแม่ทัพฝ่ายขวาพลันตกใจ ตะโกนสั่ง “ใครก็ได้! เรียกหมอมาที!”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สามีข้าคือขุนนางใหญ่ ชื่อภาษาอังกฤษ : The Grand Secretary's Pampered Wife ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง(偏方方) ในอนาคตเขาจะได้เป็น 'ขุนนางใหญ่' อย่างนั้น 'เจ้' คนนี้จะประคอง 'สามี' คนนี้ ให้ไปถึงฝั่งฝันนั้นเอง! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม! จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้จียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เชียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ เพราะบุญคุณเชียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ แต่พราะ "ฝันบอกเหตุ' ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนหม่ได้รู้ว่าเขี้ยวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ยทั้งหลายเพื่อประคองเขาชื้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

Options

not work with dark mode
Reset