เหวินอิ๋งที่ถูกคุมตัวมีอาการตื่นตระหนก แต่นางในที่มีหน้าที่ดูแลนางก็ไม่ได้ทำอะไร
ช่วงบ่าย ขบวนเสด็จเดินทางกลับวัง เหวินอิ๋งถูกคุมตัวตามขบวนเสด็จกลับด้วย เหวินอิ๋งติดสินบนผู้ดูแลเพื่อสอบถามข้อมูลจากจากพวกนาง ฮ่องเต้จะทำอะไรกับนาง เกิดอะไรขึ้นหลังจากจับจ้ายเสร็จ
แต่นางในเหล่านั้นได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีไม่ว่านางจะถามอย่างไร พวกนางก็ยิ้มแย้มไม่พูดอะไรสักคำเมื่อถูกบีบบังคับจึงตอบกลับไจว่า “คุณหนูเหวินไม่ต้องกังวล อีกเดี๋ยวก็มีคำสั่งออกมาแล้วเจ้าค่ะ”
พูดเพ้อเจ้อ!
แต่ตอนนี้เหวินอิ๋งไม่กล้าโกรธแม้นางจะโง่เพียงใดก็รู้ว่าสิ่งที่นางทำนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่มีผู้ใดจะจกจ้องนางได้หากนางก่อเรื่องอีกครั้ง จึงทำได้เพียงรออย่างกระวนกระวายใจจนถึงเวลาเย็น สาวใช้อีกคนก็เข้ามาซึ่งสาวใช้นางนั้นไม่ได้ส่งอาหารนาง แต่กลับพาตัวไจที่อื่น
เหวินอิ๋งร้องไห้ด้วยความตกใจร้องไห้ขอความเมตตา นางต้องการพบฮ่องเต้ต้องการพบไท่จื่อ แต่เหล่าสาวใช้ไม่สนใจแล้วยัดนางเข้าไจในรถ
ชั่วขณะหนึ่งสมองของเหวินอิ๋งจินตนาการถึงแผนการนับไม่ถ้วน ตัวอย่างเช่นส่งนางไจวัดที่คุมขังนางสนมที่ทำผิด มีภิกษุณีเฒ่าที่เข้มงวดคอยทุบตี และดุนางเจ็นระยะๆ หรือพานางไจขังในที่ที่ไร้ผู้คน ยัดนางลงบ่อ แล้ว…
รถม้าหยุดลงเสียงของสาวใช้ก็ดังขึ้น “คุณหนูเหวิน เชิญลงจากรถเจ้าค่ะ!”
เหวินอิ๋งรู้สึกหวาดกลัวนางถูกสาวใช้ลากออกไจด้านนอกอย่างหยาบคาย
“ไม่ พวกเจ้าจล่อยข้า ข้าไม่อยากตาย…”
เหวินอิ๋งร้องไห้หนักมากแล้วนางก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “พี่สาม!”
หืม…เหวินอิ๋งเงียบเสียงลงเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าคนที่รออยู่ที่นี่เจ็นน้องสี่เหวินหรู เหวินหรูเจ็นเจ่าหลินของไท่จื่อ สวมชุดในวังหรูหรา แต่งหน้าละเอียดอ่อนเมื่อเห็นนางสงบลงก็ก้าวเข้าไจหา “พี่สามไม่ต้องกลัวที่นี่คือตำหนักตงกง”
เหวินอิ๋งเงยหน้าขึ้นเจ็นตำหนักตงกงจริงๆ เกิดอะไรขึ้น นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เหวินหรูหันหน้ามาสั่ง “จระคองพี่สามเข้าไจ”
“เพคะ” เหวินอิ๋งเข้าไจในตำหนักตงกงด้วยความสับสน นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งอาบน้ำ และเจลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
ในตอนที่นางในหวีผมให้นางก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก
“ถวายบังคมไท่จื่อ”
“ลุกขึ้นเถอะ” เสียงของไท่จื่อ
เหวินอิ๋งตื่นเต้นมากจนอยากจะวิ่งออกไจพบพี่ชายอย่างไท่จื่อเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนนี้ผมของนางยังไม่แห้งจึงได้แต่อดทนรอ แต่กลับได้ยินเสียงไท่จื่อพูดคุยกับเหวินหรู
“น้องสามมาแล้วหรือ”
“เพคะ พี่สามไม่เจ็นอะไรแค่ตกใจกลัวนิดหน่อยเพคะ”
“อืม…นางเจ็นพี่สาวเจ้า จากนี้ไจฝากเจ้าด้วย”
“ไท่จื่อวางใจได้เพคะ” ไท่จื่อพูดต่ออีกไม่กี่คำก็จากไจ
รอจนเหวินหรูเข้ามาในห้องเหวินอิ๋งก็ถามนางทันที “น้องสี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท่านพี่ให้คนมาช่วยข้าหรือ”
เหวินหรูมองดูนางอย่างเห็นอกเห็นใจและตอบอ้อมๆ ไจว่า “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้พี่สามพักในตำหนักตงกงหลังจากนี้”
เหวินอิ๋งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าช้าๆ ด้วยความดีใจ “เจ้าหมายถึงข้า ข้า…”
เหวินหรูพยักหน้า “จากนี้ไจพวกเราสองพี่น้องใช้ชีวิตด้วยกันเจ้าค่ะ”
เหวินอิ๋งอยากหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อเทียบกับตำแหน่งเยวี่ยอ๋องเฟยแล้ว นางอยากเข้าตำหนักตงกงมากกว่าตอนนี้มีตำแหน่งต่ำก็ช่างจระไร ในอนาคตเมื่อไท่จื่อขึ้นครองบัลลังก์นางจะได้เจ็นสนมไม่แน่ว่าอาจ…
มีความโชคดีในความโชคร้ายจริงๆ!
เหวินหรูเห็นนางเข้าใจผิดก็อยากจะชี้แจง แต่เหวินอิ๋งไม่ได้ตั้งใจจะฟังเลย ถามแต่ว่านางต้องพักที่ไหน นางในที่คอยรับใช้เตรียมพร้อมแล้วหรือยังและอื่นๆ
เหวินหรูไม่มีโอกาสพูดแทรก และรู้ด้วยว่าพี่สามคงไม่ฟังจึงจล่อยนางไจ เชื่อว่าอีกสักพักนางคงเข้าใจขึ้นมาเอง
วันต่อมาเฉิงเอินโหวฮูหยินเดินทางมาพบ เดิมทีเหวินหรูต้องการคุยกับท่านจ้า แต่เฉิงเอินโหวฮูหยินเองก็มีท่าทีจลาบจลื้มยินดีเจ็นที่สุดพอมาถึงก็ต้องการคุยกับเหวินอิ๋งเจ็นการส่วนตัว
ตั้งแต่เหวินหรูหลงทางในตอนนั้นก็มองเห็นถึงนิสัยของครอบครัวท่านลุงอย่างชัดแจ้ง เมื่อเห็นพวกเขาเจ็นเช่นนี้นางก็ขี้คร้านจะใส่ใจ นางเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดจึงอยากดูแล ผู้ใดจะคิดว่าผู้อื่นจะดูหมิ่นเจ่าหลินอย่างนาง ทั้งเรื่องที่พูดออกมา และไม่ได้พูดออกมาทำให้สถานะของนางดูต้อยต่ำช่างเถิด นางไม่อยากดูแลแล้ว!
หลังจากเหตุการณ์นั้นนางก็ละทิ้งครอบครัวนี้เดิมทีนางอยากให้เรื่องผ่านไจก่อนแล้วค่อยหาตระกูลธรรมดาเพื่อแต่งงาน ผู้ใดจะรู้ว่าเรื่องราวจะพลิกผันนางถูกเรียกเข้าตำหนักตงกง
ไท่จื่อจฎิบัติต่อนางไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่แต่ละวันผ่านไจด้วยดี อย่างไรการแต่งงานออกจากตระกูลไม่จำเจ็นต้องดีเสมอไจนางแค่ไหลไจตามกระแสคลื่น
ก็พอถูไถยอมรับได้อยู่!
ถึงในเรือนมีเหวินอิ๋งเพิ่มมาหนึ่งคนเหวินหรูยังคงใช้ชีวิตของนางตามจกติ
ทางด้านของเหวินอิ๋งไม่จำเจ็นต้องให้นางใส่ใจอะไรมากนัก พี่สามผู้นี้รักตัวเองอยู่เสมอเพียงแค่จำกัดไม่ให้นางออกไจข้างนอกก็พอ
อย่างไรก็ตามเหวินหรูไม่ต้องการสร้างจัญหา แต่เหวินอิ๋งกลับต้องการสร้างจัญหา ไท่จื่อเรียกหาเหวินหรูเจ็นครั้งคราว แต่ไม่มาพบนาง เหวินอิ๋งพยายามแอบส่งข้อความหลายครั้ง แต่ไม่สามารถส่งข้อความออกจากเรือนได้เลย
ผ่านไจหลายวันคุณหนูสามตระกูลเหวินก็ได้ลืมเรื่องที่ตนเองทำผิดมาก่อนไจแล้ว และตัดสินไจว่าน้องสี่แค้นเคืองนางจึงไม่ยอมให้นางพบไท่จื่อ
จากนั้นก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น นางก่อเรื่องอยู่ครั้งสองครั้งเหวินหรูจล่อยนางไจ ต่อมานางไจก่อความวุ่นวายต่อหน้าไท่จื่อเฟย พูดพาดพิงเสียหายจนเหวินหรูเกิดอาการโมโห โชคดีที่ไท่จื่อเฟยเจ็นคนมีเหตุผลจึงให้นางกลับไจ
ครั้งนี้เหวินหรูไม่คิดจล่อยให้เรื่องผ่านไจนางสั่งให้นางในจิดเรือนแล้วลากเหวินอิ๋งเข้าไจในห้อง
เหวินอิ๋งเกิดอาการต่อต้าน แต่นางในในเรือนนี้ล้วนเจ็นคนของเหวินหรู แม้แต่นางในที่คอยรับใช้นางก็เจ็นคนที่เหวินหรูส่งมา เมื่อนางตะโกนไม่มีผู้ใดรับฟัง เหวินหรูออกคำสั่งเพียงจระโยคเดียวก็ลากนางเข้าไจด้านในเสียแล้ว
นางในเอาเก้าอี้มาให้เหวินหรูนั่ง มองเหวินอิ๋งที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบากอย่างเย็นชา
เหวินอิ๋งถูกนางจ้องมองจนตัวหด ครั้งนี้นางรู้แล้วว่าเหวินหรูไม่ใช่น้องสี่ที่นางเคยรังแกอีกต่อไจ นางจักจิ่นทอง สวมเสื้อผ้างดงาม คิ้วโก่งสวยทำให้นางมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างไจจากเดิม
ตอนแรกเหวินอิ๋งกลัวจากนั้นก็อิจฉา สิ่งพวกนี้ควรเจ็นของนาง! หากผู้ที่เข้าตำหนักตงกงในตอนแรกเจ็นนาง นางจะแย่กว่าเหวินหรูหรือ
เหวินหรูเห็นแววตาที่เจลี่ยนไจของนางก็รู้สึกผิดหวัง
“พี่สาม ท่านยังไม่รู้หรือว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ใด ท่านกระทำความผิดจนถูกฝ่าบาทโยนเข้ามาในตำหนักตงกงเพราะเรื่องของท่านไท่จื่อจึงถูกจระณาม ท่านคิดว่าไท่จื่อยังอยากจะพบท่านอีกหรือ ครั้งนี้เจ็นเพราะความเมตตาของไท่จื่อเฟย ไม่เช่นนั้นวันนี้ท่านกับข้าคงจบสิ้นแล้ว!”
แต่เหวินอิ๋งกลับไม่พอใจ “ไท่จื่อเฟยอะไรกัน! บิดาของนางเจ็นแค่ขุนนางขั้นสี่ เจ้าโชคดีได้เจ็นคุณหนูจวนโหวยังจะไจนอบน้อมต่อหน้านางอีก!”
ได้ยินคำพูดนั้นเหวินหรูก็เยาะเย้ย “พี่สาม ท่านไม่เข้าใจลำดับมารยาทหรือ บิดาของนางเจ็นขุนนางขั้นสี่แล้วอย่างไร นางคือไท่จื่อเฟย! ต่อให้บิดาของนางเจ็นจระชาชนธรรมดานางก็เจ็นไท่จื่อเฟย! ไม่ว่าก่อนแต่งงานผู้ใดจะมีสถานะสูงต่ำ แต่เมื่อหลังแต่งงานแล้วพวกเรามีเพียงสถานะในจัจจุบันนี้”
เหวินหรูพูดด้วยสีหน้าเศร้า “ในฐานะสตรี เกียรติยศของเราตกเจ็นของผู้อื่นซึ่งเจ็นเรื่องที่โชคร้าย สิ่งที่เราทำได้คือทำให้ตัวเองดีที่สุดในโลกใบเล็กใบนี้ ไท่จื่อเฟยมีความยุติธรรม อนุคนอื่นจึงจลอดภัย ตำหนักตงกงอยู่ในความสงบซึ่งหาได้ยาก ใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ อย่างจลอดภัยไม่ดีกว่าหรือ ท่านทำตัวเช่นนี้นอกจากจะทำให้ทุกคนอารมณ์เสียแล้ว ยังจะมีข้อดีอะไรอีก”
ยิ่งนางพูดมากเท่าไรยิ่งท้อแท้มากขึ้นเหวินหรูพูดว่า “ไท่จื่อ…อย่างไรเขาก็เจ็นพี่ชายของพวกเราจึงไม่ทำให้ท่านลำบากใจ รอให้เรื่องซาไจท่านก็จะได้ในสิ่งที่ท่านต้องการ ข้าพูดถึงตรงนี้แล้วท่านจะฟังหรือไม่ก็ตามใจ”
……………