ผมเพิ่งสังเกตุว่าดงเสือดอกเล่นน้ำขยายใหญ่ขึ้นเท่าพื้นที่ถนนหนึ่งกับบ้านอีกหลังและทางขวากับซ้ายหลังคาเฟ่เสือหิว
ท่านหญิงเสือดำใช้เวลาใน 4 ปีขยายร้านตอนที่ผมไม่อยู่
และคนใช้น้ำหอมสบู่เสือดอกอยู่เยอะ
ผมเดินขึ้นไป ทุกชั้นขยายใหญ่ขึ้นและผู้คุ้มกันชั้นเยอะขึ้น
พี่เดนีโรเห็นผมแล้วเขาส่ายหน้าใส่
“ไปทำไม?”
เขาถามเหตุผลที่ไปเรียนอย่างนั้นหรือ? เขาเพิ่งเคยสนใจผมจริงๆจังๆครั้งแรก
“ผมมีปมน่ะพี่”
“เรื่องตอนเด็กอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ”
ตอนที่ผมโกหกเรื่องตอนเด็กให้ท่านหญิงเสือดำฟังเขาก็อยู่
จากนั้นเขาส่ายหน้าอีกครั้งและเปิดประตูให้
ท่านหญิงเสือดำรออยู่ในห้องทำงานที่หรูหรา เธอจ้องหน้าผม คิ้วขมวด
“แกเรียนไม่จบ”
“ครับ ผมเรียนไม่จบ”
ท่านหญิงเสือดำตบโต๊ะ ท่านหญิงเริ่มก่อนโดยไม่ให้ผมพูดอะไร
“ทำไม แกน่าจะผ่านได้”
“ความรู้ที่ผมมีมันผิด เพราะเพื่อทำข้อสอบให้ได้เร็วๆผมเลยใช้ความเร็วและเลือกข้อมูลจากโละ- ตอนเด็กๆมาใช้ มันเลยผิดเยอะครับ”
ท่านหญิงเสือดำพยักหน้า จิบบรั่นดี หน้าเหมือนดีขึ้นแล้ว ทำไมเร็ว?
“นั่นสินะ น้องน่ะ…”
ท่านหญิงเสือดำไม่พูดต่อจากนั้น ผมเอียงหัว เธอพูดถึงอะไร?
“ได้อะไรมาบ้าง ที่เรียนหมอมาแล้วไม่เหมือนความรู้เก่า?”
“มันมีอย่างนี้ครับ…”
ผมอธิบายเรื่องที่ผมได้รู้จากการเรียนหมอตอบท่านหญิงเสือดำ
ท่านหญิงเสือดำเงียบไปครู่หนึ่งไม่นาน
“ถ้าอย่างนั้น ของจืดๆกับของมันๆทำให้อ้วนอย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นต้องกินสลัดน้ำเยอะๆ”
ผมรีบขยายรายละเอียดท่านหญิง
“ไม่ใช่ครับ ผักจะเปลี่ยนเป็นแป้งกับไฟเบอร์กินได้เหมือนกันแต่มันจะไม่อ้วน ต้องเนื้อจืดๆกับของมันๆ เจี๊ยนกั๋วก็ได้ครับ หรือไข่อีกอย่าง”
“เนื้อมันเยอะๆที่ไม่ปรุง น่าจะไม่อร่อย แต่ถ้าขายว่าเมนูนี้อ้วนมันจะขายดี เกลือก็ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ครับ”
“พริกไทย?”
“ไม่ได้เหมือนกันครับ”
“อะไรกัน มันฟังดูไม่อร่อยเลย”
“มันจะดีสำหรับคนชอบจืดครับ”
ท่านหญิงเสือดำคิดครู่หนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นต้องขายแพงๆ คนจะกินไม่เยอะกัน”
ท่านหญิงพูดมาสีหน้าไม่พอใจ
“ฮาโมนี่คือร้านสร้อยผมเหรอ?”
“ไม่ใช่ มันคือร้านของแปลกของนายทั้งหมด เพราะนายเริ่มทำอาหาร”
ผมจับคางคิดแล้วถามท่านหญิงเสือดำ
“แต่ใช้คนของท่านหญิงอยู่?”
ผมถามท่านหญิง
“ใช่”
“ให้ผมเปลี่ยนเป็นคนของผมมั้ย?”
“จะจ้างเองเหรอ ก็ดีนี่ ได้คนทำเป็นแล้วค่อยมาบอกฉันแล้วกัน”
“ได้ครับ ว่าแต่เก็บเงินยังไงครับ”
ท่านหญิงยิ้มเล็กน้อย
“30% นายจะแบ่งหน้าที่เพราะกำไรจากร้านฮาโมนี่มันเยอะกว่า เน้นไปคุมที่นั่นให้ใหญ่โตอย่างเดียวก็พอ จะขยายมันก็มาบอกกับฉัน แน่นอนฉันคิดเงินค้าสร้าง”
มันแพงแต่เธอจัดการเรื่องสถานที่ เข้าใจแล้ว
“ส่วนนี่ เป็นอุปกรณ์ไม้นวดหลังที่นิยมใช้เป็นเรื่องนั้น-”
“เรื่องอะไร?”
“สร้างความสุขให้ตัวเอง”
“จริงเรอะ? ดีจริงมั้ย เอามาดู”
ท่านหญิงเสือดำหยิบไปหมุนดูแต่ไม่เปิด
“กดเปิดตรงนี้ครับ แล้วตรงนี้มันจะสั่นแรงพอดีๆ”
เธอเปิดแรงแล้วเอาลงไปข้างล่างหลังโต๊ะ
หน้าเธอแดงขึ้น แต่ไม่นานก็หาย
“ดีอยู่นี่”
“ขอบคุณครับ”
มันสั่นได้ยังไง
“หินขยะเหมืองครับ”
“หินจื่ดๆนะเหรอ? ถ้าอย่างนั้นต้นทุนถูก”
ท่านหญิงยิ้มไม่เปิดปากยาวแล้วมองไม้นวด ผมรู้สึกเหมือนเห็นลางๆว่าตามีเครื่องหมายบนทองทั่วไปอยู่ แต่ไม่นานก็กลับเป็นปรกติ
“แล้วเปลือกแข็งๆนี่คืออะไร”
“พลาสติกครับ หลักมันคือเหมือนพิมพ์ถุงอูริจิ แต่ใส่ใบคริสเตอร์เยอะกว่า…”
ผมอธิบายอย่างละเอียด
“อืม เข้าใจแล้ว ตอจากนี้เรียกมันว่าอูริติก พลาสติกมันไม่เหมือนคำโลกนี้”
“ได้ครับ”
ผมตอบท่านหญิงเสือดำมองไม้นวด แล้วคืนผม
“จากนั้นมีนี่ เครื่องช็อตไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันตัว จิ้มแค่ทีเดียวคนตัวใหญ่ล้มได้ กดตรงนี้แล้วมันจะช็อต”
ผมพูดไปให้เธอจับไปด้วยแล้วกดให้ดู ท่านหญิงเสือดำถือเครื่องช็อตไฟฟ้าเดินอ้อมโต๊ะมา
ซวยแล้วสิ ผมโดนแหง ผมเกร็งตัวรอรับ
จากนั้นเธอเอามาจิ้มคอผม ผมคิดอยู่แล้วว่าผมจะโดน แต่ผมคิดว่าท่านหญิงเสือดำจะจิ้มที่ท้อง แต่เธอเล่นคอเลย
ผมล้ม
“ขนาดนั้นเลย แต่เธออาจแกล้งได้”
จากนั้นท่านหญิงเปิดประตูไปหน้าห้องแล้วจิ้มพี่เดนีโร
ผมเห็นพี่เดนีโรเกร็งต้านได้ไม่นานก็ล้มไปอีกคนทำหน้างงๆ
ท่านหญิงปิดประตูเข้ามานั่งหลังโต๊ะไม้เงาใหญ่ๆ
“ของจริงแฮะ สองอย่างนี้พร้อมทำขายเมื่อไหร่บอกด้วย ฉันได้รายงานว่าลูกน้องเยอะนี่ ไม่ต้องน้องก็ได้”
ท่านหญิงรู้หรือ? เธอคืนเครื่องช็อตไฟฟ้า
“คนของผมที่มีตอนนี้เป็นคนละแผนกกันแต่ผมหาคนให้ได้แล้วผมต้องไปร้บเพื่อนๆที่ศิโรด้วย”
“มีแผนกด้วยอย่างนั้นเรอะ? แถมจะเริ่มงานช้าไปอีก”
“ผมมีเลขาเดินงานร้านฮาโมนี่ต่อได้ครับ กำไรจะไม่ตก”
ท่านหญิงมองแล้วจับคางคิดครู่หนึ่ง
จากนั้นเธอมองผม
“ฉันต้องเหนี่ยวเธอไว้กับตัว”
ท่านหญิงกอดอกคิดอยู่สักพัก
“เดนีโร! ล็อกห้อง!”
ท่านหญิงเสือดำตะโกน
“เอ๋!?”
จากนั้นเธอยกเสื้อขึ้นแล้วถกกระโปรงสั้นๆ
“เดี๋ยวดิ! ผมยังไม่พร้อม!”
“ฉันไม่สนเธอพร้อมไม่พร้อม 19 แล้วฉันทำได้ ฉันจะทำ”
“โถ่พี่ก็”
ผมสูดหายใจลึกๆ ตอนแรกผมคิดจะต่อต้าน แต่เธอก็ได้อยู่ และผมเป็นผู้ชาย
ผมได้ยินแล้วว่าเธอต้องเหนี่ยวผม แต่มันเป็นท่อนล่างผู้หญิง ไม่ต้องพูดถึงชั้นใน
ผมไม่ได้คิดว่าเธอปล้ำผม แต่คล้ายที่ท่านหญิงอยากเหนี่ยวผม ที่ผมไม่ยอมสานสัมพันธ์เกินเพื่อนกับวีและวิวสักที ผมไม่อยากเหนี่ยววีกับวิว ผมต้องสารภาพกับเธอด้วย
“มันเร็ว แต่มาเลย!”
“กล้าดีนี่”
เธอชิงไม้นวดออกจากมือผมไป
มากสุดหลังผมออกผมต้องส่งงานให้ร้านเธอฟรี
ผมออกมาจากห้อง พี่เดนีโรไม่มองผม
ผมโดนเสือดำลายดอกไม้กิน
มันเวลาสั้นๆมากๆ แต่ผมได้เรียนเรื่องพวกนั้นมาแล้วแม้ยังไม่เคยลอง
และเธอใช้ตัวช่วยอีก
ยิ่งคิดเหมือนยิ่งอ้าง ผมทำที่ต้องทำ
ผมไปหยิบสัมภาระที่ฝากเคาน์เตอร์ไว้
ผมรอสัมภาระมาแล้วหยิบกรงนกรัก
“นา มาเจอข้างหน้าได้มั้ย”
“สัญญาพร้อมยัง?”
“เขียนตอนนี้แหละ แป๊ปเดียว”
“อืมๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ พอแล้วนก”
ผมหยุดสื่อนกรัก
ผมเขียนสัญญาของนา สัญญาจ้างตลอดชีวิต
นามาพร้อมหนังสือมาดูสัญญาที่ผมกำลังเขียนโดยใช้ดินสอ
“ตรงนี้”
เธอชี้ตรงที่เขียนว่าค่าจ้างเดือนละ 2 ทอง
“เผื่อเพิ่มไว้ด้วย แล้วก็เขียนไปด้วยว่าเลี้ยงลูกเลี้ยงฉันด้วย”
“ได้สิ ว่าแต่ไหนล่ะลูกเลี้ยงที่ว่า?”
“เธอไม่ค่อยชอบเจอคน พูดถึงทองนายอยู่ในบัญชีห้าแสนกว่า นายเป็นมหาเศรษฐีแล้ว เลี้ยงได้อยู่แล้ว”
ผมยิ้ม
“ขอบคุณที่ดูแลให้”
“ธรรมดาน่า เรื่องเล็ก”
นายิ้มแล้ว
ผมลบเขียนใหม่ว่าขั้นต่ำ 2 ทองต่อเดือนและเลี้ยงลูกนาด้วย
ผมเซ็นชื่อแล้วยื่นให้นา นาทวนอีกครั้งและเซ็นชื่อ
จากนั้นเธอเก็บสัญญาไป
“เรียกประชุมคนของฉันยกเว้นพนักงานทุกคน ฉันจะไปเรียกเพื่อนฉัน และวีกับวิว”
นาพยักหน้าแล้วเดินไปฮาโมนี่
ผมฝากสัมภาระอีกครั้งและผมไปหาวีกับวิว
“วี วิว พี่มีเรื่องจะคุย”
ผมนั่ง พวกเธอมองด้วยหน้าหวั่นๆเล็กน้อย ผมมองพวกเธอ ผมเคยถามพี่โดโรเธียแล้วว่าผมมาก่อน แล้ววีกับวิวมาก่อนแล้วผมมาทีหลัง พี่โดโรเธียเห็นพ่อแม่เรา
แต่พอถามเธอเรื่องรายละเอียดพ่อแม่วีกับวิว กับแม่ผม เธอบอกมาแค่ว่า ‘เธอเลือกให้ลูกเป็นกำพร้าแล้ว อย่าไปยุ่งกับพวกเขา’
“พี่เคยจะรักษาหมายเลข 1 ไว้ให้เธอสองคน แต่วันนี้ พี่เสียมันไปแล้ว”
วีเอียงหัว แต่วิวอ้าปากค้าง
“ท่านหญิงเสือดำเหรอ?”
“ใช่”
ผมตอบคำถามวิว
“เธอใช้กำลังหรือใช้อำนาจเหรอ?”
ผมก้มหน้ารู้สึกผิด
“เธอใช้ความเร็วแค่นั้น แต่พี่แข็งแรงกว่าต่อต้านไหว 4 ปีที่ผ่านมาพี่ไม่ได้นิ่งการฝึก พี่ฝึกหนักขึ้น พี่ว่าพี่เดนีโรก็ไหว”
จากนั้นผมส่ายหน้า
“แต่สุดท้ายพี่สมยอม”
“มันเรื่องอะไรวิว?”
วีถามวิว เมื่อวิวกระซิบให้วีได้ยินเธอลืมตากว้างและมองผมอยู่สักพัก จากนั้นหลับตาถอนหายใจ
“พี่เปิดโอกาสให้พวกเรา หนูก็ถามวิวแล้วและวิวก็คิดเหมือนกันว่าเราก็ต้องเปิดโอกาสให้พี่บ้าง”
“วีไม่ว่าเหรอ?”
“หนูไม่สนว่าพี่ทำอะไรมา ขอให้สุดท้าย ถ้าหนูเลือกเป็นของพี่ พี่สมยอมมั่ง แค่นั้นเราก็พอใจแล้ว”
ผมจับมือวีกับวิว
“ขอบคุณที่เข้าใจพี่”
“พี่แปลก ปรกติเพื่อนสมัยเด็ก 15 เขาก็แต่งกันแล้ว”
ผมพูดอะไรตอบวีไม่ได้
“เราจะเริ่มรวมคนเพื่อประชุมเริ่มงานพี่จะไปเรียกพวกเพื่อน ไปที่ห้องประชุมใหญ่”
“ได้”
“สบายมากพี่วารี”
ผมมองส่งวีกับวิวเดินไป รู้สึกหลายอย่างอยู่ในใจ
ผมไปเรียกคนอื่นๆ แล้วไปห้องประชุม ผมขอท่านหญิงเสือดำแล้ว
ทุกคนเริ่มทยอยมา ในที่สุดก็ครบทุกแผนก มันมีเกือบถึง 10 คน วี, วิว, และนาก็มาด้วย พร้อมนาพาเด็ก 10 ขวบนิดๆมาหนึ่งคน
“ผมคือคนที่ไม่ได้เกิดที่ศิโร…”
ผมไม่ได้พูดใส่เครื่องขยายเสียงแต่พูดเสียงดัง
ผมเล่าเรื่องโกหกที่ไว้บอกกับท่านหญิงเสือดำ เรื่องนั้นที่ผมไม่ลืมความทรงจำตั้งแต่เด็ก และเกิดที่ไหนไม่รู้
เหล่าหมอยิ้มๆ ผักชีอ้าปากค้าง คนที่เหลือตกใจ แต่เด็กคนนั้นที่นาพามา เธอโกรธ
“ทำไมพี่โกหก”
“หา?”
เด็กตะโกนใส่ผม
“เพื่อนหนูบอกว่าพี่มาจากต่างโลก!”
“เอ๋?”
น้องเขารู้ได้อย่างไรเล่า?
“แล้วเพื่อนน้องเป็นใคร?”
น้องเขาก้มหน้า
“ไม่มีใครเห็นเขานอกจากหนู เขาอยู่ข้างหนูตลอด”
ผมเดินไปจับหน้าเธอให้มองผมเบาๆ
“มองพี่”
“อื้ม!”
“พูดจริงมั้ย?”
“จริง!”
หน้าตาเธอไม่มีความลังเล ผมเชื่อเธอ ปรกติแล้วเด็กไม่โกหก
แต่ผมต้องพูดอะไรสักอย่างเรื่องที่เธอบอกว่าผมมาจากต่างโลก
“ทุกคนเชื่อหรือไม่เชื่อเด็กคนนี้ก็ได้ เด็กคนนี้พูดจริง แต่ผมยังไม่บอกเอง พวกคุณจะตัดสินใจเองว่าผมมาจากไหน”
มีหลายคนมองเด็ก หลายคนดูมีคำถาม แต่ไม่ถามออกมา
“นี่คือความรู้ที่ผมได้มาก่อนเป็นกำพร้า”
จากนั้นผมหันหากระดานดำ
“ทุกคนเริ่มจากจุด”
ผมจุดลงบนกระดานดำ
“นี่คือทุกคน จุดเล็กๆที่ไม่เคลื่อนที่”
ผมชี้จุดให้ทุกคนเห็น
“จากนั้นมีอีกจุดหนึ่ง”
ผมจุดอีกจุดห่างกัน
“มันจะเป็นอะไรก็ได้ การงาน หรือคน”
ผมชี้อีกจุดตอนพูด
“จากนั้นเกิดการดึงดูด จุดหนึ่งทำอะไรสักอย่างเพื่อไปหาอีกจุดหนึ่ง หรืออีกจุดหนึ่งทำอะไรสักอย่างเพื่อดูดจุดเข้ามาหา แล้วมันเกิดพลังงาน จากนั้นมันเกิดเป็นเส้นที่เป็นอะไรก็ได้ สองอย่างดึงดูดกัน ถ้ามันไม่ได้จะเดินทางไปทางไหน มันจะโคจร”
ผมขีดเส้นจากสองจุด แล้วเขียนลูกศรหมุน ว่าตรงกลางหมุนและ อีกจุดโคจรรอบมัน
ผมวาดภาพดีขึ้นเพราะเข้าคาบพิเศษเรียนวาดรูปที่โรงเรียนมีให้เลือกเพราะต้องวาดภาพอวัยวะต่างๆ
“เพราะจุดเคลื่อนที่หรือส่งอะไรบางอย่าง มันเข้าหากัน หรือส่งพลังงานมาเชื่อมต่อกัน”
เมื่อผมหันไปพูดเสร็จผมตีกราฟแนวตั้งแนวนอน เขียนเลข 5, 10, -5, -10 ทั้งสองเส้น แล้วผมจุดตรงแนวตั้ง 5 แนวนอน 5
“ถ้ามีจุดที่มีค่า มันอาจมีจุดที่ค่าเป็นด้านตรงข้าม”
ผมจุด ที่ -5,-5
“ถ้ามันเจอกัน แน่นอนมันจะลบกัน เพราะอีกค่ามันเป็นด้านตรงข้าม แต่ถ้ามันไปด้วยกัน มันส่งพลังงานหากัน มันจะไปด้วยกัน หมุนรอบกัน”
ผมตีเส้นทั้งสองจุด
“ตารางมันเป็นได้ทั้งซ้าย,ขวา มีบนมีล่าง และมีข้างหน้าข้างหลัง จากนั้นมีอดีตและอนาคต หรือค่าต่างๆเช่นความอร่อย ความหวาน”
ผมกวาดตามองทุกคน บางคนยังเอียงหัวสงสัย
“ในทุกอย่าง มันประกอบด้วยสิ่งเล็กๆที่รวมกัน จากนั้นมีสิ่งเล็กๆมาหมุนรอบมัน สองอย่างมันไม่ถูกกัน แต่มันอยู่ห่างกันพอดี ทั้งคู่จึงขยับ”
จากนั้นผมวาดวงกลม
“ถ้ามีลูกกลมๆ ข้างในมีลูกกลมๆที่เล็กกว่า และข้างนอกมีลูกกลมๆที่ใหญ่กว่า ถ้าเราค้นหาคำตอบ เราหาได้ทั้งข้างนอกและข้างใน”
ผมเขียนคำว่า ‘พอดี’
“แต่เราต้องตั้งอยู่ในคำว่า พอดี หาพอดีๆ เราว่าเราเจอของที่เล็กกว่าแล้ว เราค้นพบได้แล้ว มันจะมีของที่เล็กกว่านั้นอีกเสมอ อย่าค้นหามากไป”
จากนั้นผมเขียนชื่อร้าน
“เราจะเชื่อมหากันด้วย ‘ฮาโมนี่’ อยู่ในดนตรีเดียวกัน แต่สนใจกันคนละอย่างก็ได้ แต่เราไปด้วยกันเพราะเราพอดีให้กัน”
ทุกคนเริ่มพยักหน้าเห็นด้วยแม้บางคนยังเห็นได้ที่หน้าตาว่ายังไม่เข้าใจ
ผักชียกมือ
“ผักชี แผนกประดิษฐ์ มีอะไร?”
“ประดิษฐ์เหรอ?”
“สร้างสิ่งที่มีหรือไม่เคยมี สร้างสิ่งที่เคลื่อนไหวจากสิ่งที่ไม่เคลื่อนไหว”
“อ๋อ”
จากนั้นผักชีพยักหน้า
“งานแรกคืออะไร?”
“รอก่อน มีแน่”
ผักชีเหมือนยังไม่แน่ใจตัวเอง เธอลังเลว่าผมมาจากไหนหรือ?
ผมเดินไปกระซิบหาเธอ
“ฉันมาจากต่างโลกถูกแล้ว ถ้าอยู่กับฉัน ฉันมีงานให้เธอแน่ เธอจะไม่ลำบากอีกต่อไป”
จากนั้นเธอถอนหายใจเหมือนโล่งใจ มองหน้าผมสักพัก
“วันละ 2 ทองแน่นะ”
“แน่นอน งานเยอะน่ะ”
ผักชีพยักหน้า แล้วเอามือลง
พี่คุมะยกมือ
“แผนกอาหาร พี่คุมะ”
“ฉันไม่เข้าใจ ตกลงแล้วน้องมาจากไหนกันแน่ พี่ทำงานมา 4 ปีแล้วนะ พี่มีสิทธิ์รู้”
ผมเดินเข้าไปกระซิบบอกความจริงพี่คุมะด้วย จากนั้นพี่คุมะมองเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ทำไมคนอย่างเธอให้ค่าฝ่ายอาหารวันละสองทอง เดือนละทองใครเขาก็เอาแล้ว”
ผมยิ้มแล้วตอบพี่คุมะอย่างเร็ว
“ถ้าได้กินดี เราจะได้อยู่ดี”
จากนั้นเธอยิ้มแล้วลดมือลง
ผมรอข้างหน้าสักพัก ไม่มีใครยกมืออีก คิเซกิหาว
“ตอนนี้ผมจะบอกสิ่งที่ผมค้นพบ”
ผมวาดจุดสองจุดและเส้นเขียนที่จุดว่า ‘คนแปลกหน้า’
“นี่คือคนแปลกหน้าสองคน ถ้าเราไม่รู้ว่าสร้างพลังงานเชื่อมกันยังไง”
ผมตีเส้นสองจุด แล้วเขียนว่ารัก
“ถ้าเราไม่รู้เลย ว่ามันจะเชื่อมกันได้อย่างไร ให้เราลองเข้าใจมันก่อน จากนั้นรักมัน ในที่ที่ผมมา มีเอ่อ- ละครเวที ที่บอกว่ารักข้ามโลกได้ รักข้ามมิติได้ เรารู้ว่าคนรักที่หายไปแล้ว ยังรักเราอยู่ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เหมือนความรักของพ่อ, แม่, และลูก เมื่อเทียบกันผมก็เข้าใจ ความรักเหล่านั้นอยู่กับเรา”
หลายคนพยักหน้า ผักชีกับลูน่าเฉยๆ
ผมยังรู้อยู่ว่าคนที่รักผมที่จากไปแล้วในโลกเก่าก็ยังรักผมอยู่ แม้ผมข้ามอะไรมาก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่ามิติหรือจักรวาล
จากนั้นผมเอาหินไฟฟ้าออกมา
“นี่จะเป็นแหล่งพลังงานหลัก ที่โลกเก่ามันมีกฎอยู่ว่า ถ้ามีพลังงานเกิดขึ้น มันจะมีอะไรที่ต้องเสียไป”
“นั่นก็เหมือนกันกับโลกนี้แหละ”
มหัศศรีพูด
“ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้น แต่หินนี้มันผิดกฎนั้นอยู่ ฉันให้มันปล่อยพลังงานทิ้งไว้ 5 ปีโดยที่ไม่เบาลง และมันไม่มีอะไรที่ต้องเสียไป ไม่สร้างมลภาวะด้วยซ้ำ”
“ของดีขนาดนั้นมีจริงเหรอ?”
มหัศศรีถามขึ้นมา
“ฉันลองแล้วฉันให้นายเชื่อได้แค่นี้ พอนายใช้นายจะเข้าใจ คราวนี้ ขึ้นอยู่กับว่า จะนับมันเป็นเวทมนตร์มั้ย? ถ้าเห็นด้วย ฉันจะเรียกว่าหินเวทมนตร์ ถ้าไม่เห็นด้วยก็เรียกมันว่าหินไฟฟ้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หินเวทมนตร์เหรอ? เอาดิ น่าสนใจดี”
มหัศศรีหัวเราะไปพูดไป คนที่เหลือยิ้มๆกัน
“มันมีเวทมนตร์จริงๆ”
ลูน่าพูดขึ้นมา ทึ่งกับสิ่งที่เห็น
“แล้วก็ตอนนี้ฉันพบคำตอบของคำถามที่ว่า ตายแล้วไปไหน”
“หา?”
พี่อเด็ปอุทาน
“เด็กคนนี้”
ผมชี้ไปที่ลูกเลี้ยงนา
“พิสูจน์ว่า หลังจิตดับ มีโลกหลังความตาย เพียงแค่พวกเราไม่เห็น”
“ถ้าอย่างนั้นที่ป้าคิดว่าพ่อป้าคอยดูอยู่ ก็เป็นเรื่องจริงสิ”
“ผมไม่รู้ มันทั้งเป็นไปได้และไม่ได้พร้อมกัน มีแต่เด็กคนนี้ที่รู้แท้ๆ ที่ผมก็ไม่รู้เพราะผมไม่เห็น แต่ผมเชื่อเด็กคนนั้น”
ผมตอบคำถามป้าคุมะที่หน้าเหมือนพอใจแล้วแหงนดูเพดาน
“นายเชื่อเด็ก แต่นายไม่รู้ด้วยตัวเอง?”
“ใช่ คิเซกิ”
เป็นธรรมดาที่คิเซกิจะไม่เชื่อสนิทใจ เขาเป็นคนอย่างนั้น
พี่เนตรทิพย์ยกมือ หน้าตามุ่งมั่นมาก
“พี่เนตรทิพย์ แผนกเครื่องประดับ”
พี่เนตรทิพย์สูดหายใจลึกๆ
“ฉันต้องการผัวไว้เลี้ยง ฉันจะเป็นเมียน้อยเธอ”
“เอ๋!? พี่จะไมทำงานแล้วเหรอ?”
พี่เนตรทิพย์ส่ายหัว
“งานฉันก็ทำ แต่ฉันต้องการหลักประกันว่าจะไม่ตกงาน”
เธอต้องการความมั่นคงอย่างนั้นหรือ? เธอยังไม่มั่นใจว่าแค่ตัวงานอย่างเดียวจะยึดความมั่นคงได้มากพอ
พี่คุมะยกมือไปยิ้มไป
“รุ่นป้ารับมั้ย?”
ลูน่ายกมือหน้าตาเฉยๆ ผักชีเมื่อเห็นมีคนยกเยอะอยากยกมั่ง ลังเลอยู่สักพักแล้วยกมือเหมือนกัน
“เยอะขนาดนี้เลย”
ผมพูดไม่ออก ไม่รู้จะคิดอย่างไร มุมหนึ่งมันก็ดีที่มีคนต้องการเราเยอะ แต่อีกมุมหนึ่งผมก็สัญญากับวีและวิวไว้ด้วย
เข้าใจล่ะ! ผมตัดสินใจ
“นัดคิวกับนา”
“เอ๋?”
นาร้องถาม หน้าตาตกใจที่อยู่ดีๆถูกโยนงานใส่
“ผมนัดวีกับวิวเพื่อนผมไว้ มันจะต้องรอตอน 21 เอาล่ะ ผมพูดเรื่องผมได้เท่านี้ ตอนนี้สงบๆกันก่อน เราจะเริ่มประชุมจริงเดี๋ยวนี้แหละ ผมจะแจงด้วยว่าใครแผนกอะไร”
ทุกคนลดมือ บางคนเอาไปกอดอกรอฟัง
เมื่อเห็นทุกคนพร้อม ผมพูดเริ่มการประชุม
ผมเพิ่งสังเกตุว่าดงเสือดอกเล่นน้ำขยายใหญ่ขึ้นเท่าพื้นที่ถนนหนึ่งกับบ้านอีกหลังและทางขวากับซ้ายหลังคาเฟ่เสือหิว
ท่านหญิงเสือดำใช้เวลาใน 4 ปีขยายร้านตอนที่ผมไม่อยู่
และคนใช้น้ำหอมสบู่เสือดอกอยู่เยอะ
ผมเดินขึ้นไป ทุกชั้นขยายใหญ่ขึ้นและผู้คุ้มกันชั้นเยอะขึ้น
พี่เดนีโรเห็นผมแล้วเขาส่ายหน้าใส่
“ไปทำไม?”
เขาถามเหตุผลที่ไปเรียนอย่างนั้นหรือ? เขาเพิ่งเคยสนใจผมจริงๆจังๆครั้งแรก
“ผมมีปมน่ะพี่”
“เรื่องตอนเด็กอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ”
ตอนที่ผมโกหกเรื่องตอนเด็กให้ท่านหญิงเสือดำฟังเขาก็อยู่
จากนั้นเขาส่ายหน้าอีกครั้งและเปิดประตูให้
ท่านหญิงเสือดำรออยู่ในห้องทำงานที่หรูหรา เธอจ้องหน้าผม คิ้วขมวด
“แกเรียนไม่จบ”
“ครับ ผมเรียนไม่จบ”
ท่านหญิงเสือดำตบโต๊ะ ท่านหญิงเริ่มก่อนโดยไม่ให้ผมพูดอะไร
“ทำไม แกน่าจะผ่านได้”
“ความรู้ที่ผมมีมันผิด เพราะเพื่อทำข้อสอบให้ได้เร็วๆผมเลยใช้ความเร็วและเลือกข้อมูลจากโละ- ตอนเด็กๆมาใช้ มันเลยผิดเยอะครับ”
ท่านหญิงเสือดำพยักหน้า จิบบรั่นดี หน้าเหมือนดีขึ้นแล้ว ทำไมเร็ว?
“นั่นสินะ น้องน่ะ…”
ท่านหญิงเสือดำไม่พูดต่อจากนั้น ผมเอียงหัว เธอพูดถึงอะไร?
“ได้อะไรมาบ้าง ที่เรียนหมอมาแล้วไม่เหมือนความรู้เก่า?”
“มันมีอย่างนี้ครับ…”
ผมอธิบายเรื่องที่ผมได้รู้จากการเรียนหมอตอบท่านหญิงเสือดำ
ท่านหญิงเสือดำเงียบไปครู่หนึ่งไม่นาน
“ถ้าอย่างนั้น ของจืดๆกับของมันๆทำให้อ้วนอย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นต้องกินสลัดน้ำเยอะๆ”
ผมรีบขยายรายละเอียดท่านหญิง
“ไม่ใช่ครับ ผักจะเปลี่ยนเป็นแป้งกับไฟเบอร์กินได้เหมือนกันแต่มันจะไม่อ้วน ต้องเนื้อจืดๆกับของมันๆ เจี๊ยนกั๋วก็ได้ครับ หรือไข่อีกอย่าง”
“เนื้อมันเยอะๆที่ไม่ปรุง น่าจะไม่อร่อย แต่ถ้าขายว่าเมนูนี้อ้วนมันจะขายดี เกลือก็ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ครับ”
“พริกไทย?”
“ไม่ได้เหมือนกันครับ”
“อะไรกัน มันฟังดูไม่อร่อยเลย”
“มันจะดีสำหรับคนชอบจืดครับ”
ท่านหญิงเสือดำคิดครู่หนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นต้องขายแพงๆ คนจะกินไม่เยอะกัน”
ท่านหญิงพูดมาสีหน้าไม่พอใจ
“ฮาโมนี่คือร้านสร้อยผมเหรอ?”
“ไม่ใช่ มันคือร้านของแปลกของนายทั้งหมด เพราะนายเริ่มทำอาหาร”
ผมจับคางคิดแล้วถามท่านหญิงเสือดำ
“แต่ใช้คนของท่านหญิงอยู่?”
ผมถามท่านหญิง
“ใช่”
“ให้ผมเปลี่ยนเป็นคนของผมมั้ย?”
“จะจ้างเองเหรอ ก็ดีนี่ ได้คนทำเป็นแล้วค่อยมาบอกฉันแล้วกัน”
“ได้ครับ ว่าแต่เก็บเงินยังไงครับ”
ท่านหญิงยิ้มเล็กน้อย
“30% นายจะแบ่งหน้าที่เพราะกำไรจากร้านฮาโมนี่มันเยอะกว่า เน้นไปคุมที่นั่นให้ใหญ่โตอย่างเดียวก็พอ จะขยายมันก็มาบอกกับฉัน แน่นอนฉันคิดเงินค้าสร้าง”
มันแพงแต่เธอจัดการเรื่องสถานที่ เข้าใจแล้ว
“ส่วนนี่ เป็นอุปกรณ์ไม้นวดหลังที่นิยมใช้เป็นเรื่องนั้น-”
“เรื่องอะไร?”
“สร้างความสุขให้ตัวเอง”
“จริงเรอะ? ดีจริงมั้ย เอามาดู”
ท่านหญิงเสือดำหยิบไปหมุนดูแต่ไม่เปิด
“กดเปิดตรงนี้ครับ แล้วตรงนี้มันจะสั่นแรงพอดีๆ”
เธอเปิดแรงแล้วเอาลงไปข้างล่างหลังโต๊ะ
หน้าเธอแดงขึ้น แต่ไม่นานก็หาย
“ดีอยู่นี่”
“ขอบคุณครับ”
มันสั่นได้ยังไง
“หินขยะเหมืองครับ”
“หินจื่ดๆนะเหรอ? ถ้าอย่างนั้นต้นทุนถูก”
ท่านหญิงยิ้มไม่เปิดปากยาวแล้วมองไม้นวด ผมรู้สึกเหมือนเห็นลางๆว่าตามีเครื่องหมายบนทองทั่วไปอยู่ แต่ไม่นานก็กลับเป็นปรกติ
“แล้วเปลือกแข็งๆนี่คืออะไร”
“พลาสติกครับ หลักมันคือเหมือนพิมพ์ถุงอูริจิ แต่ใส่ใบคริสเตอร์เยอะกว่า…”
ผมอธิบายอย่างละเอียด
“อืม เข้าใจแล้ว ตอจากนี้เรียกมันว่าอูริติก พลาสติกมันไม่เหมือนคำโลกนี้”
“ได้ครับ”
ผมตอบท่านหญิงเสือดำมองไม้นวด แล้วคืนผม
“จากนั้นมีนี่ เครื่องช็อตไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันตัว จิ้มแค่ทีเดียวคนตัวใหญ่ล้มได้ กดตรงนี้แล้วมันจะช็อต”
ผมพูดไปให้เธอจับไปด้วยแล้วกดให้ดู ท่านหญิงเสือดำถือเครื่องช็อตไฟฟ้าเดินอ้อมโต๊ะมา
ซวยแล้วสิ ผมโดนแหง ผมเกร็งตัวรอรับ
จากนั้นเธอเอามาจิ้มคอผม ผมคิดอยู่แล้วว่าผมจะโดน แต่ผมคิดว่าท่านหญิงเสือดำจะจิ้มที่ท้อง แต่เธอเล่นคอเลย
ผมล้ม
“ขนาดนั้นเลย แต่เธออาจแกล้งได้”
จากนั้นท่านหญิงเปิดประตูไปหน้าห้องแล้วจิ้มพี่เดนีโร
ผมเห็นพี่เดนีโรเกร็งต้านได้ไม่นานก็ล้มไปอีกคนทำหน้างงๆ
ท่านหญิงปิดประตูเข้ามานั่งหลังโต๊ะไม้เงาใหญ่ๆ
“ของจริงแฮะ สองอย่างนี้พร้อมทำขายเมื่อไหร่บอกด้วย ฉันได้รายงานว่าลูกน้องเยอะนี่ ไม่ต้องน้องก็ได้”
ท่านหญิงรู้หรือ? เธอคืนเครื่องช็อตไฟฟ้า
“คนของผมที่มีตอนนี้เป็นคนละแผนกกันแต่ผมหาคนให้ได้แล้วผมต้องไปร้บเพื่อนๆที่ศิโรด้วย”
“มีแผนกด้วยอย่างนั้นเรอะ? แถมจะเริ่มงานช้าไปอีก”
“ผมมีเลขาเดินงานร้านฮาโมนี่ต่อได้ครับ กำไรจะไม่ตก”
ท่านหญิงมองแล้วจับคางคิดครู่หนึ่ง
จากนั้นเธอมองผม
“ฉันต้องเหนี่ยวเธอไว้กับตัว”
ท่านหญิงกอดอกคิดอยู่สักพัก
“เดนีโร! ล็อกห้อง!”
ท่านหญิงเสือดำตะโกน
“เอ๋!?”
จากนั้นเธอยกเสื้อขึ้นแล้วถกกระโปรงสั้นๆ
“เดี๋ยวดิ! ผมยังไม่พร้อม!”
“ฉันไม่สนเธอพร้อมไม่พร้อม 19 แล้วฉันทำได้ ฉันจะทำ”
“โถ่พี่ก็”
ผมสูดหายใจลึกๆ ตอนแรกผมคิดจะต่อต้าน แต่เธอก็ได้อยู่ และผมเป็นผู้ชาย
ผมได้ยินแล้วว่าเธอต้องเหนี่ยวผม แต่มันเป็นท่อนล่างผู้หญิง ไม่ต้องพูดถึงชั้นใน
ผมไม่ได้คิดว่าเธอปล้ำผม แต่คล้ายที่ท่านหญิงอยากเหนี่ยวผม ที่ผมไม่ยอมสานสัมพันธ์เกินเพื่อนกับวีและวิวสักที ผมไม่อยากเหนี่ยววีกับวิว ผมต้องสารภาพกับเธอด้วย
“มันเร็ว แต่มาเลย!”
“กล้าดีนี่”
เธอชิงไม้นวดออกจากมือผมไป
มากสุดหลังผมออกผมต้องส่งงานให้ร้านเธอฟรี
ผมออกมาจากห้อง พี่เดนีโรไม่มองผม
ผมโดนเสือดำลายดอกไม้กิน
มันเวลาสั้นๆมากๆ แต่ผมได้เรียนเรื่องพวกนั้นมาแล้วแม้ยังไม่เคยลอง
และเธอใช้ตัวช่วยอีก
ยิ่งคิดเหมือนยิ่งอ้าง ผมทำที่ต้องทำ
ผมไปหยิบสัมภาระที่ฝากเคาน์เตอร์ไว้
ผมรอสัมภาระมาแล้วหยิบกรงนกรัก
“นา มาเจอข้างหน้าได้มั้ย”
“สัญญาพร้อมยัง?”
“เขียนตอนนี้แหละ แป๊ปเดียว”
“อืมๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ พอแล้วนก”
ผมหยุดสื่อนกรัก
ผมเขียนสัญญาของนา สัญญาจ้างตลอดชีวิต
นามาพร้อมหนังสือมาดูสัญญาที่ผมกำลังเขียนโดยใช้ดินสอ
“ตรงนี้”
เธอชี้ตรงที่เขียนว่าค่าจ้างเดือนละ 2 ทอง
“เผื่อเพิ่มไว้ด้วย แล้วก็เขียนไปด้วยว่าเลี้ยงลูกเลี้ยงฉันด้วย”
“ได้สิ ว่าแต่ไหนล่ะลูกเลี้ยงที่ว่า?”
“เธอไม่ค่อยชอบเจอคน พูดถึงทองนายอยู่ในบัญชีห้าแสนกว่า นายเป็นมหาเศรษฐีแล้ว เลี้ยงได้อยู่แล้ว”
ผมยิ้ม
“ขอบคุณที่ดูแลให้”
“ธรรมดาน่า เรื่องเล็ก”
นายิ้มแล้ว
ผมลบเขียนใหม่ว่าขั้นต่ำ 2 ทองต่อเดือนและเลี้ยงลูกนาด้วย
ผมเซ็นชื่อแล้วยื่นให้นา นาทวนอีกครั้งและเซ็นชื่อ
จากนั้นเธอเก็บสัญญาไป
“เรียกประชุมคนของฉันยกเว้นพนักงานทุกคน ฉันจะไปเรียกเพื่อนฉัน และวีกับวิว”
นาพยักหน้าแล้วเดินไปฮาโมนี่
ผมฝากสัมภาระอีกครั้งและผมไปหาวีกับวิว
“วี วิว พี่มีเรื่องจะคุย”
ผมนั่ง พวกเธอมองด้วยหน้าหวั่นๆเล็กน้อย
“พี่เคยจะรักษาหมายเลข 1 ไว้ให้เธอสองคน แต่วันนี้ พี่เสียมันไปแล้ว”
วีเอียงหัว แต่วิวอ้าปากค้าง
“ท่านหญิงเสือดำเหรอ?”
“ใช่”
ผมตอบคำถามวิว
“เธอใช้กำลังหรือใช้อำนาจเหรอ?”
ผมก้มหน้ารู้สึกผิด
“เธอใช้ความเร็วแค่นั้น แต่พี่แข็งแรงกว่าต่อต้านไหว 4 ปีที่ผ่านมาพี่ไม่ได้นิ่งการฝึก พี่ฝึกหนักขึ้น พี่ว่าพี่เดนีโรก็ไหว”
จากนั้นผมส่ายหน้า
“แต่สุดท้ายพี่สมยอม”
“มันเรื่องอะไรวิว?”
วีถามวิว เมื่อวิวกระซิบให้วีได้ยินเธอลืมตากว้างและมองผมอยู่สักพัก จากนั้นหลับตาถอนหายใจ
“พี่เปิดโอกาสให้พวกเรา หนูก็ถามวิวแล้วและวิวก็คิดเหมือนกันว่าเราก็ต้องเปิดโอกาสให้พี่บ้าง”
“วีไม่ว่าเหรอ?”
“หนูไม่สนว่าพี่ทำอะไรมา ขอให้สุดท้าย ถ้าหนูเลือกเป็นของพี่ พี่สมยอมมั่ง แค่นั้นเราก็พอใจแล้ว”
ผมจับมือวีกับวิว
“ขอบคุณที่เข้าใจพี่”
“พี่แปลก ปรกติเพื่อนสมัยเด็ก 15 เขาก็แต่งกันแล้ว”
ผมพูดอะไรตอบวีไม่ได้
“เราจะเริ่มรวมคนเพื่อประชุมเริ่มงานพี่จะไปเรียกพวกเพื่อน ไปที่ห้องประชุมใหญ่”
“ได้”
“สบายมากพี่วารี”
ผมมองส่งวีกับวิวเดินไป รู้สึกหลายอย่างอยู่ในใจ
ผมไปเรียกคนอื่นๆ แล้วไปห้องประชุม ผมขอท่านหญิงเสือดำแล้ว
ทุกคนเริ่มทยอยมา ในที่สุดก็ครบทุกแผนก มันมีเกือบถึง 10 คน วี, วิว, และนาก็มาด้วย พร้อมนาพาเด็ก 5 ขวบมาหนึ่งคน
“ผมคือคนที่ไม่ได้เกิดที่ศิโร…”
ผมไม่ได้พูดใส่เครื่องขยายเสียงแต่พูดเสียงดัง
ผมเล่าเรื่องโกหกที่ไว้บอกกับท่านหญิงเสือดำ เรื่องนั้นที่ผมไม่ลืมความทรงจำตั้งแต่เด็ก และเกิดที่ไหนไม่รู้
เหล่าหมอยิ้มๆ ผักชีอ้าปากค้าง คนที่เหลือตกใจ แต่เด็กคนนั้นที่นาพามา เธอโกรธ
“ทำไมพี่โกหก”
“หา?”
เด็กตะโกนใส่ผม
“เพื่อนหนูบอกว่าพี่มาจากต่างโลก!”
“เอ๋?”
น้องเขารู้ได้อย่างไรเล่า?
“แล้วเพื่อนน้องเป็นใคร?”
น้องเขาก้มหน้า
“ไม่มีใครเห็นเขานอกจากหนู เขาอยู่ข้างหนูตลอด”
ผมเดินไปจับหน้าเธอให้มองผมเบาๆ
“มองพี่”
“อื้ม!”
“พูดจริงมั้ย?”
“จริง!”
หน้าตาเธอไม่มีความลังเล ผมเชื่อเธอ ปรกติแล้วเด็กไม่โกหก
แต่ผมต้องพูดอะไรสักอย่างเรื่องที่เธอบอกว่าผมมาจากต่างโลก
“ทุกคนเชื่อหรือไม่เชื่อเด็กคนนี้ก็ได้ เด็กคนนี้พูดจริง แต่ผมยังไม่บอกเอง พวกคุณจะตัดสินใจเองว่าผมมาจากไหน”
มีหลายคนมองเด็ก หลายคนดูมีคำถาม แต่ไม่ถามออกมา
“นี่คือความรู้ที่ผมได้มาก่อนเป็นกำพร้า”
จากนั้นผมหันหากระดานดำ
“ทุกคนเริ่มจากจุด”
ผมจุดลงบนกระดานดำ
“นี่คือทุกคน จุดเล็กๆที่ไม่เคลื่อนที่”
ผมชี้จุดให้ทุกคนเห็น
“จากนั้นมีอีกจุดหนึ่ง”
ผมจุดอีกจุดห่างกัน
“มันจะเป็นอะไรก็ได้ การงาน หรือคน”
ผมชี้อีกจุดตอนพูด
“จากนั้นเกิดการดึงดูด จุดหนึ่งทำอะไรสักอย่างเพื่อไปหาอีกจุดหนึ่ง หรืออีกจุดหนึ่งทำอะไรสักอย่างเพื่อดูดจุดเข้ามาหา แล้วมันเกิดพลังงาน จากนั้นมันเกิดเป็นเส้นที่เป็นอะไรก็ได้ สองอย่างดึงดูดกัน ถ้ามันไม่ได้จะเดินทางไปทางไหน มันจะโคจร”
ผมขีดเส้นจากสองจุด แล้วเขียนลูกศรหมุน ว่าตรงกลางหมุนและ อีกจุดโคจรรอบมัน
ผมวาดภาพดีขึ้นเพราะเข้าคาบพิเศษเรียนวาดรูปที่โรงเรียนมีให้เลือกเพราะต้องวาดภาพอวัยวะต่างๆ
“เพราะจุดเคลื่อนที่หรือส่งอะไรบางอย่าง มันเข้าหากัน หรือส่งพลังงานมาเชื่อมต่อกัน”
เมื่อผมหันไปพูดเสร็จผมตีกราฟแนวตั้งแนวนอน เขียนเลข 5, 10, -5, -10 ทั้งสองเส้น แล้วผมจุดตรงแนวตั้ง 5 แนวนอน 5
“ถ้ามีจุดที่มีค่า มันอาจมีจุดที่ค่าเป็นด้านตรงข้าม”
ผมจุด ที่ -5,-5
“ถ้ามันเจอกัน แน่นอนมันจะลบกัน เพราะอีกค่ามันเป็นด้านตรงข้าม แต่ถ้ามันไปด้วยกัน มันส่งพลังงานหากัน มันจะไปด้วยกัน หมุนรอบกัน”
ผมตีเส้นทั้งสองจุด
“ตารางมันเป็นได้ทั้งซ้าย,ขวา มีบนมีล่าง และมีข้างหน้าข้างหลัง จากนั้นมีอดีตและอนาคต หรือค่าต่างๆเช่นความอร่อย ความหวาน”
ผมกวาดตามองทุกคน บางคนยังเอียงหัวสงสัย
“ในทุกอย่าง มันประกอบด้วยสิ่งเล็กๆที่รวมกัน จากนั้นมีสิ่งเล็กๆมาหมุนรอบมัน สองอย่างมันไม่ถูกกัน แต่มันอยู่ห่างกันพอดี ทั้งคู่จึงขยับ”
จากนั้นผมวาดวงกลม
“ถ้ามีลูกกลมๆ ข้างในมีลูกกลมๆที่เล็กกว่า และข้างนอกมีลูกกลมๆที่ใหญ่กว่า ถ้าเราค้นหาคำตอบ เราหาได้ทั้งข้างนอกและข้างใน”
ผมเขียนคำว่า ‘พอดี’
“แต่เราต้องตั้งอยู่ในคำว่า พอดี หาพอดีๆ เราว่าเราเจอของที่เล็กกว่าแล้ว เราค้นพบได้แล้ว มันจะมีของที่เล็กกว่านั้นอีกเสมอ อย่าค้นหามากไป”
จากนั้นผมเขียนชื่อร้าน
“เราจะเชื่อมหากันด้วย ‘ฮาโมนี่’ อยู่ในดนตรีเดียวกัน แต่สนใจกันคนละอย่างก็ได้ แต่เราไปด้วยกันเพราะเราพอดีให้กัน”
ทุกคนเริ่มพยักหน้าเห็นด้วยแม้บางคนยังเห็นได้ที่หน้าตาว่ายังไม่เข้าใจ
ผักชียกมือ
“ผักชี แผนกประดิษฐ์ มีอะไร?”
“ประดิษฐ์เหรอ?”
“สร้างสิ่งที่มีหรือไม่เคยมี สร้างสิ่งที่เคลื่อนไหวจากสิ่งที่ไม่เคลื่อนไหว”
“อ๋อ”
จากนั้นผักชีพยักหน้า
“งานแรกคืออะไร?”
“รอก่อน มีแน่”
ผักชีเหมือนยังไม่แน่ใจตัวเอง เธอลังเลว่าผมมาจากไหนหรือ?
ผมเดินไปกระซิบหาเธอ
“ฉันมาจากต่างโลกถูกแล้ว ถ้าอยู่กับฉัน ฉันมีงานให้เธอแน่ เธอจะไม่ลำบากอีกต่อไป”
จากนั้นเธอถอนหายใจเหมือนโล่งใจ มองหน้าผมสักพัก
“วันละ 2 ทองแน่นะ”
“แน่นอน งานเยอะน่ะ”
ผักชีพยักหน้า แล้วเอามือลง
พี่คุมะยกมือ
“แผนกอาหาร พี่คุมะ”
“ฉันไม่เข้าใจ ตกลงแล้วน้องมาจากไหนกันแน่ พี่ทำงานมา 4 ปีแล้วนะ พี่มีสิทธิ์รู้”
ผมเดินเข้าไปกระซิบบอกความจริงพี่คุมะด้วย จากนั้นพี่คุมะมองเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ทำไมคนอย่างเธอให้ค่าฝ่ายอาหารวันละสองทอง เดือนละทองใครเขาก็เอาแล้ว”
ผมยิ้มแล้วตอบพี่คุมะอย่างเร็ว
“ถ้าได้กินดี เราจะได้อยู่ดี”
จากนั้นเธอยิ้มแล้วลดมือลง
ผมรอข้างหน้าสักพัก ไม่มีใครยกมืออีก คิเซกิหาว
“ตอนนี้ผมจะบอกสิ่งที่ผมค้นพบ”
ผมวาดจุดสองจุดและเส้นเขียนที่จุดว่า ‘คนแปลกหน้า’
“นี่คือคนแปลกหน้าสองคน ถ้าเราไม่รู้ว่าสร้างพลังงานเชื่อมกันยังไง”
ผมตีเส้นสองจุด แล้วเขียนว่ารัก
“ถ้าเราไม่รู้เลย ว่ามันจะเชื่อมกันได้อย่างไร ให้เราลองเข้าใจมันก่อน จากนั้นรักมัน ในที่ที่ผมมา มีเอ่อ- ละครเวที ที่บอกว่ารักข้ามโลกได้ รักข้ามมิติได้ เรารู้ว่าคนรักที่หายไปแล้ว ยังรักเราอยู่ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เหมือนความรักของพ่อ, แม่, และลูก เมื่อเทียบกันผมก็เข้าใจ ความรักเหล่านั้นอยู่กับเรา”
หลายคนพยักหน้า ผักชีกับลูน่าเฉยๆ
ผมยังรู้อยู่ว่าคนที่รักผมที่จากไปแล้วในโลกเก่าก็ยังรักผมอยู่ แม้ผมข้ามอะไรมาก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่ามิติหรือจักรวาล
จากนั้นผมเอาหินไฟฟ้าออกมา
“นี่จะเป็นแหล่งพลังงานหลัก ที่โลกเก่ามันมีกฎอยู่ว่า ถ้ามีพลังงานเกิดขึ้น มันจะมีอะไรที่ต้องเสียไป”
“นั่นก็เหมือนกันกับโลกนี้แหละ”
มหัศศรีพูด
“ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้น แต่หินนี้มันผิดกฎนั้นอยู่ ฉันให้มันปล่อยพลังงานทิ้งไว้ 5 ปีโดยที่ไม่เบาลง และมันไม่มีอะไรที่ต้องเสียไป ไม่สร้างมลภาวะด้วยซ้ำ”
“ของดีขนาดนั้นมีจริงเหรอ?”
มหัศศรีถามขึ้นมา
“ฉันลองแล้วฉันให้นายเชื่อได้แค่นี้ พอนายใช้นายจะเข้าใจ คราวนี้ ขึ้นอยู่กับว่า จะนับมันเป็นเวทมนตร์มั้ย? ถ้าเห็นด้วย ฉันจะเรียกว่าหินเวทมนตร์ ถ้าไม่เห็นด้วยก็เรียกมันว่าหินไฟฟ้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หินเวทมนตร์เหรอ? เอาดิ น่าสนใจดี”
มหัศศรีหัวเราะไปพูดไป คนที่เหลือยิ้มๆกัน
“มันมีเวทมนตร์จริงๆ”
ลูน่าพูดขึ้นมา ทึ่งกับสิ่งที่เห็น
“แล้วก็ตอนนี้ฉันพบคำตอบของคำถามที่ว่า ตายแล้วไปไหน”
“หา?”
พี่อเด็ปอุทาน
“เด็กคนนี้”
ผมชี้ไปที่ลูกเลี้ยงนา
“พิสูจน์ว่า หลังจิตดับ มีโลกหลังความตาย เพียงแค่พวกเราไม่เห็น”
“ถ้าอย่างนั้นที่ป้าคิดว่าพ่อป้าคอยดูอยู่ ก็เป็นเรื่องจริงสิ”
“ผมไม่รู้ มันทั้งเป็นไปได้และไม่ได้พร้อมกัน มีแต่เด็กคนนี้ที่รู้แท้ๆ ที่ผมก็ไม่รู้เพราะผมไม่เห็น แต่ผมเชื่อเด็กคนนั้น”
ผมตอบคำถามป้าคุมะที่หน้าเหมือนพอใจแล้วแหงนดูเพดาน
“นายเชื่อเด็ก แต่นายไม่รู้ด้วยตัวเอง?”
“ใช่ คิเซกิ”
เป็นธรรมดาที่คิเซกิจะไม่เชื่อสนิทใจ เขาเป็นคนอย่างนั้น
พี่เนตรทิพย์ยกมือ หน้าตามุ่งมั่นมาก
“พี่เนตรทิพย์ แผนกเครื่องประดับ”
พี่เนตรทิพย์สูดหายใจลึกๆ
“ฉันต้องการผัวไว้เลี้ยง ฉันจะเป็นเมียน้อยเธอ”
“เอ๋!? พี่จะไมทำงานแล้วเหรอ?”
พี่เนตรทิพย์ส่ายหัว
“งานฉันก็ทำ แต่ฉันต้องการหลักประกันว่าจะไม่ตกงาน”
เธอต้องการความมั่นคงอย่างนั้นหรือ? เธอยังไม่มั่นใจว่าแค่ตัวงานอย่างเดียวจะยึดความมั่นคงได้มากพอ
พี่คุมะยกมือไปยิ้มไป
“รุ่นป้ารับมั้ย?”
ลูน่ายกมือหน้าตาเฉยๆ ผักชีเมื่อเห็นมีคนยกเยอะอยากยกมั่ง ลังเลอยู่สักพักแล้วยกมือเหมือนกัน
“เยอะขนาดนี้เลย”
ผมพูดไม่ออก ไม่รู้จะคิดอย่างไร มุมหนึ่งมันก็ดีที่มีคนต้องการเราเยอะ แต่อีกมุมหนึ่งผมก็สัญญากับวีและวิวไว้ด้วย
เข้าใจล่ะ! ผมตัดสินใจ
“นัดคิวกับนา”
“เอ๋?”
นาร้องถาม หน้าตาตกใจที่อยู่ดีๆถูกโยนงานใส่
“ผมนัดวีกับวิวเพื่อนผมไว้ มันจะต้องรอตอน 21 เอาล่ะ ผมพูดเรื่องผมได้เท่านี้ ตอนนี้สงบๆกันก่อน เราจะเริ่มประชุมจริงเดี๋ยวนี้แหละ ผมจะแจงด้วยว่าใครแผนกอะไร”
ทุกคนลดมือ บางคนเอาไปกอดอกรอฟัง
เมื่อเห็นทุกคนพร้อม ผมพูดเริ่มการประชุม
สวัสดีครับ wayuwayu ผู้แต่งครับ ต่อจากนี้จะเป็นตอนติดเหรียญ หาได้ตามแอพอ่านนิยายต่างๆนะครับ ขอบคุณครับ
เล่ม 2 ฟรีครึ่งเล่มออกเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบครับ
ทุกตอนจะมีค่า 3 บาทครับ อย่างต่ำ 3,000 คำ 12,000 ตัวอักษร สนับสนุนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ