Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตาบทที่128 ผนึกเทพเจ้ามังกรปีศาจ! (1)

บทที่128 ผนึกเทพเจ้ามังกรปีศาจ! (1)

คราวนี้​ภาพ​ทักษะ​สวรรค์​ของ​ปีศาจ​มังกร​สาว​ไม่ได้​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​ แต่​ปรากฏ​ที่​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ ซุกซ่อน​อยู่​ใต้​เสื้อผ้า​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง

ทักษะ​ผนึก​มังกร​เงียบ​มีประโยชน์​มาก​เกิน​ความคาดหมาย​ของ​เขา​และ​สร้าง​ความเสียหาย​ให้​กับ​โจว​เหว่​ย​ชิงมาก​เช่นกัน​ ดังนั้น​ เขา​จะยอมแพ้​ไม่กักเก็บ​ทักษะ​อื่นๆ​ ของ​ปีศาจ​มังกร​สาว​มาด้วย​ได้​อย่างไร​? เมื่อ​เด็กหนุ่ม​ไป​ถึงระดับ​มณี 4 ชุด​แล้ว​ สิ่งแรก​ที่​เขา​นึกถึง​ก็​คือ​ปีศาจ​มังกร​สาว​นั่นเอง​

แม้ว่า​ปีศาจ​มังกร​สาวจะ​เป็น​เพียง​อสูร​สวรรค์​ระดับ​มหา​ราชา​ แต่​เนื่องจาก​มัน​เป็นการ​ผสมผสาน​ของ​ทักษะ​ธาตุ​มืด​และ​ทักษะ​ธาตุ​ปีศาจ​ ทักษะ​ของ​มัน​จึงใกล้เคียง​กับ​ระดับ​เทพเจ้า​อยู่แล้ว​ นั่น​จึงเป็นสาเหตุ​ที่​ทักษะ​ของ​ปีศาจ​มังกร​สาว​สามารถ​เรียก​ภาพ​ทักษะ​สวรรค์​ออกมา​ได้​

เพียง​ครึ่ง​ก้าว​สู่ระดับ​เทพเจ้า​ หมายความว่า​มัน​ได้​เยื้องย่าง​เข้าสู่​ประตู​เทพเจ้า​แล้ว​! ตัวอย่าง​ก็​เช่นว่า​ทักษะ​ผนึก​มังกร​…ก่อนหน้านี้​ไม่ใช่ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงเคย​ใช้มัน​เพื่อ​ผนึก​มังกร​ระดับ​เทพเจ้า​หรอก​หรือ​? แม้แต่​เทียน​เอ๋อร์​จาก​ภูเขา​หิมะ​สวรรค์​ก็​ยัง​รู้สึก​อิจฉา​เกี่ยวกับ​ทักษะ​นี้​ ดังนั้น​จึงสามารถ​จินตนาการ​ได้​แล้ว​ว่า​ทักษะ​ของ​ปีศาจ​มังกร​สาว​นั้น​ทรงพลัง​เพียงใด​

สิ่งที่​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​ปลดปล่อย​ออกมา​ใน​ขณะนี้​คือ​ทักษะ​ที่​ 2 ที่​เขา​กักเก็บ​มาจาก​ปีศาจ​มังกร​สาว​ เป็น​ทักษะ​ผสาน​ระหว่าง​ธาตุ​ปีศาจ​และ​ธาตุ​มืด​ ชื่อ​ของ​ทักษะ​นี้​คือ​ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ และ​มัน​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​ทักษะ​ชั้นยอด​ของ​ปีศาจ​มังกร​สาว​

ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ให้ผล​เรียบง่าย​ ทว่า​มัน​กลับ​ได้รับ​การ​จัดอันดับ​ที่​ 11 ดาว​ครึ่ง​ ปัจจัย​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​มัน​เป็น​ทักษะ​สัมบูรณ์​เช่นกัน​

ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ถูก​ปล่อย​ออก​มาจาก​ทาง​ดวงตา​ทั้งสอง​ข้าง​ และ​เช่นเดียวกับ​ทักษะ​ผนึก​มังกร​เงียบ​ มัน​ไม่ต้อง​อาศัย​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ใดๆ​ ตราบใดที่​บุคคล​นั้น​สบตา​กับ​ผู้​ร่าย​ และ​พลัง​ปราณ​สวรรค์​คน​ผู้​นั้น​ต่ำกว่า​ผู้​ร่าย​ 4 ระดับ​ ทักษะ​นี้​ก็​จะมีผล​ทันที​

ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ สิ่งที่​ปิดผนึก​คือ​วิญญาณ​ กล่าวคือ​คน​ที่​ต้อง​มนต์​ทักษะ​ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ วิญญาณ​ของ​เขา​จะถูก​ปิดผนึก​โดยสิ้นเชิง​ กลายเป็น​เหมือน​ผีดิบ​ไร้​จิตใจ​ภายใต้การควบคุม​ของ​ผู้​ร่าย​…เกือบจะ​เป็น​เหมือน​ร่างทรง​ของ​ผู้​ร่าย​ด้วยซ้ำ​

แน่นอน​ว่า​ยังมี​ข้อจำกัด​ขนาดใหญ่​สำหรับ​ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ กล่าวคือ​ในเวลานั้น​สามารถ​ควบคุม​ได้​เพียง​คนเดียว​ หาก​ต้อง​การควบคุม​คนอื่น​ เขา​จะต้อง​ยกเลิก​การควบคุม​คน​แรก​เสีย​ก่อน​

ดู​เพียง​ผิวเผิน​ ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​อาจ​ไม่ได้​ดู​น่ากลัว​เท่า​ทักษะ​ผนึก​มังกร​เงียบ​ แต่​เมื่อ​โจว​เหว่​ย​ชิงเห็น​รายละเอียด​ของ​ทักษะ​นี้​ เขา​ก็​สัมผัส​ได้​ทันที​ว่า​มัน​พิเศษ​มาก​เพียงใด​

แน่นอน​ว่า​ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​นี้​จะต้อง​พัฒนา​ขึ้นไป​ได้​อีก​พร้อม​ๆ กับ​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​เขา​ หาก​วันหนึ่ง​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงขึ้นไป​แตะ​ระดับ​เทพเจ้า​ เขา​ก็​จะสามารถ​ควบคุม​ยอด​ฝีมือ​ระดับ​มหา​ราชา​ได้​! แน่นอน​ ข้อแม้​คือ​เขา​ต้อง​มีพลัง​เหนือกว่า​คน​ที่​ต้อง​การควบคุม​ 4 ระดับ​

หลายครั้ง​ที่​เรื่องสำคัญ​บางอย่าง​ไม่สามารถ​แก้ไข​ได้​ง่ายๆ​ ด้วย​การต่อสู้​ ทักษะ​นี้​จึงมีประโยชน์​อย่าง​น่า​ประหลาดใจ​ใน​หลาย​ๆ สถานการณ์​ อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ทักษะ​นี้​ทำให้​โจว​เหว่​ย​ชิงมีหุ่นเชิด​ที่​ควบคุม​ได้​

เวลานี้​ก็​เป็น​สถานการณ์​ที่​เหมาะสม​สุด​ๆ สำหรับ​ใช้งาน​ทักษะ​นี้​ไม่ใช่หรือ​?

โจว​เหว่​ย​ชิงจับมือ​ของ​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​เอาไว้​และ​เติม​พลัง​ปราณ​สวรรค์​เข้าสู่​ร่างกาย​ของ​เขา​ ด้วย​การ​ตรวจสอบ​ง่ายๆ​ เขา​สัมผัส​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ว่า​แม้หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​จะมีพลัง​ปราณ​สวรรค์​ แต่​ก็​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​ 6 เท่านั้น​ซึ่งต่ำกว่า​ของ​ตนเอง​ โจว​เหว่​ย​ชิงจึงเปิด​ใช้ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​โดย​ไม่ลังเล​

ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​เป็น​ทักษะ​ที่​สามารถ​ปิดบัง​อำพราง​การใช้งาน​ได้ดี​ นอกจาก​ผู้ใช้​และ​หุ่นเชิด​แล้ว​ ไม่มีใคร​สามารถ​มองเห็น​ดวงตา​สีม่วง​แดง​ของ​เขา​ได้​ และ​แม้แต่​ภาพ​ทักษะ​สวรรค์​ก็​ถูก​ซ่อน​ไว้​อย่าง​ดี​ที่​แผ่น​หลัง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง

ใน​บรรดา​ผู้คน​เหล่านี้​ มีเพียง​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ซึ่งมีระดับ​พลัง​ปราณ​สูงกว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงเท่านั้น​ที่​สามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงร่องรอย​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ที่​สะท้อน​อยู่​บน​อากาศ​ สำหรับ​คนอื่นๆ​ พวกเขา​ไม่รู้สึก​อะไร​เลย​

หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ แสงสีแดง​ม่วง​กระพริบ​จางๆ ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ชั่ว​เสี้ยว​วินาที​ก่อนที่จะ​หาย​ไป​ หลังจาก​จ้องมอง​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​งุนงง​สักพัก​ก็​ดูเหมือน​เขา​จะฟื้น​คืนสติ​และ​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความเข้าใจ​ใน​ฉับพลัน​ “อ่า​ ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ เป็น​ท่าน​นั่นเอง​! ข้า​จำได้​แล้ว​ การ​มีท่าน​อยู่​ในกรม​ทหาร​ที่​ 16 เป็นการ​เพิ่มประสิทธิภาพ​ให้​กองกำลัง​ของ​พวกเขา​มาก​จริงๆ​! ท่าน​ต้อง​มาที่นี่​เพื่อ​ดูแล​กอง​ทหารม้า​หนัก​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 แน่​”

โจว​เหว่​ย​ชิงพยักหน้า​อย่าง​หยิ่ง​ทะนง​พลาง​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ใกล้​หู​ของ​ผู้ควบคุม​กองร้อย​ เอ่ย​ประโยค​เบา​ๆ ก่อน​จะส่งแผ่น​ป้าย​ให้​เขา​

ผู้คุม​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ดูก่อน​จะส่งมัน​กลับ​ไป​ให้​โจว​เหว่​ย​ชิงด้วย​ความเคารพ​ และ​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​ “ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ โปรด​รอ​อยู่​ข้างนอก​สักครู่​ ข้า​จะจัดเตรียม​เสบียง​ให้​ท่าน​ทันที​”

หลังจาก​พูด​จบ​ เขา​ก็​หันหลัง​กลับ​เข้าไป​ใน​ค่าย​ โจว​เหว่​ย​ชิงเดิน​ไป​ที่​ม้าปีศาจ​ผี​ของ​เขา​ สั่งให้​คนอื่นๆ​ ใน​กอง​ร้าย​ลง​จาก​หลัง​ม้าและ​พักผ่อน​เช่นกัน​

ทหาร​กองพัน​ไร้​พ่าย​ไม่รู้​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ และ​พวกเขา​ก็​ค่อนข้าง​อยากรู้อยากเห็น​มาก​ทีเดียว​ ไม่ใช่ว่า​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ของ​พวกเขา​เพิ่ง​ได้รับ​คัดเลือก​มาใหม่​หรอก​หรือ​? ทำไม​ดูเหมือนว่า​เขา​จะรู้จัก​กับ​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​คน​นี้​เป็น​อย่าง​ดี​? อย่างไรก็ตาม​ แม้จะมีคำถาม​มากมาย​อยู่​ใน​ใจ แต่​ทุกคน​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​เปิดปาก​ถาม นั่น​เป็น​เพราะ​หาก​พูด​ออก​ไป​ เงิน​ของ​พวกเขา​ก็​จะหาย​ไป​เช่นกัน​!

ดังนั้น​ทุกคน​จึงทำได้​เพียง​กลืน​คำถาม​กลับ​ลง​กระเพาะ​ไป​และ​เฝ้ารอ​อย่าง​เงียบๆ​

ความจริง​แล้ว​แผ่น​หลัง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​กำลัง​ปกคลุม​ไป​ด้วย​เหงื่อ​เย็น​ๆ เช่นกัน​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ใช้ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​เป็นครั้งแรก​และ​แม้ภายนอก​จะดูเหมือน​คน​สอง​คน​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ แต่​จริงๆ​ แล้ว​เขา​ต่างหาก​ที่​เป็น​ผู้ควบคุม​ทั้งหมด​

แม้ว่า​พลัง​วิญญาณ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงจะสูงมาก​ แต่​ก็​ยังคง​เป็นเรื่อง​ยากลำบาก​ที่จะ​แยก​วิญญาณ​ของ​เขา​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​เช่นนี้​

ผล​ของ​ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​นั้น​ทรงพลัง​มาก​และ​ยังมี​ระยะ​ใช้งาน​มากกว่า​ 500 ลี้​ เช่นเดียวกับ​ทักษะ​ผนึก​มังกร​เงียบ​ จะมีอีก​เพียง​ครั้ง​เดียว​ที่​มัน​พัฒนา​ขึ้น​ นั่น​คือ​ตอนที่​โจว​เหว่​ย​ชิงทะลุ​ไป​ถึงระดับ​ราชา​

แน่นอน​ ใคร​จะเดา​ได้​ว่า​ทุกอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​ในเวลานี้​อยู่​ภายใต้การควบคุม​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง! เมื่อ​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​กลับ​ไป​ที่​ค่าย​ ไม่นาน​เสียง​จอแจ​วุ่นวาย​ก็​ดัง​ขึ้น​จาก​ภายใน​ ทั้ง​เสียง​ลาก​ล้อรถ​และ​สัพเพเหระ​ต่างๆ​

การนำ​ทหารม้า​หนัก​จำนวน​ 100 นาย​ออกมา​ปฏิบัติการ​ใน​คืนนี้​เป็น​แผน​สำรอง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงในกรณีที่​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​มีระดับ​พลัง​ที่สูง​กว่า​ข้อจำกัด​ผนึก​เทพเจ้า​มังกร​ปีศาจ​ของ​เขา​ โชคดี​ที่​ดูเหมือนว่า​แผน​สำรอง​นี้​จะไม่จำเป็นต้อง​นำ​ออกมา​ใช้แล้ว​

โจว​เหว่​ย​ชิงกวักมือ​เรียก​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ที่​ประตู​ ผู้​ซึ่งรีบ​เดิน​มาหา​อย่าง​รวดเร็ว​

“ผู้บัญชาการ​กองพัน​ ท่าน​มีคำสั่ง​อะไร​หรือ​ขอรับ​?” เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงมาจาก​กอง​พลม้า​ปีศาจ​ผี​ที่​แสน​โด่งดัง​ สายตา​ที่​เขา​ใช้มอง​อีก​ฝ่าย​ก็​กลายเป็น​เคารพ​ยำเกรง​ขึ้น​หลาย​ส่วน​

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าว​อย่าง​เฉยชา​ “หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​ของ​เจ้าเริ่ม​เตรียม​เสบียง​แล้ว​ พวก​ข้า​จะไม่รอ​ที่นี่​และ​มุ่งหน้า​กลับ​ก่อน​ บอก​ให้​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​ของ​เจ้าส่งของ​ตาม​ไป​ยัง​จุดหมายปลายทาง​ที่​ข้า​บอก​เขา​”

ในขณะที่​กล่าว​ เขา​ก็​โบกมือ​ให้​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ของ​ตน​ และ​ทั้งหมด​ก็​เคลื่อนที่​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

เนื่องจาก​กฎ​ 2 ข้อ​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​กำหนด​ไว้​ก่อนหน้านี้​ ทหาร​กองพัน​ไร้​พ่าย​จึงถูก​บังคับ​ให้​เงียบเสียง​แม้จะมีความ​อยากรู้อยากเห็น​คับ​อก​อยู่​ก็ตาม​ ทั้งหมด​มุ่งหน้า​ตามหลัง​โจว​เหว่​ย​ชิงไป​ทาง​ทิศตะวันออก​เป็น​ระยะทาง​สั้น​ๆ ก่อนที่จะ​เลี้ยว​ไป​ทาง​ทิศเหนือ​

ในที่สุด​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ไม่สามารถ​อดกลั้น​ได้​อีกต่อไป​ ถึงอย่างไร​ เธอ​ไม่สนใจ​เหรียญทอง​อยู่แล้ว​ “อ้วน​น้อย​โจว​ เจ้ามีไพ่ตาย​อะไร​ซ่อน​อยู่​? เจ้าเพิ่ง​รู้จัก​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​เมื่อกี้นี้​เอง​ไม่ใช่หรือไง​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงยิ้ม​และ​พูดว่า​ “หึๆ​ ทุกอย่าง​เรียบร้อย​แล้ว​ เจ้าก็​แค่​รอ​ดู​”

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​กล่าว​ด้วย​ท่าทาง​ไม่พอใจ​ “ข้า​ไม่สนใจ​ว่า​ทุกอย่าง​จะลงเอย​ด้วยดี​หรือไม่​ เจ้าบอก​ข้า​ว่าการ​ปฏิบัติการ​ครั้งนี้​น่าสนุก​ สนุก​บ้า​อะไร​ล่ะ​!? ก็​แค่​ออกมา​อบอุ่น​ร่างกาย​กลาง​ลมหนาว​แค่นี้​น่ะ​นะ​?!”

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ปีศาจ​น้อย​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​รู้สึก​หมดสิ้น​หนทาง​ การ​พยายาม​เอาชนะ​เธอ​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​เลย​

เนื่องจาก​ไม่มีทางเลือก​ เด็กหนุ่ม​จึงพูด​ออกมา​อย่าง​มีเลศนัย​ “เฟยเอ๋อร์​ ข้า​จะบอก​ความลับ​แก่​เจ้า อันที่จริง​ ข้า​ไม่รู้จัก​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​คน​นั้น​เลย​ แถมแผ่น​ป้าย​ที่​ข้า​มอบให้​เขา​ก็​เป็น​เพียง​ตรา​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ของ​ข้า​ ไม่ใช่คำสั่ง​ลับ​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​…และ​มัน​ก็​ไม่ควร​มีประโยชน์​ด้วย​…นั่น​เป็น​ส่วน​ที่​สนุก​อย่าง​แท้จริง​ของ​ปฏิบัติการ​ใน​คืนนี้​…เจ้าลอง​คิดดู​สิ ทำไม​เขา​ถึงฟังข้า​กัน​น้า​? เดา​ได้​ไหม​?”

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ จากนั้น​หญิงสาว​ก็​เข้าสู่​ความ​เงียบ​ เธอ​เป็น​เด็กสาว​ที่​ชาญฉลาด​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​สิ่งที่​โจว​เหว่​ย​ชิงพูด​อยู่ดี​ ก่อนหน้านี้​เธอ​คิด​ว่า​เขา​รู้จัก​กับ​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​คน​นั้น​ แต่​เมื่อ​เขา​บอ​กว่า​ไม่ใช่ … เช่นนั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?

เมื่อ​เห็น​หญิงสาว​กำลัง​จมอยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​ของ​ตนเอง​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ เขา​นำ​ทั้ง​กองร้อย​เดิน​ไป​เป็นระยะ​เกือบ​ 50 ลี้​ ในที่สุด​ก็​หยุด​ฝีเท้า​ที่​เนินเขา​สูงลูก​หนึ่ง​

“ทุกคน​พักผ่อน​ที่นี่​ ปกปิด​ร่องรอย​ตัวเอง​ ปฏิบัติการ​นี้​ใกล้​จะสิ้นสุดลง​แล้ว​ ดังนั้น​ระวัง​ปาก​ของ​เจ้าไว้​ให้​ดี​ ไม่เช่นนั้น​ก็​อาจ​ถูกปรับ​ได้​” โจว​เหว่​ย​ชิงออกคำสั่ง​

หลังจาก​พูด​จบ​ เขา​ก็​นั่งลง​อย่าง​สบาย​ๆ และ​เริ่ม​ฝึก​ปราณ​ ราวกับว่า​แผน​ของ​เขา​ก็​คือ​การ​มานั่ง​อยู่​ที่นี่​ แน่นอน​ ไม่มีใคร​รู้​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​ตั้งสมาธิ​เพ่ง​จิต​ไป​ที่​การควบคุม​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​คน​นั้น​ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​และ​คนอื่น​อยู่​ใกล้​ๆ เพื่อ​คอย​ปกป้อง​เขา​ นอกจากนี้​ โจว​เหว่​ย​ชิงยัง​สามารถ​ปลุก​ตัวเอง​ได้​ตลอดเวลา​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่ต้อง​กลัว​การ​ถูก​ขัด​ จังหวะ​ใดๆ​

ผ่าน​ไป​เกือบ​ 1 ชั่วโมง​ กลุ่ม​ทหาร​เกือบ​ 500 นาย​ก็​เดิน​เข้า​มาหา​พวกเขา​อย่าง​ลับ​ๆ ผู้นำ​คือ​เว่ยเฟิง​

เมื่อ​เว่ยเฟิง​มาถึง เขา​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​เมื่อ​เห็น​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​คนอื่นๆ​ รอ​พวกเขา​อยู่​ที่​จุดนัดพบ​ก่อน​แล้ว​ ด้วย​ความ​สับสน​ ชายหนุ่ม​จึงเดินหน้า​ไปหา​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​รวดเร็ว​

“ผู้บัญชาการ​กองพัน​ สถานการณ์​เป็น​อย่างไร​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงลืมตา​ขึ้น​ หัน​ไปหา​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก่อน​จะพูดว่า​ “เฟยเอ๋อร์​ เจ้านำ​กอง​ทหารม้า​หนัก​กลับ​ก่อน​ ตัวตน​ของ​พวกเขา​เด่นชัด​เกินไป​ ทิ้ง​ที่​เหลือ​ไว้​ให้​พวกเรา​จัดการ​เถอะ​”

ใน​ตอนนี้​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ยัง​คงอยู่​ใน​ระหว่าง​การ​คิด​ไตร่ตรอง​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงทำ​ทุกอย่าง​สำเร็จ​ได้​อย่างไร​ สมอง​ของ​เธอ​ขบคิด​ผ่าน​ความเป็นไปได้​นับไม่ถ้วน​ ซึ่งก็​ถูก​หญิงสาว​จับ​โยนทิ้ง​ไป​ทีละ​อย่าง​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง เธอ​ก็​พยักหน้า​เล็กน้อย​ก่อน​จะขี่ม้า​ปีศาจ​ผี​ของ​ตนเอง​และ​นำ​เหล่า​ทหารม้า​หนัก​ออก​ไป​โดยที่​ยังคง​ตกอยู่ในภวังค์​อย่าง​เงียบงัน​

หลังจาก​ส่งซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ออก​ไป​แล้ว​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​หัน​ไปหา​เว่ยเฟิง​และ​ยิ้ม​น้อย​ๆ ด้วย​ความมั่นใจ​ “สั่งให้​ทุกคน​ปกปิด​ตัวตน​ให้​ดี​ที่สุด​ เรา​แค่​ต้อง​นั่ง​นิ่ง​ๆ ดู​การแสดง​ดี​ๆ ที่​กำลังจะ​มาถึง”

อีก​ 2 ชั่วโมง​ต่อมา​ก็​เป็นเวลา​เที่ยงคืน​ ความ​หนาวเย็น​อัน​แสน​ทรมาณ​ของ​คืนนี้​ทำให้​ทหาร​กองพัน​ไร้​พ่าย​หลาย​คน​ตัวสั่น​ไม่หยุดหย่อน​ แม้ว่า​พวกเขา​ทุกคน​จะเป็น​จ้าว​มณีที่​มีร่างกาย​ยอดเยี่ยม​ แต่​การ​อยู่​ใน​สถานที่​เช่นนี้​ก็​ยัง​ไม่ใช่เรื่อง​สะดวกสบาย​นัก​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ความจริง​ที่ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​ให้สัญญา​กับ​พวกเขา​ว่า​จะได้รับ​ผลประโยชน์​มากมาย​ และ​ก่อนหน้านี้​เขา​ก็​รักษา​สัญญาที่​ให้​ไว้​จริงๆ​ บางที​พวกเขา​อาจจะ​ล้มเลิก​ไป​กลางคัน​แล้ว​

ในขณะนั้น​ จู่ๆ ทุกคน​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​รถลาก​ใน​ระยะ​ไกลๆ​ เมื่อ​มอง​ไป​อีก​ฟาก​ พวกเขา​ก็​เห็น​เกวียน​ขน​เสบียง​หลาย​คัน​ถูก​เหล่า​ทหาร​ลาก​มาอย่าง​ช้าๆ นำ​โดย​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​ซึ่งนั่ง​อยู่​บน​ม้าอย่าง​สง่าผ่าเผย​ อย่างไรก็ตาม​ หาก​มีใคร​ตรวจสอบ​ดวงตา​ของ​เขา​อย่าง​ใกล้ชิด​จริงๆ​ ก็​จะพบ​ว่า​มัน​ว่างเปล่า​ไร้​วิญญาณ​

พวกเขา​เดิน​ต่อไป​เรื่อยๆ​ จนกระทั่ง​อยู่​ห่าง​จาก​จุด​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​กองพัน​ไร้​พ่าย​ซุ่มอยู่​ประมาณ​ 500 เมตร​ ก่อนที่​หัวหน้า​หน่วย​พลาธิการ​จะยก​มือขึ้น​และ​รถ​ทั้งหมด​ก็​หยุด​ลง​

ในเวลานี้​ เว่ยเฟิง​จ้องมอง​ภาพ​เบื้องหน้า​ด้วย​ดวงตา​ที่​เบิก​กว้าง​ มีรถลาก​เกือบ​ 200 คัน​ เต็มไปด้วย​เสบียง​และ​สัตว์เลี้ยง​อยู่​ข้างหลัง​ ประกอบด้วย​ หมู​ วัว​ และ​แกะ​บางส่วน​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​มือ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงที่​โอบ​ไหล่เขา​ไว้​ บางที​เว่ยเฟิง​อาจจะ​นำ​คน​ออก​ไป​ปล้น​พวกเขา​ทั้งหมด​แล้ว​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​มีทหาร​เพียง​ 500 คน​ที่​ลาก​เกวียน​อยู่​เท่านั้น​ ในแง่​ของ​ความสามารถ​ใน​การต่อสู้​ กองกำลัง​ขนส่ง​เสบียง​เหล่านี้​จะเทียบ​กับ​กองพัน​ไร้​พ่าย​ได้​อย่างไร​

…………………………………………………………..

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Score 10
Status: Completed

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ

มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์

ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม

ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล

ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?

ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…

หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!

ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา

ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา

มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!

สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…

แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?

ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา

สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร

Options

not work with dark mode
Reset